เสียงเพลงในคาเฟ่เล็กๆ แห่งนั้นค่อยๆ กังวานขึ้น ความเงียบสงัดถูกแทรกด้วยบทสนทนาเล็กๆ ที่เอื้อนเอ่ยออกมาตรงมุมสงบของร้านกาแฟ ความสัมพันธ์ก่อตัวขึ้นภายใต้กลิ่นหอมของกาแฟคั่ว ดนตรีแจ๊ส และแอลกอฮอล์
รัก,ดราม่า,ชาย-ชาย,ดราม่า,BoyLove,BL,โรแมนติก,นิยายวาย,วาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เวฬาวาคีนเสียงเพลงในคาเฟ่เล็กๆ แห่งนั้นค่อยๆ กังวานขึ้น ความเงียบสงัดถูกแทรกด้วยบทสนทนาเล็กๆ ที่เอื้อนเอ่ยออกมาตรงมุมสงบของร้านกาแฟ ความสัมพันธ์ก่อตัวขึ้นภายใต้กลิ่นหอมของกาแฟคั่ว ดนตรีแจ๊ส และแอลกอฮอล์
เปิดเรื่อง 03/11/2024
TRIGGER WARNING !!!
นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหา 18+ และมีการใช้คำหยาบคาย ลามก โปรดพิจารณาก่อนอ่าน
ไม่แนะนำสำหรับนักอ่านที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
แด่ความรักทุกรูปแบบ
คำชี้แจ้ง
- นิยายเรื่องนี้จะมีการติดเหรียญ สำหรับตอนที่มี NC
- นิยายเรื่องนี้จะเปิดให้อ่านฟรี 10 ตอนแรก
- จะมีการติดเหรียญตอนอ่านล่วงหน้าสำหรับสายอ่านไว ตั้งแต่ตอนที่ 11 เป็นต้นไป แล้วจะปลดเหรียญให้อ่านฟรีหลังจากนั้น 7 วัน
- มีอีบุ๊คจำหน่าย แต่อาจจะช้าหน่อย
หมายเหตุ: เปิดให้อ่านฟรีตลอดช่วงเดือนมกราคม 2568 เป็นของขวัญปีใหม่ค้าบบบบบ
เวฬาขลุกตัวอยู่กับงานเขียนตรงหน้าต่อโดยไม่ได้สนใจเวลาที่หมุนไป ล่วงเลยหลายชั่วโมงเรียวนิ้วยังคงประพรมลงบนแป้นพิมพ์อย่างต่อเนื่อง เสียงเคาะแป้นไปตามตัวอักษรนั้นดึงสมาธิของเขาให้นั่งจดจ่ออยู่กับหน้าจอโน้ตบุ๊กของตัวเองได้ดี ไม่ให้เผลอวอกแวกไปกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวที่เริ่มจะวุ่นวายจากจำนวนลูกค้าที่เริ่มทยอยเข้ามาเพิ่มเรื่อยๆ
ฟ้าที่สว่างเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มก่อนที่ดวงอาทิตย์จะค่อยๆ ลาลับขอบฟ้าไป เวฬาเงยหน้าขึ้นมองสิ่งอื่นเป็นครั้งแรกเมื่อรู้สึกได้ว่าแสงสว่างมันเริ่มลดน้อยลง พนักงานในร้านเดินเอาโคมไฟมาวางที่โต๊ะ แนวเพลงที่เปิดเริ่มเปลี่ยนไป บรรยากาศต่างๆ ก็ดูแตกต่างจากคาเฟ่ในช่วงกลางวันมากพอสมควร นักเขียนหนุ่มหันมองไปรอบๆ เขาเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าทุกสิ่งในร้านดูไม่เหมือนกับตอนที่เขาเข้ามาในตอนเช้า ก่อนที่สายตาของเขาจะหันไปเห็นป้ายร้านที่ติดประดับอยู่บนผนัง
Joaquin Café & Bar
เวฬาไม่รู้มาก่อนด้วยซ้ำว่าร้านที่เขานั่งอยู่มันจะแปลงโฉมเป็นบาร์หลังจากที่ท้องฟ้ากลายเป็นสีดำ ความตั้งใจแรกของเขาคือออกมาข้างนอกเพื่อนั่งปั่นต้นฉบับเรื่องใหม่ เพราะหัวมันตันเกินกว่าจะนั่งคิดอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมอุดอู้ที่คอนโด
อื้อออ~!
ชายหนุ่มประสานฝ่ามือเข้าหากันก่อนจะยืดเหยียดชูขึ้นเหนือหัวเพื่อขับไล่ความเมื่อยล้าจากการพิมพ์นิยายตลอดทั้งวันให้ออกไป เขาบิดทางซ้ายที ทางขวาที ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ชนิดที่ใครอยู่บริเวณนั้นคงได้ยินกันอย่างชัดเจน
“ยังไม่กลับอีกเหรอครับคุณเวฬา” ชายหนุ่มตัวสูงเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะก้มหน้าลงมากระซิบที่ข้างหูของนักเขียนหนุ่ม
เวฬาหันใบหน้าไปตามเสียงก่อนจะพบใบหน้าของอีกฝ่ายที่อยู่ใกล้ในระยะประชิดจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน เขาแอบสะดุ้งเล็กๆ ด้วยความตกใจ สายตาของเขาประสานเข้ากับอีกฝ่ายเรียกกระแสไฟฟ้าในร่างกายให้ปะทุขึ้นเล็กน้อย แววตาและใบหน้าของอีกฝ่ายยังฝังลึกอยู่ในความทรงจำเขา หัวใจแอบเต้นแรงนิดหน่อย เพราะหลังจากห่างหายไปสองปี เขาก็ไม่เคยได้พบอีกฝ่าย แม้ว่าจะพยายามไปนั่งที่คาเฟ่แห่งเดิมบ่อยแค่ไหนก็ตาม แล้วจู่ๆ ก็ไม่รู้ว่าอะไรลิขิตให้สถานการณ์ในวันนี้เกิดขึ้น แต่เขารู้สึกขอบคุณไม่น้อยเลยทีเดียว
“คุณ... วาคีน”
“สวัสดีครับคุณเวฬา”
“คะ... ครับ”
“ไม่เจอกันนานเลยนะครับ” วาคีนยกยิ้มกว้างก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ตัวงที่ว่างออกมาจากใต้โต๊ะแล้วหย่อนตัวลงนั่ง “สบายดีนะครับ”
“สบายดีครับ แล้วคุณล่ะครับ?”
