ดินแดนลี้ลับที่ไม่มีใครเข้ามาแล้วออกไปได้ง่ายๆ นครโบราณนามว่า ฤทธิ์ธาจักรดิ์ทราวดี มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับพรานกล้า หรือ ภพ กันแน่ แล้วบุรุษนามว่า "ชนากร" คือใคร ร่วมเดินทางหาคำตอบด้วยกัน

ไพรดงพิศวง ภาค 2 เส้นทางที่ล่มสลาย - ตอนที่ 6 เสียงกอย กลางหมอก ( ดิเรกกับชางวี ) โดย makitomak @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ผจญภัย,แฟนตาซี,ลึกลับ,แอคชั่น,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ดราม่า,พล็อตสร้างกระแส,ผี,ผจญภัย,สยองขวัญ,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ไพรดงพิศวง ภาค 2 เส้นทางที่ล่มสลาย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ผจญภัย,แฟนตาซี,ลึกลับ,แอคชั่น,ระทึกขวัญ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ลึกลับ,ดราม่า,พล็อตสร้างกระแส,ผี,ผจญภัย,สยองขวัญ,แฟนตาซี

รายละเอียด

ไพรดงพิศวง ภาค 2 เส้นทางที่ล่มสลาย โดย makitomak @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดินแดนลี้ลับที่ไม่มีใครเข้ามาแล้วออกไปได้ง่ายๆ นครโบราณนามว่า ฤทธิ์ธาจักรดิ์ทราวดี มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับพรานกล้า หรือ ภพ กันแน่ แล้วบุรุษนามว่า "ชนากร" คือใคร ร่วมเดินทางหาคำตอบด้วยกัน

ผู้แต่ง

makitomak

เรื่องย่อ



 ไพรดงพิศวง ความหมาย:


 * ไพร : หมายถึง ป่า, ดง หรือพื้นที่ป่าทึบ


 * ดง : หมายถึง กลุ่มต้นไม้ที่ขึ้นหนาแน่น


 * พิศวง : หมายถึง น่าแปลกใจ, น่าสงสัย, หรือทำให้เกิดความสงสัย




"ไพรดงพิศวง" จึงหมายถึง ป่าหรือดงที่เต็มไปด้วยความลึกลับ น่ากลัว หรือเหตุการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ อาจมีความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ หรือเรื่องราวเล่าขานที่น่าขนลุกเกี่ยวข้องกับสถานที่นั้นๆ


 🙏กราบสวัสดีท่านผู้เดินทางทั้งหลาย เร็วๆนี้กระผมจะพาท่านเดินทางไปพบกับความ🙏ประหลาด🫨


ความเร้นลับ ความเชื่อมโยงกับโลกต่างมิติ 


และเรื่องราวของพรานหนุ่มที่โดนกลุ่มล่าสมบัติว่าจ้างให้นำทางเข้าป่าลึกเพื่อตามหาว่านชนิดหนึ่ง สี่ว่านจตุรมิตร การเดินจะพบเจออะไรบ้างมาเดินทางไปด้วยกันในป่าจะมีอะไรรออยู่เตรียมเสบียงให้พร้อม😏😏😏


แล้วพบกันท่านผู้เดินทาง (แสยะยิ้ม)


______________________


รบกวนท่านผู้เดินทางกดเข้าชั้นหนังสือ กดหัวใจกดติดตาม คอมเม้นท์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยน่ะครับ จุ้ฟๆ 


_______________________


1.1 นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องสมมุติ ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาจากจินตนาการ ของผู้แต่งเท่านั้น เหตุการณ์ สถานที่ ตัวละคร ไม่มีอยู่จริงครับ


2.2 เนื้อหาในเรื่องมีการใช้อาวุธ การต่อสู้การทำร้ายร่างกาย การฆ่า เลือด การร่วมเพศสัมพันธ์ุุของชายชายและหญิงหญิง มีการใช้คาถาอาคม พลังเหนือธรรมชาติ ผีสาง วิญญาณร้าย 


3.3 นิยายเรื่องนี้อาจมีคำหยาบคาย เหมาะกับผู้ที่อายุ 15 ปีขึ้นไปโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 




 ขอบคุณท่านผู้เดินทางทุกคนที่เข้ามาอ่านและขออภัยถ้าเกิดมีความผิดพลาดในเนื้อเรื่องบางประการจะพยายามไม่ให้ออกทะเลไปไกลจ้ะ

