ความสัมพันธ์ที่จบกันไปแล้ว มีเหรอจะปะทุขึ้นมาอีก? ตามหลัก มันก็ควรเป็นแค่อดีตที่ไม่ควรนึกถึงหรือให้ค่าทั้งนั้นสิ..แต่แล้วทำไม เขาถึงไม่ยอมจบสักที!?

รักลับๆของยัยแฟนเก่า - E01 รักเริ่ม...จาก100 โดย โกเพ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย,นางเอกเก่งมาก,นางเอกสวยมาก,นางเอกร้ายลึก,นางเอกรวย,นางเอกฉลาด,พระเอกขี้แกล้ง,พระเอกคลั่งรักมาก,พระเอกครั่งรัก,พระเอกขี้หวง,ตบจูบ,รักต้องห้าม,รักดุเดือด,รักตลก,รักดราม่า,รักplaylist,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

รักลับๆของยัยแฟนเก่า

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นางเอกเก่งมาก,นางเอกสวยมาก,นางเอกร้ายลึก,นางเอกรวย,นางเอกฉลาด,พระเอกขี้แกล้ง,พระเอกคลั่งรักมาก,พระเอกครั่งรัก,พระเอกขี้หวง,ตบจูบ,รักต้องห้าม,รักดุเดือด,รักตลก,รักดราม่า,รักplaylist

รายละเอียด

รักลับๆของยัยแฟนเก่า โดย โกเพ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ความสัมพันธ์ที่จบกันไปแล้ว มีเหรอจะปะทุขึ้นมาอีก? ตามหลัก มันก็ควรเป็นแค่อดีตที่ไม่ควรนึกถึงหรือให้ค่าทั้งนั้นสิ..แต่แล้วทำไม เขาถึงไม่ยอมจบสักที!?

ผู้แต่ง

โกเพ

เรื่องย่อ

ในโลกใบนี้ ถ้าหากอยู่ในสถานะแฟนเก่าแล้ว


ก็ต้องไม่แยแส ไม่สนใจ ต่างคนต่างมีชีวิตของตัวเองไม่ใช่เหรอ?


โลกรู้ ทุกคนรู้


แล้วทำไม...แฟนเก่าของฉัน!?


เขาถึงไม่รู้ตัวเองสักทีว่าควรทำแบบนั้น!?


นี่สติของเขา...มันหายไปพร้อมกับคำบอกเลิกแล้วเรอะ!?


รักลับๆ ของยัยแฟนเก่า 


เลิกกันแล้วก็ใช่จะ ‘หนี’ กันพ้น

สารบัญ

รักลับๆของยัยแฟนเก่า-E01 รักเริ่ม...จาก100,รักลับๆของยัยแฟนเก่า-E02 ความจริง,รักลับๆของยัยแฟนเก่า-E03 ความลับที่ค่อยๆ...เปิดเผย,รักลับๆของยัยแฟนเก่า-E04 เจ้าหญิงน้ำแข็ง,รักลับๆของยัยแฟนเก่า-E05 แก้แค้น!! หรือ แก้รัก??,รักลับๆของยัยแฟนเก่า-E06 แข่งขัน,รักลับๆของยัยแฟนเก่า-E07 รุกแรง,รักลับๆของยัยแฟนเก่า-E08 จะทำให้รู้เอง,รักลับๆของยัยแฟนเก่า-E09 ง้อ,รักลับๆของยัยแฟนเก่า-ชี้แจง NC,รักลับๆของยัยแฟนเก่า-E10 แคมป์ปิ้ง,รักลับๆของยัยแฟนเก่า-E11 คืนนั้น

เนื้อหา

E01 รักเริ่ม...จาก100

’มาใกล้ๆ ผมสิ‘

คำเชิญชวนที่ฟังดูราวกับกำลังเอ่ยเย้าหยอกหัวใจดวงน้อยของใครบางคนที่ได้ยินสั่นคลอนด้วยความเขินอาย