“ผมสบายดีครับ แต่คุณเวลายังไม่ตอบคำถามผมเลยนะครับ”
เวฬาส่งสายตางุนงงเล็กน้อย เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าก่อนหน้านี้วาคีนพูดว่าอะไร มัวแต่กำลังตกใจที่ได้กลับมาเจออีกฝ่ายอีกครั้ง
“คุณวาคีนถามว่าอะไรนะครับ”
“ผมถามว่ายังไม่กลับอีกเหรอครับ”
“เอ่อ.. ว่าจะกลับแล้วครับ” เวฬาพูดพลางพับปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์
ความเงียบเกิดขึ้นครู่หนึ่งเมื่อต่างฝ่ายต่างไม่รู้ว่าจะต้องสนทนาอะไรกันต่อ นักเขียนหนุ่มท่าทีอึกอักราวกับว่าเกิดคำถามบางอย่างขึ้นมาในใจแต่ไม่กล้าที่จะเอ่ยปากถามออกมาตรงๆ
“ถามมาเลยครับ ผมยินดีตอบ” วาคีนเป็นฝ่ายเชื้อเชิญขึ้นมาก่อน เพราะท่าทางของคนตรงหน้ามันฟ้องชัดว่ากำลังมีเรื่องที่อยากรู้
“คุณ... หายไปไหนมาครับ”
“...”
“ตั้งสองปี...”
“ผมไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศสครับ”
“อ่อครับ”
“ขอโทษที่ไม่ได้บอกนะครับ ตอนนั้นทุกอย่างมันไวไปหมด”
“ครับ” นักเขียนหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะยกเอานิ้วชี้ดันแว่นที่ตกลงมาบริเวณปลายจมูกให้กลับไปอยู่ตำแหน่งเดิม มือบางคว้าเอาโน้ตบุ๊คที่พับเอาไว้เก็บเข้ากระเป๋าเป้แล้วเหวี่ยงขึ้นบ่าทำท่าจะลุกขึ้นแต่ก็ถูกเสียงของวาคีนเอ่ยขัดไว้ก่อน
“เสียดายจังครับที่คุณเวฬารีบกลับ”
“ทำไมเหรอครับ” เจ้าของชื่อถามกลับด้วยสีหน้างุนงงเล็กน้อย
“ผมว่าจะชวนคุณนั่งดื่มด้วยกันสักหน่อย ไม่อยากดื่มคนเดียว...”
“เอ่อ... คือ... ผมดื่มไม่ค่อยเก่งน่ะครับ”
“อ่อ งั้นไม่เป็นไรครับ” วาคีนอมยิ้มพลางลุกขึ้นแล้วหันหลังเดินออกไป แต่หนุ่มแว่นก็รีบก้าวขาฉับๆ ตามไปแล้วคว้าแขนเอาไว้
“แต่ลองดูก็ได้ครับ ขอแบบไม่ต้องแรงมาก...”
“งั้นรอผมแป๊บหนึ่งนะครับ” วาคีนพูดจบพลางยิ้มกว้างก่อนจะรีบเดินออกไป
เวฬาหย่อนตัวนั่งลงอีกครั้งแล้วรออยู่ตรงนั้นอย่างใจจดจ่อ เขาไม่รู้หรอกว่าทำไมอยู่ดีๆ ถึงตัดสินใจตอบรับคำชวนของอีกฝ่ายอย่างง่ายดายนัก ปกติเขาไม่ใช่คนที่จะสุงสิงกับคนที่ยังไม่ค่อยคุ้นเคยกันสักเท่าไหร่ แต่คงเพราะเมื่อสองปีก่อนได้รู้แล้วว่าวาคีนเป็นแฟนนิยายของตัวเอง ความไว้เนื้อเชื่อใจบางอย่างจึงก่อตัวขึ้นมาเป็นเกราะกำบังให้เขาได้รู้สึกปลอดภัยขึ้นมาอีกเล็กน้อย
“นี่ของคุณเวฬาครับ” แก้วเครื่องดื่มสีแดงสดใส มีฟองสีขาวลอยอยู่ด้านบนเล็กน้อย พร้อมด้วยสัปปะรดชิ้นเล็กและเชอร์รี่หนึ่งผลเสียบประดับไว้ที่ขอบปากแก้วถูกวางลงตรงหน้าเวฬา
“ขอบคุณครับ มันคืออะไรเหรอครับ”
“เป็นค็อกเทล ชื่อว่า Singapore Sling ครับ ลองดื่มดูสิครับ ดื่มง่าย แล้วก็สดชื่นครับ”
“ครับ...”
