รักเมีย หลงเมีย กินข้าวไม่ได้ร้องไห้หาเมีย

กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด - ตอนที่ 17 คำครหา ปลดเหรียญอ่านฟรี 14 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 21 มิถุนายน 68 โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,ครอบครัว,จีน,แม่ทัพพ่ายเมีย,นิยายรักจีนโบราณ,เกิดใหม่,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,ครอบครัว,จีน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แม่ทัพพ่ายเมีย,นิยายรักจีนโบราณ,เกิดใหม่

รายละเอียด

กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รักเมีย หลงเมีย กินข้าวไม่ได้ร้องไห้หาเมีย

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

เมื่อจำต้องแต่งงานโดยไม่เต็มใจโดยไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้สิ่งที่ฟ่านซีเซียนหรือไส้ในคือดวงวิญญาณแปลกปลอมของหญิงสาวต่างยุคต่างสมัยเข้ามาอาศัยพึ่งพิงร่างตามที่โชคชะตาได้ขีดเส้นเอาไว้นั้นทำได้คือการพยายามทำตัวให้เป็นที่รักทั้งกับตัวสามีรวมไปถึงผู้คนรอบข้างเขาเพื่อความอยู่รอดอย่างสุขสงบแต่นางกลับมีอุปสรรคใหญ่คือมารหัวใจที่มาปรากฏกายในรูปแบบของน้องสาวบุญธรรมของสามี

ในเมื่อถูกลิขิตให้ได้มีชีวิตอยู่ต่อไปสิ่งที่ทำได้คือต้องสู้สุดใจขาดดิ้นในวิถีทางที่ตนเองพอจะทำได้อย่างเรื่องการขยันทำงานจนสามารถเปิดร้านอาหารเป็นของตนเองได้โดยที่มิต้องอาศัยบารมีของใครหนุนหลังอีกทั้งเอาใจใส่ดูแลในเรื่องอาหารการกินที่นางถนัดฟ่านซีเซียนตั้งใจจะมัดทั้งตัวและหัวใจของท่านแม่ทัพผู้เป็นสามีให้ไม่มีทางดิ้นหนีไปไหนได้และมีเพียงนางเป็นหนึ่งในดวงใจแต่เพียงผู้เดียว

 

หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้

1. ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์

2. ปลดเหรียญอ่านฟรี 1สัปดาห์

3. หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มไปจนถึงตอนจบค่ะ

สารบัญ

กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 1 เรื่องคอขาดบาดตาย,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 2 ตัวข้าหาได้นิยมหนังห่อกระดูก,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 3 การเดินทางอันแสนยาวนาน,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 4 สวัสดีแดนเหนือ,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 5 ความซุกซน,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 2 การดูแลสามีเป็นหน้าที่ของภรรยา,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 7 คิดหาอาชีพเสริม,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 8 แค่ความเคยชิน,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 9 ร้านอาหารเล็กๆ,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 10 การมาถึงของน้องสาวบุญธรรม,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 11 อาการเจ็บป่วยที่ผิดปกติ ปลดเหรียญอ่านฟรี 8 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 15 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 12 ทะเลสาบหงส์คู่ ปลดเหรียญอ่านฟรี 9 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 16 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 13 เจ้าต่างหากที่เป็นคนแปลกหน้า ปลดเหรียญอ่านฟรี 10 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 17 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 14 สร้างสถานการณ์และความวุ่นวาย ปลดเหรียญอ่านฟรี 11 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 18 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 15 เพียงคำขอโทษนั้นคงยังไม่พอ ปลดเหรียญอ่านฟรี 12 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 19 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 16 บ้านที่ไม่ใช่บ้าน ปลดเหรียญอ่านฟรี 13 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 20 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 17 คำครหา ปลดเหรียญอ่านฟรี 14 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 21 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 18 กระวนกระวายใจ ปลดเหรียญอ่านฟรี 15 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 22 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 19 เพราะคิดถึงจึงมาหา ปลดเหรียญอ่านฟรี 16 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 23 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 20 ธาตุแท้ของดอกบัวขาว ปลดเหรียญอ่านฟรี 17 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 24 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 21 สะสางปัญหา ปลดเหรียญอ่านฟรี 18 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 25 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 22 ทดลองเป็นพ่อค้า ปลดเหรียญอ่านฟรี 19 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 26 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 23 ได้เวลากลับบ้านเสียที ปลดเหรียญอ่านฟรี 20 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 27 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 24 เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ปลดเหรียญอ่านฟรี 21 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 28 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 25 ผู้ควรค่าต่อการได้รับความรัก ปลดเหรียญอ่านฟรี 23 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 30 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 26 แววตาที่เปลี่ยนไปกับหัวใจที่มั่นคง ปลดเหรียญอ่านฟรี 24 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 1 กรกฎาคม 68

