ไม่มีใครชอบเวลาโดนหลอก แต่หากว่าการถูกหลอก ทำให้รู้สึกเหมือนหลงทางในห้วงฝันหวาน ยามอยู่บนที่นอนนุ่มสบายแล้วละก็ บางที..การตื่นขึ้นมารับความเป็นจริง ก็อาจมิใช่สิ่งที่น่าปรารถนาอีกต่อไป

The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล - บทที่ 8 กลัวหาย โดย PinkyPaw @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,ย้อนยุค,แวมไพร์,ปีศาจแห่งความมืด,ปีศาจ,สงคราม,ฆาตกรรม,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,แฟนตาซี,ย้อนยุค,แวมไพร์,ปีศาจแห่งความมืด,ปีศาจ,สงคราม,ฆาตกรรม

รายละเอียด

The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล โดย PinkyPaw @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ไม่มีใครชอบเวลาโดนหลอก แต่หากว่าการถูกหลอก ทำให้รู้สึกเหมือนหลงทางในห้วงฝันหวาน ยามอยู่บนที่นอนนุ่มสบายแล้วละก็ บางที..การตื่นขึ้นมารับความเป็นจริง ก็อาจมิใช่สิ่งที่น่าปรารถนาอีกต่อไป

ผู้แต่ง

PinkyPaw

เรื่องย่อ

คำโปรย

ไม่มีใครชอบเวลาโดนหลอก

แต่หากว่าการถูกหลอก ทำให้รู้สึกเหมือนหลงทางในห้วงฝันหวาน ยามอยู่บนที่นอนนุ่มสบายแล้วละก็

บางที..การตื่นขึ้นมารับความเป็นจริง ก็อาจมิใช่สิ่งที่น่าปรารถนาอีกต่อไป

หลังจากลืมตามาดูโลกได้ไม่กี่ปี ‘ลีน่า’ บังเอิญพบราชาปีศาจผู้เป็นอมตะ ‘อัมบรูส’ 

นางสมควรกลัวเขา สมควรรังเกียจและผลักไส ไปให้ไกลจากเขา

ทว่าเพราะเวทมนตร์ โชคชะตา และความหลงใหล ทำให้นางไม่อาจต่อต้านอำนาจรัก

ต่อให้รู้ว่านี่เป็นความรู้สึกต้องห้าม หรือต่อให้เขาจะทำเรื่องโหดร้ายขนาดไหน 

แต่..ใจมันก็อดประหวัดถึงคนผู้นั้นไม่ได้จริง ๆ

...

คุยกับไรท์

สวัสดีทุกท่านค่ะ

ก่อนกดเข้าไปอ่าน เราอยากชวนคุยสักนิด ชี้แจงสักหน่อย 

เนื่องจากนิยายเรื่องนี้ เราเขียนตอนที่รู้สึกคิดถึงอารมณ์รักโรแมนติก เหมือนตอนที่หัดเขียนนิยายเรื่องแรกเมื่อหลายปีก่อน 

ตอนนั้นเราเขียนด้วยความอยากปลดปล่อยจินตนาการตามประสาเด็ก ซึ่งรู้ว่าถึงพยายามยังไงตอนนี้ก็ไม่มีทางกลับไปมีความรู้สึกอันน่าคิดถึงแบบนั้นได้

แต่สุดท้ายก็แต่งนิยายเรื่องนี้ออกมา ถึงเป็นแนวเรียบง่าย เล่นกับความรักสุด classic ที่มีความแฟนตาซีแต่ไม่หวือหวา กระนั้นก็ยังพอเติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหายไปนานได้บ้าง

หวังใจว่าจะมีรี้ดสักคนที่หลงรักนิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกับเรา และหวังว่านิยายเรื่องนี้จะช่วยเป็นความผ่อนคลายของใครได้นะคะ

ปล. นิยายเรื่องนี้มี e-book แน่นอนค่ะ ไว้เปิดขายแล้วจะแจ้งให้ทุกท่านทราบอีกทีนะคะ

...

คำเตือน

นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหารุนแรง ทั้งการฆ่า และการกระทำโหดร้ายทารุณอื่น ๆ ของตัวละคร 

ทั้งนี้ ผู้แต่งไม่มีเจตนาพาดพิงถึงเรื่องความเชื่อตามศาสนาใดทั้งสิ้น และไม่ได้อิงหลักกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ของสังคมยุคไหนอย่างเฉพาะเจาะจง เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นจากจินตนาการเพียงเท่านั้น ขอให้ทุกท่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

...