เวฬายกแก้วตรงหน้าขึ้นดื่ม ชั่ววินาทีแรกที่ปลายลิ้นสัมผัสเข้ากับรสชาติของเหลว ใบหน้าของเขาแอบเหยเกไปครู่หนึ่งด้วยความไม่คุ้นชินกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากนัก แต่เพียงไม่นานความรู้สึกต่างๆ ก็เปลี่ยนไป จากที่รู้สึกเพลียมาตลอดวันเพราะนั่งอยู่แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์กลายเป็นสดชื่นขึ้นจริงตามคำกล่าวอ้างของคนแนะนำ
“ดื่มให้เต็มที่เลยนะครับ คืนนี้ผมเลี้ยงเอง”
เวฬายกยิ้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินวาคีนเอ่ยบอกแบบนั้น แม้เขาจะดื่มไม่เก่งมากนัก แต่บรรยากาศในตอนนี้พร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่นและดวงตาประกายของชายหนุ่มตรงหน้าทำเอาเขาไม่ได้รู้สึกอยากจะกลับบ้านเลยสักนิด
อื้อออ~
เข็มยาวของนาฬิกาหมุนครบหนึ่งรอบ ร่างกายของเวฬาก็เริ่มควบคุมยากขึ้นทุกทีเมื่อแอลกอฮอล์ในร่างกายมีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ จากค็อกเทลเต็มแก้วตอนนี้เหลือเพียงแก้วเปล่าตั้งอยู่บนโต๊ะ ศีรษะของเขามันหนักขึ้นกว่าเก่า พาลแต่จะฟุบลงไปนอนเสียให้ได้ โชคดีที่ยังมีวาคีนคอยชวนคุยไม่ให้เขาเผลอหลับไป
“ขออีกแก้ววว~” เสียงยานคางจากปากเวฬาเรียกรอยยิ้มของวาคีนได้ไม่น้อย
“เมาแล้วคุณ พอเถอะครับ”
“ผมยังไม่มาววว~” มือไม้ของคนพูดปัดป่ายไปทั่วระหว่างนั้น วาคีนถึงกับต้องคว้าหมับเอาไว้เพราะกลัวว่าจะทำแก้วตกแตกไปเสียก่อน
รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองดื่มไม่เก่ง แต่พอเริ่มเมาก็เอาแต่เรียกร้องหาเหล้ามาดื่มเพิ่ม วาคีนเพิ่งประจักษ์ในตอนนี้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้โกหกเขาเรื่องคออ่อน เพียงแก้วเดียวก็เปลี่ยนจากนักเขียนนิ่งเงียบกลายเป็นแมวน้อยขี้อ้อนไปเสียแล้ว
เสียงดนตรีแจ๊สภายในร้านยังคงดังอย่างต่อเนื่องพร้อมด้วยเสียงนักร้องสาวที่เรียกความโรแมนติกให้เพิ่มขึ้น แววตาของเวฬาจดจ้องอยู่วาคีนอย่างไม่ลดละ ยิ่งดึกเขายิ่งรู้สึกว่าอีกฝ่ายน่าหลงใหล แสงไฟสลัวที่ตกกระทบใบหน้าของคนตรงหน้าทำให้นักเขียนหนุ่มรู้สึกว่าหนุ่มเหนือตรงหน้าเซ็กซี่ขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
“มีอะไรหรือเปล่าครับ?” วาคีนเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัยเมื่อเห็นว่าตนเองถูกจ้องหน้ามานานมากเกินไป
“ปะ... เปล่าครับบบ”
“หน้าคุณแดงมากเลยรู้ไหมครับ”
“อ่อ~ คงเมาแล้วล่ะครับ”
“นั่นน่ะสิครับ”
“ผมว่าผมกลับบ้านดีกว่า” เวฬาบอกพลางหันไปหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายแล้วลุกจากเก้าอี้ แต่เพราะความเมาทำให้เขาเดินเซจนเกือบล้ม
“เดี๋ยวผมช่วยครับ” วาคีนรีบพุ่งเข้าไปประคองอีกฝ่ายด้วยความตกใจทันที
“ขอบคุณครับ”
“ให้ผมไปส่งไหมครับ”
“เอ่อ...”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ ผมไม่อยากให้คุณนั่งแท็กซี่กลับบ้านคนเดียว”
“เป็นห่วงผมเหรอครับ” นักเขียนหนุ่มเริ่มแล้ว แววตายั่วยวนนั้นทำเอาวาคีนยกยิ้ม
“ครับ กลัวคุณเป็นอะไรไปแล้วผมจะไม่ได้อ่านงานเขียนดีๆ อีกครับ”
คำพูดของวาคีนทำเอาหัวใจของเวฬาเต้นตุบๆ ขึ้นมาในทันใด นานมากแล้วที่เขาไม่ได้ยินคำชื่นชมจากนักอ่าน ส่วนใหญ่จะมีแต่แอบด่าและตำหนิเสียมากกว่า ถ้อยคำเมื่อครู่แม้เพียงน้อยนิดแต่ก็สร้างแรงบันดาลใจให้กับเขาได้ไม่น้อย
คนตัวสูงกว่าประคองหนุ่มนักเขียนไปที่รถของตัวเอง รถยนต์คันหรูปรากฏต่อสายตาเวฬาเรียกความตื่นเต้นขึ้นมาอยู่เนืองๆ ทั้งชีวิตเขาไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าจะมีโอกาสได้นั่งรถแบรนด์หรู เขาหันไปมองหน้าวาคีนอีกครั้งเพื่อย้ำว่าในตอนนี้เขาไม่ได้กำลังฝันไป ประตูรถฝั่งผู้โดยสารถูกเปิดออกก่อนที่วาคีนจะยกฝ่ามือขึ้นแนบไปกับขอบประตูด้านบนเพื่อป้องกันไม่ให้เวฬาหัวกระแทกตอนที่มุดเข้าไปนั่งด้านใน เจ้าของรถไม่ลืมที่จะก้มไปคาดเข็มขัดนิรภัยให้คนนั่งเพื่อความปลอดภัยก่อนจะวิ่งกลับไปขึ้นนั่งฝั่งคนขับแล้วยื่นมือถือให้อีกฝ่ายปักหมุดโลเคชั่นให้
ไม่นานรถยนต์คันดังกล่าวก็แล่นมาจอดที่ลานจอดรถของคอนโดที่เวฬาระบุไว้ในจีพีเอส วาคีนค่อยๆ พาคนเมาลงจากรถแล้วเดินเข้าอาคารคอนโดไป เขารับคีย์การ์ดจากเวฬามาเพื่อกดลิฟต์ ความทุลักทุเลทำเอาคนมาส่งอดหัวเราะไม่ได้ ใครจะไปคิดว่าการกลับมาเจอกันครั้งแรกจะมาจบลงด้วยสภาพนี้ แทนที่จะเป็นโมเมนต์สวยๆ งามๆ กลับกลายเป็นการช่วยชีวิตไปเสียอย่างนั้น
ทั้งสองคนพากันเดินมาถึงหน้าห้องของเวฬา เลขห้อง 69 ปรากฏอยู่ตรงหน้า ทันทีที่เห็นเลขห้องวาคีนก็หลุดหัวเราะออกมาในทันที เพราะมันทำให้ความคิดในหัวของเขาสกปรกเสียเหลือเกินในเวลาแบบนี้
ติ๊ด!