ใบหน้าคมที่เปื้อนรอยยิ้มแสนอันตรายเผยออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเห็นปฏิกิริยาของคนที่เขาตั้งใจพูดให้ได้ยิน คิ้วเรียวของเขาเลิกขึ้นเล็กน้อยพลันมือหนาก็ขยับเลื่อนลงไปตบลงบนหน้าตักแกร่งของเขาเบาๆ

‘ได้ยังไงกันคะ ถ้าทำแบบนั้นคนอื่นก็จะหาว่าเราเป็นอะไรกัน’

คนที่ได้ยินรีบเอ่ยปากท้วง พวงแก้มเห่อร้อนขึ้นมาพร้อมดวงตากลมโตที่เบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนกกับท่าทีของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าของเธอ 

ท่าทีสบายๆ ของเขาที่ไม่ไหวติงต่อเหตุการณ์ที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นมาได้ด้วยชื่อเสียงของเธอที่ย่ำแย่อยู่แล้วเพราะถูกโดนดราม่าในเรื่องมือที่สามของคู่รักในวงการคู่หนึ่ง 

เหตุการณ์นี้ร้ายแรงกับเธอมากซะจนไม่กล้าที่จะทำอะไร เธอแค่นัดเขามาเพื่อมารับฟังเธอเพียงเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะรู้อยู่แก่ใจว่านักแสดงอย่างเขาที่ทั้งโด่งดังเป็นที่รู้จักและงานรัดตัวนั้นขนแทบจะขยับไปไหนไม่ได้ 

จะมาพบปะกับเธอได้ยากอยู่แล้วเป็นทุนเดิมก็ตาม

‘ทำไมล่ะ ผมก็แค่อยากอยู่ใกล้คนระ..‘

‘หยุดเลยนะคะ!‘

’ถ้าใครได้ยินเข้าจะทำยังไง’

ความหระวนกระวายของหญิงสาวที่ตกใจไปพร้อมกับร่างบางที่ลุกพรวดขึ้นมาจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับชายหนุ่มมีเพียงแค่โต๊ะกลมเล็กๆ ที่กั้นระยะห่างสำหรับเราเพียงเท่านั้น

แต่ก็ไม่อาจห้ามมือเรียวของหญิงสาวที่จะมาปิดริมฝีปากของเขาเอาไว้ได้ก่อนที่จะได้พูดอะไรต่อออกไปให้คนภายในร้านได้ยิน

พรืด..

เสียงหมวกแก๊ปสีดำสนิทที่หญิงสาวสวมใส่อยู่ค่อยๆ ร่วงหล่นลงไปจากด้านหลังของเธอออย่างช้าๆ จนตกอยู่บนโต๊ะ 

เส้นผมสีดำขลับที่มัดเป็นมวยเอาไว้อย่างลวกๆ ค่อยๆ คลายตัวออกอย่างช้าๆ ลู่แนบไปกับเอวบางของหญิงสาวที่ในยามนี้เธอโน้มกายเข้ามาเพื่อปิดปากของเขาอยู่จนไม่ทันสังเกตถีงการเปลี่ยนแปลงบนตัวของเธอเองในระหว่างที่เรากำลังคุยกัน

’อะ..อะไรกันคะไลท์ สายตาแบบนั้น‘

หญิงสาวตรงหน้าเงอะงะเล็กน้อยเมื่อดวงตาคู่คมมองช้อนดวงตากลมโตของหญิงสาวผ่านเลนส์แว่นสีชาที่เธอสวมอยู่ราวกับกำล้งซ่อนแววยิ้มในดวงตาอย่างไรอย่างนั้น

ก่อนที่เขาจะแสร้งทำท่าจนใจให้เธอได้เห็นในเวลาต่อมา จนเธอเริ่มค่อยๆ คลายมือเล็กที่ปิดปากของเขาออกช้าๆ

ไม่ทันไรที่มือของเธอจะละออกไปได้ไกลมือหนาก็ยกขึ้นมาคว้าเอาข้อมือบางดึงรั้งให้ร่างของเธอเซถลามาทางเขาอย่างรวดเร็ว

‘อ๊ะ!’

