ไม่มีใครชอบเวลาโดนหลอก แต่หากว่าการถูกหลอก ทำให้รู้สึกเหมือนหลงทางในห้วงฝันหวาน ยามอยู่บนที่นอนนุ่มสบายแล้วละก็ บางที..การตื่นขึ้นมารับความเป็นจริง ก็อาจมิใช่สิ่งที่น่าปรารถนาอีกต่อไป

The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล - บทที่ 18 จบสิ้นแล้ว โดย PinkyPaw @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,ย้อนยุค,แวมไพร์,ปีศาจแห่งความมืด,ปีศาจ,สงคราม,ฆาตกรรม,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,แฟนตาซี,ย้อนยุค,แวมไพร์,ปีศาจแห่งความมืด,ปีศาจ,สงคราม,ฆาตกรรม

รายละเอียด

The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล โดย PinkyPaw @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ไม่มีใครชอบเวลาโดนหลอก แต่หากว่าการถูกหลอก ทำให้รู้สึกเหมือนหลงทางในห้วงฝันหวาน ยามอยู่บนที่นอนนุ่มสบายแล้วละก็ บางที..การตื่นขึ้นมารับความเป็นจริง ก็อาจมิใช่สิ่งที่น่าปรารถนาอีกต่อไป

ผู้แต่ง

PinkyPaw

เรื่องย่อ

คำโปรย

ไม่มีใครชอบเวลาโดนหลอก

แต่หากว่าการถูกหลอก ทำให้รู้สึกเหมือนหลงทางในห้วงฝันหวาน ยามอยู่บนที่นอนนุ่มสบายแล้วละก็

บางที..การตื่นขึ้นมารับความเป็นจริง ก็อาจมิใช่สิ่งที่น่าปรารถนาอีกต่อไป

หลังจากลืมตามาดูโลกได้ไม่กี่ปี ‘ลีน่า’ บังเอิญพบราชาปีศาจผู้เป็นอมตะ ‘อัมบรูส’ 

นางสมควรกลัวเขา สมควรรังเกียจและผลักไส ไปให้ไกลจากเขา

ทว่าเพราะเวทมนตร์ โชคชะตา และความหลงใหล ทำให้นางไม่อาจต่อต้านอำนาจรัก

ต่อให้รู้ว่านี่เป็นความรู้สึกต้องห้าม หรือต่อให้เขาจะทำเรื่องโหดร้ายขนาดไหน 

แต่..ใจมันก็อดประหวัดถึงคนผู้นั้นไม่ได้จริง ๆ

...

คุยกับไรท์

สวัสดีทุกท่านค่ะ

ก่อนกดเข้าไปอ่าน เราอยากชวนคุยสักนิด ชี้แจงสักหน่อย 

เนื่องจากนิยายเรื่องนี้ เราเขียนตอนที่รู้สึกคิดถึงอารมณ์รักโรแมนติก เหมือนตอนที่หัดเขียนนิยายเรื่องแรกเมื่อหลายปีก่อน 

ตอนนั้นเราเขียนด้วยความอยากปลดปล่อยจินตนาการตามประสาเด็ก ซึ่งรู้ว่าถึงพยายามยังไงตอนนี้ก็ไม่มีทางกลับไปมีความรู้สึกอันน่าคิดถึงแบบนั้นได้

แต่สุดท้ายก็แต่งนิยายเรื่องนี้ออกมา ถึงเป็นแนวเรียบง่าย เล่นกับความรักสุด classic ที่มีความแฟนตาซีแต่ไม่หวือหวา กระนั้นก็ยังพอเติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหายไปนานได้บ้าง

หวังใจว่าจะมีรี้ดสักคนที่หลงรักนิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกับเรา และหวังว่านิยายเรื่องนี้จะช่วยเป็นความผ่อนคลายของใครได้นะคะ

ปล. นิยายเรื่องนี้มี e-book แน่นอนค่ะ ไว้เปิดขายแล้วจะแจ้งให้ทุกท่านทราบอีกทีนะคะ

...

คำเตือน

นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหารุนแรง ทั้งการฆ่า และการกระทำโหดร้ายทารุณอื่น ๆ ของตัวละคร 

ทั้งนี้ ผู้แต่งไม่มีเจตนาพาดพิงถึงเรื่องความเชื่อตามศาสนาใดทั้งสิ้น และไม่ได้อิงหลักกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ของสังคมยุคไหนอย่างเฉพาะเจาะจง เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นจากจินตนาการเพียงเท่านั้น ขอให้ทุกท่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

...

