ขนมหวานอร่อยระดับตำนาน ที่จะเปลี่ยนชะตาชีวิตและโลกทั้งใบ พร้อมให้คุณลิ้มรสความหวานนี้แล้วในตอนนี้!
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ข้ามเวลา,จีน,พล็อตสร้างกระแส,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เมื่อผมต้องมาเป็นเชฟขนมหวานในยุคจีนโบราณพร้อมกับระบบเสกขนมหวานที่ไม่จำกัด [รีบูต]ขนมหวานอร่อยระดับตำนาน ที่จะเปลี่ยนชะตาชีวิตและโลกทั้งใบ พร้อมให้คุณลิ้มรสความหวานนี้แล้วในตอนนี้!
ประกาศ นิยายเรื่องเมื่อผมต้องมาเป็นเชฟขนมหวานในยุคจีนโบราณพร้อมกับระบบเสกขนมหวานที่ไม่จำกัด นั้นจะรีบูตเนื่อหาทั้งหมดและเริ่มต้นเดินทางกันใหม่ทั้งหมด และ ตอนที่เริ่ม รีบูต คือ ตอนที่ 17 นั้นเองนับเป็นตอนที่ 1ของการเริ่มต้นนับ 1 ใหม่นั้นเอง
เนื้อหายังคงเดิมไม่เปลียนตัวละครดำเนินด้วยตัวละครเดิมแต่เนื้อเรื่องใหม่นั้นเอง เริ่มต้นตั่งแต่ตอนที่ 17 สำหรับเนื้อหาที่จะ รีบูต ส่วนตอนเก่าๆคือตอนที่1-15 ยังอยู่ปกติและจะตั่งเป็นอนุสรณ์สถานและจะไม่ลบออกไปไหนนั้นเองและหลังจากนี้ ขอให้สนุกกับการอ่านเนื้อเรื่อง ที่กำลังจะเริ่มต้นใหม่นะครับ
และสิ่งสุดท้ายที่ผมจะฝากก็คือ ถ้าผมอัพตอนนิยายช้ากว่าปกติแล้วนั้นก็ขออภัยมาณที่นี้ด้วยนะครับ
"หลี่เหวิน" เชฟหนุ่มอัจฉริยะผู้เชี่ยวชาญด้านขนมหวานจากทั่วทุกมุมโลก เขาคือสุดยอดเชฟดาวรุ่งแห่งยุค ที่มีชื่อเสียงในวงการเบเกอรี่ระดับโลก ด้วยความสามารถในการรังสรรค์ขนมหวานทุกรูปแบบ ตั้งแต่เค้กฝรั่งเศสไปจนถึงขนมพื้นบ้านไทย ไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้!
ในวันแข่งขันชิงแชมป์เชฟโลก ณ กรุงปารีส เขาได้รับกล่องไม้โบราณจากแฟนคลับนิรนาม ภายในกล่องคือ "คริสตัลขนมหวาน" ปริศนา... ทันทีที่สัมผัสมัน โลกทั้งใบก็หมุนคว้าง ก่อนที่เขาจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้งในดินแดนแปลกตา จีนโบราณ!
ยุคสมัยแห่งขุนนาง การเมือง และสงครามระหว่างตระกูล ที่ซึ่งขนมหวานไม่ใช่ของกินเล่น... แต่คือ "เครื่องมือ" แห่งอำนาจ, สัญลักษณ์แห่งฐานะ, และแม้แต่เครื่องบรรณาการต่อจักรพรรดิ!
ท่ามกลางความไม่เข้าใจในโลกใหม่ เขาได้รับระบบสุดเทพที่ปรากฏในหัว
[ระบบขนมหวานสวรรค์ ได้ทำการติดตั้งแล้ว]
ระบบที่สามารถค้นหาสูตรขนมโบราณ เสกวัตถุดิบหายาก ดัดแปลงวัตถุดิบในมือ และปลดล็อกพลังพิเศษของขนมแต่ละชนิด!
จากเชฟธรรมดาในโลกปัจจุบัน
เขาจะกลายเป็น “เทพขนมหวานแห่งยุคโบราณ”
ที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีแห่งขนมในยุคนี้ไปตลอดกาล
พบกับการเดินทางของเชฟผู้ทะลุมิติ
สู่เส้นทางแห่งขนมหวานที่รสชาติไม่เพียงแต่หวานลิ้น...
แต่หวานถึงหัวใจ และร้อนแรงยิ่งกว่าไฟสงคราม!
