ความสัมพันธ์ที่จบกันไปแล้ว มีเหรอจะปะทุขึ้นมาอีก? ตามหลัก มันก็ควรเป็นแค่อดีตที่ไม่ควรนึกถึงหรือให้ค่าทั้งนั้นสิ..แต่แล้วทำไม เขาถึงไม่ยอมจบสักที!?
รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย,นางเอกเก่งมาก,นางเอกสวยมาก,นางเอกร้ายลึก,นางเอกรวย,นางเอกฉลาด,พระเอกขี้แกล้ง,พระเอกคลั่งรักมาก,พระเอกครั่งรัก,พระเอกขี้หวง,ตบจูบ,รักต้องห้าม,รักดุเดือด,รักตลก,รักดราม่า,รักplaylist,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
รักลับๆของยัยแฟนเก่าความสัมพันธ์ที่จบกันไปแล้ว มีเหรอจะปะทุขึ้นมาอีก? ตามหลัก มันก็ควรเป็นแค่อดีตที่ไม่ควรนึกถึงหรือให้ค่าทั้งนั้นสิ..แต่แล้วทำไม เขาถึงไม่ยอมจบสักที!?
ในโลกใบนี้ ถ้าหากอยู่ในสถานะแฟนเก่าแล้ว
ก็ต้องไม่แยแส ไม่สนใจ ต่างคนต่างมีชีวิตของตัวเองไม่ใช่เหรอ?
โลกรู้ ทุกคนรู้
แล้วทำไม...แฟนเก่าของฉัน!?
เขาถึงไม่รู้ตัวเองสักทีว่าควรทำแบบนั้น!?
นี่สติของเขา...มันหายไปพร้อมกับคำบอกเลิกแล้วเรอะ!?
รักลับๆ ของยัยแฟนเก่า
เลิกกันแล้วก็ใช่จะ ‘หนี’ กันพ้น
BREAKING NEWS: แถลงการณ์ภายในจาก W.LUX (หลุด)
โฆษกของบริษัทถือกระดาษแถลงการณ์
'บริษัท W.LUX ขอชี้แจงต่อกรณีข่าวที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะการสัมภาษณ์ของบุคคลภายนอกซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับข่าวลือที่กำลังเป็นกระแส'
หยุดหนึ่งจังหวะ ก่อนพูดต่อ...
'บริษัทขอยืนยันว่า ศิลปินของเรา ‘มูน‘ ยังคงให้ความสำคัญกับงานในสายอาชีพเป็นอันดับแรกส่วนรายละเอียดในชีวิตส่วนตัว บริษัทไม่มีส่วนร่วมในการกำหนดหรือควบคุมและเรา ไม่สามารถให้คำยืนยันใดๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอดีตหรือปัจจุบันของศิลปินได้'
'เราขอให้ทุกคนเคารพพื้นที่ส่วนตัวของศิลปินและขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนในการไม่คาดเดาหรือสรุปความสัมพันธ์จากเพียงข้อมูลบางด้าน'
บ่ายวันเดียวกับแถลงการณ์ของ W.LUX
โฆษกของ ไลท์สตาร์ เอนเตอร์เทนเมนท์
เธอยืนหน้ากล้องด้วยใบหน้าจริงจัง น้ำเสียงมั่นคง
'บริษัท ไลท์สตาร์ เอนเตอร์เทนเมนท์ ขอชี้แจงเกี่ยวกับกรณีข่าวลือและการสัมภาษณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น'
เธอหยุดเล็กน้อย เพื่อให้ความสำคัญของคำพูดซึมซับเข้าไป
'ศิลปินของเรา ‘ไลท์’ ได้ให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับมูน
และเราขอยืนยันว่า เขาเคยมีความสัมพันธ์จริงกับศิลปินที่เกี่ยวข้อง และยังคงมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน'
'ในฐานะต้นสังกัด เราเคารพในความเป็นส่วนตัวของศิลปิน แต่ครั้งนี้ เราตัดสินใจเปิดเผยข้อมูลเพื่อความโปร่งใสและลดการเก็งกำไรในสังคม'
'เราขอให้ทุกฝ่ายเคารพการตัดสินใจของทั้งสองฝ่าย และให้เวลาพวกเขาได้แก้ไขและจัดการเรื่องส่วนตัวอย่างเหมาะสม'
เสียงคำถามจากนักข่าวดังลั่น
'แล้วอนาคตของทั้งคู่ในวงการจะเป็นอย่างไร?'