เสียงประตูอัตโนมัติดังขึ้นหลังจากที่วาคีนเอาคีย์การ์ดแตะเพื่อเปิดประตู เขาออกแรงบิดและผลักบานประตูเข้าไป ก่อนจะพาเจ้าของห้องไปวางลงบนโซฟาหน้าทีวี
“เห้อ! หนักเหมือนกันนะคุณ” วาคีนแอบบ่นเบาๆ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะหูดีไม่น้อย
“คุณว่าผมเหรอ”
“เปล่าๆ ครับ”
“แล้วไป...”
“งั้นเดี๋ยวผมกลับแล้วนะครับ” วาคีนพูดจบก็หันหลังจะเดินออกไปแต่ก็ยังช้ากว่ามือบางของเวฬาที่คว้าหมับเข้ามาในทันที
“อยู่ด้วยกันก่อนสิครับ จะรีบไปไหนล่ะ” น้ำเสียงและแววตาของเจ้าของห้องเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากแมวน้อยขี้อ้อนกลายเป็นสายตาของนักล่าที่ดุดันและยั่วยวน ชวนให้วาคีนแปลกใจไม่น้อย
“คุณเวฬาครับ ผมว่ามันจะไม่ดีมั้งครับ คุณเมาอยู่ด้วย” วาคีนรีบปฏิเสธ เขารู้ดีว่ามันกำลังจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ถามว่าเขาต้องการไหม ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ แต่เขาไม่อยากจะล่วงเกินในช่วงเวลาที่อีกคนกำลังขาดสติแบบนี้ แม้ว่าอารมณ์ภายในตัวของเขาจะกำลังลุกโชนมากก็ตาม
“ผมไม่ได้เมาครับ ผมสร่างแล้ว” เวฬาเน้นย้ำ
“...”
“ช่วยผมหน่อยนะครับ”
“คุณรู้ตัวใช่ไหมครับว่าพูดอะไรออกมา”
“...”
เวฬาไม่ตอบแต่สายตาเย้ายวนนั้นคงชัดเจนมากพอให้วาคีนเริ่มใช้เรียวนิ้วปลดเปลื้องกระดุมบนเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกทีละเม็ด ทีละเม็ด ความเงียบทำให้ได้ยินเสียงลมหายใจของความต้องการได้อย่างชัดเจน แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่สาแก่ใจนักเขียนหนุ่มสักเท่าไหร่นัก เขาหันไปคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเชื่อมต่อกับลำโพงบลูทูธแล้วเปิดเพลย์ลิสต์เพลงแจ๊สคลอเบาๆ สร้างบรรยากาศเซ็กซี่ เพิ่มความเร่าร้อนให้คนทั้งคู่ได้ไม่น้อย
มุมปากของวาคีนยกยิ้มขึ้นนิดหน่อยเมื่อเห็นว่าแววตาของเจ้าของห้องเปลี่ยนไป นัยน์ตาใสซื่อของเวฬาบัดนี้ได้กลับกลายนัยน์ตาคมส่องประกายความรู้สึกภายในออกมาอย่างชัดแจ้ง วาคีนแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่าบุคคลที่อยู่ตรงหน้าเขานี้จะเป็นคนเดียวกันกับที่คาเฟ่เมื่อตอนกลางวัน
เห็นเนิร์ดๆ แบบนี้ ไม่คิดว่าจะแซ่บ...