นิยายเรื่องนี้สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลงหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของนิยายไปเผยแพร่หรือกระทำการใด ๆ ก่อนได้รับการอนุญาตจากผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ หากฝ่าฝืนจะดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้กระทำละเมิดอย่างเด็ดขาดโดยไม่มีข้อยกเว้น

...

ช่องทางติดตามไรท์

tiktok : @itspinkypaw

X : @itspinkypaw

สารบัญ

The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 0 แด่ท่าน,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 1 ข้าพบเจ้าแล้ว,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 2 ท่านพ่อเข้มงวด กับเจ้านายใจดี,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 3 สมบัติในโลงศพ,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 4 เด็กดื้อมักฉลาด,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 5 ลูกบุญธรรม,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 6 พ่อบุญธรรม,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 7 มอร์ทิส,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 8 กลัวหาย,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 9 ไม่ใช่เด็กแล้ว,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 10 ผู้เป็นอมตะในนิทานปรัมปรา,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 11 มิตรภาพของคนหนุ่มสาว,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 12 รักที่สุด,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 13 ภาพลวงตา,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 14 ล้วนจากไป,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 15 วันที่ลางสังหรณ์ไม่ดี,The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาล-บทที่ 16 พากลับไป

เนื้อหา

บทที่ 8 กลัวหาย

 ค่ำคืนแห่งแสงไฟ หิมะเริ่มโปรยปรายท่ามกลางความเหน็บหนาวอันแสนคึกคัก

 ชาวบ้านในเมืองเที่ยวชมเดินเล่นกันจนเพลิน คนทั้งสามตรงนี้ก็เช่นกัน

 “นายท่าน ท่านดื่มนั่นเป็นเพื่อนข้าได้หรือไม่เจ้าคะ”

 นิ้วเรียวชี้ไปยังซุ้มขายเครื่องดื่ม ป้ายใหญ่หน้าร้านเขียนว่าเป็นไวน์ผลไม้อุ่น มีมนุษย์ต่อแถวยาวเลยไปถึงหน้าร้านอื่น

 “ข้าไม่..”

 อัมบรูสอยากปฏิเสธ แต่เพียงก้มมองดวงตากลมใสคล้ายท้องฟ้าเหนือทะเลใต้ เขาก็ต้องเก็บปากอย่างไม่ทราบสาเหตุ

 “ทำไมต้องอยากให้ข้ากินเป็นเพื่อนเจ้า”

 “ก็ข้าเห็นท่านชอบดื่มไวน์ แต่ดื่มของเดิม ๆ ซ้ำมาหลายปี ท่านน่าจะมีเบื่อบ้างไม่ใช่หรือเจ้าคะ”

 เจ้าจะมาคิดแทนข้าทำไม

 อัมบรูสอยากว่า แต่ก็ไม่กล้าว่าขึ้นมาเสียอย่างนั้น สุดท้ายก็ตัดสินใจพยักหน้ารับเบา ๆ

 “ลูอิส เข้าแถวรอให้ที”

 “ทราบแล้วขอรับ”

 ถึงรู้ว่าสิ่งนี้ไม่มีทางเป็นที่โปรดปรานของเจ้านาย แต่ลูอิสก็ไม่ถามและไม่ขัด ขอเพียงเจ้านายไม่บังคับเขาดื่มด้วยอีกคนก็พอ

 อาหารของมนุษย์ ย่อมไม่ใช่ของดีสำหรับเผ่าพันธุ์อื่นอยู่แล้ว

 “คงอีกนานกว่าพ่อเจ้าจะออกจากแถวได้” ชายหนุ่มหันมาหาหญิงสาวข้างกาย “ระหว่างนี้เจ้าอยากดูอะไร…”

 ทว่าข้างกายของเขา ดันว่างเปล่าเสียนี่

 “ลีน่า”

 ท่ามกลางฝูงชนผู้คนมากหน้าหลายตา..ไม่มีหญิงสาวผู้นั้นอยู่เลย

 เพียงมองรอบกายไม่เห็นเงา จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนลมหายใจมันติดขัดขึ้นมา

 หัวใจ..ก็เต้นแรงขึ้นด้วยใช่หรือไม่?