นิยายเรื่องนี้สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลงหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของนิยายไปเผยแพร่หรือกระทำการใด ๆ ก่อนได้รับการอนุญาตจากผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ หากฝ่าฝืนจะดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้กระทำละเมิดอย่างเด็ดขาดโดยไม่มีข้อยกเว้น

...

ช่องทางติดตามไรท์

tiktok : @itspinkypaw

X : @itspinkypaw

สารบัญ

The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 0 แด่ท่าน,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 1 ข้าพบเจ้าแล้ว,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 2 ท่านพ่อเข้มงวด กับเจ้านายใจดี,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 3 สมบัติในโลงศพ,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 4 เด็กดื้อมักฉลาด,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 5 ลูกบุญธรรม,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 6 พ่อบุญธรรม,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 7 มอร์ทิส,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 8 กลัวหาย,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 9 ไม่ใช่เด็กแล้ว,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 10 ผู้เป็นอมตะในนิทานปรัมปรา,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 11 มิตรภาพของคนหนุ่มสาว,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 12 รักที่สุด,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 13 ภาพลวงตา,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 14 ล้วนจากไป,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 15 วันที่ลางสังหรณ์ไม่ดี,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 16 พากลับไป,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 17 ติดกับเข้าแล้ว,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 18 จบสิ้นแล้ว

เนื้อหา

บทที่ 18 จบสิ้นแล้ว

ภาพลวงตาของอัมบรูสทำให้เลียมถึงกับจนตรอก

เขาสั่นเทิ้มไปทั้งกาย ทั้งเกรี้ยวโกรธเกินระงับ และหวาดกลัวเกินจะยับยั้ง

แต่สุดท้าย หลังจากที่ตั้งสติได้ เขาก็โก่งหน้าไม้ เล็งไปทางศัตรูอีกครั้ง

“ตายเสีย!!”

“เจ้าหนู..เจ้านี่ช่างดื้อด้านเสียจริง”

อัมบรูสขี้เกียจแกล้งแพ้ให้อีกฝ่ายได้ใจแล้ว เงาดำจากพื้นจึงพุ่งขึ้นมาห่อหุ้มอาวุธนั้น

กัก..เปรี๊ยะ!!

เพียงพริบตา มันก็กลับกลายเป็นเศษซากอย่างง่ายดาย ไม่อาจใช้งานได้อีกต่อไป

“ของเด็กเล่นแบบนี้ ไม่ใช่ข้าไม่เคยทำพัง..เพียงแต่ก่อนหน้านี้สงสารเจ้า เลยยอมให้เล่นนานหน่อยเท่านั้น”

ฟังวาจาเยาะหยันของเขาสิ

เช่นนี้ เลียมจะไม่ยิ่งคลุ้มคลั่งได้อย่างไร

“เจ้าปีศาจสารเลว!”

เขาทิ้งหน้าไม้ที่ไม่เหลือชิ้นดีนั่นไป ชักมีดสั้นคมกริบพุ่งเข้ามาหาอัมบรูส

แต่ก็ไร้ความหมาย..เมื่อมือข้างหนึ่งนั้นทรงพลังเพียงพอจะคว้าคอมนุษย์ ชูขึ้นจนตัวลอยจากพื้น

“เราทุกคนล้วนสารเลวมิใช่หรือ” อัมบรูสหัวเราะ “คนชั่วปะทะคนเลว ห้ำหั่นกันจนตายไปข้าง นี่จึงเรียกว่าเป็นการต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อ”

เสียงของเขาเยียบเย็นดั่งหิมะที่ตกผิดฤดูกาล

อากาศไม่อาจไหลผ่านลำคอที่ตีบตัน สีหน้าของผู้ไร้หนทางต่อกรเริ่มจะเปลี่ยนเป็นซีดจนเขียว

“สีหน้าของเจ้าดูดีมาก”

ภาพความทรมานของศัตรูที่กำลังจะตายในมือข้างนี้ สร้างรอยยิ้มให้อัมบรูส ดวงตาของเขาเปล่งประกายเจิดจ้าทีเดียว

