เมื่อมือสังหารต้องเลือกเส้นทาง… ระหว่างความถูกต้องกับความแค้น หยาดเลือดจะเป็นตัวตัดสิน!
ไซไฟ,ลึกลับ,แอคชั่น,สงคราม,จิตวิทยา,สืบสวนสอบสวน,ดราม่า,สายลับ,แวมไพร์,พล็อตสร้างกระแส,แอ็คชั่น ,แอ็คชั่น,สงคราม,สงครามโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
วันต่อมา หลังจากเซเรียได้สอบเข้าเป็นสายลับในองค์กร The Resistor และได้รับเลือกเข้ามาทำงาน วันแรกในการทำงานของเธอ ได้เข้ามาในห้องล็อบบี้ขององค์กร
ที่ภายในตกแต่งด้วยเทคโนโลยีที่ไฮเทค ล้ำสมัย โทนสีดำ สลับกับแสงไฟสีฟ้านีออน บนกำแพงมีจอทีวี แสดงภาพข่าวที่ถ่ายทอดสด อีกจอหนึ่ง เป็นข่าวประชาสัมพันธ์ของทางองค์กร
เซเรียนั่งรอบนโซฟาสีขาว ถือแท็บเล็ตของตัวเอง บนจอแสดงไฟล์เอกสารการทำงานของเธอ
วันนี้เธอสวมชุดสูทเหมือนเมื่อวาน แต่เธอเปลี่ยนสีเสื้อเชิ้ตเป็นสีน้ำเงิน เน็คไทสีขาว เธอกำลังนั่งดูเอกสารอย่างใจจดใจจ่อ
จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในองค์กร ซึ่งเป็นผู้หญิงเดินเข้ามาหาเธอ เธอมีชื่อว่า วิเวียน เอลม์สตรีท
วิเวียนมีผมสั้นสีน้ำเงิน ตาสีแดงทับทิม ซึ่งเธอเป็นเพื่อนสนิทกับเอลล่า เดินเข้ามาทักทายก่อนที่จะพาเดินดูที่ทำงานให้เซเรีย
“เธอคือ เซเรีย ใช่ไหม” วิเวียนเดินเข้ามาถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ใช่ค่ะ คุณคือ?” เซเรียถาม
“ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันชื่อ วิเวียน เป็นสายลับของที่นี่เหมือนกัน” วิเวียนแนะนำตัวให้เซเรีย
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ” เซเรียตอบด้วยน้ำเสียงจริงใจ
หลังจากที่เซเรียกับวิเวียนทำความรู้จักกัน ทั้งคู่ก็เดินด้วยกันในองค์กร ซึ่งวิเวียนกำลังพาเธอไปที่ห้องทำงานที่เธอจะต้องใช้งานในองค์กรนี้ ระหว่างนั้น ทั้งคู่ก็พูดคุยไปด้วย
“ฉันได้ยินเรื่องของเธอมาจากเอลล่าแล้วล่ะ”
“หืม? รุ่นพี่เอลล่าเหรอคะ?”