 มือเขากุมอกไว้ ราวกับว่าหากมีอวัยวะอยู่ภายใน มันคงจะสั่นไหวเอามาก ๆ 

 “ลีน่า! ลีน่า!!”

 อัมบรูสตะโกนเรียกสุดเสียง ดวงตาสีเงินกระจ่างสอดส่ายไปมา บ่งบอกว่าเขาตื่นตระหนกจนแทบคุมตัวเองไม่อยู่

 ร่างสูงวิ่งพล่านไปทั่ว เข้าออกตรอกหลายแห่งตั้งแต่เป็นย่านคนพลุกพล่าน กระทั่งถิ่นอาศัยเล็กแคบโสโครก

 “ลีน่า!! เจ้าอยู่ไหน!!”

 เขากลับมาที่จตุรัสเดิมอีกครั้ง ลมหายใจหอบหนักนั่นไม่ได้บอกว่าเขาเหนื่อย เพราะกายนี้มีกำลังมหาศาลอยู่แล้ว

 เขาหายใจแรงเพราะอารมณ์อันไม่มั่นคง ทั้งโกรธที่นางหายไปไม่บอกกล่าว ทั้งกลัวว่าจะสูญเสียนางไปตลอดกาล

 แต่ไม่หรอก..ไม่ใช่ตลอดกาลหรอก 

 หากใช้พลัง บินขึ้นไปบนฟ้า มองหาจากที่สูงเสียก็สิ้นเรื่อง

 ยามนี้ ดั่งสติของเขาไม่มีเหลือพอจะยับยั้งชั่งใจ 

 หากใช้พลังในที่คนพลุกพล่านขนาดนี้ จะเกิดความเสียหายมากมายขนาดไหน เขาย่อมรู้ดีแก่ใจ

 แต่ใครสน…

 “นายท่าน”

ไม่ทราบเป็นโชคดีของใคร ในชั่วเวลาหลังการตัดสินใจอันหุนหันพลันแล่น คนที่ตามหาก็เดินฝ่าฝูงชนเบียดเสียดแน่นขนัดออกมายืนอยู่ตรงหน้า

“ข้าเห็นขนมที่คนแถวนี้ถือมา มันน่ากินมาก ก็เลยตามไปซื้อถึงตรงนู้น..”

และทุกคำพูดก็พลันชะงัก เช่นเดียวกับที่ร่างบางถึงกับยืนตัวค้างไป

อัมบรูสกอดนางเอาไว้..

หากไม่เกรงใจสายตาคน และไม่มีหน้ากากกั้น ก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำมากกว่ากอดหรือไม่

เพียงกอดช่วงสั้น ๆ ก็ดูจะเนิ่นนานขึ้นเมื่อเขาไม่ว่าอะไรเลย 

สุดท้าย นางก็เลื่อนมือกอดตอบเมื่อมีสติขึ้นมา

“นายท่าน กังวลหรือเจ้าคะ”

แม้เขาไม่พูด นางก็ยังรับรู้ได้อย่างนั้นหรือ

จะฉลาดเกินไปแล้วกระมัง

อ้อมกอดคลายออกแล้ว แต่ดวงตาของชายหนุ่มยังจับจ้องไม่วาง น้ำเสียงทุ้มต่ำนั่นยิ่งฟังเข้มดุกว่าปกติ

“ต่อไปข้าจะให้เจ้าเรียนให้หนัก”

“ท่านทำโทษข้าทำไมเจ้าคะ”

“เจ้ากล้าทิ้งข้าเอาไว้”

ทิ้งเอาไว้? .. ข้อกล่าวหานี้ฟังช่างไร้เหตุผล เพราะนางไม่ได้ตั้งใจทิ้ง เพียงคิดว่าเดี๋ยวเดียวก็จะกลับมาหาเท่านั้น

ทว่า..พอเห็นอัมบรูสเป็นเช่นนี้ ลีน่าก็กลับมีรอยยิ้มอ่อนหวานตอบรับ

“ขออภัยเจ้าค่ะ คราวหลังเวลาไปไหนมาไหนข้าจะบอกก่อน”

“ดี”

