รักเมีย หลงเมีย กินข้าวไม่ได้ร้องไห้หาเมีย

กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด - ตอนที่ 4 สวัสดีแดนเหนือ โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,ครอบครัว,จีน,แม่ทัพพ่ายเมีย,นิยายรักจีนโบราณ,เกิดใหม่,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,ครอบครัว,จีน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แม่ทัพพ่ายเมีย,นิยายรักจีนโบราณ,เกิดใหม่

รายละเอียด

กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รักเมีย หลงเมีย กินข้าวไม่ได้ร้องไห้หาเมีย

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

เมื่อจำต้องแต่งงานโดยไม่เต็มใจโดยไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้สิ่งที่ฟ่านซีเซียนหรือไส้ในคือดวงวิญญาณแปลกปลอมของหญิงสาวต่างยุคต่างสมัยเข้ามาอาศัยพึ่งพิงร่างตามที่โชคชะตาได้ขีดเส้นเอาไว้นั้นทำได้คือการพยายามทำตัวให้เป็นที่รักทั้งกับตัวสามีรวมไปถึงผู้คนรอบข้างเขาเพื่อความอยู่รอดอย่างสุขสงบแต่นางกลับมีอุปสรรคใหญ่คือมารหัวใจที่มาปรากฏกายในรูปแบบของน้องสาวบุญธรรมของสามี

ในเมื่อถูกลิขิตให้ได้มีชีวิตอยู่ต่อไปสิ่งที่ทำได้คือต้องสู้สุดใจขาดดิ้นในวิถีทางที่ตนเองพอจะทำได้อย่างเรื่องการขยันทำงานจนสามารถเปิดร้านอาหารเป็นของตนเองได้โดยที่มิต้องอาศัยบารมีของใครหนุนหลังอีกทั้งเอาใจใส่ดูแลในเรื่องอาหารการกินที่นางถนัดฟ่านซีเซียนตั้งใจจะมัดทั้งตัวและหัวใจของท่านแม่ทัพผู้เป็นสามีให้ไม่มีทางดิ้นหนีไปไหนได้และมีเพียงนางเป็นหนึ่งในดวงใจแต่เพียงผู้เดียว

 

หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้

1. ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์

2. ปลดเหรียญอ่านฟรี 1สัปดาห์

3. หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มไปจนถึงตอนจบค่ะ

สารบัญ

กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 1 เรื่องคอขาดบาดตาย,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 2 ตัวข้าหาได้นิยมหนังห่อกระดูก,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 3 การเดินทางอันแสนยาวนาน,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 4 สวัสดีแดนเหนือ,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 5 ความซุกซน,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 2 การดูแลสามีเป็นหน้าที่ของภรรยา,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 7 คิดหาอาชีพเสริม,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 8 แค่ความเคยชิน,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 9 ร้านอาหารเล็กๆ,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 10 การมาถึงของน้องสาวบุญธรรม,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 11 อาการเจ็บป่วยที่ผิดปกติ ปลดเหรียญอ่านฟรี 8 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 15 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 12 ทะเลสาบหงส์คู่ ปลดเหรียญอ่านฟรี 9 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 16 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 13 เจ้าต่างหากที่เป็นคนแปลกหน้า ปลดเหรียญอ่านฟรี 10 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 17 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 14 สร้างสถานการณ์และความวุ่นวาย ปลดเหรียญอ่านฟรี 11 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 18 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 15 เพียงคำขอโทษนั้นคงยังไม่พอ ปลดเหรียญอ่านฟรี 12 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 19 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 16 บ้านที่ไม่ใช่บ้าน ปลดเหรียญอ่านฟรี 13 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 20 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 17 คำครหา ปลดเหรียญอ่านฟรี 14 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 21 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 18 กระวนกระวายใจ ปลดเหรียญอ่านฟรี 15 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 22 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 19 เพราะคิดถึงจึงมาหา ปลดเหรียญอ่านฟรี 16 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 23 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 20 ธาตุแท้ของดอกบัวขาว ปลดเหรียญอ่านฟรี 17 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 24 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 21 สะสางปัญหา ปลดเหรียญอ่านฟรี 18 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 25 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 22 ทดลองเป็นพ่อค้า ปลดเหรียญอ่านฟรี 19 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 26 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 23 ได้เวลากลับบ้านเสียที ปลดเหรียญอ่านฟรี 20 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 27 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 24 เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ปลดเหรียญอ่านฟรี 21 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 28 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 25 ผู้ควรค่าต่อการได้รับความรัก ปลดเหรียญอ่านฟรี 23 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 30 มิถุนายน 68,กลวิธีมัดใจสามีให้อยู่หมัด-ตอนที่ 26 แววตาที่เปลี่ยนไปกับหัวใจที่มั่นคง ปลดเหรียญอ่านฟรี 24 มิถุนายน 68 ติดเหรียญถาวร 1 กรกฎาคม 68

