อิงฟ้า เป็นนักเขียนที่ซ่อนรักแรกไว้ในนิยาย เจ้าขุน เป็นนักแสดงที่ซ่อนตัวตนไว้ในคอมเมนต์ เมื่อแฟนคลับลับ ๆ คนนั้น กลับกลายเป็นคนเดียวที่รู้จักหัวใจเธอดีที่สุด คำถามหนึ่งในงานจับมือนักเขียน อาจเปลี่ยนทั้งชีวิต… และตอนจบของนิยายเล่มนี้
รัก,ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,ไทย,หญิง-หญิง,พล็อตสร้างกระแส,LGBTQIA+,รักโรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
My Only You ซ่อนรักไว้ในตัวอักษรอิงฟ้า เป็นนักเขียนที่ซ่อนรักแรกไว้ในนิยาย เจ้าขุน เป็นนักแสดงที่ซ่อนตัวตนไว้ในคอมเมนต์ เมื่อแฟนคลับลับ ๆ คนนั้น กลับกลายเป็นคนเดียวที่รู้จักหัวใจเธอดีที่สุด คำถามหนึ่งในงานจับมือนักเขียน อาจเปลี่ยนทั้งชีวิต… และตอนจบของนิยายเล่มนี้
อิงฟ้า ไม่เคยคิดว่านิยายที่เธอเขียน
จะถูกอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยใครบางคน
ที่ไม่เคยเปิดเผยตัวตน
ไม่เคยเรียกร้อง
และไม่เคยหายไป
เจ้าขุน นักแสดงที่ทั้งประเทศรู้จัก
เลือกเป็นเพียง “แฟนคลับนิรนาม”
ของนักเขียนที่เคยเป็นรักแรกในชีวิตจริง
จนวันที่ทั้งสองกลับมาเจอกันอีกครั้ง
ในฐานะนักเขียนกับผู้อ่าน
พร้อมคำถามง่าย ๆ
ที่ซ่อนความรู้สึกไว้มากกว่าทั้งนิยาย
เขาว่ากันว่านักเขียนมักซ่อนรักแรกไว้ในงานเขียน
แล้วถ้ารักแรกคนนั้น…
เป็นคนอ่านทุกบรรทัดมาตลอดล่ะ?
ตอนที่ 2 |02
“แล้วพี่ละคะ สบายดีใช้ไหม” และคำถามต่อไปที่ส่งกลับมาจากฝ่ายตรงข้าง ยิ่งทำให้เขานอนหลับสนิทในคืนนั้น
“สบายดีครับ…” เขารีบพิมพ์ตอบกลับไปแถบจะทันทีหลังได้อ่านข้อความนั้น
“ค่ะ” คนในห้องแชทตอบกลับแค่นั้น แล้วห้องแชทนี้ก็กลับสูงความเงียบอีกครั้ง ไม่มีใครพูดอะไรอีก เจ้าขุนถอนหายใจออกมาเพียงแผ่วเบา ก่อนที่ห้องแชทแห่งนั้นจะกลับเขาสู้ความว่างเปล่า จบลงแค่ข้อความของฝ่ายตรงข้าง ที่พิมพ์ตอบกลับมา แค่คำว่า “ค่ะ”
กองถ่าย…
“ไงว่ะ นั่งซึมเป็นหมางอยเลยนะ”
“เป็นอะไรว่ะ…” อิงดาวช่างแต่งหน้าสาวสวยเอ่ยปากถามขึ้นมา มือยกขึ้นค่อยๆ แต่งแต้มสีจากเครื่องสำอางค์อย่างบรรจงบนใบหน้าของชายหนุ่ม
“น้องมึงเป็นไงบ้างว่ะ สบายดีไหม”
“กินอิ่มน้ำหลับหรือเปล่า”
“ถามถึงกูบ้างไหม”
“มึงสองคนได้ติดต่อกับบ้างหรือเปล่า”
สารพัดคำถามที่ถูกถามออกมา รัวแบบไม่หยุดให้พัดหายใจ สร้างความรำคาญใจให้กับคนฟังเพียงเล็กจนคนถูกถามต้องเอ่ยปากพูดขัดขึ้นมา เสียก่อนแล้วค่อยๆ เอ่ยปากตอบคำถามคนตรงหน้าที่ละคำถาม
“หยุดเลย เว้นช่วงให้กูได้ตอบคำถามมึงบ้างเถอะ ถามรัวแบบนี้กูตอบไม่ทัน”
“คำถามแรกเลยนะมึง…น้องกูสบายดี”
“คำถามที่สองมึงถามกูว่าน้องกูกินอิ่มนอนหลับไหม…น้องกูกินอิ่มดี…ส่วนนอนหลับไหม…น้องกูนอนหลับสบายดีมีบ้างที่นอนไม่เต็มอิ่ม…แต่เฉพาะวันที่ต้องรีบปั่นงาน…”
“คำถามที่สาม ถามถึงมึงบ้างไหม…เสียใจด้วยน้องกูไม่เคยถามถึงมึง…”
“คำถามสุดท้ายกูกับน้องกูได้ติดต่อกันบ้างไหม…กูกับน้องกูติดต่อกันตลอดถึงจะไม่อยู่ด้วยกันเหมือนเมื่อก่อนแต่ก็ติดต่อกันประจำ…”
“จบนะ…”
“มีอะไรจะถามกูอีกไหม”
สิ้นประโยคคำตอบของคำถามสุดท้าย อิงดาวเอ่ยปากย้อนถามขึ้นมา ร่างสูงถอนหายใจออกมาเพียงเล็กน้อยก่อนส่ายหัวเบาๆ เป็นการตอบคำถาม
ก๊อกก๊อกก๊อก !
