อิงฟ้า เป็นนักเขียนที่ซ่อนรักแรกไว้ในนิยาย เจ้าขุน เป็นนักแสดงที่ซ่อนตัวตนไว้ในคอมเมนต์ เมื่อแฟนคลับลับ ๆ คนนั้น กลับกลายเป็นคนเดียวที่รู้จักหัวใจเธอดีที่สุด คำถามหนึ่งในงานจับมือนักเขียน อาจเปลี่ยนทั้งชีวิต… และตอนจบของนิยายเล่มนี้
รัก,ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,ไทย,หญิง-หญิง,พล็อตสร้างกระแส,LGBTQIA+,รักโรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
My Only You ซ่อนรักไว้ในตัวอักษรอิงฟ้า เป็นนักเขียนที่ซ่อนรักแรกไว้ในนิยาย เจ้าขุน เป็นนักแสดงที่ซ่อนตัวตนไว้ในคอมเมนต์ เมื่อแฟนคลับลับ ๆ คนนั้น กลับกลายเป็นคนเดียวที่รู้จักหัวใจเธอดีที่สุด คำถามหนึ่งในงานจับมือนักเขียน อาจเปลี่ยนทั้งชีวิต… และตอนจบของนิยายเล่มนี้
อิงฟ้า ไม่เคยคิดว่านิยายที่เธอเขียน
จะถูกอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยใครบางคน
ที่ไม่เคยเปิดเผยตัวตน
ไม่เคยเรียกร้อง
และไม่เคยหายไป
เจ้าขุน นักแสดงที่ทั้งประเทศรู้จัก
เลือกเป็นเพียง “แฟนคลับนิรนาม”
ของนักเขียนที่เคยเป็นรักแรกในชีวิตจริง
จนวันที่ทั้งสองกลับมาเจอกันอีกครั้ง
ในฐานะนักเขียนกับผู้อ่าน
พร้อมคำถามง่าย ๆ
ที่ซ่อนความรู้สึกไว้มากกว่าทั้งนิยาย
เขาว่ากันว่านักเขียนมักซ่อนรักแรกไว้ในงานเขียน
แล้วถ้ารักแรกคนนั้น…
เป็นคนอ่านทุกบรรทัดมาตลอดล่ะ?
บทที่ 12
12
“ธาดา”
~Ingfa~
สิ้นประโยคดังกล่าวของพี่จัสมิน ทุกคนในห้องประชุมกลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง
“ถ้างั้นพี่ลองให้ ซันเดย์ มันช่วยคุยให้ดีไหม”
“ถ้าเป็นมัน คุณธาดาหน้าจะรับปากเก็บไปคิด”
สิ้นประโยคดังกล่าวของฉัน ทุกคนห้องไปมองที่ซันเดย์อย่างมีความหวัง ก่อนที่ซันเดย์มันจะเม้มริมฝีปากลงแน่น
“ส่งสายตากันมาแบบนี้ ผมไม่รับปากนะครับว่าพี่เข้าจะลองเก็บเอาไปคิด แต่จะลองคุยให้ดูและกัน”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วแยกย้ายกันแค่นี้ดีกว่านะครับ เที่ยงคืนกว่าแล้ว พรุ่งนี้ผมมีงานเช้า”
สิ้นประโยคดังกล่าว ทุกคนภายในห้องพยักหน้ารับคำก่อนที่ทุกคนจะค่อยๆทย่อยเดินออกจากห้องประชุมกลับบ้านกลับคอกโด้ตัวเอง
ทันทีที่ก้าวเท้าเดินมาหยุดหน้าสตูดิโอ เสียงเรียกจากพี่เจ้าขุน เรียกให้ฉันหันกลับเข้าไปมองในสตูดิโออีกครั้ง
“ฟ้ากลับบ้านยังไงครับ”
“พี่ไปส่งไหม”
สิ้นประโยคคำถามจากพี่เจ้าขุนฉันถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะเอ่ยย้อนถามคำถามพี่เจ้าขุนแทนการตอบคำถามที่พี่เจ้าถามแทน
“ถ้าฟ้าปฏิเสธ พี่จะยอมปล่อยให้ฟ้ากลับเองมั้ยค่ะ?”
สิ้นประโยคคำถามของฉันที่เอ่ยปากถามคำถามพี่เจ้าขุนกลับไป พี่เจ้าขุนถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนที่พี่เจ้าขุนจะเอ่ยตอบฉันเป็นคำถามแทนการตอบแค่คำถามเฉยๆ
“ถ้าพี่ตอบว่าไม่ ฟ้าจะให้พี่ไปส่งไหมละครับ?”