เนื้อหา

ตอนที่ 4 สวัสดีแดนเหนือ

ยิ่งเข้าใกล้เขตชายแดนทิศอุดรของแคว้นอากาศก็เย็นลงอย่างเห็นได้ชัดทำให้ฟ่านซีเซียนต้องรื้อเอาเสื้อผ้าที่หนาขึ้นกว่าที่สวมใส่อยู่ออกมาสวมทับรวมไปถึงการนำผ้าห่มอีกจำนวนหนึ่งออกจากเกวียนขนสัมภาระซึ่งใช่ว่าจะมีแต่ของน้องสาวและตนเองแต่เครื่องกันหนาวนั้นในส่วนของแม่นมหมี่และหลานของนางทั้งสองคนก็ถูกเตรียมไว้อย่างพร้อมสรรพเช่นเดียว

แต่ถึงแม้ว่าจะได้สวมใส่เสื้อผ้าที่อุ่นขึ้นแล้วแต่ว่าฟ่านซีเซียนก็ยังมีอาการชาที่ปลายนิ้วมือและนิ้วเท้าอยู่บ้างและคนที่สังเกตเห็นก็คือสวีซานจินที่ไม่รีรอเลยที่จะดูแลฮูหยินของตนโดยเร่งด่วนเพราะหากปล่อยถึงไว้อาจจะเป็นอันตรายจนถึงชีวิตได้เลย

“ยังหนาวอยู่อีกหรือมือเจ้าเย็นมากจนเหมือนจะแข็งวางเตาอุ่นมือไว้ใกล้แบบนี้น่าจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง” ระหว่างที่ช่วยนวดนิ้วมือเล็กๆ ที่ซีดขาวให้กับฮูหยินของตนเองแล้วท่านแม่ทัพก็ยังใช้นิ้วมืออุ่นๆ ช่วยนวดเบาๆ ไปจนทั่วอุ้งมือเพื่อช่วยเพิ่มความอบอุ่นและหวังว่าจะช่วยทำให้นางรู้สึกดีขึ้นมาได้ไม่มากก็น้อย

“อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้ข้าล้มป่วยร่างกายจึงยังไม่ฟื้นตัวดีเท่าที่ควรก็เป็นได้เจ้าค่ะเมื่อมาสัมผัสเข้ากับอากาศที่หนาวเย็นกว่าปกติจึงเป็นเช่นนี้” ข้อสันนิษฐานของฟ่านซีเซียนนั้นน่าจะมีส่วนจริงเพราะจากความทรงจำที่ได้รับมาทั้งหมดนั้นตัวนางเองเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงดีมาโดยตลอดจะมีเจ็บป่วยบ้างประปรายแต่ไม่เคยถึงขั้นที่ต้องล้มหมอนนอนเสื่อแต่อย่างใดเลยแค่เพียงกินยาสมุนไพรต้มสามวันเจ็ดวันก็หายเป็นปกติแล้ว

“นวดไปสักพักนิ้วมือเจ้าก็อุ่นขึ้นมาแล้วนะเอาเป็นว่าคืนนี้ข้าจะนอนกับฮูหยินน้อยบนรถม้าจะได้คอยดูแลเจ้าเองไม่ต้องรบกวนผู้ใด” สวีซานจินยอมรับว่าเป็นห่วงฮูหยินของตนมากเพราะเรื่องอากาศหนาวเย็นนั้นไม่ใช่เป็นเรื่องล้อเล่นในอดีตเคยมีชาวบ้านแข็งตายมาแล้วเพราะอากาศเย็นลงมากกว่าปกติจึงจำเป็นต้องเตรียมร่างกายของนางและสตรีจากเมืองหลวงทุกๆ คนให้อบอุ่นอยู่เสมอเพื่อความปลอดภัย