“พี่อิงดาวค่ะ น้องอิงฟ้าเอาข้าวกล่องมาให้ค่ะ ให้เข้ามาเลยไหม”
เสียงหวานจากผู้ช่วยสาวตัวเล็กเอ่ยปากถาม อิงดาวพยักหน้ารับคำตอบกลับเบาๆ ทันทีที่เจ้าขุนได้ยินชื่อหญิงสาว ที่เขาเพิ่มถามถึง รอยยิ้มดีใจปรากฎมาเพียงเล็กน้อย
“บริการ พิเศษจากเพื่อนสาว จะเอาไงก็เอากูให้เวลา 10 นาที”
พูดจบอิงดาวก็ยักไหล่เบาๆ ก่อนจะลุกเดินออกจากห้องแต่งตัวไป พร้อมกับร่างเล็กของอิงฟ้าที่เดินเขามาในห้อง
“อยู่เป็นเพื่อนมันหน่อย พี่จะออกไปเช็คหน้ากองแป๊บ ฝากด้วยนะ”
“เดี๋ยว…พี่อิง…”หญิงสาวเอ่ยปากเรียกมือบางเอื้อนไปคว้าแขนของพี่สาว ตั้งใจจะเอ่ยปากพูดปฎิเสธแต่ถูกร่างสูงที่อยู่ในห้องเอ่ยเรียกเอาไว้ก่อน
“แค่แป๊บเดียว อยู่เป็นเพื่อนกันก่อน”
ประโยคนั้นดังขึ้นจากปากของเจ้าขุน ก่อนที่อิงดาวจะทันได้หันกลับมาหญิงสาวชะงักเล็กน้อย คล้ายจะลังเล แต่สุดท้ายก็เพียงพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ก่อนจะยิ้มบาง ๆ ให้กับทั้งสองคน
“งั้นฝากด้วยนะ”
เธอทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ก่อนจะดึงประตูห้องแต่งตัวปิดลงเบา ๆเสียง แกร็ก ของลูกบิดประตูที่หมุนกลับเข้าที่เป็นเหมือนสัญญาณบางอย่างที่ทำให้บรรยากาศในห้องเปลี่ยนไปทันทีความเงียบ…เข้ามาแทนที่เจ้าขุนรู้สึกได้ถึงมันชัดเจนเงียบชนิดที่ไม่ใช่ความอึดอัด แต่เป็นความเงียบที่มีอะไรบางอย่างแฝงอยู่บางอย่างที่ทั้งเขาและอิงฟ้าต่างก็รับรู้ แต่ไม่มีใครเป็นฝ่ายเอ่ยปากอิงฟ้ายืนอยู่ไม่ไกลจากประตูในมือยังถือถุงข้าวกล่องเอาไว้เธอก้มมองมันราวกับกำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนจะค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้โต๊ะเครื่องแป้ง
“พี่อิงดาวฝากมาให้ค่ะ เห็นบอกว่าช่วงนี้พี่ไม่ค่อยกินข้าวในกอง”เธอพูดเสียงเบา วางถุงนั้นลงบนโต๊ะข้าง ๆ เขาเจ้าขุนพยักหน้ารับ
“ขอบคุณนะ”
บทสนทนาสั้น ๆเรียบง่ายแต่กลับทำให้หัวใจเขาเต้นแรงกว่าที่ควรจะเป็นอิงฟ้าไม่ได้นั่งลงทันทีเธอยืนอยู่ตรงนั้น สองมือประสานกันเบา ๆ ท่าทางเหมือนกำลังลังเลว่าจะทำตัวยังไงดีสายตาของเธอกวาดมองไปรอบห้อง ก่อนจะหยุดลงที่ใบหน้าของเขาเพียงครู่เดียว…แล้วก็รีบหลบไปเจ้าขุนเห็นทุกอย่างเห็นแม้กระทั่งรายละเอียดเล็กน้อยอย่างการเม้มริมฝีปากของเธอหรือจังหวะที่ไหล่บางขยับขึ้นลงราวกับกำลังสูดลมหายใจลึก ๆ
