ไม่มีใครชอบเวลาโดนหลอก แต่หากว่าการถูกหลอก ทำให้รู้สึกเหมือนหลงทางในห้วงฝันหวาน ยามอยู่บนที่นอนนุ่มสบายแล้วละก็ บางที..การตื่นขึ้นมารับความเป็นจริง ก็อาจมิใช่สิ่งที่น่าปรารถนาอีกต่อไป
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,ย้อนยุค,แวมไพร์,ปีศาจแห่งความมืด,ปีศาจ,สงคราม,ฆาตกรรม,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
The myth night ปกรณัมแห่งห้วงรัตติกาลไม่มีใครชอบเวลาโดนหลอก แต่หากว่าการถูกหลอก ทำให้รู้สึกเหมือนหลงทางในห้วงฝันหวาน ยามอยู่บนที่นอนนุ่มสบายแล้วละก็ บางที..การตื่นขึ้นมารับความเป็นจริง ก็อาจมิใช่สิ่งที่น่าปรารถนาอีกต่อไป
คำโปรย
ไม่มีใครชอบเวลาโดนหลอก
แต่หากว่าการถูกหลอก ทำให้รู้สึกเหมือนหลงทางในห้วงฝันหวาน ยามอยู่บนที่นอนนุ่มสบายแล้วละก็
บางที..การตื่นขึ้นมารับความเป็นจริง ก็อาจมิใช่สิ่งที่น่าปรารถนาอีกต่อไป
…
หลังจากลืมตามาดูโลกได้ไม่กี่ปี ‘ลีน่า’ บังเอิญพบราชาปีศาจผู้เป็นอมตะ ‘อัมบรูส’
นางสมควรกลัวเขา สมควรรังเกียจและผลักไส ไปให้ไกลจากเขา
ทว่าเพราะเวทมนตร์ โชคชะตา และความหลงใหล ทำให้นางไม่อาจต่อต้านอำนาจรัก
ต่อให้รู้ว่านี่เป็นความรู้สึกต้องห้าม หรือต่อให้เขาจะทำเรื่องโหดร้ายขนาดไหน
แต่..ใจมันก็อดประหวัดถึงคนผู้นั้นไม่ได้จริง ๆ
...
คุยกับไรท์
สวัสดีทุกท่านค่ะ
ก่อนกดเข้าไปอ่าน เราอยากชวนคุยสักนิด ชี้แจงสักหน่อย
เนื่องจากนิยายเรื่องนี้ เราเขียนตอนที่รู้สึกคิดถึงอารมณ์รักโรแมนติก เหมือนตอนที่หัดเขียนนิยายเรื่องแรกเมื่อหลายปีก่อน
ตอนนั้นเราเขียนด้วยความอยากปลดปล่อยจินตนาการตามประสาเด็ก ซึ่งรู้ว่าถึงพยายามยังไงตอนนี้ก็ไม่มีทางกลับไปมีความรู้สึกอันน่าคิดถึงแบบนั้นได้
แต่สุดท้ายก็แต่งนิยายเรื่องนี้ออกมา ถึงเป็นแนวเรียบง่าย เล่นกับความรักสุด classic ที่มีความแฟนตาซีแต่ไม่หวือหวา กระนั้นก็ยังพอเติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหายไปนานได้บ้าง
หวังใจว่าจะมีรี้ดสักคนที่หลงรักนิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกับเรา และหวังว่านิยายเรื่องนี้จะช่วยเป็นความผ่อนคลายของใครได้นะคะ
ปล. นิยายเรื่องนี้มี e-book แน่นอนค่ะ ไว้เปิดขายแล้วจะแจ้งให้ทุกท่านทราบอีกทีนะคะ
...
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหารุนแรง ทั้งการฆ่า และการกระทำโหดร้ายทารุณอื่น ๆ ของตัวละคร
ทั้งนี้ ผู้แต่งไม่มีเจตนาพาดพิงถึงเรื่องความเชื่อตามศาสนาใดทั้งสิ้น และไม่ได้อิงหลักกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ของสังคมยุคไหนอย่างเฉพาะเจาะจง เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นจากจินตนาการเพียงเท่านั้น ขอให้ทุกท่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
...
นิยายเรื่องนี้สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลงหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของนิยายไปเผยแพร่หรือกระทำการใด ๆ ก่อนได้รับการอนุญาตจากผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ หากฝ่าฝืนจะดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้กระทำละเมิดอย่างเด็ดขาดโดยไม่มีข้อยกเว้น
...
