ท่ามกลางเหล่าสัตว์ในตำนาน โรงเรียนเวทมนตร์กลางป่า และปริศนาที่ผูกพันกับ “ดวงตาคู่หนึ่ง” การเดินทางของเขาเพิ่งเริ่มต้น — และความจริงที่รออยู่เบื้องหลังเงาสะท้อนนั้น อาจเปลี่ยนชะตาทั้งสองโลกตลอดกาล

ดนัยน์ ไกรกังวาร - ตอนที่4 เสียงจากต้นไม้ทองคำ โดย พิจิตร บรรจง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ลึกลับ,ผจญภัย,ย้อนยุค,ไทย,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ดนัยน์ ไกรกังวาร

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ลึกลับ,ผจญภัย,ย้อนยุค,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

ดนัยน์ ไกรกังวาร โดย พิจิตร บรรจง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ท่ามกลางเหล่าสัตว์ในตำนาน โรงเรียนเวทมนตร์กลางป่า และปริศนาที่ผูกพันกับ “ดวงตาคู่หนึ่ง” การเดินทางของเขาเพิ่งเริ่มต้น — และความจริงที่รออยู่เบื้องหลังเงาสะท้อนนั้น อาจเปลี่ยนชะตาทั้งสองโลกตลอดกาล

ผู้แต่ง

พิจิตร บรรจง

เรื่องย่อ

กระจกคือประตูสู่ความจริง


แต่สำหรับ “ดนัยน์ ” มันคือคำสาปที่ปลุกอดีตต้องห้ามให้คืนชีพ


เมื่อเงาในกระจกเริ่มเคลื่อนไหวเอง และชื่อของเขาปรากฏในตำราโบราณของโลกที่ไม่ควรมี


ดนัยน์เริ่มต้นการเดินทางจาก “เด็กหนุ่มธรรมดา” สู่ “ผู้ถูกเลือกแห่งรากทั้งเจ็ด”

เขาเริ่มค้นหาความจริงเกี่ยวกับต้นกำเนิดของตนเอง เงาที่มีชีวิต และเหตุผลว่าทำไมโลกทั้งสองกำลังจะเชื่อมเข้าหากัน


ทว่าเงาสะท้อนในน้ำนั้น — ยังมี อีกตัวตนหนึ่งของเขา ที่รอเวลาจะหลุดพ้น

สารบัญ

ดนัยน์ ไกรกังวาร-ตอนที่1 เสียงในความฝัน,ดนัยน์ ไกรกังวาร-ตอนที่2 ประตูที่สะท้อนในน้ำ,ดนัยน์ ไกรกังวาร-ตอนที่3 โรงเรียนที่ไม่มีชื่อในโลกมนุษย์,ดนัยน์ ไกรกังวาร-ตอนที่4 เสียงจากต้นไม้ทองคำ,ดนัยน์ ไกรกังวาร-ตอนที่5 ประตูแห่งรากและเสียงจากวังทองทมิฬ,ดนัยน์ ไกรกังวาร-ตอนที่6 เงาแห่งผู้สร้างและความลับของวังทองทมิฬ,ดนัยน์ ไกรกังวาร-ตอนที่7 คืนที่ต้นโพธิ์พันภพลุกไหม้,ดนัยน์ ไกรกังวาร-ตอนที่8 เงาที่มีหัวใจ และการตื่นของวังทั้งเจ็ด,ดนัยน์ ไกรกังวาร-ตอนที่9 หัวใจแห่งเพลิง และบัลลังก์ของผู้สร้าง,ดนัยน์ ไกรกังวาร-ตอนที่10 เสียงจากวังวารี และความลับใต้สายน้ำ

เนื้อหา

ตอนที่4 เสียงจากต้นไม้ทองคำ


หลังจากเหตุการณ์ในห้องเรียนเวทหิมพานต์ ทุกสายตายังคงจับจ้องมาที่ดนัยน์ —

เด็กหนุ่มมนุษย์ผู้สร้างต้นไม้ทองคำได้จากพลังของตนเอง


ต้นไม้ต้นนั้นลอยกลางอากาศ รากของมันชอนไชไปทั่วเหมือนเส้นแสง ใบเรืองสีทองระยับ และลมหายใจทุกครั้งของดนัยน์ทำให้มันเต้นแรงขึ้น

แต่เมื่อเขาหลุดจากสมาธิ แสงทั้งหมดก็ดับลง เหลือเพียงเงาอุ่น ๆ ในฝ่ามือ


ครูปาริชาตนิ่งไปพักใหญ่ ก่อนกล่าวเสียงเบาแต่มั่นคง


“เจ้าควรพัก… เวทในร่างเจ้ามิได้ตื่น แต่ถูกปลุกขึ้นโดยสิ่งที่อยู่เหนือธาตุทั้งสี่”


เธอมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขา — แววตาที่เหมือนซ่อน “ประตู” อีกบานหนึ่งไว้ข้างใน


“เจ้ามาจากโลกมนุษย์ แต่เลือดของเจ้ามิใช่มนุษย์โดยแท้…”


คำพูดนั้นทำให้ทั้งห้องเงียบราวกับเวลาหยุด

เสียงกระซิบเบา ๆ ดังจากเพื่อนบางคน


“มนุษย์กึ่งอาคมงั้นหรือ… หรือมากกว่านั้น?”