“นั่งก่อนก็ได้”
เขาเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น เพื่อทำลายความเงียบที่ยืดเยื้ออิงฟ้าชะงักเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้ารับเธอเลือกนั่งลงบนเก้าอี้อีกตัวที่อยู่ไม่ไกล เว้นระยะห่างเอาไว้พอสมควร
ไม่ใกล้…แต่ก็ไม่ไกลเกินไปเจ้าขุนไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงสังเกตเรื่องพวกนี้หรืออาจเป็นเพราะเขาไม่เคย “ไม่สังเกต” เธอเลยต่างหาก
“พี่…ถ่ายวันนี้เหนื่อยไหมคะ”เธอเป็นฝ่ายถามขึ้นก่อนคำถามธรรมดาแต่เจ้าขุนกลับต้องใช้เวลาคิดคำตอบอยู่ครู่หนึ่ง
“ก็เรื่อย ๆ นะ”
เขาตอบตามตรง
“ฉากวันนี้ไม่หนักมาก แค่ต้องใช้สมาธิเยอะหน่อย”อิงฟ้าพยักหน้าช้า ๆ
“ดีแล้วค่ะ…อย่างน้อยก็ไม่โหมเกินไป”
น้ำเสียงของเธออ่อนลงโดยไม่รู้ตัวเจ้าขุนได้ยิน…และรับรู้ถึงความเป็นห่วงนั้นเขาเผลอยิ้มบาง ๆ ออกมา
“ห่วงพี่เหรอ”คำถามนั้นหลุดออกไปก่อนที่เขาจะทันได้คิดอิงฟ้าชะงักทันที ใบหน้าขาวใสขึ้นสีจาง ๆ อย่างเห็นได้ชัด
“ปะ…เปล่าค่ะ”เธอรีบตอบ
“ก็แค่ถามตามมารยาท”
เจ้าขุนไม่ตอบอะไรเพียงแต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเขายังคงอยู่เขาไม่ได้คิดจะกดดันแค่รู้สึกว่า…การได้เห็นเธอเป็นแบบนี้มันทำให้หัวใจเขาเบาลงอย่างประหลาด
ความเงียบกลับมาอีกครั้งแต่คราวนี้มันไม่ได้น่าอึดอัดเหมือนก่อนหน้าอิงฟ้าเอื้อมมือไปหยิบขวดน้ำบนโต๊ะเปิดฝาแล้วจิบน้ำเล็กน้อย เหมือนต้องการเวลาตั้งหลักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขาอีกครั้ง
“พี่…ยังนอนดึกเหมือนเดิมไหมคะ”
คำถามนั้นทำให้เจ้าขุนชะงักภาพห้องแชทเมื่อคืนก่อนผุดขึ้นมาในหัวทันที
คำว่า “ค่ะ” ที่ยังค้างอยู่ในใจ
“ก็นิดหน่อย”เขาตอบเลี่ยง
“ช่วงนี้มีอะไรให้คิดเยอะ”อิงฟ้ามองเขานิ่ง
“งานเหรอคะ”
“…อาจจะ”
เขาไม่ได้โกหกแค่ไม่ได้พูดทั้งหมดเธอพยักหน้ารับอีกครั้งท่าทางเหมือนอยากถามต่อ แต่สุดท้ายก็เลือกจะเงียบเจ้าขุนมองเธอมองคนที่เคยอยู่ใกล้กว่านี้เคยคุยกันมากกว่านี้แต่ตอนนี้กลับต้องค่อย ๆ เลือกคำพูดทุกคำราวกับกลัวทำอะไรผิดพลาด
“ฟ้า…”
เขาเอ่ยชื่อเธอเบา ๆอิงฟ้าเงยหน้าขึ้นทันที
“คะ?”