เวฬาดึงวาคีนลงมานั่งบนโซฟาก่อนที่ตัวเองจะกระโดดขึ้นไปนั่งคร่อมเอาไว้ แล้วเริ่มปลดเม็ดกระดุมบนเสื้อของอีกฝ่ายที่เหลืออยู่ออกจนหมด เป้ากางเกงของคนข้างล่างเริ่มแข็งนูนขึ้นมาจนเจ้าของห้องเริ่มสัมผัสได้ บั้นท้ายของเวฬารับรู้ได้ถึงส่วนที่กำลังตื่นตัวขึ้นของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน
“ตื่นแล้วเหรอครับ” เวฬาแกล้งแซว
“ใครมันจะไปทนไหวล่ะครับ”
เสื้อเชิ้ตถูกปลดออกเผยให้เห็นกล้ามเนื้อบนร่างกายของวาคีน เจ้าของห้องเพ่งพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งพลางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เอาเข้าจริงแม้ว่าเขาจะช่ำชองในการเขียนฉาก NC จนหลายคนบอกว่าอ่านแล้วถึงใจแบบสุดๆ ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณหนังผู้ใหญ่ทั้งหลายที่เป็นอาจารย์สอนให้เขาเขียนงานอะไรแบบนั้นได้ แต่ในทางปฏิบัติจริงคงต้องบอกว่าเขาอ่อนหัดอยู่มาก คงต้องปล่อยไปตามสัญชาตญาณธรรมชาติล่ะมั้ง
เรียวนิ้วแตะสัมผัสเข้าที่ผิวกายของคนที่อยู่ด้านล่าง ก่อนจะค่อยๆ ลูบไล้ไปมา ผิวเนียนของวาคีนสร้างความสนใจให้เวฬาได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะผิวสองสีและกล้ามเนื้อแน่น ทำเอาสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ภายในกางเกงของเขาเริ่มที่จะตื่นตัวขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน
คนด้านบนไม่รอช้าอีกต่อไป เขาก้มลงกดจูบลงบนริมฝีปากของอีกฝ่าย ไร้ซึ่งความนุ่มนวลใด เพราะอีกฝ่ายก็โต้ตอบกลับมาอย่างฉับพลันและรุนแรง ทั้งคู่บดจูบอย่างเร่าร้อน ริมฝีปากเผยอออกแล้วตามด้วยเรียวลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของอีกฝ่าย สัมผัสอุ่นในโพรงปากกระตุ้นความอยากให้เพิ่มมากขึ้นอีก พวกเขาหยอกล้อกันอย่างนั้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเป็นเวฬาที่ผละออกมาแล้วเร่งรีบถอดเสื้อของตัวเองออกเพราะรู้สึกรำคาญขึ้นมา มันเกะกะขวางทางไปหมด ร่างกายปะทุไปด้วยกามารมณ์จนเขาเองก็ไม่มีสติมากพอที่จะหยุดการกระทำนี้ได้อีกต่อไป
เมื่อเสื้อที่ใส่อยู่ถูกเหวี่ยงออกไป เวฬาก็ย้ายความสนใจจากริมฝีปากลงไปยังยอดอกสีช็อกโกแลตของวาคีน กล้ามอกแน่นนั้นทำให้เขารู้สึกอยากที่จะเข้าไปโลมเลีย เขาใช้ปลายลิ้นอุ่นแตะเข้าที่ยอดอกแล้วเริ่มกระดิกลิ้นรัวเพื่อสร้างสัมผัสกระสันให้คนที่โดนกระทำ
อื้อออ~
เสียงครางเบาๆ ดังลอดออกมาจากในลำคอของวาคีน ความเสียวซ่านเริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อยอดอกทั้งสองข้างถูกสะกิดด้วยเรียวลิ้นร้อน เวฬาไม่หยุดยั้งสลับลิ้นเลียไปพร้อมกับแวะดูดคลึงยอดอกนั้นจนเริ่มเกิดรอยแดงขึ้นมาเล็กน้อย เสียงครางต่ำยังคงดังเบาคลออยู่ตลอดเวลา เป็นหลักฐานบ่งบอกชัดว่าวาคีนเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสที่เวฬามอบให้
มือหนาดันร่างเวฬาออกก่อนที่รีบรุดปลดเข็มขัดและกางเกงของตัวเองออกไป เพราะสิ่งที่อยู่ภายในนั้นมันแข็งตัวเต็มกำลังจนทำให้เริ่มรู้สึกอึดอัด เมื่อเจ้าของห้องเห็นว่าแขกกำลังปลดเปลื้องสิ่งปกคลุมร่างกายชิ้นสุดท้าย เขาก็ไม่รีรอรีบจัดการถอดกางเกงของตัวเองออกด้วยเหมือนกัน
แม้แต่กางเกงชั้นในก็ยังถูกปาทิ้งอย่างไม่ใยดี
เวฬาตาลุกวาวเมื่อเห็นของลับของวาคีนปรากฏอยู่ตรงหน้า ไม่คิดมาก่อนว่าอีกคนจะซ่อนรูป พอได้เห็นสิ่งนั้นตื่นตัวอย่างเต็มที่ก็ทำเอาเขาเกิดความกังวลขึ้นมาเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้คิดกลัว เขาเงยหน้ามองวาคีนที่นั่งยกแขนพาดกับพนักโซฟาพลางขยับขาให้กว้างออกเป็นสัญญาณบอกให้คนที่ยืนอยู่ทำอะไรสักอย่างกับส่วนนั้น
เจ้าของห้องยกยิ้มมุกปากแล้วหย่อนตัวลงนั่งคุกเข่าก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งจับเข้าที่โคนแก่นกายนั้นแล้วครอบปากลงไปทันที
“อ่า...” วาคีนร้องครางออกมาอีกครั้งเมื่อเวฬาออกแรงดูดเบาๆ
เขาใช้ลิ้นร้อนตวัดไปมาบริเวณส่วนหัวและรอยหยัก เพราะจำได้ว่าเป็นส่วนที่ทำให้คนโดนกระทำรู้สึกเสียวได้มากที่สุด มือข้างหนึ่งประคองส่วนโคนลำแท่ง ส่วนอีกข้างหนึ่งที่ว่างอยู่ก็เริ่มลูบไล้ไปตามหน้าท้องและหน้าอกของวาคีน เขาเริ่มขยับศีรษะเข้าออกเป็นจังหวะสร้างความกระสันอย่างต่อเนื่องให้กับคนโดนกระทำ
สะโพกของคนที่อยู่ด้านล่างเริ่มขยับสวนแทงเข้าไปในปากของอีกฝ่าย สองมือย้ายลงมาจับหัวของเวฬาเอาไว้เพื่อประคองให้มั่นคง เขาเพิ่มแรงขยับสะโพกทีละน้อยจนเริ่มหนักขึ้น แก่นกายแทงลึกเข้าไปในลำคอจนสุดโคน เพียงไม่กี่ครั้งเวฬาก็ต้องใช้ฝ่ามือตีต้นขาของวาคีนเพื่อบอกให้รู้ว่าเขาเริ่มหายใจไม่ออกแล้ว
อ่อก~!