“ใช่แล้วล่ะ เธอเป็นนักเรียนที่มีชื่อเสียงมากเลยล่ะ แม้กระทั่งเรื่องเมื่อวานนี้ การทดสอบสุดท้ายนี่ทำเอาทุกคนอึ้งไปหมดเลย”
“เอ๊ะ!? ขนาดนั้นเลยเหรอคะ!?” เซเรียสะดุ้งกับคำพูดที่วิเวียนพูดออกมา
“ก็ใช่น่ะสิ ไม่นึกว่าเธอจะกล้าลงมือสังหารลูกชายเจ้ามหาอำนาจของฝั่งแวมไพร์น่ะสิ แต่คนนั้นก็สมควรแล้วล่ะ นิสัยเหยียดเผ่าพันธุ์น่ะ ฉันไม่ชอบเลย” วิเวียนบ่นให้เซเรียฟัง
ก็ไม่แปลกใจหรอก เพราะเจ้ามหาอำนาจของแวมไพร์ตอนนี้เป็น เจฟ ลูเทอร์ พ่อของไอแซค ซึ่งเขาเป็นแวมไพร์ที่บริหารการจัดการสังคมแวมไพร์ นิสัยของเจฟ จะเป็นแวมไพร์ที่มองมนุษย์เป็นพันธมิตร
แต่เขาต้องมาเสียภรรยาของเขา แอนนา ลูเทอร์ เพราะ ไอแซคเกิดมาแล้วจากไปในเวลาต่อมา ส่งผลให้เจฟตัดสินใจทำเพื่อภรรยาของเขา โดยการเลี้ยงไอแซคให้ดีที่สุด
แต่ไอแซค โดนญาติของแอนนาเลี้ยงดูแบบสปอยล์ ทำให้เป็นแวมไพร์เสียนิสัย พอเจฟรู้เข้า เขาเลยเลือกจะกักกันบริเวณไอแซคหลังจากที่เซเรียย้ายโรงเรียนไปหลังจากที่พี่ชายของเธอเรียนจบพอดี
เจฟรู้สึกผิดที่ทำให้ครอบครัวของเซเรียได้รับความเสียหายจนเป็นข่าวใหญ่ ซึ่งศาลได้ตัดสินให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 3 ล้านดิจิต
ซึ่งเป็นสกุลเงินโลกนี้ โดยตั้งแต่ปี 2250 ทั่วโลกได้เปลี่ยนมาใช้สกุลเงินเดียวกันและเป็นรูปแบบดิจิตอลเพื่อความสะดวกสะบายในการบริหารเศรษฐกิจโลก
ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน ขณะที่เซเรียกับวิเวียนเดินอยู่นั้น จู่ๆมีคู่หญิงสาวคู่หนึ่งเดินมาหาพวกเธอ
ฝ่ายหญิงเข้ามาพร้อมสีหน้าหงุดหงิด จะไปตบหน้าเซเรีย แต่เซเรียไหวตัวทัน เธอรีบเอามือมาจับรั้งไว้และบีบแขนด้วยความแรงที่ทำให้เกิดเสียงโหยหวน
------- หมับ!!!
“ว้าย!!!” วิวเวียนกรีดร้องด้วยความตกใจ
“พวกคุณคิดจะทำอะไรกันคะ” เซเรียถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่นพร้อมสีหน้าที่ชวนโมโห
“ตัวเอง ช่วยเค้าด้วย!!!” เสียงหญิงสาวที่โดนบีบแขนกรีดร้องออกมา ซึ่งเสียงของเธอแหลมจนแสบแก้วหู
“พวกคุณพอได้แล้ว การที่เข้ามาทำร้ายเด็กใหม่แบบนี้ เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนะคะ” วิเวียนรีบเข้ามาห้าม แต่ไม่ทันไร ก็โดนฝ่ายชายเตะออกมากระเด็นไปโดนอีกคนเข้า ซึ่งไปชนกับชายร่างสูงคนหนึ่ง มีผมสีเงิน ตาสีฟ้าน้ำทะเล
“คุณวิเวียน!!” เซเรียตกใจและรีบปล่อยแขนหญิงสาว แต่ก็โดนรั้งไว้
“จะไปไหนไม่ทราบ ยัยสารเลว!!!”
“สารเลวเหรอ!? คุณนั่นแหละ!! ทั้งๆที่ไม่เคยเห็นหน้ากัน ทำไมถึงอยากมาตบหน้าฉันล่ะคะ!!?”
