ท่ามกลางเหล่าสัตว์ในตำนาน โรงเรียนเวทมนตร์กลางป่า และปริศนาที่ผูกพันกับ “ดวงตาคู่หนึ่ง” การเดินทางของเขาเพิ่งเริ่มต้น — และความจริงที่รออยู่เบื้องหลังเงาสะท้อนนั้น อาจเปลี่ยนชะตาทั้งสองโลกตลอดกาล

ดนัยน์ ไกรกังวาร - ตอนที่5 ประตูแห่งรากและเสียงจากวังทองทมิฬ โดย พิจิตร บรรจง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ลึกลับ,ผจญภัย,ย้อนยุค,ไทย,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ดนัยน์ ไกรกังวาร

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ลึกลับ,ผจญภัย,ย้อนยุค,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

ดนัยน์ ไกรกังวาร โดย พิจิตร บรรจง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ท่ามกลางเหล่าสัตว์ในตำนาน โรงเรียนเวทมนตร์กลางป่า และปริศนาที่ผูกพันกับ “ดวงตาคู่หนึ่ง” การเดินทางของเขาเพิ่งเริ่มต้น — และความจริงที่รออยู่เบื้องหลังเงาสะท้อนนั้น อาจเปลี่ยนชะตาทั้งสองโลกตลอดกาล

ผู้แต่ง

พิจิตร บรรจง

เรื่องย่อ

กระจกคือประตูสู่ความจริง


แต่สำหรับ “ดนัยน์ ” มันคือคำสาปที่ปลุกอดีตต้องห้ามให้คืนชีพ


เมื่อเงาในกระจกเริ่มเคลื่อนไหวเอง และชื่อของเขาปรากฏในตำราโบราณของโลกที่ไม่ควรมี


ดนัยน์เริ่มต้นการเดินทางจาก “เด็กหนุ่มธรรมดา” สู่ “ผู้ถูกเลือกแห่งรากทั้งเจ็ด”

เขาเริ่มค้นหาความจริงเกี่ยวกับต้นกำเนิดของตนเอง เงาที่มีชีวิต และเหตุผลว่าทำไมโลกทั้งสองกำลังจะเชื่อมเข้าหากัน


ทว่าเงาสะท้อนในน้ำนั้น — ยังมี อีกตัวตนหนึ่งของเขา ที่รอเวลาจะหลุดพ้น

สารบัญ

ดนัยน์ ไกรกังวาร-ตอนที่1 เสียงในความฝัน,ดนัยน์ ไกรกังวาร-ตอนที่2 ประตูที่สะท้อนในน้ำ,ดนัยน์ ไกรกังวาร-ตอนที่3 โรงเรียนที่ไม่มีชื่อในโลกมนุษย์,ดนัยน์ ไกรกังวาร-ตอนที่4 เสียงจากต้นไม้ทองคำ,ดนัยน์ ไกรกังวาร-ตอนที่5 ประตูแห่งรากและเสียงจากวังทองทมิฬ,ดนัยน์ ไกรกังวาร-ตอนที่6 เงาแห่งผู้สร้างและความลับของวังทองทมิฬ,ดนัยน์ ไกรกังวาร-ตอนที่7 คืนที่ต้นโพธิ์พันภพลุกไหม้,ดนัยน์ ไกรกังวาร-ตอนที่8 เงาที่มีหัวใจ และการตื่นของวังทั้งเจ็ด,ดนัยน์ ไกรกังวาร-ตอนที่9 หัวใจแห่งเพลิง และบัลลังก์ของผู้สร้าง,ดนัยน์ ไกรกังวาร-ตอนที่10 เสียงจากวังวารี และความลับใต้สายน้ำ

เนื้อหา

ตอนที่5 ประตูแห่งรากและเสียงจากวังทองทมิฬ


ลมยามราตรีพัดผ่านเรือนขวัญ เสียงของมันไม่ใช่เสียงลมธรรมดา แต่เป็นเสียงคล้ายบทสวดโบราณที่สั่นสะเทือนในอก

ภวิษย์ยังยืนอยู่ตรงนั้น ปีกทองของเขากางเล็กน้อยราวกับเตรียมพร้อมป้องกันบางสิ่งที่อาจออกมาจาก “เงาประตู” บนผนัง


เงาต้นไม้ทองคำค่อย ๆ งอกงามขึ้น กิ่งก้านบิดตัวเหมือนมีชีวิต รากของมันลากยาวลงพื้นจนกลายเป็นวงลายอักขระสีทองที่ลุกวาบทีละจังหวะ

ดนัยน์ยื่นมือไปแตะโดยไม่รู้ตัว —

และทันใดนั้น ความเย็นชื้นจากอากาศรอบตัวก็หายไป เหลือเพียงแสงสีทองอ่อน ๆ ที่เต้นอยู่รอบนิ้ว


“เจ้าจะทำอะไรน่ะ!?” ภวิษย์ร้อง แต่เสียงนั้นเหมือนถูกกลืนเข้าไปในแสง


ดนัยน์หันมามองแวบหนึ่ง


“ฉัน… ได้ยินเสียงเรียก มันอยู่ข้างในประตูนี้”


ก่อนที่ภวิษย์จะคว้าตัวไว้ แสงทองจากพื้นก็ปะทุขึ้นกลืนร่างทั้งคู่



ความรู้สึกแรกคือ “การตก”