'เราจะให้โอกาสทั้งสองฝ่ายทำงานอย่างเต็มที่ และหวังว่าเรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลงานของพวกเขา'
'เราขอขอบคุณแฟนๆ ที่ยังให้กำลังใจและสนับสนุนศิลปินของเรา'
ก่อนที่ทั้งสองบริษัทจะประกาศออกมาพร้อมกัน
'ในขณะนี้ ไลท์และมูน กำลังร่วมกันถ่ายทำโปรเจกต์ที่ได้รับความคาดหวังสูงและทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันว่าจะรักษาความเป็นมืออาชีพในทุกขั้นตอนของการทำงานร่วมกัน'
'เราหวังว่าทุกคนจะให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่นในความสามารถและความตั้งใจของทั้งสองศิลปิน รวมถึงทีมงานที่ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่'
จบการแถลงข่าว
'นี่มันเหมือนเขากำลังออกตัวง้อเธอเต็มที่เลยนะมูน!' เมเนที่เข้ามานั่งอยู่ภายในเต็นท์พักของเธอภายในสถานที่ถ่ายทำรีบยื่นหน้าจอมือถือที่โฆษกของบริษัทไลท์เปิดเผยออกมาอย่างซื่อๆ
หญิงสาวที่กำลังนั่งให้ช่างแต่งหน้าเก็บรายละเอียดสุดท้ายเหลือบตามองหน้าจอเพียงแวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปอีกทางอย่างไม่ใส่ใจ
"งั้นเหรอคะ เขาคงแค่กำลังรักษาหน้าตัวเองไว้นั่นแหละค่ะ" ไม่สะทกสะท้านต่อคำให้การบริษัทของไลท์เลยสักนิด
บรรยากาศในเต็นท์เงียบลงชั่วขณะ ก่อนที่เมเนจะนั่งลงข้างๆเธอ พร้อมถอนหายใจเบาๆ
'เข้าใจนะมูน...เรื่องแบบนี้ไม่ใช่แค่พูดกันง่ายๆ แต่ครั้งนี้มันก็ชัดเจนว่าเขาอยากแก้ไขจริงๆ'
มูนส่ายหน้าช้าๆ ดวงตาว่างเปล่าจ้องไปยังพื้น
"เขาไม่เคยพูดเลยค่ะ ตีความเองไม่ได้หรอก"
"การ์ตาร์ก็เงียบไปเลยแบบนี้นี่แหละค่ะที่ประหลาด บางทีเธออาจจะเจ็บมากก็ได้" สายตาของมูนไปหยุดอยู่ที่หญิงสาวในชุดเดรสสีส้มอ่อน ‘การ์ตาร์‘ ซึ่งกำลังพูดคุยกับไลท์ใต้เงาต้นไม้ใหญ่ แม้จะอยู่ไกลเกินได้ยินเสียง แต่เพียงภาพตรงหน้าก็เพียงพอจะกระตุ้นบางอย่างในใจให้ปวดหนึบ
เสียงกล้องที่กำลังตั้งฉากเรียกให้ทั้งคู่เตรียมตัวทำงานดังขึ้นอีกครั้ง
ใบไม้สั่นไหวไปมาเบาๆตามแรงลม เสียงนกร้องตลอดเวลา แสงแดดลอดผ่านยอดไม้เป็นลำ มูนกับไลท์กำลังเดินเรียงกันโดยมีทีมกล้องถ่ายจากระยะไกลด้วยเลนส์ยาว
พวกเราทั้งคู่ใส่แค่ชุดลำลองธรรมดาสำหรับเดินป่าทั่วไป ผมของมูนถูกรวบม้าขึ้นเพื่อความสะดวกส่วนไลท์เองก็ไม่ได้เซตผมอะไรมาก
ไม่มีใครพูดอะไรตลอดทางเดินกว่า 10 นาที
เสียงรองเท้ากระทบพื้นดินแห้งเป็นจังหวะเดียวที่คงอยู่ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไร
รองเท้าเจ้ากรรมของมูนก็เกิดกัดเธอขึ้นมาในระหว่างที่กำลังเดินอยู่ด้วยกันกับไลท์
"โอ๊ย" เธอร้องออกมาเบาๆไม่ได้คาดหวังว่าไลท์จะได้ยิน ใบหน้าสวยก้มลงไปมองเท้าของตัวเองเล็กน้อย
ไลท์ที่เดินอยู่ข้างๆหยุดฝีเท้าทันที มองมาที่เธอด้วยแววตาที่ห่วงใยเล็กๆโดยที่เธอเองก็ไม่รู้เพราะมัวแต่ก้มมองเท้าตัวเอง
'เป็นอะไรมากหรือเปล่า' เขาถามขึ้นเบาๆ
มูนไม่ตอบในทันที เธอแค่ก้มลงสำรวจเท้าตัวเอง หลังส้นเท้าถูกขอบรองเท้ากัดจนแดง เธอกัดริมฝีปาก พยายามไม่แสดงออกว่ามันเจ็บแค่ไหน
"ไม่ ฉันปกติดี" เธอว่าพลางขยับเท้าเหมือนจะเดินต่อ แต่ความเจ็บก็ดันแล่นปาดเข้ามาอย่างแรงจนเธอต้องจับแขนของไลท์เอาไว้
"อ๊ะ! ฉัน..โทษทีไม่ได้ตั้งใจจะจับ" เธอว่าพลางรีบปล่อยมือออกจากแขนของเขา
หมับ