คนตัวเล็กกว่าสำลักออกมา เขาถอนริมฝีปากออกแล้วรีบกอบโกยอากาศเข้าไปในปอดพลางยกมือขึ้นเช็ดน้ำลายที่เปรอะเปื้อนบริเวณริมฝีปาก เขาชันตัวลุกขึ้นไปนั่งคร่อมวาคีนแล้วประกบริมฝีปากอีกครั้ง ร้อนแรงและหนักหน่วงกว่าเดิม
“อมให้ผมบ้างได้ไหมครับ” เวฬาเอ่ยถามเสียงกระเส่า
“ครับ”
สิ้นเสียงตอบรับเวฬาก็ถอยตัวลงจากโซฟามายืนรอ ก่อนที่วาคีนจะขยับตัวนั่งให้มั่นคงแล้วคว้าเอวคนยืนให้เข้ามาใกล้แล้วครอบริมฝีปากของตัวเองลงไป แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยได้ทำแบบนี้ให้กับใครบ่อยๆ แต่เมื่อคนตรงหน้าร้องขอด้วยแววตาอ้อนวอนแบบนั้นเขาจะละเลยได้ยังไง
เลียวริ้นไล้ไปตามลำแท่งขาวอมชมพูของเวฬา เสียงร้องครางดังขึ้นในทันที อาจเพราะเป็นส่วนอ่อนไหวที่โดยปกติแล้วเขาไม่ค่อยได้ให้ใครสัมผัสสักเท่าไหร่ พอโดนวาคีนกระทำจึงไวต่อความรู้สึกมากเป็นพิเศษ หรือจริงๆ อาจเป็นเพราะทักษะการอมของคนตัวสูงที่เก่งกาจจึงทำให้เจ้าของห้องอย่างเวฬาเริ่มรู้สึกอ่อนแรงลงทุกที
“สะ... เสียวครับ” เวฬาเผลอครางออกมา วาคีนจึงเหลือบตาขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างพอใจ
ริมฝีปากถูกถอนออกจากลำแท่งนั้นก่อนที่จะย้ายมายังด้านล่าง ลิ้นร้อนแตะสัมผัสเข้าที่ผิวบริเวณถุงอัณฑะซึ่งเป็นจุดอ่อนไหวที่ไม่ว่าผู้ชายคนไหนโดนสัมผัสเข้าไปก็ต้องสั่นสะท้านไปตามๆ กัน ไม่เพียงแค่เลียแต่วาคีนกลับเริ่มครอบริมฝีปากอมส่วนนั้นเข้าไปในโพรงปากด้วย วินาทีนั้นทำให้ขาแข้งของเวฬาอ่อนแรงในทันทีจนต้องใช้ฝ่ามือยึดไหล่ทั้งสองข้างของคนตรงหน้าเอาไว้ เพื่อไม่ให้ตัวเองทรุดนั่งลงไป
“คุณวาคีน... ผมเสียวครับ”
“ไม่แปลกหรอกครับ ใครโดนแบบนี้ ก็พูดแบบเดียวกับคุณหมด”
“อ่า...”
“ก่อนหน้านี้ผมก็ไม่เชื่อ จนกระทั่งโดนเอง”
“แล้วก็เอามาแกล้งผมเหรอครับ” เวฬาบ่นพลางยู่ปาก สีหน้างอนของเขาในตอนนี้น่าเอ็นดูในสายตาของวาคีนเป็นอย่างมาก
“ไม่ได้แกล้งสักหน่อย แค่อยากให้คุณมีความสุขครับ”
วาคีนพูดจบก็ไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่าจับตัวเวฬาหันหลังแล้วผลักให้ลงไปนั่งโก้งโค้งบนโซฟา จากนั้นก็ใช้มือทั้งสองข้างสัมผัสเข้าไปที่บริเวณแก้มก้นทั้งสองข้าง นวดคลึงเบาๆ ก่อนจะเริ่มก้มหน้าลงไปแล้วใช้ลิ้นร้อนไล้เลียที่ช่องทางด้านหลังนั้น
“อื้ออ!” เวฬาส่งเสียงร้องออกมาเมื่อได้รับสัมผัสนั้น
เรียวลิ้นไล้เลียอยู่ตรงช่องทางรักครู่ใหญ่สร้างความกระสันให้ทวีขึ้นไม่มีหยุด เวฬาอยากให้วาคีนมอบส่วนนั้นเข้ามาในร่างกายสักที แต่ก็เขินเกินกว่าที่จะบอกออกไปตรงๆ เขาตัดสินใจลุกขึ้นแล้วจับวาคีนนั่งลงบนโซฟาก่อนจะเดินไปหยิบเจลหล่อลื่นและถุงยางในลิ้นชักใกล้ๆ มายื่นให้กับวาคีน
“ไม่แน่ใจว่าคุณจะใส่ได้ไหม”
วาคีนรับกล่องถุงยางมาพร้อมพลิกกล่องเพื่อดูขนาดที่ข้างกล่องก่อนจะพยักหน้า “ใส่ได้ครับ”
ว่าจบก็แกะกล่องในทันที ส่วนเวฬาก็เปิดฝาขวดเจลหล่อลื่นพลางบีบแล้วล้วงไปทาที่ช่องทางด้านหลังของตัวเอง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายใส่ถุงยางเสร็จเรียบร้อยก็ไม่ลืมที่จะแบ่งปันเจหล่อลื่นนั้นให้อีกฝ่ายด้วย
เมื่อทุกอย่างพร้อม เจ้าของห้องก็ขึ้นคร่อมในทันที เขาใช้มือข้างหนึ่งประคองแก่นกายของวาคีนเอาไว้แล้วเริ่มสอดเข้าไปที่ช่องทางรักของเขาอย่างเบามือ
“อื้อ!”