ช่องทางติดตามไรท์
tiktok : @itspinkypaw
X : @itspinkypaw
“ห้ามลูกติดต่อกับชายคนนั้นอีก”
ลูอิสยื่นคำขาดทันที หลังจากที่นั่งเงียบมาตลอดทางจนถึงปราสาท และได้เรียกลูกสาวขึ้นมาคุยในห้องทำงานของเขาเอง
“แต่เลียมเป็นเพื่อนลูกนะเจ้าคะ”
“พ่อไม่อนุญาตให้เรียกตัวแบบนั้นว่าเพื่อน”
ลีน่าเป็นเพียงเด็กธรรมดาคนหนึ่ง ตลอดชีวิตนางอยู่แต่กับบิดา นายท่าน และพวกป้าแม่บ้าน ไม่มีเพื่อนเล่นในวัยเดียวกันเลย
การได้รู้จักเลียม จึงนับเป็นความสัมพันธ์หนึ่งที่ล้ำค่า แม้จะยังไม่รู้จักตัวตนหรือใจจริงของอีกฝ่ายก็ตาม
“ทำไมล่ะเจ้าคะ”
“เพราะลูกไม่เหมาะสมกับมัน”
“แค่เป็นเพื่อน ไยต้องสนความเหมาะสมไม่เหมาะสม ท่าทางเขาก็ดูไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอะไรนี่เจ้าคะ”
ไม่เลวร้ายหรือ.. ฟังคำแก้ต่างแทนแล้ว ลูอิสคงรู้สึกอยากอาเจียนทีเดียว
“ลูกเจอมันกี่ครั้ง ถึงรู้ว่าเป็นคนดี”
“ลูกรู้ได้ก็แล้วกัน”
ลีน่าก็ยังคงชอบเถียง ชอบเอาชนะตามประสาเด็ก
แต่การพยายามเอาชนะครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งไหน ๆ เพราะบิดาไม่ได้แกล้งยอมแพ้ให้เพื่อหาทางจบเรื่องอย่างทุกที
“จะอย่างไรก็ช่าง พ่อขอสั่งห้ามลูกไปเจอมันอีก”
“ท่านพ่อทำเช่นนี้ไม่ได้นะเจ้าคะ ลิดรอนอิสรภาพกันชัด ๆ”
“หากการให้อิสรภาพหมายถึงปล่อยลูกไปเจอเรื่องเลวร้าย พ่อยอมโดนด่าว่าเป็นพวกเผด็จการบ้าอำนาจเสียยังดีกว่า”
ที่ลูอิสทำไปย่อมมีเหตุผล นั่นคือความเป็นห่วง
ทั้งต่อตัวนาง..และต่อใครก็ตามที่อาศัยอยู่ที่นี่
แต่ลีน่าไม่มีทางเข้าใจ นางเริ่มน้ำตารื้น สองมือกำหมัดแน่นจนเล็บจิกห้อเลือด
“ลูกจะไปฟ้องนายท่าน!”
“ฟ้องไปเลย!” คนเป็นพ่อเริ่มขึ้นเสียงอย่างเหลืออดบ้าง “ลองไปฟ้องสิ นายท่านจะได้สั่งกักบริเวณลูกเสีย อย่าหวังว่าจะได้ก้าวขาออกไปรับแสงตะวันแม้สักก้าวเดียว!”
นายท่านจะทำกันขนาดนั้นเลยหรือ…
นายท่านที่แสนใจดี ชอบตามใจ ขอแค่อ้อนนิดหน่อยก็ให้หมดทุกอย่างคนนั้น จะไม่รับฟังความต้องการของข้าแม้สักนิดเชียวหรือ
ข้าไม่เชื่อหรอก!
ลีน่าจ้องอย่างโกรธเกรี้ยว ครู่หนึ่งก็เดินตึงตังออกไป ทิ้งให้ลูอิสอยู่ในห้อง มองตามแผ่นหลังเล็กนั่นแล้วต้องยกมือกุมขมับ รู้สึกปวดหัวหนักใจอย่างที่ไม่ได้เป็นมานานแล้ว
หากเรื่องมันยิ่งแย่ลงกว่าเดิม ข้าจะทำอย่างไร
หากมันถึงขั้นเปิดเผยตัวตนของนายท่าน…เจ้าจะรับได้หรือไม่
เขาไม่กล้าคิดถึงภาพเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดนั่นเลย
…
ค่ำคืนนั้น ในตอนที่อัมบรูสตื่นขึ้น เขาพบว่าลีน่าแอบเข้ามานอนในโลงด้วยกันอีกแล้ว
“เจ้าหายใจออกหรือ” เขาถาม
“ข้าปิดฝาโลงไม่สนิทเจ้าค่ะ”
ถึงจะปิดฝาโลงไม่สนิท แต่ภายในนี้ก็ยังถูกปกคลุมด้วยความมืดมิดอยู่ดี
ดีที่ดวงตาของชายหนุ่มพิเศษกว่าดวงตามนุษย์ทั่วไป เขาถึงเห็นสีหน้าของอีกคนได้ชัดเจน
“ร้องไห้มาหรือ”
เขาถาม แต่ครานี้นางไม่ตอบ เพียงช้อนแววตาเจือน้ำมองอย่างน่าสงสาร
ภาพนี้มีผลต่อความรู้สึกของอัมบรูสแน่นอน
ปลายนิ้วเย็นค่อย ๆ ไล้ไปบนพวงแก้ม เช็ดคราบแห่งความเสียใจออกให้อย่างอ่อนโยน
“ใครทำเจ้าร้องไห้”
“ท่านพ่อเจ้าค่ะ”
“เขาทำอะไร”
ฟังเหมือนนายท่านผู้นี้ จะไปจัดการกับเจ้าตัวการแสนร้ายกาจเสียเอง ลีน่าก็เริ่มยิ้มออกบ้าง
“ท่านพ่อไม่ยอมให้ข้ามีเพื่อนเจ้าค่ะ”
เพื่อนหรือ…
อีกฝ่ายถึงกับชะงักไปเล็กน้อย เผลอสูดลมหายใจเข้าลึกอย่างไม่รู้ตัว
“เพื่อนคนนั้น.. ชื่อเลียมหรือ”
“เจ้าค่ะ คนที่ท่านเจอในคืนเทศกาลนั่นแหละ”
“...”