“ให้น้องสาวนอนกับแม่นมสักวันหนึ่งเถิดนะฮูหยินข้าไม่วางใจจริงๆ หากจะปล่อยให้เจ้านอนกับน้องสาวแค่เพียงสองคน กอดเตาอุ่นนี่ไว้แล้วก็ห่มผ้าให้ดีๆ ข้าจะไปบอกแม่นมหมี่ให้เอง” ท่านแม่ทัพวางเตาอุ่นมืออีกหนึ่งอันให้ภรรยาด้วยความระมัดระวังจากนั้นก็เหน็บผ้าห่มรอบๆ ร่างกายที่บอบบางของนางจากนั้นก็รีบออกไปจากรถม้าเพื่อบอกกับแม่นมหมี่และเตรียมข้าวของที่จำเป็นอีกเล็กน้อยอย่างเช่นกาน้ำร้อนและชงน้ำชาอุ่นๆ เตรียมเอาไว้เผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉินในยามค่ำคืน

“ฮูหยินน้อย เจ้าอยากจะนอนหลับหรือยัง” สวีซานจินใช้เวลาไปเพียงหนึ่งเค่อก็กลับเข้ามาในรถม้าที่ภรรยานั่งม้วนตัวอยู่ในก่อนผ้าห่มอย่างเชื่อฟังและในตอนนี้ใบหน้าซีดๆ ของนางก็เริ่มซับสีเลือดขึ้นเล็กน้อยซึ่งนั่นหมายความว่าฟ่านซีเซียนกำลังรู้สึกอุ่นเพิ่มมากขึ้นทุกขณะแล้ว

“คิดว่านอนหลับเลยก็ดีเจ้าค่ะจะได้ไม่รู้สึกถึงความหนาว” ยิ่งนอนหลับไวเท่าไรรุ่งเช้าก็จะมาถึงได้เร็วเท่านั้นในความคิดของฟ่านซีเซียนซึ่งนางก็คิดเอาเองว่าหากได้นอนหลับไปเมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งความเหน็บหนาวจะมลายหายไปด้วยแสงอาทิตย์ในยามเช้าของวันพรุ่งนี้

“ถ้าเช่นนั้นก็ขยับตัวเข้ามาทางนี้หน่อยอย่างน้อยๆ หากเรานอนใกล้ๆ กันก็น่าจะอุ่นขึ้นมากกว่าเดิม” ท่านแม่ทัพรับร่างที่ถูกความหนาวโจมตีจนขดตัวงอเป็นกุ้งของภรรยามากอดเอาไว้ในวงแขนจากนั้นก็ห่มผ้าห่มทับอีกชั้นหนึ่งแต่ก็ยังคงระมัดระวังไม่ให้ผ้าห่มที่ทั้งหนาและหนักนั้นจะทับบริเวณหน้าอกของภรรยามากเกินไปเสียจนทำให้นางอึดอัดหายใจไม่ออก

“หากหนาวเกินไปหรือว่าเกิดรู้สึกไม่สบายตัวเจ้าเรียกข้าได้ทุกเมื่อเลยนะ” ก่อนทิ้งเปลือกตาปิดลงสวีซานจินยังไม่ลืมที่จะบอกภรรยาด้วยความเป็นห่วงเพราะเขารู้ว่านางเป็นคนที่ค่อนข้างเกรงใจคนอื่นจากที่สังเกตกันมาเป็นเดือนระหว่างการเดินทางที่แสนยาวนานและค่อนข้างจะยากลำบากครั้งนี้

การมีร่างอุ่นๆ ที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งๆ ของสามีอิงแอบเคียงข้างกันนั้นทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อแค่เพียงไม่นานฟ่านซีเซียนก็ทิ้งเปลืองตาปิดลงไปได้ง่ายๆ และนอนหลับสนิทรวดเดียวไปจนรุ่งเช้าโดยที่ไม่ได้สะดุ้งตื่นเพราะความหนาวเย็นที่แสนทรมานในยามค่ำคืนและเมื่อยามเช้ามาถึงแสงตะวันอุ่นๆ ที่ลอดผ่านหน้าต่างรถม้าเข้ามาก็ช่วยปลุกให้ตื่นและทำให้นางรู้สึกอบอุ่นขึ้นมากกว่าเดิมมากนัก