สารบัญ

ไพรดงพิศวง ภาค 2 เส้นทางที่ล่มสลาย-การเดินทางกำลังเริ่ม กล่าวทักทายกับคนอ่านและนักเดินทาง,ไพรดงพิศวง ภาค 2 เส้นทางที่ล่มสลาย-ตอนที่ 1 ทางออกที่ไม่มีอยู่จริง [ พรานสิงห์ ],ไพรดงพิศวง ภาค 2 เส้นทางที่ล่มสลาย-ตอนที่ 2 นครฤธาจักรดิ์ทราวดี,ไพรดงพิศวง ภาค 2 เส้นทางที่ล่มสลาย-ตอนที่ 3 อาณาจักรหลักสองล้านนา,ไพรดงพิศวง ภาค 2 เส้นทางที่ล่มสลาย-ตอนที่ 4 ใต้ปราสาทโบราณ [ พรานสิงห์ ],ไพรดงพิศวง ภาค 2 เส้นทางที่ล่มสลาย-ตอนที่ 5 บึงต้องคำสาป ( พรานกล้ากับภพ ),ไพรดงพิศวง ภาค 2 เส้นทางที่ล่มสลาย-ตอนที่ 6 เสียงกอย กลางหมอก ( ดิเรกกับชางวี ),ไพรดงพิศวง ภาค 2 เส้นทางที่ล่มสลาย-ตอนที่ 7 เสียงกระดิ่งสุดท้าย [ ดิเรกกับชางวี ],ไพรดงพิศวง ภาค 2 เส้นทางที่ล่มสลาย-ตอนที่ 8 [ ชายปริศนากับพรานสิงห์ ],ไพรดงพิศวง ภาค 2 เส้นทางที่ล่มสลาย-ตอนที่ 9 พบกันอีกครั้ง,ไพรดงพิศวง ภาค 2 เส้นทางที่ล่มสลาย-ตอนที่ 10 ไออุ่นจากพรานกล้า,ไพรดงพิศวง ภาค 2 เส้นทางที่ล่มสลาย-ตอนที่ 11 สู่เส้นทางลับแล,ไพรดงพิศวง ภาค 2 เส้นทางที่ล่มสลาย-ตอนที่ 12 ก้าวสู่ลับแลนคร,ไพรดงพิศวง ภาค 2 เส้นทางที่ล่มสลาย-ตอนที่ 13 ลับแลนคร 1,ไพรดงพิศวง ภาค 2 เส้นทางที่ล่มสลาย-ตอนที่ 14 ลับแลนคร 2,ไพรดงพิศวง ภาค 2 เส้นทางที่ล่มสลาย-ตอนที่ 15 มุ่งหน้าสู่เรือนสีทองกลางหมู่บ้าน

เนื้อหา

ตอนที่ 6 เสียงกอย กลางหมอก ( ดิเรกกับชางวี )



ทั้งสองคนเริ่มเดินลึกเข้าไปตามทางที่เต็มไปด้วยหมอกและต้นไม้ใหญ่ที่แผ่ร่มเงาจนมืดสลัว เหงื่อเริ่มผุดตามขมับทั้งจากความร้อนและความกังวล


ทันใดนั้น...


> “แกร๊ก...”




เสียงกิ่งไม้หักเบา ๆ ดังขึ้นจากข้างหลัง ทำให้ทั้งสองหยุดฝีเท้า หันหลังกลับไปอย่างช้า ๆ — ไม่มีสิ่งใดนอกจากหมอกขาวข้น


> “มีอะไรตามเรามาแน่เลย…”

ดิเรกกระซิบ ชูมือเป็นสัญญาณให้ชางวีหยุดนิ่ง




เสียงเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนจะมีเสียง...


> “กริ๊ง...กริ๊ง...”




เสียงกระดิ่งเล็ก ๆ ดังขึ้น — ทว่าไม่ใช่เสียงกระดิ่งธรรมดา มันมีจังหวะที่ไม่สม่ำเสมอ...แปลก...และชวนขนลุก


> "กระดิ่ง...?"