“นั้นสินะคะ งั้นก็ตามใจพี่และกันค่ะ ฟ้าไม่อยากทำสงครามประสาทกับพี่แล้ว เดิมที่พี่ก็เป็นคนแบบนั้น ชอบทำอะไรตามใจตัวเองตลอด”
สิ้นประโยคดังกล่าวของฉัน พี่เจ้าเผลอรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยก่อนเอ่ยปากพูดกับฉันขึ้นมา
“ครับ พี่ชอยทำอะไรตามใจตัวเอง แต่ไม่ใช้กับทุกคน พี่เป็นแค่เฉพาะกลับฟ้านั้นและ”
“พี่ขอโทษนะครับ ที่ตัดสินใจทำอะไรตามใจตัวเอง โดยไม่ถามความสมัครใจของฟ้า แต่ฟ้ารู้ไหมครับว่าทำไม”
“พี่แค่อยากมีฟ้าอยู่ด้วยไม่ว่าจะตอนไหน ไม่แค่นอกจอแต่ในจอพี่ก็ยังอยากมีฟ้าอยู่”
สิ้นประโยคดังกล่าวของพี่เจ้าขุน ความเงียบก็ปกคลุมอีกครั้งระหว่างฉันกับพี่เจ้าขุน พร้อมกับที่ขายาวของพี่เจ้าขุนเดินนำฉันไปที่ลาดจอดรถของสตูดิโอของพี่เจ้าขุน
ฉันที่เห็นดังนั้นก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย มองตามแผ่นหลังกว้าของพี่เจ้าขุน เดินตามแผ่นหลังกว้างของคนตรงหน้าไปเงียบๆ ระหว่างทางเดินไม่มีแม้แต่เสียงพูดคุย ระหว่างฉันกับพี่เจ้าขุน ทันทีที่เดินมาถึงรถพี่เจ้าขุนก็ยังเป็นพี่เจ้าคุย อกอุ่น ใจดีและอ่อนโยน กับฉันเสมอ เขาเอื้อมไปเปิดประตูทางด้านข้างคนนั่งของคนขับให้ฉันขึ้น มือหนาส่งมาให้กับฉันที่ยืนอยู่ตรงหน้า เอ่ยพูดขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม
“เชิญครับคุณหนู เดี๋ยวผมไปส่งให้ถึงหน้าคอนโด้อย่างปลอดภัยเลยครับ”
“ส่วนเรื่องที่คุณจัสมินขอ พี่ไม่บังคับฟ้าแล้วนะครับ”
“ถ้าไม่อย่าเล่น จะปฏิเสธก็ได้นะครับ”
“เพราะพี่เชื่อใจฟ้า ว่าสุดท้ายแล้วฟ้าจะ เดินมายืนอยู่เคียงข้างพี่ได้ด้วยตัวของฟ้าเอง บนเส้นทางที่ฟ้าเลือกเดิน”
“ใช้มั้ยครับ?”
