ท่ามกลางเหล่าสัตว์ในตำนาน โรงเรียนเวทมนตร์กลางป่า และปริศนาที่ผูกพันกับ “ดวงตาคู่หนึ่ง” การเดินทางของเขาเพิ่งเริ่มต้น — และความจริงที่รออยู่เบื้องหลังเงาสะท้อนนั้น อาจเปลี่ยนชะตาทั้งสองโลกตลอดกาล
แฟนตาซี,ลึกลับ,ผจญภัย,ย้อนยุค,ไทย,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ดนัยน์ ไกรกังวารท่ามกลางเหล่าสัตว์ในตำนาน โรงเรียนเวทมนตร์กลางป่า และปริศนาที่ผูกพันกับ “ดวงตาคู่หนึ่ง” การเดินทางของเขาเพิ่งเริ่มต้น — และความจริงที่รออยู่เบื้องหลังเงาสะท้อนนั้น อาจเปลี่ยนชะตาทั้งสองโลกตลอดกาล
กระจกคือประตูสู่ความจริง
แต่สำหรับ “ดนัยน์ ” มันคือคำสาปที่ปลุกอดีตต้องห้ามให้คืนชีพ
เมื่อเงาในกระจกเริ่มเคลื่อนไหวเอง และชื่อของเขาปรากฏในตำราโบราณของโลกที่ไม่ควรมี
ดนัยน์เริ่มต้นการเดินทางจาก “เด็กหนุ่มธรรมดา” สู่ “ผู้ถูกเลือกแห่งรากทั้งเจ็ด”
เขาเริ่มค้นหาความจริงเกี่ยวกับต้นกำเนิดของตนเอง เงาที่มีชีวิต และเหตุผลว่าทำไมโลกทั้งสองกำลังจะเชื่อมเข้าหากัน
ทว่าเงาสะท้อนในน้ำนั้น — ยังมี อีกตัวตนหนึ่งของเขา ที่รอเวลาจะหลุดพ้น
ลมยามราตรีพัดผ่านเรือนขวัญ เสียงของมันไม่ใช่เสียงลมธรรมดา แต่เป็นเสียงคล้ายบทสวดโบราณที่สั่นสะเทือนในอก
ภวิษย์ยังยืนอยู่ตรงนั้น ปีกทองของเขากางเล็กน้อยราวกับเตรียมพร้อมป้องกันบางสิ่งที่อาจออกมาจาก “เงาประตู” บนผนัง
เงาต้นไม้ทองคำค่อย ๆ งอกงามขึ้น กิ่งก้านบิดตัวเหมือนมีชีวิต รากของมันลากยาวลงพื้นจนกลายเป็นวงลายอักขระสีทองที่ลุกวาบทีละจังหวะ
ดนัยน์ยื่นมือไปแตะโดยไม่รู้ตัว —
และทันใดนั้น ความเย็นชื้นจากอากาศรอบตัวก็หายไป เหลือเพียงแสงสีทองอ่อน ๆ ที่เต้นอยู่รอบนิ้ว
“เจ้าจะทำอะไรน่ะ!?” ภวิษย์ร้อง แต่เสียงนั้นเหมือนถูกกลืนเข้าไปในแสง
ดนัยน์หันมามองแวบหนึ่ง
“ฉัน… ได้ยินเสียงเรียก มันอยู่ข้างในประตูนี้”
ก่อนที่ภวิษย์จะคว้าตัวไว้ แสงทองจากพื้นก็ปะทุขึ้นกลืนร่างทั้งคู่
⸻
ความรู้สึกแรกคือ “การตก”
แต่ไม่ใช่ตกจากที่สูง — เหมือนร่วงผ่านชั้นของเวลาและความฝัน
ภาพรอบตัวไหลย้อนกลับ ราวกับทุกสิ่งในหิมพานต์กำลังหายไป แล้วแทนที่ด้วยป่ามืดที่มีเพียงแสงทองจากต้นไม้เรืองรองกลางลำธาร
เสียงระฆังโบราณดังขึ้นหนึ่งครั้ง — ก้องไปทั่วราวกับเสียงเตือนจากโลกเก่า
ทั้งสองตกลงบนพื้นหินแข็ง
รอบตัวคือความมืดอึมครึมที่มีหมอกดำล้อมรอบ
และเบื้องหน้า… มี “ประตูใหญ่สีดำทอง” ตั้งตระหง่านอยู่กลางหุบเหว
มันสูงจนยอดหายเข้าไปในหมอก
สลักลายพญานาคพันรอบเสา และมีรูปขนนกทองไขว้กับเปลวไฟอยู่ตรงกลางบานประตู — สัญลักษณ์เดียวกับบนซองจดหมายเมื่อคืน
“นี่มัน…” ภวิษย์กระซิบ “วังทองทมิฬ…”
แสงจากต้นไม้ทองคำในฝ่ามือของดนัยน์ส่องออกมาเองโดยไม่ต้องเรียก
เมื่อแสงนั้นกระทบประตู เสียงจากภายในก็ดังขึ้น — เสียงที่เหมือนพันเสียงรวมกัน พูดออกมาช้า ๆ
“เลือดของผู้สร้าง… เจ้ากลับมาแล้ว”
ภวิษย์ชักปีกออกกางเต็มตัว
“หนีสิ ดนัยน์! มันไม่ใช่สถานที่ของผู้มีชีวิต!”