“ในฐานะที่ฉันเป็นป้าของไอแซค ฉันจะไม่มีวันให้อภัยแน่” หญิงสาวตะโกนออกมา
“หา!? งั้นพวกคุณ 2 คนก็คือ ญาติของไอแซคสินะ” เซเรียสะดุ้ง
ทันไดที่เธอรู้ว่า 2 คนนี้ คือลุงกับป้าของไอแซค ซึ่งเคยอุปการะไอแซคตอนเด็กๆ พวกเขาชอบสปอยล์ไอแซคจนนิสัยเสีย ฝ่ายชายชื่อ ไรอัน ส่วนฝ่ายหญิงชือ มิชเชล
“อะไรนะ!? เซเรีย พวกเขาเป็นญาติของคุณเจฟเหรอ?” วิเวียนสงสัย
“ใช่ ไอแซคน่ะ เป็นคนที่ชอบรังแกฉันตอนประถมน่ะ” เซเรียตอบกลับไปพร้อมรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมา
“เซเรีย ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งแผ่รังสีออกมา!!!” วิเวียนสะดุ้งกับสีหน้าของเซเรีย
“เหอะ!! มึงกล้ามานะ หลานชายกูต้องมาพ่ายแพ้กับคนที่ไม่เอาไหนอย่างมึงนี่ ช่างอวดดีซะจริงเลยว่ะ
อุตส่าห์ช่วยให้เค้ามาทำงานที่นี่แท้ๆ แต่ต้องโดนตัดสิทธิ์เพราะมึงเลย นางแพศยา!!!” ไรอันด่าทอเซเรีย หวังจะให้เธออ้อนวอนขอความเมตตา
แต่เซเรีย กลับรู้สึกเย็นชา ไร้ความรู้สึก แถมสวนกลับด้วยน้ำเสียงห้าวๆ พร้อมหาเรื่อง
“เหรอคะ แต่ได้ข่าวว่า ไอแซค เจ้าแวมไพร์สารเลวนั่นเค้าฝ่าฝืนกฎน่ะค่ะ”
“ว่าไงนะ หลานชายของพวกเราเป็นคนดี ไม่เหมือนกับเธอที่เป็นพวกที่อิจฉา ผลงานที่เธอทำออกมาก็แค่สร้างภาพลบปมในใจล่ะสิ
เข้ามาในองค์กรแบบใช้เส้นสายแบบนั้นระวังจะล้มนะ” คำพูดของมิชเชล ไปดันสวิชในตัวเซเรียเพิ่ม ทำให้เธอเริ่มอารมณเสียหนักขึ้น
“หมายถึงหลานชายที่ชอบมองว่าโลกหมุนรอบตัวเองสินะ ทั้งๆที่ไอสารเลวนั่นทำวีรกรรมให้กับหลายๆคนเลย
แต่ขอโทษด้วยนะ ถ้ามันทำให้พวกคุณต้องปริ๊ดแตก ไอแซคตายไปแล้วค่ะ เพราะหมอนั่นทำผิดจนได้รับโทษเองต่างหาก” เซเรียพูดลั่นออกมา ซึ่งตอนนี้เธอไม่มีสติแล้ว
มิชเชลที่ได้ยินแบบนั้น เธอเริ่มใจสลายขึ้นมา ส่วนไรอันกลับโมโหหนัก กัดฟันกรอดๆพร้อมเตรียมด่า
“ไม่ ไม่จริงน่า หลานป้า โดนประหารไปแล้วเหรอ” มิชเชลช็อคเพราะสิ่งที่เซเรียพูดออกมามันกระทบจิตใจมากๆ เหมือนเอาขวานมาผ่าซากไม้ที่ผุเน่า
“ไม่รู้สินะคะ ตามกฎหมายการใช้พลังเอเลเมนท์แล้ว ทั้งมนุษย์และแวมไพร์ ถ้ามีพลังต้องห้ามครอบครอง
จะต้องถูกปลิดชีพค่ะ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ต้องโดนปลิดชีพเพื่อความปลอดภัยของสังคมโลกค่ะและไอแซค
ควรจะโดนกำจัดไปตั้งแต่แรกแล้วด้วยซ้ำ” เซเรียสวนกลับ
“หา พูดอะไรบ้าๆน่ะ อีหนู” ไรอันตะหวาดใส่ ขณะเดียวกัน เซเรียเริ่มเดินกระทืบเท้า
“คุณมิชเชล คุณไรอัน พวกคุณกลับฝ่าฝืนกฎหมายหลายมาตรา ทั้งครอบครองประชากรที่มีพลังต้องห้าม ทั้งสร้างความเดือดร้อนให้กับหลายๆครอบครัว
ใช้อำนาจแบบขุนนางกดขี่รังแกมนุษย์และแวมไพร์ที่อ่อนแอ” เสียงของเซเรียเริ่มทุ้มต่ำลง ราวกับสัตว์ร้ายพร้อมขยี้เหยื่อได้ทุกเมื่อ
“เซเรีย” วิเวียนพึมพำเบาๆก่อนที่เธอจะสะดุ้งกับสิ่งที่เซเรียบอกต่อจากนี้
“สิ่งที่พวกคุณทำ ฉันจะไม่มีวันให้อภัยเด็ดขาด!!”