ชางวีพึมพำเบา ๆ ขณะเบิกตากว้าง มองฝ่าหมอกไปยังทิศที่เสียงมาจาก




เสียงฝีเท้าเบา ๆ คล้ายการกระโดด ดังขึ้นตามมา

กอย… กอย…

เสียงแหลมแหบพร่าดังแทรกจากหมอก ราวกับกระซิบข้างหูแต่กลับสะท้อนไปทั้งป่า


> "พวกมันคือ...ผีกองกอย"

ชางวีกระซิบ ขณะเริ่มถอยหลังอย่างระวัง

"ตอนเด็ก ๆ แม่ชางวีเคยเล่าให้ฟัง ถ้าเข้าไปในป่าแล้วได้ยินเสียง ‘กอยๆ’ แปลว่าพวกมันกำลังมา...พวกมันชอบดูดเลือดคนที่นอนหลับกลางป่า — โดยเฉพาะพวกที่ไม่มีเครื่องป้องกัน"




ดิเรกไม่รอช้า ดึงแขนชางวีเบา ๆ ก่อนพยักหน้าไปยังต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ที่สุด

ทั้งสองรีบวิ่งแอบ ปีนขึ้นต้นไม้เงียบ ๆ เหงื่อเย็นซึมเต็มฝ่ามือ


เสียงกระดิ่งยังดังไม่ขาดสาย พร้อมกับเสียงกระโดดตึง ๆ จากสิ่งที่มองไม่เห็นในม่านหมอก


หมอกเริ่มกระเพื่อม…

เงาดำเล็ก ๆ รูปร่างผิดธรรมชาติปรากฏจากไกล ๆ


มันมีขาเดียว

กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางแปลกประหลาด

และที่ปลายขามีกระดิ่งสนิมเกาะอยู่หนึ่งลูก…


ผีกองกอย...ตัวเป็น ๆ กำลังเคลื่อนที่เข้ามาใกล้

เสียง "กอย...กอย..." ดังขึ้นเรื่อย ๆ...จนเหมือนมันอยู่ใต้ต้นไม้ที่ทั้งสองหลบซ่อน


.

ร่างของพวกมัน...ปรากฏชัดเจนขึ้นในหมอก

ดิเรกกับชางวีที่หลบอยู่บนกิ่งไม้สูงถึงกับแข็งตัว ไม่กล้าขยับแม้แต่ปลายนิ้ว


"พระเจ้า..."

เสียงกระซิบแผ่วเบาแทบไม่ได้ออกจากปากของดิเรก


พวกมัน — “ผีกองกอย”

รูปร่างบิดเบี้ยว ผิวหนังคล้ำคล้ายเถ้าถ่าน ร่างกายผอมแห้งจนเห็นซี่โครง และเต็มไปด้วยขนดำหยาบกร้านปกคลุมไปทั่ว

มีเพียงขาข้างเดียวที่ใช้กระโดดกระเด้งไปมาได้อย่างคล่องแคล่วผิดธรรมชาติ

และที่ข้อเท้าทุกตัว — มีกระดิ่งเก่าคร่ำคร่า คล้องอยู่


ทุกครั้งที่พวกมันขยับ


> “กริ๊ง...กริ๊ง...กอย...”




เสียงกระดิ่งที่ชวนคลื่นไส้ก้องสะท้อนในป่า พร้อมกับเสียงเปล่งคำพูดผิดมนุษย์ซ้ำไปมา


> “กอย...กอย...”




พวกมันเดินวนเวียนอยู่ใต้ต้นไม้ต้นนั้น

ตัวหนึ่งกระโดดเข้ามาใกล้ — เงยหน้าขึ้น

โพรงจมูกที่กว้างผิดธรรมชาติทำจมูกฟุดฟิดอย่างรวดเร็ว

สูดกลิ่น”...

มันกำลังดมกลิ่นของเหยื่อ...กลิ่นของมนุษย์


อีกตัวเดินวนรอบโคนต้นไม้ ชะโงกหน้าไปยังพุ่มไม้ใกล้ ๆ

เหมือนมันจะรู้”


> “พวกมันรู้ว่ามีอะไรอยู่แถวนี้…

ชางวีกระซิบเสียงเบา มือขยุ้มแขนดิเรกแน่น




ดิเรกไม่ตอบ เขากำหมัดแน่น จับดาบพกเล่มสั้นแนบอก — ดาบเล่มนั้นมีตะกรุดเงินฝังไว้ที่ด้าม

พวกเขารู้…ถ้าพลาดตกลงไปข้างล่าง แม้แต่นิดเดียว พวกมันจะกรูเข้ามาเป็นฝูง…


เสียงกระดิ่งเริ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ

พวกมันเริ่มตะกุยพื้น

เริ่มปีนต้นไม้ช้า ๆ ด้วยเล็บยาวดำคล้ำ...

  " ชิบหายแล้ว "


> “พวกมัน...ขึ้นมาได้!”




ใครจะตุ้ยเย่  ไม่มีน่ะ