แต่ไม่ใช่ตกจากที่สูง — เหมือนร่วงผ่านชั้นของเวลาและความฝัน

ภาพรอบตัวไหลย้อนกลับ ราวกับทุกสิ่งในหิมพานต์กำลังหายไป แล้วแทนที่ด้วยป่ามืดที่มีเพียงแสงทองจากต้นไม้เรืองรองกลางลำธาร


เสียงระฆังโบราณดังขึ้นหนึ่งครั้ง — ก้องไปทั่วราวกับเสียงเตือนจากโลกเก่า


ทั้งสองตกลงบนพื้นหินแข็ง

รอบตัวคือความมืดอึมครึมที่มีหมอกดำล้อมรอบ

และเบื้องหน้า… มี “ประตูใหญ่สีดำทอง” ตั้งตระหง่านอยู่กลางหุบเหว


มันสูงจนยอดหายเข้าไปในหมอก

สลักลายพญานาคพันรอบเสา และมีรูปขนนกทองไขว้กับเปลวไฟอยู่ตรงกลางบานประตู — สัญลักษณ์เดียวกับบนซองจดหมายเมื่อคืน


“นี่มัน…” ภวิษย์กระซิบ “วังทองทมิฬ…”


แสงจากต้นไม้ทองคำในฝ่ามือของดนัยน์ส่องออกมาเองโดยไม่ต้องเรียก

เมื่อแสงนั้นกระทบประตู เสียงจากภายในก็ดังขึ้น — เสียงที่เหมือนพันเสียงรวมกัน พูดออกมาช้า ๆ


“เลือดของผู้สร้าง… เจ้ากลับมาแล้ว”


ภวิษย์ชักปีกออกกางเต็มตัว


“หนีสิ ดนัยน์! มันไม่ใช่สถานที่ของผู้มีชีวิต!”


แต่ดนัยน์กลับยืนนิ่ง

ในใจของเขา มีความรู้สึกประหลาดบางอย่างที่ลึกเกินคำพูด

ราวกับประตูนั้นเคยรู้จักเขา และเขาเคยเดินผ่านมันมาก่อน — เพียงแต่ลืมไปเท่านั้น


เขาก้าวขึ้นไปหนึ่งก้าว

และพื้นใต้เท้าเริ่มเรืองแสง



ทันใดนั้น พื้นดินสั่นสะเทือน

เงาในหมอกเริ่มขยับ — รูปร่างของ “เงาอาคม” ปรากฏขึ้นเป็นร่างสูงใหญ่คล้ายยักษ์ แต่ผิวกายเหมือนทองที่ไหม้ดำ

ในตาสองข้างไม่มีลูกตา มีเพียงแสงสว่างสีขาวที่เจิดจ้า

มันก้าวออกมาช้า ๆ พร้อมเสียงโลหะกระทบพื้น


“ผู้ใด… กล้าปลุกข้าจากการหลับพันปี”


เสียงนั้นไม่ดังมาก แต่แรงพอให้พื้นหินสะเทือน


ภวิษย์ยกปีกขึ้นสร้างกำแพงลมป้องกัน ขนทองของเขาส่องแสงสู้กับความมืด


“ถอยไป ดนัยน์! มันคือเงาผู้พิทักษ์ของวังทองทมิฬ!”


แต่ดนัยน์กลับยื่นมือออกไป

แสงจากต้นไม้ทองคำในฝ่ามือขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง จนกลายเป็นรากทองที่แผ่ไปรอบตัว


รากนั้นพุ่งเข้าพันเงายักษ์ไว้ — ไม่ใช่เพื่อโจมตี แต่เพื่อ “หยุด”


และในขณะที่ทุกอย่างหยุดนิ่ง

ดนัยน์ได้ยินเสียงอีกเสียงหนึ่งในหัว เสียงที่อ่อนโยนกว่าทุกเสียงที่ผ่านมา


“อย่ากลัว… ผู้พิทักษ์นี้เคยเป็นข้ารับใช้ของผู้สร้างเช่นเจ้า”


เสียงนั้นดังมาจากรากทองที่เต้นอยู่รอบแขนเขา



เงายักษ์ค่อย ๆ ลดอาวุธลง และคุกเข่าลงตรงหน้า

ดวงตาแสงขาวของมันหรี่ลงเป็นสีทอง


“ข้า… เคยรอเจ้า… ดนัยน์ ไกรกังวาร…”


ทั้งดนัยน์และภวิษย์ชะงัก

เขายังไม่เคยบอกชื่อของตนกับสิ่งใดในสถานที่นี้


“ภายในวังทองทมิฬ มีสิ่งหนึ่งรอเจ้าอยู่… สิ่งที่เจ้าต้องคืนกลับก่อนฟ้าจักรพินาศ”


ประตูสีดำทองเริ่มเปิดออกอย่างเชื่องช้า

เสียงโซ่โบราณขยับไปมา — และแสงสีทองสว่างวาบออกมาจากภายใน


ลมแรงปะทะหน้า

ภวิษย์คว้าข้อมือของดนัยน์ไว้แน่น


“อย่าเข้าไปนะ เจ้ายังไม่รู้ว่าข้างในคืออะไร!”


ดนัยน์หันมามองเพื่อน ปากของเขาสั่นเบา ๆ


“ฉันรู้เพียงอย่างเดียว… ข้างในนั้นกำลังเรียกชื่อฉันอยู่จริง ๆ”


แล้วเขาก้าวข้ามธรณีประตู —

พร้อมกับเสียงปิดประตู “ปัง!” ที่สะท้อนก้องไปทั่วหุบเหวหิมพานต์