“ข้าจะตั้งใจจดจำวาระสุดท้ายของเจ้าเอาไว้นะ”

และคำพูดนี้ก็ช่างเป็นการเหยียบย่ำคนฟังได้อย่างเจ็บแสบที่สุด

แต่ยังหรอก..หากให้ตายด้วยสาเหตุเช่นนี้ มันก็ดูจะจบง่ายเกินไป

จุดจบที่นักล่าแวมไพร์ไม่มีทางทนรับได้ คือการต้องยอมจำนน

ไม่เพียงสยบแทบเท้า แต่ยังต้องถูกกัดกิน ดื่มเลือดจนหมดตัว

เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว เขาจะไม่มอบมันให้เลียมได้อย่างไร

“สิ่งเดียวที่ทำให้ข้าชอบนักล่าหัวเช่นเจ้า..คือเวลาที่ได้ดื่มเลือดสด ๆ จากคอเหม็น ๆ นี่”

กล่าวไปพลาง ลิ้นยาวก็แลบเลียผิวเนื้อที่ขึ้นรอยช้ำ

“เจ้าจะมีประโยชน์ที่สุด ก็ตอนที่ได้มอบเลือดให้ข้า”

“ไม่!! อ๊ากกก!!!”

ถ้อยคำสุดท้ายของเลียมไม่ใช่การสั่งเสีย แต่เป็นกรีดร้องจนสุดเสียง

จากนั้น ร่างกายที่กำยำล่ำสันจากการฝึกฝนมาอย่างดี ก็ค่อย ๆ แห้งเหี่ยวลง

ดั่งซากไม้ผุพังซี่หนึ่ง

ตุบ..

เมื่อเลือดหมด ประโยชน์ก็หมดลง อัมบรูสทิ้งร่างไร้วิญญาณนั้นไว้แทบเท้า เหยียบย่างราวกับเป็นเศษฝุ่นละอองแสนไร้ค่า

“เลือดเจ้า ถึงจะสกปรกไปหน่อย แต่ก็อร่อยดี”

คำพูดนั้น เขากล่าวกับวิญญาณของเลียมกระมัง

และคงเพราะกำลังสนใจการดื่มด่ำกับชัยชนะ แวมไพร์หนุ่มถึงได้ไม่รู้สึกตัว ว่าตอนนี้ไม่ได้มีเพียงเขากับศพของเลียมที่อยู่ตรงนี้

“ท่านอัมบรูส..”

นามนั้นถูกเรียกด้วยน้ำเสียงเบาหวิว ราวกับจะถูกลมฝนด้านนอกพัดปลิวหายไป

แต่แน่นอนว่าผู้มีประสาทรับเสียงดี ย่อมได้ยินมันอย่างชัดเจน

“ลีน่า”

ดวงตาสีเงินซึ่งเมื่อครู่ยังเปล่งประกายด้วยไฟแค้น ยามเหลือบมองที่หน้าประตูครานี้ กลับกลายเป็นหม่นแสงลงฉับพลัน

เพลิงที่โหมร้อนในใจก็มอดดับลงด้วย เหลือเพียงความรู้สึกหวาดหวั่นเท่านั้น

“ท่าน..ฆ่า..”

นางเห็นเต็มสองตา เลือดของเลียมยังไหลจากมุมปากของชายผู้นั้น แต่งแต้มจนเป็นสีแดงก่ำ

เหมือนตอนที่เขาจิบไวน์ยามค่ำคืนไม่มีผิด

“ข้าฆ่ามัน เพราะมันจะฆ่าข้าก่อน” อัมบรูสรีบชี้แจงพลางเช็ดเลือดออก

ไม่ใช่..นางไม่ได้พูดว่าเขาฆ่าเลียม

เพราะภาพในหัวลีน่า คือเหตุการณ์เมื่อสิบปีก่อน

เขาฆ่าใคร…?

ใครนะ.. ใครคือคู่รักชายหญิงที่อยู่ในกระท่อมกลางป่า

ใครนะ.. ที่อยู่ใต้แสงจันทร์ ในวันที่นางเจอเขาครั้งแรก

ใช่.. ท่านพ่อกับท่านแม่หรือเปล่า?