สถานการณ์กลับมาเป็นปกติ ชายหนุ่มเชิดหน้า คงไว้ซึ่งท่าทางเย่อหยิ่งเย็นชาตามเดิม

แต่จะแสดงต่อไปได้อีกกี่น้ำกัน

“คุณหนู เจ้าเจอคนที่ตามหาแล้ว เช่นนั้นข้าก็คงต้องขอตัวก่อน”

เสียงอันไม่คุ้นเคยของบุรุษผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น ไม่เพียงเรียกให้ลีน่าหันไปสนใจ เพราะอัมบรูสถึงกับหันขวับจ้องเขม็ง

“ขอบคุณมากนะเลียม” นางตอบรับชายแปลกหน้า

เจ้าถึงขั้นรู้จักชื่อมันด้วย?

“ใครหรือ”

ด้วยความใคร่รู้ปนอารมณ์คุกรุ่นอยู่พอสมควร คำถามของอัมบรูสจึงเจือด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง

“อ้อ เขาเป็นคนที่ข้าบอกเมื่อครู่ว่าเห็นถือขนมน่ากิน ข้าเลยให้เขานำทางไปซื้อเจ้าค่ะ”

ว่าพลางหญิงสาวก็ชูขนมที่ดูสีสันสดใส หากกัดเข้าไปคำเดียว ความหวานก็คงแทรกซึมในทุกอณุรับรส

แต่อัมบรูสไม่สนใจ ยังคงไล่มองขึ้นลงอย่างลืมทั้งมารยาทและมาดผู้ดีไปหมดสิ้น

“ท่านผู้นี้ ไม่ทราบมีปัญหาอะไรกับข้า”

“ก็เปล่านี่ ข้าแค่สนใจอยากรู้ว่าคนที่ล่อลวงลูกบุญธรรมของข้าไป เป็นคนเช่นไร”

ล่อลวง… คำนี้นับเป็นการกล่าวหา เห็นชัดว่าเขากำลังประกาศสงคราม

“ท่านเป็นพ่อบุญธรรมของนางหรือ? ท่าทางยังหนุ่มแน่นอยู่มาก ทำไมถึงรับลูกบุญธรรมทั้งที่อายุยังน้อยเล่า”

ชายปริศนาชื่อเลียมก็ไม่ได้มีทีท่าจะหวั่นเกรงอะไรเลย ยังกล้าเข้ามาประจันหน้าอีก

“อ้อ.. หรือเป็นพวกพระเจ้าไม่รัก เลยมีบุตรยากสินะ”

“ข้าไม่เคยศรัทธาตัวตนจอมปลอมอย่างพระเจ้า”

“ท่านเป็นพวกนอกรีตนี่เอง” เลียมยิ้มแสยะ “ระวังสักวันจะโดนจับเข้าโบสถ์นะท่าน”

ฝีปากของชายหนุ่มคนนี้ร้ายกาจนัก อัมบรูสกัดฟันแน่นข่มอารมณ์ เดิมทีก็โมโหอยู่แล้ว ตอนนี้เขาเริ่มอยากจะแยกเขี้ยวกัดคอคนตรงหน้า หากว่าได้กระชากร่างกายนี้ออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วย คงจะสาแก่ใจมาก

“นายท่าน..ท่านมอร์ทิส” 

ลีน่าเห็นสถานการณ์ดูไม่ค่อยดี เลยเข้าไปเกาะแขนหมายรั้งเอาไว้

ไม่ว่าเป็นกายหรือสติ ก็ควรจะรั้งเอาไว้ทั้งสองอย่าง

“ข้าเริ่มเมื่อยแล้ว เราไปหาที่นั่งกินขนมกันเถอะเจ้าค่ะ”

นางร้องขอเสียงอ่อนหวาน อัมบรูสก็ต้องยอมระงับโทสะ 

“ได้”

เขาตอบรับคำเดียว จากนั้นก็สะบัดชายชุดคลุมยาว ดึงร่างบางมาอยู่ในอ้อมแขนก่อนเดินจากไป

แน่นอน..เขารับรู้ได้ว่าชายหนุ่มที่ชื่อเลียมยังมีสายตาขุ่นเคืองจ้องตามมาอยู่

แต่ช่างเถอะ คืนนี้เป็นคืนที่ดี เขาจะไม่คร่าชีวิตใครเพื่อความสะใจเล่น ๆ สักหนแล้วกัน