เนื้อหา

ตอนที่ 17 คำครหา ปลดเหรียญอ่านฟรี 14 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 21 มิถุนายน 68

ฟ่านซีเซียนพยายามเป็นอย่างมากในการฟื้นฟูร่างกายและตามหาวัตถุดิบในการปรุงน้ำแกงแสนอร่อยเพื่อเตรียมเปิดร้านค้าและโชคยังคงเข้าข้างนางเพราะว่าที่นี่คือเมืองหลวงทำให้สิ่งต่างๆ ที่นางต้องการนั้นสามารถซื้อหามาได้โดยง่ายหรือจะพูดกันตรงๆ อยู่ที่นี่นั้นได้เปรียบกว่าการที่อยู่แดนเหนือเป็นไหนๆ

ร้านอาหารเสียบไม้ของฟ่านซีเซียนขายทั้งอาหารต้มร้อนๆ ในน้ำแกงสองรสชาติและอาหารเสียบไม้ย่างที่ทาด้วยเครื่องเทศปรุงรสรสชาติเผ็ดชาและรสเค็มหวานกลมกล่อมซึ่งต้นแบบนั้นมาจากซอสหมาล่าและซอสเทริยากิอาหารยอดนิยมเมื่อตอนที่นางยังมีชีวิตอยู่ในชื่อของนางสาวของขวัญซึ่งยุคนั้นอาหารเหล่านี้กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนก็จะเห็นร้านขายอาหารปิ้งย่างทั่วไปหมด

“เชิญเข้ามาลองชิมก่อนได้นะเจ้าคะไม่ซื้อก็ไม่เป็นไร” จนถึงตอนนี้ฟ่านซีเซียนก็เปิดร้านมาได้เจ็ดวันแล้วแต่หลังจากเปิดร้านในทุกๆ วันนางก็ยังคงตะโกนร้องเชิญชวนชาวบ้านที่เดินผ่านไปผ่านมาให้เข้ามาลองชมลองชิมอาหารที่ร้านด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสแม้ใครจะชิมเฉยๆ แล้วผ่านไปไม่ซื้อติดไม้ติดมือกลับไปที่เรือนนางก็ไม่ได้ติดใจอะไรแค่คิดว่าอาหารของตนเองนั้นมันยังไม่ถูกปากชาวบ้านเท่านั้นเอง

แต่ก็ยังมีคนอีกมากที่แวะเวียนมาซื้อหาอยู่เป็นประจำเนื่องจากอาหารเสียบไม้ของร้านฟ่านซีเซียนนั้นไม้ใหญ่คุ้มค่าคุ้มราคาอีกทั้งยังมีรสชาติดีจะกินเปล่าๆ กินกับข้าวหรือเอาไปแกล้มสุราก็ล้วนเข้าที

“เป็นท่านจริงๆ ด้วยพี่สะใภ้เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ได้เล่า” และแล้วสิ่งที่ฟ่านซีเซียนกังวลที่สุดก็มาถึงนั่นก็คือการที่คนรู้จักมาพบเจอกับนางเข้าจนได้แต่ครั้งนี้นับว่าดีนักเมื่อคนที่พบกันคือสวีซานจ้านน้องชายแท้ๆ ของสามีแม่ทัพผู้นั้นของนาง