ชั่วขณะที่นิ่งไป สมองเหมือนจะเริ่มปะติดปะต่อภาพเก่า ๆ ขึ้นมาได้บ้าง

เป็นภาพของครอบครัวพรานป่า ซึ่งอาศัยอยู่กลางหุบเขาอันเงียบสงบ ผุดขึ้นและฉายวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เด็กหญิงที่ชื่อลีน่านั่งอยู่ที่โต๊ะ พ่อกับแม่ของนางเป็นมนุษย์ที่มีเส้นผมและดวงตาสีเดียวกัน แม่เตรียมอาหาร ขณะพ่อเล่าเรื่องการล่ากวางให้นางฟังอย่างภูมิใจ

เสียงหัวเราะ อ้อมกอดอบอุ่น คืนวันอันแสนสุขดั่งเรื่องราวในนิทานนั้นเคยมีอยู่จริง

และคนที่พรากมันไปจากนางทั้งหมด…คือชายที่อยู่ตรงหน้านี้

“ลีน่า”

เสียงของอัมบรูสดังขึ้นอีกครั้ง สติของนางถึงกลับคืน

และเมื่อเงยมองก็พบว่าเขาใกล้มาก ในระยะแค่เอื้อมมือก็สัมผัสกายได้เท่านี้เอง

“กรี๊ดด!!!”

การตอบรับแรกของหญิงสาวคือเสียงกรีดร้อง ราวกับในชีวิตนางไม่เคยกลัวอะไรเท่านี้มาก่อน

“ลีน่าเจ้าฟังข้าก่อน ข้า..”

“ท่านฆ่าพ่อแม่ของข้า! อสุรกายชั่วร้าย!”

นางพูดอะไร

ในใจอัมบรูสมีคำถามนั้น ก่อนที่ชั่วอึดใจต่อมา ความสับสนมึนงงจะกระจ่างชัด

“ความทรงจำเจ้ากลับมาแล้วหรือ”

ความจริง ไม่น่าจะถามอย่างนั้นเลย

แค่มองก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ

“ตอนนั้นข้าไม่ได้ตั้งใจ”

นี่ไม่ใช่คำแก้ตัว แต่แวมไพร์ออกล่าตามสัญชาตญาณ ไม่ได้เจตนาหมายหัวใครเป็นพิเศษ

พ่อแม่ของนาง ในสายตาราชาแห่งปีศาจ ก็เหมือนกวางที่พรานป่าล่าเอาเนื้อมากิน

ก็เป็นแค่หนึ่งในเหยื่อที่ถูกล่าเท่านั้น..

อัมบรูสอยากอธิบาย แต่ลีน่าคงไม่ยอมฟัง เมื่อนางเอาแต่ก้าวถอย

“ลีน่าได้โปรด.. ข้าไม่ตั้งใจจริง ๆ”

“ไม่ตั้งใจ แต่ก็หลอกข้ามาถึงสิบปีไม่ใช่หรือ”

ไม่มีใครไม่เจ็บปวด เมื่อรู้ว่าถูกหลอก

ยิ่งคนที่หลอก เป็นคนเดียวกับที่รักที่สุดด้วย..

“ให้อภัยข้าเถอะ ข้าสาบาน จากนี้จะไม่ทำเจ้าเสียใจอีก”

สาบานหรือ..

นางจะเชื่อคำสาบานของคนที่หลอกกันมาตลอดได้หรือ

“ข้าเกลียดท่าน”

ลีน่าเอ่ยคำนั้น จากหัวใจที่อัดแน่นด้วยความเคียดแค้น

บางทีการเก็บนางมาเลี้ยง อาจไม่ทำให้เสียใจเท่าโดนฆ่าตายพร้อมพ่อแม่ที่แท้จริงก็ได้

ดูเหมือนครั้งนี้ ข้าจะรั้งเจ้าไว้ไม่ได้อีกแล้ว..

“ไม่ใช่ว่าเจ้ารักข้าหรอกหรือ”

อัมบรูสหัวเราะ ทว่าไม่มีความรู้สึกยินดีอันใด

เขาเพียงส่งเสียงเช่นนั้น เพราะคิดว่าหากไม่หัวเราะต่อไป ที่เปล่งออกมาคงจะกลายเป็นเสียงสะอื้นอันไม่น่าฟังที่สุด

ช่างน่าขันสิ้นดี ทั้งที่อุตส่าห์พยายามไขว่คว้า กลับกลายเป็นผลักไสไปไกลแสนไกล