อัมบรูสไม่รู้เลยว่าควรตอบรับอย่างไร
ได้เพียงส่งมือลูบศีรษะหวังปลอบโยน
“ลูอิสคงเป็นห่วง”
“แต่ท่านพ่อไม่ควรทำอย่างนี้” ลีน่าเริ่มน้ำตารื้นอีกแล้ว
แล้วเช่นนี้ เขาหรือจะกล้าห้ามนาง
“อย่าร้อง ข้าไม่ชอบน้ำตา”
เขาไม่อยากเห็นนางเสียใจ.. ไม่ว่ากับเรื่องเล็กหรือใหญ่ก็ตาม
“นายท่าน..”
หญิงสาวมองเห็นความใจดีของเขา คราวนี้น้ำตายิ่งร่วงเผาะ “ตั้งแต่จำความได้ ข้าไม่เคยมีเพื่อนเลยสักคน ทุกวันมีแต่เรียน กับรับใช้ท่าน ข้าเหงาเหลือเกิน”
ความรู้สึกเหงานี้ อัมบรูสก็ใช่ว่าจะไม่เข้าใจ
เพียงแต่ตัวตนของเพื่อนนางคนนั้น มันอันตรายเกินไป
เขาชั่งใจอยู่นาน ในระยะเวลานานนั้นมีเพียงความเงียบแทรกกลาง
สุดท้ายก็กลายเป็นเสียงสะอื้นของหญิงสาว
“ท่านพ่อบอกว่าหากข้ายังไปพบเลียม นายท่านจะสั่งกักบริเวณข้า ไม่ให้ข้าได้ออกจากปราสาทอีกเลย”
มันก็ควรจะเป็นเช่นนั้น
กักบริเวณ ให้อยู่แต่ในระยะสายตามองเห็น ถึงเป็นตอนกลางวันที่เขาหลับ ก็ยังต้องมีคนคอยเฝ้าจับตาดูนางทุกฝีก้าว
นั่นคือความต้องการของอัมบรูสแน่นอน และลูอิสเข้าใจเจ้านายดีที่สุด
แต่ในความเป็นจริง..มิใช่เราจะได้ทุกสิ่งที่ปรารถนาเสมอ
“ข้าจะไปทำแบบนั้นได้อย่างไร”
นั่นคือการตัดสินใจของอัมบรูส
และเพียงเขาลูบหลังนางอย่างแผ่วเบา แม้ไร้ซึ่งความอุ่นแผ่ซ่าน ทว่าก็สามารถลบความเศร้านี้จนเลือนจางไปได้
“ท่านจะไม่ขังข้าเอาไว้แน่นะเจ้าคะ”
“ข้าขังเจ้าได้ที่ไหนกัน”
การกักขังเจ้า คือการกระทำที่โง่เขลาที่สุด..
น้ำตาเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มแทบจะทันที นั่นทำให้ชายหนุ่มยิ้มตามไปด้วย
“เจ้าอยากใช้ชีวิตอย่างไร ข้าก็จะให้เจ้าใช้ชีวิตอย่างนั้น”
“ท่านสัญญานะ”
“อืม สัญญา”
คำมั่นนั้นช่างมีความหมายสำหรับลีน่า นางดีใจจนโผเข้ากอดแน่น ซุกหน้ากับอกแกร่งหวังฟังเสียงหัวใจเต้นแรง แม้ความจริงจะแทบไม่รับรู้อะไรเลย
“ข้ารักท่านที่สุด”
“ข้าก็รักเจ้า” อัมบรูสกอดตอบแนบแน่นเช่นกัน
รักที่สุด..รักมาตลอด
และจะรักไปตลอด ต่อให้วันหนึ่งความรู้สึกของเจ้าจะเปลี่ยนไปก็ตาม