นับว่านี่เป็นครั้งแรกที่ฟ่านซีเซียนได้อยู่ใกล้ชิดกับสามีมากขนาดนี้แต่ทั้งคู่แต่งงานกันมาแน่นอนว่าตอนที่อยู่ด้วยกันในจวนสกุลสวีแม้จะเป็นเวลาเพียงไม่กี่วันและถึงจะนอนร่วมเตียงกันแต่ก็อยู่กันคนละมุมฝั่งเตียงไม่เคยจะได้นอนกอดกันแนบชิดจนสามารถใช้อากาศหายใจร่วมกันได้เช่นนี้

“อันที่จริงข้าก็พอจะรู้ว่าตัวเองหล่อเหลาแต่ก็ไม่ได้คิดว่าฮูหยินจะลุ่มหลงความงดงามของข้าเยี่ยงนี้” แค่ลืมตาตื่นมาพบหน้าภรรยาที่มัวแต่จ้องหน้าของตนเองอยู่ก็ทำเอาสวีซานจินอดใจเอาไว้ไม่ไหวต้องแกล้งเอ่ยปากเย้าภรรยาด้วยความเอ็นดูที่มีอยู่มิใช่น้อย

“ในรถม้าก็มีพื้นที่เพียงเท่านี้ในเมื่อข้ากับท่านนอนกอดกันเสียแนบแน่นจะมีที่ไหนที่สามารถจะไปหยุดสายตาได้เล่าเจ้าคะ” แม้จะเพิ่งตื่นมาแต่ฟ่านซีเซียนก็ยังพร้อมที่จะลับฝีปากกับสามีแต่นางก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะเถียงเพียงแต่อธิบายความจริงให้เขาได้ฟังเท่านั้นเอง

“นั่นสินะ ว่าแต่เช้านี้ฮูหยินเป็นอย่างไรบ้างร่างกายยังหนาวสั่นเหมือนกับเมื่อคืนหรือไม่” แม้จะสัมผัสด้วยร่างกายของตนเองแล้วว่าภรรยามิได้หนาวจนมือแทบแข็งเช่นเมื่อคืนแต่เขาก็ยังอยากให้นางพูดถึงอาการและความรู้สึกของตนเองออกมาเพื่อให้นางได้สำรวจร่างกายของตนเองไปด้วย

“ยังรู้สึกเย็นอยู่บ้างแต่ไม่มากเท่าเมื่อคืนนี้แล้วเจ้าค่ะ มือไม่แข็งแล้วด้วย” ในตอนนี้นิ้วมือเล็กๆ ของฟ่านซีเซียนกลับมามีสีขาวอมชมพูดูมีสุขภาพดีเช่นที่เคยแล้วซึ่งพอเห็นเช่นนั้นฝั่งท่านแม่ทัพก็สบายใจขึ้นมาบ้างแต่นั่นก็เพียงนิดเดียวเพราะถ้าหากเวลาเคลื่อนผ่านไปถึงยามค่ำคืนก็เกรงว่าอากาศที่เย็นจัดจะทำให้ภรรยานิ้วมือแข็งขึ้นมาได้อีก

“ดียิ่งนักแต่ข้าคิดว่าหากคืนนี้อากาศเย็นลงอาการเจ้าน่าจะแย่อีกได้จากตรงนี้จะไปถึงจวนแม่ทัพใช้เวลาประมาณเจ็ดวันแต่เราสามารถร่นระยะเวลาให้เหลือเพียงสี่ถึงห้าวันได้หากว่าเราใช้เวลาพักระหว่างทางให้น้อยลงแต่นั่นก็น่าจะทำให้ฮูหยินรวมไปถึงน้องสาวและแม่นมต้องลำบากปวดเมื่อยร่างกายสักเล็กน้อย” สวีซานจินคิดว่าการเร่งเดินทางอีกสักนิดน่าจะช่วยได้แต่นั่นมันก็ต้องแลกกับการเจ็บปวดกล้ามเนื้อเล็กน้อยถึงปานกลางแต่ทว่ามันย่อมดีกว่าการที่ต้องทนหนาวจนนิ้วมือนิ้วเท้าแข็งเพราะนั่นจะเป็นอันตรายจนถึงชีวิตได้เลยทีเดียว