แต่ดนัยน์กลับยืนนิ่ง
ในใจของเขา มีความรู้สึกประหลาดบางอย่างที่ลึกเกินคำพูด
ราวกับประตูนั้นเคยรู้จักเขา และเขาเคยเดินผ่านมันมาก่อน — เพียงแต่ลืมไปเท่านั้น
เขาก้าวขึ้นไปหนึ่งก้าว
และพื้นใต้เท้าเริ่มเรืองแสง
⸻
ทันใดนั้น พื้นดินสั่นสะเทือน
เงาในหมอกเริ่มขยับ — รูปร่างของ “เงาอาคม” ปรากฏขึ้นเป็นร่างสูงใหญ่คล้ายยักษ์ แต่ผิวกายเหมือนทองที่ไหม้ดำ
ในตาสองข้างไม่มีลูกตา มีเพียงแสงสว่างสีขาวที่เจิดจ้า
มันก้าวออกมาช้า ๆ พร้อมเสียงโลหะกระทบพื้น
“ผู้ใด… กล้าปลุกข้าจากการหลับพันปี”
เสียงนั้นไม่ดังมาก แต่แรงพอให้พื้นหินสะเทือน
ภวิษย์ยกปีกขึ้นสร้างกำแพงลมป้องกัน ขนทองของเขาส่องแสงสู้กับความมืด
“ถอยไป ดนัยน์! มันคือเงาผู้พิทักษ์ของวังทองทมิฬ!”
แต่ดนัยน์กลับยื่นมือออกไป
แสงจากต้นไม้ทองคำในฝ่ามือขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง จนกลายเป็นรากทองที่แผ่ไปรอบตัว
รากนั้นพุ่งเข้าพันเงายักษ์ไว้ — ไม่ใช่เพื่อโจมตี แต่เพื่อ “หยุด”
และในขณะที่ทุกอย่างหยุดนิ่ง
ดนัยน์ได้ยินเสียงอีกเสียงหนึ่งในหัว เสียงที่อ่อนโยนกว่าทุกเสียงที่ผ่านมา
“อย่ากลัว… ผู้พิทักษ์นี้เคยเป็นข้ารับใช้ของผู้สร้างเช่นเจ้า”
เสียงนั้นดังมาจากรากทองที่เต้นอยู่รอบแขนเขา
⸻
เงายักษ์ค่อย ๆ ลดอาวุธลง และคุกเข่าลงตรงหน้า
ดวงตาแสงขาวของมันหรี่ลงเป็นสีทอง
“ข้า… เคยรอเจ้า… ดนัยน์ ไกรกังวาร…”
ทั้งดนัยน์และภวิษย์ชะงัก
เขายังไม่เคยบอกชื่อของตนกับสิ่งใดในสถานที่นี้
“ภายในวังทองทมิฬ มีสิ่งหนึ่งรอเจ้าอยู่… สิ่งที่เจ้าต้องคืนกลับก่อนฟ้าจักรพินาศ”
ประตูสีดำทองเริ่มเปิดออกอย่างเชื่องช้า
เสียงโซ่โบราณขยับไปมา — และแสงสีทองสว่างวาบออกมาจากภายใน
ลมแรงปะทะหน้า
ภวิษย์คว้าข้อมือของดนัยน์ไว้แน่น
“อย่าเข้าไปนะ เจ้ายังไม่รู้ว่าข้างในคืออะไร!”
ดนัยน์หันมามองเพื่อน ปากของเขาสั่นเบา ๆ
“ฉันรู้เพียงอย่างเดียว… ข้างในนั้นกำลังเรียกชื่อฉันอยู่จริง ๆ”
แล้วเขาก้าวข้ามธรณีประตู —
พร้อมกับเสียงปิดประตู “ปัง!” ที่สะท้อนก้องไปทั่วหุบเหวหิมพานต์