แต่ครูปาริชาตไม่ได้อธิบายต่อ เธอเพียงโบกมือเบา ๆ ต้นไม้ทองคำค่อย ๆ จางหายเหมือนละอองฝุ่น



หลังเลิกเรียน ดนัยน์เดินกลับเรือนขวัญคนเดียว

ลมเย็นพัดผ่านแนวไม้หิมพานต์ ใบไม้เรืองแสงสะท้อนแสงจันทร์ที่เริ่มโผล่เหนือขอบฟ้า

ระหว่างทาง เขาได้ยินเสียงขลุ่ยเบา ๆ ลอยมากับสายลม เสียงนั้นชวนให้หัวใจเต้นช้าลงราวต้องมนตร์


เขาหันไปตามเสียง —

และเห็น “กัลยา” ยืนอยู่ข้างลำธารเรืองแสง ผมสีดำของเธอไหลยาวไปจนถึงปลายหางนาคที่สะท้อนแสงน้ำ

ในมือเธอถือขลุ่ยไม้ไผ่บาง ๆ ที่มีเครือเถาเกาะ


“ข้าชอบเล่นขลุ่ยยามน้ำขึ้น… เสียงจะดังไปถึงโพรงบาดาล”

เธอพูดโดยไม่หันมามอง


ดนัยน์ยืนนิ่ง ก่อนเอ่ยถามอย่างลังเล


“เธอคิดว่าฉัน… แปลกหรือ?”


กัลยาหยุด เป่าขลุ่ยอีกครั้ง แล้วหันมามองด้วยดวงตาใสสีเงิน


“แปลก… ใช่ แต่ข้าไม่กลัว เจ้ากลับมีบางอย่างที่ทำให้ในใจของข้าสงบ”


เธอมองเขาอีกครู่ แล้วพูดต่อด้วยเสียงเบาราวกระซิบ


“แต่อย่าให้ใครรู้เรื่องต้นไม้ทองคำ… โดยเฉพาะพวกจากเรือนอัคนี พวกนั้นจะมองว่าเจ้าเป็นภัย”


ก่อนที่ดนัยน์จะถามต่อ กัลยาก็เลื้อยลงสู่ลำธาร ร่างเธอค่อย ๆ จางหายไปพร้อมเสียงน้ำกระเพื่อม



คืนนั้น เขากลับถึงเรือนขวัญ เห็นแสงสีนวลจากเทียนลอยกลางห้อง

และมี “จดหมาย” วางอยู่บนโต๊ะไม้โบราณ —

ซองทำจากกระดาษสีดำสนิท ปิดผนึกด้วยตราสัญลักษณ์รูป “ขนนกสีทองไขว้กับเปลวไฟ”


เมื่อเปิดออก กลับไม่มีข้อความ

มีเพียงเศษใบไม้ทองคำแห้งหนึ่งใบ ซึ่งมีอักษรโบราณสลักอยู่ด้านใน


“เมื่อรากตื่น ใบจะชี้ทางสู่วังทองทมิฬ”


ทันใดนั้น ใบไม้เปล่งแสงวาบ แล้วหายไปในอากาศ

ดนัยน์ตกใจ — และได้ยินเสียงกระซิบอีกครั้งในหัว


“เจ้าคือผู้ถูกเลือก… จงตามเสียงแห่งรากไป”


เขากวาดตามองรอบห้อง — เห็นเพียงเงาของต้นไม้เล็ก ๆ จากตอนเช้า ปรากฏบนผนังเรือน

เงานั้นสั่นไหวเหมือนมีลมหายใจ และค่อย ๆ ยืดกิ่งก้านจนกลายเป็น “เงาประตู”



เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง


“เจ้าก็ได้ยินมันด้วยหรือ…”


ดนัยน์หันขวับ — พบว่า ภวิษย์ ยืนอยู่ที่ประตู

แววตาของเขาจริงจังผิดจากทุกครั้ง


“ต้นไม้ทองคำนั่น… ข้าเคยเห็นมันในบันทึกของเผ่าครุฑ ว่ามันคือสัญลักษณ์ของ ‘ต้นกำเนิดแห่งภพ’… และยังเชื่อมกับสิ่งต้องห้ามในวังทองทมิฬ”


เขาเดินเข้ามาใกล้ จ้องเงาบนผนังที่ขยับราวมีชีวิต


“ถ้าเจ้าคือผู้ปลุกมัน… งั้นพวกเราก็ไม่มีทางหนีจากโชคชะตานี้ได้แล้ว”


เงาของต้นไม้ทองคำบนผนังเริ่มแผ่กว้าง

กิ่งก้านของมันกลายเป็นรูปร่างคล้าย “ประตู”

และภายในประตูนั้น — มีเงาสีดำส่องแสงอยู่ลึกเข้าไป เหมือนเชิญให้ใครสักคน “ก้าวเข้าไปดู”


แสงเทียนในห้องดับลงทีละดวง

เหลือเพียงเสียงหัวใจของดนัยน์ที่เต้นดังขึ้นเรื่อย ๆ —

พร้อมเสียงกระซิบจากอีกโลกหนึ่ง


“เจ้าจะเลือกมอง… หรือเลือกข้ามไป?”