หลี่เหวินล้มตัวลงนอนบนเตียง นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์บางอย่างที่ยังคงตราตรึงอยู่ในใจ
ย้อนกลับไป ณ คฤหาสน์ตระกูลซู เรือนแม่บ้านและเรือนครัว
ซูเหยายืนนิ่งเงียบ มองหลี่เหวินที่กำลังจะเปิดเผยบางสิ่ง “ข้ามีเรื่องจะบอกท่าน” หลี่เหวินกล่าวเสียงจริงจัง เขายกมือขึ้นแล้วดีดนิ้วเพียงครั้งเดียว พริบตาเดียว เครื่องครัวโบราณรอบตัวก็พลันเปลี่ยนสภาพกลายเป็นเครื่องครัวที่ทันสมัยราวกับหลุดมาจากโลกอนาคต
“และนี่แหละคือสิ่งที่ข้าจะบอกท่าน” หลี่เหวินกล่าวต่อ “ข้าอยากจะเข้าไปในวังนะ แต่ดูเหมือนว่าสิ่งนี้จะไม่เหมาะกับการอยู่ในวังเอาซะเลย และข้าอาจจะไม่เหมาะกับการเข้าไปยังวังหลวงนั้นเอง”
เมื่อหลี่เหวินพูดจบ ซูเหยากลับหัวเราะออกมาเล็กน้อย “ข้าไม่สนหรอกนะว่าเจ้าจะมาจากที่ไหนหรือทำอะไรได้ จะบอกว่าสิ่งที่ข้าเห็นวันนี้ ข้าอึ้งมั้ย...ก็อึ้งนะ” ซูเหยาเดินเข้าไปใกล้หลี่เหวิน เธอยื่นนิ้วชี้ไปที่หน้าอกของเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครหรือไปทำอะไรมา เจ้าก็ยังคือเจ้า และไม่มีสิ่งใดที่จะมาพรากสิ่งที่เป็นของเจ้าไปได้นั้นเอง”
กลับสู่ปัจจุบัน
หลี่เหวินถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ หน้าต่างระบบที่ลอยอยู่ข้าง ๆ ก็พูดขึ้นมา “นี่เจ้าเป็นอะไรไป นี่อย่าบอกนะว่าเจ้าคิดถึงเรื่องเมื่อตอนนั้นอยู่งั้นเหรอ”
หลี่เหวินลุกขึ้นนั่งบนเตียง หันไปหาหน้าต่างระบบ “ใช่ ข้าคิดถึงเรื่องนั้น”
“ข้าเข้าใจ ตอนนั้นข้าก็อยู่กับเจ้า แต่ไม่มีใครเห็นข้านอกจากเจ้า” ระบบกล่าว “ว่าแต่เจ้ากังวลสิ่งใด”
หลี่เหวินถอนหายใจอีกครั้ง “นี่เจ้าเชื่อเรื่องโชคชะตาไหม ข้าว่า...ข้าเริ่มจะชอบซูเหยาเข้าแล้วล่ะ ไม่ใช่เพราะนางสวยอย่างเดียว แต่เป็นเพราะลึกๆ แล้ว...” เขาถอนหายใจอีกครั้ง ส่ายหน้าไปมาก่อนจะพูดต่อ “จะว่าไปเจ้าจำตอนแรกที่ข้ากับเจ้าเจอกันได้ไหม เหมือนกับเจ้าบอกว่า ข้ามีภารกิจถ้าทำเสร็จ ข้าจะได้กลับบ้านนั่นเอง ว่าแต่ภารกิจนั้นคืออะไร”
หน้าต่างระบบถอนหายใจเล็กน้อย “ภารกิจงั้นเหรอ อ่อใช่ภารกิจของเจ้านั้นง่ายมาก คือเจ้าจะต้องขายขนมให้ได้ทั้งหมด 10 ล้านชิ้น หรือสิ่งที่ง่ายที่สุดคือเจ้าต้องช่วยเหลือผู้อื่นให้มีความสุขและให้พ้นจากความทุกข์นั้นเอง”
เมื่อหลี่เหวินได้ฟังอย่างนั้นแล้วก็ได้แต่พยักหน้าขึ้นลงเล็กน้อยอย่างแผ่วเบา
เช้าวันถัดไป หลี่เหวินนั่งอยู่หน้าร้านที่เคาน์เตอร์ มองดูเงินที่เต็มกระปุกอย่างพอใจเล็กน้อย กลิ่นหอมของขนมยังคงอบอวลไปทั่วร้าน
ทันใดนั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “นี่เจ้าคือเจ้าของร้านนี้ใช่มั้ย และเจ้าชื่อหลี่เหวินใช่หรือไม่”
หลี่เหวินหันไปตามทิศทางเสียง ก็พบกับทหารองครักษ์หลายนายยืนอยู่ตรงหน้าเขา
และเพียงไม่นาน หลี่เหวินก็ถูกคุมตัวไปยัง ตำหนักซูหวัง (苏王府) ณ ห้องทำงานของซูอวิ๋นหลง
เมื่อหลี่เหวินเดินเข้ามาด้านในพร้อมกับเหล่าทหาร เสียงของซูอวิ๋นหลงก็ดังขึ้นอย่างเข้มงวดทันที “เจ้าใช่มั้ยที่ชื่อหลี่เหวินน่ะ!”