“แดนเหนือต้อนรับข้าด้วยความหนาวเย็นจับขั้วหัวใจเลยนะเจ้าคะ แต่เร่งเดินทางก็ดีแม่นมจะได้พักในเรือนที่อบอุ่นสักทีนางอายุมากแล้วสุขภาพของนางน่าเป็นห่วงมากกว่าข้าเสียอีก” แน่นอนว่าถึงแม้แม่นมหมี่ก้งเย่วจะสุขภาพแข็งแรงดีแต่นางก็มีอายุไม่ใช่น้อยแล้วดังนั้นสิ่งที่ฟ่านซีเซียนเป็นห่วงมากกว่าตัวเองก็คือเรื่องสุขภาพของคนที่นางรักและนับถือไม่ต่างไปจากมารดาคนที่สอง

“เช่นนั้นเจ้าแต่งตัวให้รัดกุมแล้วออกไปตากแดดอุ่นๆ สักนิดก่อนจะไปล้างหน้าล้างตาส่วนข้าจะออกไปหารือกับแม่นมและนายทหารด้านนอกในเรื่องของการเดินทางเราอาจจะต้องจัดทั้งเสื้อผ้า เครื่องนอนและต้องแบ่งอาหารเข้ามาเก็บไว้ที่รถม้าบางส่วนให้พอกับระยะเวลาเดินทางจากนั้นเราก็จะเดินทางล่วงหน้าด้วยม้าและรถม้าคันใหญ่ส่วนเกวียนจะให้ตามไปภายหลังเพราะวัวไม่สามารถเดินทางได้รวดเร็วเท่ากับม้าได้”

“ท่านพี่เองก็ต้องแต่งกายให้หนากว่านี้นะเจ้าคะเพิ่มเสื้อกันหนาวอีกสักชั้นแม้ว่าท่านจะอยู่ที่แดนเหนือมานานแล้วแต่ว่าเรื่องสุขภาพก็ยังประมาทมิได้” ในเมื่อเป็นฝ่ายถูกใส่ใจแล้วก็ไม่แปลกที่จะดูแลเอาใจใส่อีกฝ่ายหนึ่งกลับเช่นเดียวกันหรือต่อให้สามีไม่ได้แสดงท่าทีอะไรแต่เรื่องละเอียดอ่อนเช่นนี้ภรรยาก็ต้องเป็นฝ่ายจัดการเป็นปกติ

สองสามีภรรยาใช้เวลาเล็กน้อยเพื่อเตรียมร่างกายออกมารับแสงแดดที่แสนอบอุ่นในยามเช้าด้วยกันและเมื่อออกมาจากรถม้าแล้วก็พบว่านายทหารกำลังช่วยแม่นมหมี่ก่อไฟเพื่อต้มข้าวส่วนสาวใช้ทั้งสองคนของฟ่านซีเซียนก็กำลังช่วยกันทำกับข้าวอย่างขันแข็งดูท่าแล้วยามเช้าวันนี้เราจะมีข้าวต้มอุ่นๆ ใส่ทั้งไข่ทั้งหมูสับเป็นอาหารมื้อเช้า

หลังจากจบมื้อเช้าสวีซานจินก็จัดการเรียกประชุมเพื่อวางแผนปรับการเดินทางเสียใหม่เพื่อความรวดเร็วและปลอดภัยของบรรดาสตรีที่เดินทางไกลมาจากเมืองหลวงซึ่งใช้เวลาไม่นานเพียงสองเค่อกว่าๆ แม่นมหมี่และหลานๆ ของนางก็ไปจัดเสื้อผ้ารวมถึงแบ่งอาหารแห้งให้เพียงพอกับวันเดินทางที่เหลือรถม้าที่ใช้จะได้ไม่ต้องบรรทุกสัมภาระหนักจนเกินไปนักซึ่งจะเป็นการเพิ่มความคล่องตัวให้ด้วย

ยิ่งเดินทางเข้าใกล้เขตชายแดนมากขึ้นเท่าไหร่อากาศก็ยิ่งหนาวเย็นมากขึ้นเท่านั้นและระหว่างการเดินทางสองสามวันสุดท้ายฟ่านซีเซียนก็ได้พบเจอกับพายุหิมะลูกเล็กๆ เป็นครั้งแรกแม้จะตื่นตกใจไปบ้างแต่เพราะมีน้องสาวและท่านแม่ทัพอยู่ด้วยจึงช่วยเจือจางความกังวลใจไปได้มากพอสมควร