“เสี่ยวจ้านนั่นเองพี่สะใภ้ต้องมารักษาตัวที่เมืองหลวงน่ะจึงตัดสินใจมาเปิดร้านอาหารเล็กๆ เพื่อฆ่าเวลาไปด้วย ต้องขอโทษเจ้าด้วยที่มิได้ส่งข่าวไปบอกแล้วนี่เจ้ากินข้าวกลางวันมาหรือยัง” ฟ่านซีเซียนจูงมือเด็กชายที่ยังอยู่ในชุดเครื่องแบบของสำนักศึกษาหลวงที่นางคุ้นตาเวลานี้น่าจะเป็นช่วงพักกลางวันซึ่งนักเรียนทุกคนสามารถออกมาเลือกซื้ออาหารกินกันได้ตามใจหากไม่อยากรับประทานอาหารที่ทางสำนักศึกษาจัดเตรียมเอาไว้ให้

“ข้าได้ยินสหายในชั้นเรียนเล่าว่าที่อำเภอใกล้ๆ สำนักศึกษามีร้านอาหารเสียบไม้เล็กๆ มาเปิดขายอยู่พอได้ยินแล้วก็นึกถึงอาหารที่พี่สะใภ้เคยขายที่แดนเหนือจึงลองมาดูไม่คิดว่าจะได้พบท่านที่นี่แล้วข้าก็ยังไม่ได้กินอาหารกลางวันเลยขอรับแต่ว่าไม่ต้องห่วงหลังจากนี้ข้าไม่มีเรียนแล้วกินช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร” สวีซานจ้านทักทายทุกคนด้วยความยินดีจากนั้นจึงหันมาตอบคำถามของพี่สะใภ้ที่ดูซูบซีดลงไปมากดูท่าแล้วนางน่าจะเจ็บป่วยอย่างที่ว่าจริงๆ

“ถ้าเช่นนั้นให้พี่สะใภ้หาอาหารกลางวันให้เจ้ากินก่อนแล้วเราค่อยคุยกันจะดีหรือไม่ เอาล่ะข้าจำได้ว่าเจ้าชอบน้ำแกงรสเผ็ดลองเอาหารเสียบไม้ย่างรสเผ็ดมากินกับข้าวสวยร้อนๆ ก็เข้ากันยิ่งนัก”

ฟ่านซีเซียนรีบเร่งเตรียมสถานที่หลังร้านเล็กๆ ของตนเองให้น้องชายของสามีได้รับประทานอาหารกลางวันก่อนที่นางจะกลับไปช่วยขายอาหารที่หน้าร้านตามเดิม

อาหารที่ขายในร้านแห่งนี้ส่วนมากจะใช้วัตถุดิบสดใหม่ที่ไม่ได้ผ่านการแปรรูปเช่นที่ขายในแดนเหนือจึงช่วยร่นระยะเวลาการเตรียมวัตถุดิบต่างๆ ไปได้มากเนื่องจากคนของนางมีจำนวนจำกัดแต่เพราะว่าวัตถุดิบที่มีนั้นสดใหม่จึงช่วยชูรสอาหารได้ตามธรรมชาติของมันใครก็ตามที่ได้ลองซื้อไปชิมหนึ่งครั้งต่างก็ต้องกลับมาซื้อซ้ำสองอีกเป็นแน่แต่ก็มีบางวันที่ผ่านไปเจอปลาสดๆ นางก็จะซื้อมาทำปลาบดเสียบไม้ขายแต่ก็ไม่ค่อยได้ทำบ่อยนัก

“เสี่ยวจ้านพี่สะใภ้ขออะไรเจ้าอย่างหนึ่งได้หรือไม่” ก่อนที่เด็กชายจะต้องกลับเรือนหลังจากที่อยู่ช่วยพี่สะใภ้ขายของจนถึงยามเว่ยก่อนส่งน้องชายของสามีกลับจวนฟ่านซีเซียนจำต้องเรียกเด็กชายมากำชับเรื่องสำคัญเสียก่อน

“เรื่องอะไรหรือขอรับพี่สะใภ้”

“เรื่องที่เจ้าพบพี่สะใภ้ที่นี่อย่าเพิ่งนำไปบอกมารดาและบิดาของเจ้าได้หรือไม่ พี่สะใภ้สัญญาว่าจะเข้าไปคารวะท่านทั้งสองด้วยตนเองภายหลังอย่างแน่นอน” การเดินทางมาเมืองหลวงแต่ไม่ได้เข้าไปคารวะครอบครัวของสามีนั้นนับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องยิ่งนักแต่ในเมื่อมีคนจากสกุลสวีรับรู้แล้วถึงแม้จะเป็นเด็กชายวัยเพียงเจ็ดขวบปีแต่นางก็ยังรู้สึกว่าตัวเองกำลังกระทำสิ่งที่ไม่สมควรอยู่