สิ้นประโยคดังกล่าวของพี่เจ้าขุนรอยยิ้มปรกฏขึ้นมาบนใบหน้าของฉัน ฉันพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มทันน้ำตา เอ่ยปากตอบกลับพี่เจ้าขุนขึ้นมา
“อืม ขอบคุณนะคะพี่เจ้าขุนที่เชื่อใจฟ้า ขอบคุณจริงๆนะคะ ตอนนี้ฟ้ารู้แล้วว่าฟ้าเลือกคนไม่ผิด”
“อิงฟ้ารักพี่เจ้าขุนนะคะ”
สิ้นประโยคบอกรักทั้งน้ำตาของฉัน ฉันไม่รอช้ากระโดดกอดคอพี่เจ้าขุนทันทีพร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่ริมฝีปากของฉันกับพี่เจ้าขุนจะประกบกันลิ้นร้อนของเราทั้งสู้กันไปมา ภายใต้ความที่ลาดจอกรถที่มีเพียงแสงจากพระจันทร์ที่สาส่องลงมา
ก่อนที่ฉันกับพี่เจ้าขุนจะผลักออกจากกันพี่เจ้าขุนส่งมือมาให้ฉันอีกครั้งพร้อมรอยยิ้ม ฉันวางมือลงบนมือหนาของพี่เจ้าขุนก่อนที่พี่เจ้าขุนจะจับมือฉันแน่นประคองฉันให้ขึ้นไปนั่งบนรถ
ก่อนที่รถคันงามของพี่เจ้าขุนจะขับเคลื่อนออกจากลาดจอดรถขับไปส่งฉันหน้าคอกโด พร้อมรอยยิ้ม ระหว่างทางพวกเราพูดคุยกันพร้อมรอยยิ้ม ขับผ่านสะพานพระรามเก้าจุดชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยที่สุด
ทางด้าน ซันเเดย์
เด็กหนุ่ม นักแสดงหน้าใสเดินผ่านทางเดินยาวที่คอนโดสุดหรูหลังออกมาจากห้องประชุมเข้าก็ไม่รอช้าเดินทางมาที่ย่านคอนโดสุดหรูของท่านประธานหนุ่มสปอนเซอร์รายใหญ่ของโปรเจคล่าสุดที่เขาได้เข้าร่วม
ก๊อกก๊อกก๊อก
มือบางของนักแสดงหนุ่มยกขึ้นเคาะไปที่ประตูทางเข้าห้องของท่านประธานหนุ่ม รออยู่สักพัก ประตูก็ถูกเปิดออก ต้อนรับักแสดงหนุ่มให้เข้าไปในห้อง
ร่างสูงของคนเป็นเจ้าของห้องอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ เส้นผมสีดำสนิทเปลี่ยนชุ่มไปด้วยหยดน้ำ
เซ็กซี่อย่างบอกไม่ถูก ก่อนที่ร่างที่เปลี่ยตชุ่มไปด้วยหยดน้ำ จะเปิดทางให้นักแสดงหนุ่มเดินเข้าไปในห้อง ทันทีที่เดินเข้ามาถึงในห้องร่างของนักแสดงก็หลงตัวลงบนเตียงนอนขนาดคิสไซน์ เอ่ยปากถามคนเป็นเจ้าของห้องขึ้นมาเสียงแผ่วเบา
“วันนี้ที่ห้องประชุม คุยกันเรื่องบทพระอาทิตย์”
สิ้นประโยคดังกล่าวของนักแสดงหนุ่ม คนเป็นเจ้าของห้องพยักหน้ารับคำเล็กน้อยก่อนจะล้มตัวลงนอนเคียงข้างนักแสดงหนุ่มทั้งทีผมสีดำเงายังเปียกชุ่มปด้วยหยดน้ำ
“เดี๋ยวสิคุณ ทำไมไม่เช็คผมแห้งก่อนละครับ”
สิ้นประโยคดังกล่าวของนักแสดงหนุ่มร่างของคนเป็นเจ้าของห้องถูกมือบางของนักแสดงหนุ่มดึงให้ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงนอนอีกครั้งมือบางยกขึ้นคว้าเอาผ้าขนหนูพื้นเล็กมาเช็คหัวให้กับร่างของเจ้าของห้องอย่างเบามือ
“ขอบคุณครับ”
ร่างของคนเป็นเจ้าของห้องเอ่ยปากขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มสักพักผมสีเงาดำของคนอายุมากกว่าก็แห้งสนิท
“แล้วยังไงครับ ที่คุณมาหาผมที่ห้องแบบนี้…”
“อืมบทของพระอาทิตย์…”
“...”
“คุณจัสมินให้คุณมาคุยกับผมใช้มั้ยครับ”
สิ้นประโยคดังกล่าวของคนเป็นเจ้าของห้อง นักแสดงหนุ่มพยักหน้ารับคำเล็กน้อย เป็นการตอบคำถามของคนเป็นเจ้าของห้อง รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคนเป็นเจ้าของห้อง
“คุณช่วยเก็บเอาไปคิดหน่อยได้ไหม”
“ขึ้นอยู่กับว่าใครแสดงคู่กับผม”
คนเป็นเจ้าของห้องเอ่ยปากพูดขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มลุกขึ้นเดินจากเตียงไปนั่งบริเวณโซฟา ภายในห้องรับรอง
“ผม”
สิ้นประโยคคำพูดสั้นๆของนักแสดงหนุ่มรอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของคนเป็นเจ้าของห้อง ก่อนที่คนเป็นเจ้าของห้อ
งจะลุกขึ้นจากโซฟา
“ถ้างั้นเอาเป็นว่าผมจะลองเก็บเอาไปคิดดู”