และในที่สุดก็เดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายโดยก่อนที่จะเดินทางเข้าประตูเมืองไปฟ่านซีเซียนก็ประทับใจจนน้ำตารื้นเหตุเพราะว่าตลอดสองข้างทางมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งมานั่งรอต้อนรับกันช่างสมกับสิ่งที่นางได้ยินจากปากของนายทหารมาตลอดทางว่าชาวบ้านแดนเหนือนั้นรักท่านแม่ทัพสวีซานจินไม่ต่างจากบุตรหลานของตนเอง

“ฮูหยินน้อยเจ้าอยากทักทายพวกเขาสักหน่อยไหม” ในตอนนี้เป็นตอนกลางวันที่ดวงตะวันสาดแสงอุ่นๆ อย่างเต็มที่ในตอนนี้ท่านแม่ทัพกำลังขี่ม้าเคียงข้างไปกับรถม้าของฮูหยินน้อยที่ลดความเร็วลงมากแล้วเพราะประตูเมืองตั้งตระหง่านอยู่ตรงเบื้องหน้านี้นี่เอง

“อยากเจ้าค่ะ แล้วข้าควรทำอย่างไรหรือเจ้าคะ” อีกหนึ่งในวิธีที่การเอาตัวรอดที่ท่องจำมาตั้งแต่ตอนที่อยู่เมืองหลวงว่าการอยู่รอดในดินแดนที่มิใช่บ้านเกิดที่ดีที่สุดคือการผูกมิตรกับคนท้องถิ่นแต่กระนั้นนางก็ยังไม่รู้วิธีการว่าจะต้องทำอย่างไรจึงจะเหมาะสม

“แค่เปิดหน้าต่างรถม้ามาให้พวกเขาเห็นหน้าสักนิดก็พอแล้วล่ะ”

“แต่ข้าคิดว่าตัวเองควรออกไปทักทายทุกคนดีๆ มากกว่านะเจ้าคะ” ความประทับใจแรกนั้นเป็นเรื่องสำคัญและฟ่านซีเซียนก็ไม่อยากทำอะไรแบบขอไปทีดังนั้นการโผล่แค่ใบหน้าไปทักทายชาวบ้านที่ส่วนมากน่าจะเป็นผู้อาวุโสมันไม่น่าจะเพียงพอ

“เช่นนั้นออกมาขี่ม้าด้วยกันดีหรือไม่วันนี้เจ้าทั้งแต่งกายและทำผมอย่างงดงามเหมาะสมแล้วสามารถออกมาพบปะผู้คนได้” เมื่อสามีเป็นคนเอ่ยปากฟ่านซีเซียนจึงมิจำเป็นต้องลังเลนางรีบให้น้องสาวช่วยสำรวจเครื่องแต่งกายให้เรียบร้อยแม้ว่าจะอยู่ระหว่างการเดินทางแต่ในฐานะของฮูหยินของท่านแม่ทัพทิศอุดรฟ่านซีเซียนจึงเตรียมพร้อมอยู่เสมอแม้ว่าการแต่งกายจะไม่ได้หรูหราแต่ก็ยังคงสุภาพและงดงามตามสถานการณ์

ทันทีที่รถม้าหยุดลงชาวบ้านต่างก็พากันกลั้นหายใจด้วยความตื่นเต้นด้วยทราบดีว่าอีกไม่นานก็จะได้พบหน้าฮูหยินน้อยของท่านแม่ทัพผู้เป็นที่รักของชาวบ้านทั่วทั้งเมืองและก็ไม่มีใครต้องผิดหวังเมื่อฮูหยินน้อยผู้แสนบอบบางของท่านแม่ทัพแสดงความเคารพชาวบ้านอย่างนอบน้อมโดยที่ไม่สนใจเลยว่าพวกเขาจะมีสถานะต่ำต้อยกว่าตนเองมากเพียงใด

ภาพที่ท่านแม่ทัพและฮูหยินน้อยเดินทางเข้าเมืองพร้อมกันโดยการนั่งอยู่บนหลังม้าตัวเดียวยิ่งทำให้ชาวบ้านชอบใจกันใหญ่ตลอดเส้นทางต่างก็พากันอวยพรให้ทั้งคู่มีความสุข สุขภาพแข็งแรงและมีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมืองในเร็ววัน