“อ่า...”
เสียงครางเริ่มเกิดขึ้นเมื่อแก่นกายของคนตัวสูงเริ่มเคลื่อนเข้าไปด้านในร่างกายของคนที่นั่งคร่อมอยู่
“ใหญ่จัง” เวฬาบ่นเล็กน้อยเพราะรู้สึกคับแน่นบริเวณช่องทางด้านหลัง อันที่จริงเขาก็ไม่ค่อยมีประสบการณ์เรื่องเซ็กส์มากนักหรอก แต่ไอ้สิ่งที่อีกฝ่ายมอบให้ในเวลานี้มันดูเหมือนจะใหญ่กว่าทุกคนที่เขาเคยผ่านมา
“อ่า...”
“อ๊ะ!”
เวฬาสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อวาคีนดันลำแท่งนั้นเข้ามาจนสุด เขากลั้นหายใจไปนิดหนึ่งเพราะรู้สึกจุกบริเวณท้องน้อย แต่ก็ค่อยๆ ผ่อนคลายขึ้นเมื่อเขาเองเริ่มต้นขยับสะโพกขึ้นลงช้าๆ ช่องทางรักเสียดสีแก่นกายของอีกฝ่ายสร้างความเสียวกระสันได้เป็นอย่างดี เสียงครางต่ำดังคลอออกมาเป็นระยะๆ เสียงผิวกายกระทบกันดังขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องบ่งบอกว่าทั้งคู่กำลังเพลิดเพลินกับจังหวะรักที่พวกเขาสร้างขึ้น
“อื้อ!!” เวฬาเผลอเม้มริมฝีปากแน่น เมื่อวาคีนกระแทกแรง สวนลำแท่งนั้นเข้ามาจนสุดโคน เป็นจังหวะเนิบช้า แต่หนักหน่วง เสียงตุบตับดังชัด ใบหน้าของคนโดนกระทำก็เหยเก ไม่ใช่เพราะเจ็บ แต่เพราะมันเสียวเกินจะทน
“ชอบไหมครับ” วาคีนกระซิบถาม
“ชอบครับ”
คนข้างล่างกระแทกสะโพกสวนจังหวะเข้าไปอีกสองสามครั้ง แล้วสะกิดให้คนข้างบนยกสะโพกถอนออกจากแก่นกายของตนเอง ก่อนจะจับตัวเวฬาให้นอนหงายลงบนโซฟา เขาคว้าเอาเจลหล่อลื่นมาบีบเพิ่มแล้วชโลมลงไปบนลำแท่งของตัวเอง แววตาของเวฬาที่จ้องมองอยู่เต็มไปด้วยความรู้สึกอ้อนวอนและร้องขอ ใบหน้าแดงก่ำเพราะอุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นเรื่อยๆ จากความใคร่นั้นยั่วยวนกามารมณ์ของวาคีนเป็นอย่างดี
“ใส่เข้ามาสิครับ!” เจ้าของห้องเริ่มเรียกร้อง เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่เชื่องช้าเกินกว่าที่ใจเขาต้องการ
“หึ! อย่ามาร้องให้ได้ยินก็แล้วกัน...”
วาคีนเริ่มรู้สึกมันเขี้ยวขึ้นมา แม้ภายนอกเขาจะดูเป็นคนสุภาพเรียบร้อย แต่เรื่องบนเตียงนี่ดูถูกเขาไม่ได้เด็ดขาด เพราะทุกครั้งที่เขาเริ่มรู้สึกว่าถูกคู่นอนดูถูก เขาก็มักจะเผลอขาดสติ จัดหนักอีกฝ่ายจนแทบร้องไม่เป็นมนุษย์
เขารีบจับส่วนนั้นของเขายัดเข้าไปในช่องทางรักของเวฬาอีกรอบ ครั้งนี้เขาใส่พรวดเดียวเข้าไปหมด ตั้งใจแกล้งอีกคน เขาชอบที่จะเห็นคนโดนกระทำถูกทรมาน แม้จะรู้ว่าเป็นนิสัยที่ไม่ดี แต่เขาก็อดไม่ได้ทุกทีที่จะทำแบบนี้
“คุณ!! ผมจุก!”
“ก็คุณเรียกร้องเองนะครับ”
“คุณขี้แกล้งอะ”
เผียะ!!
เสียงฝ่ามือตบเข้าที่ก้นของคนด้านล่างดังขึ้นเมื่อพูดจบ วาคีนฟาดเข้าไปเต็มฝ่ามือด้วยความมันเขี้ยว รอยแดงระเรื่อปรากฏขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้มีใครสนใจนัก คนตัวสูงเริ่มขยับสะโพกอีกครั้ง แก่นกายของเขาถูกช่องทางรักของเวฬาตอดรัดจนตอนนี้ความเสียวมันพุ่งขึ้นเต็มที่
“อ่า...”