“ไม่มีปัญหาขอรับข้าก็นึกว่าพี่สะใภ้ไม่อยากให้บอกเพราะว่ารำคาญพี่สาวโหรวซือเสียอีกแต่ไม่ต้องห่วงนางถูกท่านแม่ส่งไปอารามชีทันทีที่กลับมาจากแดนเหนืออีกหลายวันจึงจะถึงกำหนดกลับมาดูท่านางจะดวงไม่ดีจริงๆ ถึงต้องถูกส่งไปพักที่อารามชีตลอดเลย” สวีซานจ้านพูดตามความเข้าใจของเด็กๆ โดยที่มิได้ล่วงรู้เลยว่าการกระทำที่เหลวไหลของพี่สาวบุญธรรมในระหว่างที่พำนักอยู่ที่แดนเหนือนั้นถูกรายงานตรงถึงบิดามารดามาโดยตลอดและเพื่อเป็นการลงโทษนางที่ทำตัวไม่เหมาะสมจึงถูกส่งไปถือศีลที่อารามชีบนเขาเพื่อดัดนิสัย

และนางก็ไม่มีโอกาสที่จะแก้ตัวอีกต่อไปแล้วหากยังทำตัวไม่เหมาะสมอีกเพียงครั้งเดียวหากไม่แต่งงานออกไปก็จะถูกส่งไปบวชตลอดชีวิตซึ่งมารดาของสวีซานจ้านได้เตรียมการทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้วไม่ว่าเรื่องที่หมายตาคู่ครองหรือว่าแผนการจะส่งสวีโหรวซือไปบวชที่อารามชี

เย็นวันนั้นสวีซานจ้านกลับจวนสวีไปพร้อมกับอาหารจากร้านพี่สะใภ้เต็มสองมือโดยทั้งเด็กชายและฟ่านซีเซียนต่างก็ไม่ทราบเลยว่าข่าวการมาถึงเมืองหลวงของฮูหยินน้อยสวีนั้นกำลังกระจายไปทั่วเมืองหลวงและท่านพ่อ ท่านแม่ของเด็กชายต่างก็ทราบเรื่องราวเรียบร้อยแล้วโดยทั้งสองคนกำลังสืบหาสาเหตุก่อนที่จะมาพบกับฟ่านซีเซียนด้วยตนเองเพราะมั่นใจว่าเรื่องนี้สวีโหรวซือต้องมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน

 

“หากให้เดาคาดว่าฮูหยินคนใหม่ของสกุลฟ่านน่าจะไม่ต้อนรับนางในตอนที่ลูกสะใภ้ของข้าเดินทางกลับมาจากแดนเหนือเพราะอำเภอที่นางไปอาศัยอยู่ตอนนี้เป็นอำเภอบ้านเกิดของแม่นมหมี่ก้งเย่วคนสนิทของอดีตฮูหยินฟ่าน แล้วนี่เจ้าลูกชายของเราคิดอย่างไรจึงได้ปล่อยให้ภรรยากลับมาเมืองหลวงตามลำพัง”

ฮูหยินสวีเกือบจะนั่งกุมขมับในตอนที่ทราบเรื่องแต่เมื่อเห็นบุตรชายคนเล็กกลับมาที่จวนพร้อมอาหารมากมายและถึงแม้เขาจะไม่ได้เอ่ยปากว่าไปพบใครมาแต่มารดาก็ยังสัมผัสได้ว่าบุตรชายมีความสุขและสบายอกสบายใจเป็นอย่างยิ่งนี่ก็เท่ากับว่าลูกสะใภ้ของนางยังคงสุขสบายดีมิใช่หรือ

“นางป่วยจริงตอนที่เดินทางกลับมาเมื่อตอนที่อยู่แดนเหนือก็ป่วยอยู่เป็นระยะคงเป็นเพราะอากาศที่หนาวเย็นผิดกับเมืองหลวงที่เป็นบ้านเกิดครั้งนี้นางอาจจะกลับมาเพื่อพักรักษาตัวจริงๆ ก็เป็นได้” รายงานสุขภาพของคนในจวนแม่ทัพที่แดนเหนือถูกส่งมาให้ทางเมืองหลวงรับทราบอยู่เป็นประจำโดยฝีมือท่านหมอหลวงหยูเพื่อให้คนที่อยู่ที่นี่สบายใจได้ว่าคนที่อยู่ห่างไกลนั้นจะสุขสบายดี