ตัดภาพไปที่ คฤหาสน์ตระกูลซู (苏宅) ในเวลาไม่นานนัก สาวใช้คนหนึ่งก็วิ่งมาอย่างรีบร้อนเพื่อแจ้งข่าวที่ เรือนรอง ของซูเหยา
“แย่แล้วขอรับคุณหนู!” สาวใช้กล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก
ซูเหยานั่งอยู่มุมหนึ่งของเรือน ที่ซึ่งมีโต๊ะทำขนมเล็กๆ พร้อมพิมพ์ไม้แบบโบราณและถ้วยชาจิ๋ว เธอวางบทกลอนที่กำลังอ่านอยู่ในมือลง พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “มีอะไรงั้นเหรอ ข้ากำลังอ่านบทกลอนอยู่นะ อย่าเพิ่งมาขัดได้ไหม”
“แย่แล้วขอรับ” สาวใช้กล่าวต่อ “เชฟผู้ทำขนมคนนั้นที่คุณหนูเชิญมาถูกนายท่านซูอวิ๋นหลงจับกุมไป ไม่รู้ว่าถูกจับกุมไปทำอะไร แต่ไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ”
เมื่อสาวใช้พูดจบ ซูเหยาก็เงยหน้าขึ้นทันที แววตาที่เคยสงบเปลี่ยนเป็นตกใจ “นี่เมื่อกี้เจ้าว่ายังไงนะ...”
โปรดติดตามตอนต่อไป
敬請期待下一集。
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกียวกับ
ภายในตำหนักซูหวัง (苏王府)
อาคารหลักภายใน
1. ห้องทำงานของซูอวิ๋นหลง โต๊ะทำงานไม้จันทน์ชิ้นใหญ่ ปูผ้ากลางด้วยผ้าปักลายหงส์ ชั้นหนังสือสูงจรดเพดาน บรรจุคัมภีร์ราชการ บันทึกภาษี และแผนที่โบราณ มีโต๊ะพับเล็กด้านข้างใช้เขียนพู่กัน กล่องพู่กัน 12 ด้าม, ตลับหมึกโบราณ มักมีกลิ่นสมุนไพรจากยาดองที่ใช้รักษาอาการไอเรื้อรังของเขา
2. ห้องโถงต้อนรับแขก เพดานสูง ประดับโคมไฟผ้าไหมลายเมฆ ผนังด้านในแขวนภาพวาด “หงส์คู่ดอกเหมย” ที่คุณหญิงอวี๋วาดเอง ตรงกลางมีโต๊ะน้ำชาและเก้าอี้ไม้ฝังหยกสำหรับรับรองขุนนาง/แม่ทัพ มีกลอนปักผ้าแขวนไว้ว่า: "บุปผาอ่อนละมุนสายลม มิเทียบบุญคุณภรรยาในใจ"
3. ห้องนั่งพักส่วนตัวของซูเหยา ห้องขนาดกลาง ม่านบางสีขาวผูกด้วยไหมชมพูจาง พื้นปูด้วยเสื่อหญ้าทอมือ มีกลิ่นดอกหอมหมื่นลี้อ่อนๆ โต๊ะเขียนพู่กันเล็กตั้งตรงหน้าต่าง พร้อมกล่องเก็บกลอน เครื่องดนตรี "ผีผา" แขวนอยู่บนผนัง พร้อมสายใหม่ที่เธอเปลี่ยนเอง มีหน้าต่างเปิดสู่ "สวนหงเหมย" ให้แสงอ่อนในยามเย็นลอดเข้ามา
สวนหงเหมย (红梅园) สวนกลางตำหนัก สวนส่วนตัวที่คุณหญิงอวี๋เหมยฮวาปลูกไว้เอง ดอกเหมยพันธุ์พิเศษชื่อ “เหมยจื่อหง” สีชมพูแดง หายากมาก มีสะพานโค้งเล็กข้ามบ่อน้ำกลางสวน มีศาลาไม้ไผ่หลังเล็ก กลางสวนมีต้นเหมยเก่าแก่สูง 3 เมตร ที่ซูเหยาใช้พิงอ่านหนังสือในวัยเด็ก ฤดูหนาวจะออกดอกเต็มสวนเป็นกลีบแดงราวหิมะเปื้อนเลือด มีหินจารึกกลอนเก่าเขียนโดยคุณหญิงอวี๋ว่า: "กลีบหนึ่งจากเหมยนี้ คือใจของข้า ฝากไว้ในยามเจ้าเดียวดาย"