เซเรียสูดลมหายใจแรงเต็มปอดและตะโกนลั่นองค์กรพร้อมกระทืบเท้าขวาแบบแรงๆ
ทุกคนที่อยู่ในนี้ต่างตกใจกับสิ่งที่เธอพูดออกมา กับสีหน้าแห่งความแค้นที่มีอยู่ ทุกคนในองค์กรต่างพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกัน พร้อมด่าทอและสาปแช่งทั้งมิชเชลและไรอัน
“อึก!!! ที่รัก” มิชเชลเริ่มโวยวายร้องไห้
“อีหนู มากเกินไปแล้วนะว้อยยยยยย” ไรอันกำลังจะพุ่งไปทำร้ายเซเรีย แต่ก็โดนเธอใช้ไฟฟ้าสกัดขาไว้ก่อน
“ทำแบบนี้กับพาร์ทเนอร์ของผมแบบนี้ ไม่ให้อภัยเลยนะครับ” ชายหนุ่มผมสีเงินพูด
“หือ ใครน่ะ” เซเรียหันไปข้างหลังเธอ
“ฟรานซิส ในที่สุดก็มาซะที” มิชเชลยิ้มด้วยความดีใจ ก่อนที่เซเรียจะถาม ก็ถูกตัดบทไปซะก่อน
“คุณคือ...”
“ไว้ค่อยพูดคุยกันนะครับ คุณอาร์มสตรอง” ชายหนุ่มตอบกลับ
“หะ...เฮ้ย นี่มัน”
ไรอันหน้าซีดทันที เมื่อเห็นชายหนุ่มผมสีเงินเดินเข้ามาหา เพราะคนนี้คือ “ฟรานซิส เทย์เลอร์” บุตรชายของผู้บัญชาการขององค์กร The Resistor แห่งนี้ ไรอันเริ่มเหงื่อตกพร้อมสบถออกมาด้วยความหวาดกลัว
“ลูกชายผู้บัญชาการนี่หว่า ชิบหายละ”
ทันใดนั้น ฟรานซิส ก็ได้พูดบางอย่าง
“พวกคุณทั้ง 2 คนคงจะไม่รู้สินะครับว่า ห้ามใช้วิธีนี้ให้ลูกหลานเข้ามาในองค์กรน่ะ”
“ไม่เห็นจะเข้าใจเลย นี่คุณพูดอะไรอยู่น่ะ” มิชเชลรีบปฏิเสธ
“ผมหมายถึงการใช้เส้นสายน่ะครับ ถึงคนในนี้จะมีบางคนเป็นญาติกัน แต่ตามกฎแล้ว
ทุกคนต้องผ่านบททดสอบจาทางองค์กรก่อนนะครับ น่าเสียดายที่พวกคุณมีความสามารถ แต่กลับเลือกหนทางที่ไม่ยุติธรรมแบบนี้
เดี๋ยวให่พ่อของผมมอบบทลงโทษไปเลยละกันนะครับ” ฟรานซิสแสยะยิ้มอกกมา พร้อมชี้แจงข้อหาทั้ง 2 คน
“ไม่เอาเด็ดขาด คุณเทรเวอร์ คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้นะครับ” ไรอันผวา พร้อมไหว้วานให้ฟรานซิสถอนคำพูด แต่ฟรานซิสปฏิเสธไปพร้อมพูดตอบกลับไปว่า
“แต่ ผบ.ลูเทอร์ก็อยู่ที่นี่นะครับ คำตัดสินถือว่าสิ้นสุดทันที พวกคุณเตรียมบทลงโทษที่หนักที่สุดได้เลยนะครับ”
เจ้าหน้าที่เริ่มทยอยพาตัวมิชเชลและไรอันไปที่ห้องสอบปากคำ ดูเหมือนรอบนี้จะหนีความผิดยากมาก เพราะรอบๆนี้มีกล้องวงจรปิดที่บันทึกเสียงไว้
ตัดภาพมาที่เซเรีย วิเวียนและเพื่อนร่วมงานได้เข้ามาปลอบใจเซเรียจากเหตุการณ์นี้ เซเรีย ซึ่งเธอมีภาพจำในอดีตที่โหดร้าย มีอาการตัวสั่น ร้องไห้ออกมาด้วยความทรมาน
“เซเรีย ใจเย็นๆนะ”
“ไม่เป็นอะไรแล้วนะ พวกเขาโดนจัดการแล้วล่ะ”