“การที่นางกลับมารักษาตัวนั้นข้าเข้าใจเจ้าค่ะท่านพี่แต่นางจะกลับมาอยู่ที่นี่เป็นเวลานานๆ ไม่ได้เพราะชาวบ้านจะเริ่มติฉินนินทาและเริ่มสงสัยเรื่องชีวิตคู่ของลูกเราได้นะเจ้าคะ ยิ่งตอนนี้ลูกสะใภ้มาเปิดร้านขายอาหารอีกไม่เท่ากับนางจะย้ายมาตั้งรกรากที่นี่เลยหรือไรข้ามิได้รังเกียจหากลูกสะใภ้จะทำการค้าขายแต่หากสถานการณ์ยังคงคลุมเครือสวีซานจินต้องเป็นคนมาอธิบายว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

อันที่จริงเรื่องนี้ฮูหยินสวียืนข้างลูกสะใภ้เสียด้วยซ้ำเพราะจากสิ่งที่นางทำในแดนเหนือนั้นทางเมืองหลวงเองก็รับรู้มาโดยตลอด ฟ่านซีเซียนเป็นสตรีที่มีหัวคิด มีความขยันไม่งอมืองอเท้าอีกทั้งยังเป็นคนจิตใจดีมีเมตตานางจึงมั่นใจว่าสิ่งที่ลูกสะใภ้คิดและทำลงไปนั้นล้วนแต่มีเหตุผล

“ลูกสะใภ้ของเราอาจมีเหตุผลของนางส่วนลูกชายเราย่อมมีเหตุผลเป็นของตัวเองเอาเป็นว่าเราสองคนมาอย่างใจเย็นและเฝ้าดูทั้งคู่อยู่ห่างๆ ก่อนหากเวลาผ่านไปครบสองเดือนแล้วยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่อยยื่นมือไปช่วยเหลือหรือว่าจัดการเรื่องนี้ให้มันเด็ดขาดไป” ท่านเสนาบดีกล่าวอย่างเป็นกลางโดยผู้อาวุโสตั้งใจจะให้เวลาทั้งกับลูกสะใภ้และบุตรชายของตนเองให้ทั้งคู่ได้มีเวลาคิดทบทวนและตกตะกอนความคิดและความรู้สึกระหว่างกันด้วยการใช้เวลาสักระยะหนึ่ง

“หากท่านพี่เห็นสมควรเช่นนั้นข้าเองก็จะรอเจ้าค่ะแต่ระหว่างนี้ข้าจะส่งคนไปอุดหนุนอาหารที่ร้านฮูหยินน้อยทุกวันนางจะได้ไม่ต้องมายืนหลังขดหลังแข็งขายของ” ฮูหยินสวีช่านไฉไม่มีความประสงค์จะให้ลูกสะใภ้ของนางต้องลำบากจึงอยากจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออย่างเต็มที่

“เอาเป็นทุกๆ สองสามวันก็พอแล้วฮูหยิน พี่เข้าใจว่าเจ้าเป็นห่วงแต่ซีเอ๋อร์คงจะภาคภูมิใจมากกว่าหากอาหารที่ร้านขายหมดทุกวันเพราะว่ารสชาติที่อร่อยถูกปากผู้คน” ท่านเสนาบดีก็ไม่ต้องการที่จะเห็นฟ่านซีเซียนลำบากเช่นเดียวกับภรรยาแต่ก็มิได้คิดว่าการยื่นมือไปช่วยอุ้มชูมันจะเป็นการดีสู้ให้นางพิสูจน์ตัวเองไปพร้อมๆ กับการที่มีกองหนุนอยู่ห่างๆ น่าจะดีกว่า

“ก็จริงอย่างที่ท่านพี่ว่า ข้าจะให้คนไปอุดหนุนอาหารให้มากหน่อยทุกๆ สามวันก็แล้วกันนะเจ้าคะนางจะได้มีกำลังใจในการขายของ”