“อ๊ะ! วาคีน แรงอีกได้ไหม... อ๊า!!!”
ยังไม่ทันที่เวฬาจะพูดจบ วาคีนก็ถอนแก่นกายออกมาจนเกือบหมดแล้วกระแทกสวนเข้าไปใหม่เต็มแรง จนคนข้างล่างร้องออกมาเสียงดังลั่น
เม็ดเหงื่อเริ่มผุดขึ้นตามผิวหนังของคนทั้งคู่ แม้จะว่าภายในห้องจะเปิดแอร์เย็นฉ่ำ แต่ก็ไม่ได้ทำให้อุณหภูมิของร่างกายลดลงแม้แต่น้อย มีแต่จะเพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เสียงกระทบกันของผิวหนังยังคงดังลั่นห้อง เสียงครางต่ำดังคลอออกมาเป็นจังหวะ ความสนุกสนานกับกิจกรรมบนโซฟาของคนทั้งคู่ดำเนินไปอย่างไม่ติดขัด หลากหลายท่าทางที่ถูกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพราะต่างฝ่ายต่างก็อยากที่จะท้าทายตัวเอง ทำให้การมีเซ็กส์ในครั้งนี้มันดูแตกต่างและเร้าใจคนทั้งคู่มากทีเดียว
“จะ... เสร็จ” เวฬาหลุดพูดออกมาระหว่างที่วาคีนกำลังกระหน่ำรัวสะโพก ทั้งๆ ที่แก่นกายของเขายังไม่ได้ถูกสัมผัสเลยสักนิด แม้ว่าจะมันจะแข็งตัวมาตั้งแต่ช่วงเริ่มกิจกรรมก็ตาม อาจเพราะลีลาของคนตัวสูงที่เก่งกาจจนสร้างความเสียวกระสันได้ในทุกจังหวะที่เสียบแก่นกายเข้ามา เวฬารู้สึกได้เลยว่าส่วนปลายหัวตรงนั้นของวาคีนมันแตะโดนจุดเสียวในทุกครั้ง จนกำลังจะทำให้เขาเสร็จกิจได้แม้ยังจะไม่ได้แตะต้องลำแท่งของตัวเองเลยก็ตาม
“เสร็จพร้อมกันไหมครับ” วาคีนเอ่ยถามเสียงกระเส่า
“อื้อ.. อ๊ะ!” เจ้าของห้องส่งเสียงครางออกมาอีกครั้งหลังตอบเสร็จ เพราะอีกฝ่ายเร่งจังหวะรัวยิ่งกว่าเดิม
เสียงหอบหายใจดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าทั้งคู่กำลังจะเสร็จสมอารมณ์หมาย มือหนาทั้งสองข้างของวาคีนโอบจับต้นขาของเวฬาเอาไว้แน่น แล้วรัวสะโพกอย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อย เสียงผิวกายกระทบกันดังอย่างต่อเนื่อง เสียงเพลงที่เปิดเอาไว้ยังคงบรรเลงอยู่อย่างนั้น เสียงครางกระเส่าของคนทั้งคู่ดังมากขึ้นกว่าเก่า
“อ๊ะๆๆ! อ๊า!!”
“อื้อออ... จะแตกแล้วครับ” วาคีนบอกพร้อมถอนแก่นกายออกจากช่องทางด้านหลังของเวฬาแล้วรีบดึงถุงยางออกในทันที เขาเดินเอาส่วนนั้นไปยื่นเข้าตรงหน้าของเวฬา คนที่นอนอยู่อ้าปากรอรับของเหลวที่กำลังจะพุ่งออกมา ในขณะที่มือของตัวเองก็กำลังสาวลำแท่งของตัวเองอยู่เหมือนกัน
อ๊า!!!!!
เสียงร้องครางดังลั่นออกมาพร้อมกับของเหลวสีขาวขุ่นของวาคีนพุ่งทะลักออกมา บางส่วนกองอยู่ในโพรงปากของเวฬา บางส่วนก็เปรอะเปื้อนอยู่บริเวณใบหน้า ส่วนน้ำรักของเวฬานั้น ถูกปลดปล่อยออกมาจนเลอะเทอะไปทั่วหน้าท้องของตัวเอง เสียงหอบหายใจแรงดังขึ้นก่อนที่วาคีนจะเดินไปทิ้งลงตัวนอนข้างเวฬา ทั้งสองคนหันมามองหน้ากันก่อนจะยกยิ้มหวานแล้วยื่นหน้าไปจุ๊บปากกันอีกครั้ง
“ทำไมคุณเก่งจัง” เวฬาเอ่ยปากชม เม็ดเหงื่อจากกิจกรรมเมื่อครู่ยังคงปรากฏให้เห็นทั่วใบหน้า
“ไม่หรอกครับ”
“ครั้งแรกเลยนะครับที่ผมโดนเอาจนเกือบจะเสร็จได้เอง ทั้งๆ ที่ยังไม่ทันจะได้สัมผัสตรงนั้นเลยด้วยซ้ำ”
“มันเสียวขนาดนั้นเลยเหรอครับ” วาคีนถามย้ำ
“สุดๆ เลยครับ ผมชอบนะ”
“ชอบผม หรือชอบเซ็กส์ของผมครับ?” วาคีนเองก็อยากจะรู้ว่าความหมายแท้จริงที่อีกฝ่ายต้องจะบอกคืออะไร
“อืม... อย่างหลังมั้งครับ”