“…ไม่มีอะไร”เขากลืนน้ำลาย
“แค่จะถามว่า…งานเขียนช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง” แววตาของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย เหมือนผ่อนคลายลงเมื่อเป็นเรื่องที่เธอคุ้นเคย
“ก็ยังเหมือนเดิมค่ะ”เธอยิ้มบาง ๆ
“มีวันที่เขียนลื่น มีวันที่เขียนไม่ออก”
“แต่ก็ยังเขียนอยู่ใช่ไหม”
“ค่ะ”เธอตอบทันที
“ถึงจะเหนื่อย แต่ก็ยังอยากเขียน”
เจ้าขุนพยักหน้าเขาชอบเวลาที่เธอพูดถึงงานเขียนชอบแววตาที่เป็นประกายแบบนั้นมันเป็นแววตาที่เขาคุ้นเคย…ตั้งแต่ก่อนที่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป
“พี่ดีใจนะ”เขาพูดออกไปตามความรู้สึก
“ที่ฟ้ายังไม่ทิ้งมัน”
อิงฟ้ามองเขานานกว่าปกติก่อนจะยิ้มออกมา…รอยยิ้มที่ดูจริงใจอย่างที่เขาไม่ได้เห็นมานาน
“ขอบคุณค่ะ”เสียงฝีเท้าดังขึ้นนอกห้องบทสนทนาของทีมงานลอดเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆอิงฟ้าหันไปมองประตูโดยอัตโนมัติ
“พี่อิงดาวน่าจะใกล้กลับมาแล้ว”เจ้าขุนพยักหน้าในใจกลับรู้สึกเสียดายเวลาไม่กี่นาทีที่ผ่านไปเร็วเกินไป
“ฟ้า”เขาเรียกเธออีกครั้ง ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม
“เมื่อคืน…”เขาเว้นจังหวะ
“พี่เห็นข้อความแล้วนะ”อิงฟ้าชะงักนิ้วมือที่วางอยู่บนตักกำแน่นขึ้นเล็กน้อย
“…ค่ะ”เธอตอบเบา ๆ
“พี่แค่อยากบอกว่า”เจ้าขุนมองเธอตรง ๆ
“พี่สบายดีจริง ๆ”
เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขาดวงตาคู่นั้นสั่นไหวเล็กน้อย
“ก็ดีแล้วค่ะ”เธอพูด
“ฟ้าดีใจ”ประตูห้องแต่งตัวเปิดออกในจังหวะนั้นพอดีอิงดาวเดินกลับเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม
“ครบสิบพอดี”เธอพูดล้อทุกอย่างเรียบร้อยใช้ไหม”
“หรือฉันเข้ามาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่า”
อิงดาวเอ่ยถาม พร้อมรอยยิ้ม อิงฟ้าส่ายหัวตอบกลับเบา ๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่ตัวเองนั่งก่อนเอ่ยปากพูดปิดบทสนทนาภายในห้องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
“พี่อิงดาวกลับมาแล้ว…ถ้าไม่มีอะไรแล้วฟ้าขอตัวกลับก่อนนะคะ” สิ้นประโยคดังกล่าวของร่างเล็ก อิงฟ้าลุกเดินออกจากห้องแต่งตัวไปทันที แต่ก่อนที่แผ่นหลังของอิงฟ้าจะหายลับไปจากสายตา ไว้กว่าความคิด มือหนาของคนอายุมากเอื้อมไปคว้าข้อมือของคนอ่อนวัยกว่าเอาไว้ทันที เข้าแค่รู้สึกว่าวันนี้เขาไปอยากให้จบแค่นี้
“ฟ้า…ห้าปีก่อนเกิดอะไรขึ้นกันแน่…”
“ทำไมในวันนั้นฟ้าถึงหายไปจากชีวิตพี่”
“พี่ทำอะไรผิดหรือเปล่า…ครับ” ไร้เสียงตอบกลับจากคนตรงหน้า พร้อมกับมือบางที่ค่อย ๆ ขยับเบา ๆ ให้มือหนาลุกออกจากข้อมือของตัวเอง…
“ฟ้า ขอตัวกลับก่อนนะคะ พี่อิงดาว…ฟ้ามีงานต่อที่ต่างจังหวังพรุ่งนี้ต้องรีบกลับไปเก็บกระเป๋าเดินทาง…”
“จ้ะ…รักษาตัวด้วยนะ”
อิงดาวเอ่ยปากพูด ก่อนที่อิงฟ้าจะพยักหน้ารับคำ แผ่นหลังบางค่อย ๆ หายลับไปจากสายตาของคนที่อยู่ในห้อง…
“สิบนาทีอาจจะไม่มากพอที่จะให้เรากลับไปเป็นเหมือนเดิม”