“แฮ่กๆๆๆ” เซเรียหอบหายใจแรงๆ แถมดวงตาของเธอเบลอจนไม่เห็นประกายตา น้ำตายังไหลไม่หยุด จนกระทั่งฟรานซิสเข้ามาช่วย
“ไม่เป็นไรนะครับ คุณอาร์มสตรอง เดี๋ยวผมพานำทางให้นะครับ”
พูดจบ ฟรานซิสได้จูงมือเซเรียไปที่ห้องทำงานที่เธอจะใช้ในองค์กร วิเวียนจะไปเป็นเพื่อนด้วย แต่ฟรานซิสห้ามเอาไว้
เซเรียสัมผัสถึงความอบอุ่นของฟรานซิสที่มีให้กับทุกคน แต่ยังไม่สามารถเชื่อใจได้ เพราะในอดีต เซเรียโดนเพื่อนหักหลังความเชื่อใจมาหลายคน
สุดท้ายเธอตัดสินใจปิดกั้นตัวเองตั้งแต่นั้นมา แต่เมื่อเธอเข้าเรียนที่แลนด์สล็อท เธอเริ่มเปิดใจมากขึ้น ทุกคนเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับเธอ ถึงแม้ว่าหลังจากนี้ จะแยกย้ายไปในเส้นทางของตัวเองก็ตาม
พอถึงห้องทำงาน ภายในมีโต๊ะทำงานประจำตัว ซึ่งประกอบด้วยคอมตั้งโต๊ะรุ่นไฮเทค แท่นชาร์จอุปกรณ์อย่างมือถือกับแท็ปเล็ต ที่วางแก้วน้ำและหูฟัง
มีบริเวณนั่งพักผ่อนที่มีโซฟานุ่มๆกับจอทีวีรุ่นใหม่ล่าสุดซึ่งสามารถใช้เป็นจอประชุมได้ เนื่องจากในองค์กรงานยุ่งมากๆ ทำให้เอเจนท์หลายๆคนไม่สามารถเข้าร่วมประชุมด้วยกันได้
มุมห้องมีเคาน์เตอร์ที่มีเครื่องชงชากับกาแฟ และบางเดือน เช่น ช่วงคริสต์มาสจะมีชุดทำโกโก้ร้อนด้วย ซึ่งเดือนนี้เป็นเดือนมีนาคม เป็นช่วงกำลังเข้าสู่หน้าใบไม้ผลิ
บนเคาน์เตอร์จะเป็นชุดชาผลไม้กับชาดอกไม้ และมีตู้เย็นขนาดกลางสำหรับน้ำผลไม้ น้ำอัดลม นมกล่องและขนมหลากหลายชนิดให้เหล่าเอเจนท์กินตอนระหว่างทำงานด้วย
ฟรานซิสได้ชงชาผลไม้มาให้เซเรีย เซเรียรับแก้วชาพร้อมจิบเพียงเล็กน้อย เพราะ ชาเพิ่งชงมาใหม่ๆ
“เมื่อกี้ ผมไม่ได้แนะนำตัวเลยสินะ”
“อืม ขอโทษที่ก่อเรื่องไว้เมื่อเช้าด้วยนะคะ” เซเรียทำหน้าซึม เพราะตัวเองรู้สึกผิดที่ตัวเองก่อเรื่องไม่เข้าท่า
“ไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอก เพราะยังไงผมก็ต้องรับฟังปัญหาของทุกคนอยู่แล้ว”
ฟรานซิสบอกว่านี่ไม่ใช่ความผิดของเซเรีย เพราะ มิชเชลกับไรอันเป็นฝ่ายหาเรื่องก่อน หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้แนะนำตัว
“ผมฟรานซิส เทย์เลอร์ อายุ 20 ปี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณเป็นพาร์ทเนอร์ของผมนะครับ”
“เซเรีย อาร์มสตรองค่ะ อายุ 19 ปีค่ะ ฝากตัวด้วยนะคะ”
การเริ่มงานใหม่ของเซเรีย กำลังจะมา ภารกิจแรกของเธอกับคู่หูคนแรก ได้เริ่มต้นขึ้น