แต่มือของเขากลับจับมันเอาไว้ไม่ให้เธอได้ผละมือออกไปก่อนจนเธอต้องเงยใบหน้าขึ้นไปมองหน้าเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
'เดี๋ยวผมดูให้' เขาเอ่ยเสียงเรียบเขาพูดโดยไม่ขออนุญาต เหมือนรู้ว่าเธอจะปฏิเสธ
ค่อยๆย่อตัวลงไปนั่งยองอยู่ด้านล่าง เอี้ยวตัวมองเท้าของเธอ สายตาเขาจับจ้องที่เท้าของเธอราวกับมันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในโลกตอนนี้
"ทำอะไร หยุดเลยนะ" เธอว่าพลางทำตัวเหมือนจะขยับหนีเขาอีกครั้ง
...แต่คราวนี้ใบหน้าคมทำเพียงแค่เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเธอเพียงชั่วครู่ แต่กลับทำให้เธอชะงักนิ่งไปทั้งแบบนั้น
ราวกับสายตาของเขาเป็นคำสั่งที่เธอคุ้นเคย ความรู้สึกเก่าทั้งหมดพากันไหลย้อนกลับเข้ามาในอกอย่างไม่ทันตั้งตัว
เธอไม่ขยับหนีอีก... แค่ยืนนิ่ง ปล่อยให้เขาดูแลเธออีกครั้ง เหมือนเมื่อก่อน
'ฝืนทำไม' เขาพูดเบา ๆ ระหว่างล้วงมือเข้าเข้าไปในกระเป๋าเป้
พลาสเตอร์ยาเล่มเล็กถูกดึงออกมาด้วยความคุ้นชิน ราวกับว่าเขารู้อยู่แล้วว่าเธอจะต้องเจ็บตัว ราวกับเขายังจำได้... ว่าเธอเป็นคนที่ไม่เคยบ่น แต่มักจะทนจนเลือดซึมเสมอ
"มันเป็นงาน"
'ผมอยู่ข้างๆ'
ราวกับเป็นคำพูดที่ทำให้มูนนิ่งไป ชายตรงหน้าเธอตอบกลับเธอมาด้วยความรวดเร็วเหมือนไม่คิด
เขาแปะพลาสเตอร์ยาลงอย่างเบามือ แต่ดวงตาที่เงยขึ้นมองกลับไม่ได้อ่อนโยนธรรมดามันซื่อตรงและจริงจัง ราวกับเขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง... หรือเพียงแค่อยากให้เธอ “เชื่ออีกครั้ง”
บรรยากาศเงียบสงบของผืนป่าโอบล้อมพวกเขาไว้
ความอบอุ่นจากสายตาคู่คมที่จับจ้องมายังเธอ ยิ่งทำให้ใบหน้าของมูนที่สะท้อนแสงอาทิตย์ยิ่งสว่างไสวและดูดดึงใจอย่างไม่อาจต้านทาน
มือเล็กของมูนกำแน่น พยายามรั้งตัวเองไว้ไม่ให้ใจอ่อนกับสายตาและการกระทำแบบนี้ของเขา
"เลิกพูดอะไรไม่เข้าเรื่องสักที" เธอว่าพลางขยับถอยออกไปเล็กน้อย ให้เขาได้ลุกขึ้นยืน
พร้อมกับกล้องที่เริ่มขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆเหมือนตั้งใจจะเก็บโมเมนต์นี้ไว้ในระหว่างถ่ายทำอยู่
'อยากพักไหม' เมื่อเขาขยับตัวลุกขึ้นยืนในระหว่างที่พวกเราทั้งคู่กำลังเดินต่อ รอยยิ้มของเขาก็ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากหยักเงียบๆในขณะที่แววตาของเขายังคงจับจ้องไปยังร่างระหงส์ที่กำลังปกปิดความรู้สึกในใจของตัวเอง
"ไม่ รีบๆทำให้มันจบไวๆ ฉันเบื่อหน้านายเต็มทนแล้ว"
ไลท์หัวเราะเบาๆ อย่างอดไม่ได้ เร่งฝีเท้าเล็กน้อยให้เดินเคียงข้างมูนไปอย่างเงียบงัน หันใบหน้ามองตรงไปยังทางข้างหน้าเพื่อคอยดูทางไปกับเธอ
'ก็แปลกดีนะ... ที่ผมรู้สึกว่าเวลาที่ใช้กับคุณมันไม่เคย ‘น่าเบื่อ’ เลยสักครั้ง' เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่กลับแฝงด้วยความจริงใจ
บรรยากาศระหว่างทั้งสองคนยังคงตึงเครียดแต่มีกลิ่นอายของความอบอุ่นซ่อนอยู่ในทุกก้าวเดินของพวกเขา ท่ามกลางเสียงนกร้องและแสงแดดลอดผ่านยอดไม้สูงขึ้นไปในท้องฟ้าแจ่มใสเหนือยอดป่า
และทีมงานเบื้องหลังที่ตามถ่ายพวกเขาอย่างๆเงียบๆ ทำหน้าที่อย่างมืออาชีพ ราวกับไม่อยากรบกวนโมเมนต์เล็กๆ ที่เกิดขึ้นในป่านั้นเลย
เพราะพวกเขากลับยิ่งเชื่อมากขึ้นว่าไลท์และมูนกำลังง้องอนกันอยู่จริงๆเสียมากกว่าข่าวโคมลอยที่ปะทุอยู่ในอินเตอร์เน็ตเสียอีก