‘ถ้าผมบอกว่าผมไม่สน..‘

น้ำเสียงทุ้มที่เอ่ยขึ้นเมื่อร่างของเธอนั่งลงบนตักของเขาอย่างที่เขาต้องการแล้ว ท่อนแขนแกร่งก็โอบรอบเอวของเธอเอาไว้ก้มใบหน้าคมลงไปหาหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมอกของเขาด้วยความใคร่รู้

‘คุณมูนจะทำยังไงกับผมที่ต้องการคุณล่ะครับ’

คำพูดที่ฟังดูเบาบางแต่ดันหนักแน่นด้วยความรู้สึกของเขาที่แสดงออกมาเพราะความต้องการที่อยากจะอยู่ใกล้ๆ กับคนรักของตนด้วยความดื้อรั้นของเขาที่แสดงออกชัดเจนผ่านสายตาและการกระทำ

แต่..หัวใจของเธอนั้นที่ก็รู้สึกแบบเดียวกันกับเขานั้นก็ยากที่จะควบคุมเช่นกันเมื่อเจอกับนิสัยดื้อรั้นของเขาที่เป็นแบบนี้

‘..ให้ตายสิฉันลำบากใจนะคะ’

‘ว่ายังไงครับ’

‘คือ..’

หญิงสาวเริ่มลนลานขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัดเมื่อคนที่โอบเอวของเธอกระชับวงแขน ใบหน้าของเธอก็ยิ่งเห่อร้อนขึ้นมากด้วยความขัดเขินกับไออุ่นจากร่างกายของชายหนุ่ม 

หวั่นไหวไปกับกลิ่นน้ำหอมประจำกายของเขาที่เธอโหยหาด้วยความคิดถึงมาตลอดใกล้ชิดกับเธอถึงเพียงนี้

ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อขบเม้มเข้าหากันแน่นด้วยความคิดหนัก แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นไปก็พบเข้ากับใบหน้าคมที่ก้มมองเธออย่างรอคอยนั้น 

ทำให้หญิงสาวที่อยากจะแข็งใจห้ามปรามเขากลับกลายเป็นใจอ่อนระทวยแพ้ทางไปกับชายหนุ่มที่เป็นคนรักของเธออย่างราบคาบด้วยเวลาเพียงไม่นาน

‘เข้าใจแล้วค่ะ โถ่..ไม่เห็นต้องทำหน้าอ้อนขนาดนั้นเลยนะคะ’

หญิงสาวพูดไปพลางมือเรียวของเธอขยับยกขึ้นไปสัมผัสกับกรอบหน้าของชายหนุ่มเบาๆ 

ระบายยิ้มออกมาเล็กๆ เมื่อเห็นว่าเขาแสดงสีหน้าที่ใครเห็นก็ต่างต้องพากันใจอ่อนเป็นแน่ ออกมาให้เธอได้เห็นถึงแม้ว่าจะไร้คำพูด

หวงซะจริง แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะหน้าที่การงานแบบนี้นี่มันน่าเจ็บใจชะมัดเลย เธอคิดเช่นนี้นี้ในใจในขณะที่มือเรียวขยับสัมผัสไปตามกรอบหน้าคนรักของเธออย่างเบามือ

‘ถึงแม้ว่าพวกเราจะอยู่ในร้านที่ที่นักข่าวต่างก็ไม่รู้จัก เพราะเป็นสถานที่เฉพาะก็จริง แต่การที่เราจะพลอดรักกันแบบนี้มันออกจะน่าอายนะคะ’

’อีกเดี๋ยวผมก็ต้องไปแล้วนะครับ‘

’กดดันกันเหรอคะคุณไลท์‘

‘ผมพูดจริงๆ นะครับ’

‘ไว้วันหลังดีไหมคะ ไว้ตอน....คะ?’

ยังไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยปากพูดต่ออย่างคนที่ใจเย็นที่รอได้นั้น แว่นตาสีชาที่หญิงสาวสวมใส่ก็ถูกถอดออกมาอย่างช้าๆ จนเธอต้องถามด้วยความสงสัย 

ไม่นานเมื่อแสงแดดในยามบ่ายเด่นชัดขึ้นมาผ่านม่านตาของเธอจนต้องรีบหลับตาปี๋เพื่อปรับโฟกัสใหม่อีกครั้ง กลับกลายเป็นว่าในเวลานั้นชายหนุ่มฉวยโอกาสบรั้งใบหน้ารูปไข่ของเธอให้แหงนหน้าขึ้นเพื่อประกบริมฝีปากเข้ากันกับเขาอย่างรวดเร็ว

จุ๊บ

’อึก!? ..อืม..‘

เสียงอื้ออึงในลำคอของหญิงสาวดังขึ้นมาเป็นระยะเรื่อยๆ ในจังหวะที่เรียวลิ้นร้อนของชายหนุ่มสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากของเธอ ความวาบหวามที่ชวนให้มวนในท้องน้อยของเธอ 

ยามที่ปลายลิ้นของเราสัมผัสกันนั้นมันทำให้หญิงสาวยากที่จะรับมือมากกว่าใครในตอนนี้จนนิ้วมือเรียวยาวของเธอรวบกำเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตาของคนรักของเธอเอาไว้อย่างไร้หนทางต่อกร

แฮ่ก..อืม..

เสียงจ๊วบจ๊าบน่าอายดังขึ้นเป็นระยะพร้อมกับเสียงบดเบียดริมฝีปากของกันและกันดังต่อเนื่องกันมาอย่างที่ไม่มีใครยอมใคร

โชคดีที่ในเวลานี้ทุกคนภายในร้านต่างวุ่นวายเลยไม่ได้ทำให้เราทั้งคู่เป็นจุดสนใจมากนัก ทำให้เราทั้งคู่ต่างแสดงความต้องการได้อย่างเต็มที่ในช่วงเวลาโกลาหล 

หรือเรียกสั้นๆ ว่าเวลาทองของพวกเรา

แฮ่ก..แฮ่ก

‘พอก่อนค่ะ..‘

เสียงปรามของเธอดังขึ้นเมื่อชายหนุ่มกำลังจะเริ่มช่วงชิงลมหายใจของเธอไปมากกว่านี้ถลำลึกลงไปจนไม่อาจห้ามกันได้อีกอย่างคนไม่รู้จักพอ 

อ่า..คนรักของเธอนี่ช่าง...ราวกับสัตว์ป่าที่ป้อนไปเท่าไหร่ก็ยังคงหิวกระหายไม่ยอมอิ่ม แค่นี้เธอก็หายใจแทบไม่ทันแล้วกับรสจูบของเขาที่ร้อนแรงแบบนี้

มือของเธอที่รวบกอบกำเสื้อของเขาอยู่คลายมือออกอย่างช้าๆ ก่อนที่จะยกมือของเธอขึ้นไปสัมผัสเข้ากับริมฝีปากหยักของชายหนุ่มตรงหน้าของเธอที่แดงเจิ่งไม่ต่างจากเธอปาดปลายนิ้วเก็บหยาดหยดวาววับบนริมฝีปากของเขาอย่างอ่อนโยน

ในขณะที่เธอก็ไม่กล้าจะสบตาเขาแม้แต่น้อยในยามนี้ ทำไมน่ะเหรอ เพราะในสายตาของเธอนั้นในยามที่มองไป..เขากลับ..เซ็กซี่ซะไม่มี 