แต่แล้วสามวันถัดมาเมื่อฮูหยินสวีส่งคนไปซื้ออาหารที่ร้านของร้านลูกสะใภ้แล้วก็ต้องกลับมามือเปล่าเพราะร้านค้าขายดีจนอาหารหมดไปตั้งแต่ตะวันยังไม่ตรงหัวส่วนหนึ่งคือข่าวที่ฮูหยินของท่านแม่ทัพแห่งเป่ยเปียนกลับมาอยู่เมืองหลวงนั้นแพร่กระจายไปทุกทิศทุกทางจนมีคนอยากจะมาชมความงามของนางว่าจริงดังที่คนเขาเล่าลือหรือไม่

แต่ส่วนหนึ่งก็เพียงอยากจะมาจับผิดว่าแท้จริงแล้วฮูหยินน้อยกลับมาอยู่ที่เมืองหลวงเพราะว่าต้องการรักษาตัวหรือว่ามีปัญหากับท่านแม่ทัพกันแน่เพราะข่าวลือเรื่องที่ทั้งคู่หย่าร้างกันนั้นก็แพร่สะพัดไปไกลอีกทั้งการที่นางแยกมาอยู่เรือนหลังเล็กๆ แทนที่จวนสกุลสวีหรือจวนสกุลฟ่านก็น่าสงสัยมากแล้วชาวบ้านกินแตงทั้งหลายจึงอยากมาดูให้เห็นกับตาของตนเอง

“ฮูหยินน้อยท่านกลับมาเมืองหลวงเพื่อรักษาตัวจริงๆ หรือว่าเพราะหย่าร้างกับท่านแม่ทัพสวีกันแน่เจ้าคะ” มีคุณหนูผู้หนึ่งที่ใจกล้าจนเอ่ยปากถามออกมากลางร้านทั้งๆ ที่มีชาวบ้านเดินไปมาพลุกพล่านทำเอาฟ่านซีเซียนที่ไม่ได้ตั้งตัวถึงกับทำตัวไม่ถูกอยู่เหมือนกัน

“คุณหนูผู้นี้ไม่ทราบว่าเป็นคุณหนูสกุลใดจึงได้ใจกล้าหน้าด้านมาสอดปากถามเรื่องในม่านมุ้งของผู้อื่นเยี่ยงนี้ ดูท่าแล้วการอบรมของที่บ้านคงจะไม่ดีพอสินะ” เป็นฮูหยินสวีที่ตั้งใจเดินทางมาพบลูกสะใภ้แล้วได้ยินคำถามที่ไม่รื่นหูเข้าพอดีก็ถึงกับต้องออกหน้าเพื่อปกป้องชื่อเสียงลูกสะใภ้ของตนเองเอาไว้

“ท่านแม่ เสี่ยวจ้าน” ฟ่านซีเซียนแทบจะลืมจังหวะการหายใจเมื่อมารดาของสามีมาปรากฏตัวที่ร้านกะทันหัน

“แม่เองซีเอ๋อร์วันนี้น้องชายของเจ้าอยากจะมาพบพี่สะใภ้แม่จึงขอตามมาด้วยอยากมาชมบรรยากาศในร้านอาหารของเจ้าพอดีได้ข่าวว่ามีลูกค้ามาอุดหนุนแน่นร้านทุกวันเลยเหรอ” ฮูหยินสวีมิได้เล่นงิ้วต่อหน้าธารกำนัลแต่นางเอ็นดูลูกสะใภ้จากใจจริงจึงแสดงออกมาตรงๆ โดยที่คนเพิ่งถามเรื่องไม่เป็นเรื่องก็ถูกคนของนางดึงตัวไปตักเตือนเรียบร้อยแล้ว

“ก็พอมีลูกค้าอยู่บ้าง อากาศข้างนอกร้อนนักเชิญท่านแม่เข้าไปในเรือนก่อนเถิดนะเจ้าคะ” เพื่อเป็นการหลบหลีกสายตาสอดรู้ของผู้คนฟ่านซีเซียนจึงตัดสินใจเชิญมารดาของสามีให้เข้าไปพูดคุยกันข้างในเรือนเพราะในตอนนี้อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดนางจะไม่วิ่งหนีความจริงไม่ได้อีกต่อไปแล้ว