ดูสายตาของเขาสิ มองเธออย่างกับจะกลืนกินกันให้ได้อยู่ตลอดเวลาเลย มันลำบากใจเธอมากที่จะห้ามสัตว์ร้ายที่อยู่ตรงหน้าของเธอให้ควบคุมอารมณ์ของตัวเอง

‘ยอมให้ก่อนก็ได้ครับ แค่ครั้งนี้นะ’

ยังไม่ทันไรที่เธอจะได้หายใจหายคอจนทั่วท้อง น้ำเสียงของเขาที่ทุ้มขึ้นอย่างมากมาจากการที่ได้กลืนกินเธอเข้าไปก็เอ่ยด้วยคำพูดที่แสนร้ายกาจจนเธอขนลุกขึ้นมาเพราะความตื้นเขินอย่างไม่อาจต้านทานได้ ใบหูเล็กที่เคยไร้ซึ่งริ้วแดงเด่นชัดขึ้นมาจนลามลงไปถึงพวงแก้มขาว

’เสร็จงานแล้ว ผมจะไปหานะครับ‘

นิ้วมือของชายหนุ่มที่ลากเกลี่ยไปตามริมฝีปากที่เคยชมพูระเรื่อในยามนี้กลายเป็นบวมแดงขึ้นมาสู้กับสายตาของเขาไม่น้อย ทั้งแววตาของเขาที่จับจ้องไปที่นิ่งๆ นั้นเองก็ฉายแววหลงใหลไม่ต่างอะไรกับคนที่คลั่งไคล้เลยแม้แต่น้อย

‘คิดแค่เรื่องผมก็พอแล้ว‘

’เข้าใจไหมครับมูน‘

เขาถามต่ออย่างคนใจเย็นต่างจากก่อนหน้านี้ลิบลับ ปลายนิ้วมือของเขาเคลื่อนไปเกี่ยวเส้นผมนุ่มเกลียวเป็นคลื่นช้าๆ 

ในระหว่างที่รอคำยืนยันจากคนรักของเขาที่ก่อนหน้านี้เครียดไปกับเรื่องต่างๆกับหน้าที่การงานของเธอเอง แต่ดูเหมือนตอนนี้เธอไม่ได้เครียดอีกแล้วกับเรื่องพวกนั้น มันเพราะอะไรกันนะ

’เข้าใจ..แล้วค่ะ‘

เขาที่กำลังนั่งฟังคำตอบอย่างคนอารมณ์ดีเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นถึงผู้จัดการของตัวเองที่เดินมายืนรอเขาอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลก็เข้าใจได้ทันทีว่าเขานั้นหมดเวลาแล้ว 

ส่วนหญิงสาวเมื่อเห็นแบบนั้นก็รีบลุกออกจากตักของเขาโดยไวคล้ายกับกระต่ายตื่นตูม ทำให้ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเขาๆ ในลำคอเพราะความเอ็นดูพร้อมกับเขาที่ขยับกายลุกขึ้นยืนจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าที่

‘ดีมากครับ ถ้างั้นไว้เราค่อยคุยกันต่อนะครับ’

เขาเอ่ยปากบอกรักหญิงสาวตรงหน้าพร้อมทั้งมือหนาที่หยิบแว่นสีชาที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาสวมใส่ให้เธออีกครั้งพร้อมทั้งหมวกที่หล่นอยู่ไม่ไกลยื่นให้เธอได้ถือเอาไว้

ไม่นานใบหน้าคมก็ก้มลงไปกดริมฝีปากหยักแนบลงไปกับหน้าผากมนอย่างแผ่วเบาแล้วพูดประโยคต่อมาให้เธอได้ยินในตอนที่กำลังละริมฝีปากออกไป


’รักนะครับ‘


หลังจากนั้นชายหนุ่มก็หมุนกายเดินตามผู้จัดการของเขาออกไป