เมื่อผมวิลเลียม แบล็คเวล ถูกอัญเชิญไปต่างโลกเพื่อเป็น 'ผู้กล้า' เพื่อปราบจอมมาร..แต่ปัญหาคือ ผมไม่ได้อยากเป็น!ออกผจญภัยเองยังจะเวิร์กกว่า แล้วปาร์ตี้ของผมนั้นมีแต่ผู้ชายมาดูมิตรภาพระหว่างพวกผมกันเถอะครับ
ผจญภัย,แฟนตาซี,แอคชั่น,นิยายออริจินอล,นักเขียนมือใหม่,williamblackvale,พล็อตสร้างกระแส,Isekai,ต่างโลก,มิตรภาพ,นามปากกาJuiku,ถูกอัญเชิญไปต่างโลกปาร์ตี้ของผมนั้นมีแต่ตัวผู้!,แฟนตาซี,ผจญภัย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เมื่อผมวิลเลียม แบล็คเวล ถูกอัญเชิญไปต่างโลกเพื่อเป็น 'ผู้กล้า' เพื่อปราบจอมมาร..แต่ปัญหาคือ ผมไม่ได้อยากเป็น!ออกผจญภัยเองยังจะเวิร์กกว่า แล้วปาร์ตี้ของผมนั้นมีแต่ผู้ชายมาดูมิตรภาพระหว่างพวกผมกันเถอะครับ
ผู้แต่ง
Juiku
เรื่องย่อ
เรื่อง:ถูกอัญเชิญไปต่างโลกปาร์ตี้ของผมนั้นมีแต่ตัวผู้!
นามปากกา: Juiku
🌍 โลกแห่ง Caerentia
โลกแฟนตาซีต่างมิติที่ "ผู้กล้า" อย่างผมถูกอัญเชิญมาโดยไม่สมัครใจ...
Caerentia คือดินแดนที่เผ่าพันธุ์ต่าง ๆ อาศัยอยู่ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ อมนุษย์ เอลฟ์ แวมไพร์ แวร์วูฟ เงือก และครึ่งคนครึ่งสัตว์ พร้อมเวทมนตร์ ดันเจี้ยน และความลับที่ซ่อนอยู่ทั่วแผ่นดิน โลกแห่งนี้มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่มีนามสกุล เผ่าพันธุ์อื่นมีเพียงแค่ชื่อหรือว่านามเท่านั้น
🏰 ดินแดนสำคัญ:
Aurevest: เมืองหลวงของมนุษย์ ศูนย์กลางการปกครอง
Crimoria: ปราสาทของเผ่าแวมไพร์ ลึกลับและทรงอำนาจ เป็นเมืองของมนุษย์ที่ล่มสลาย
Thalmera: เมืองท่าริมทะเล เป็นเมืองการค้าที่เมืองที่สุด
Fralindor:เกาะน้ำแข็งของเผ่าเอลฟ์มีดันเจี้ยน ขนาดใหญ่ที่สุดและอันตรายที่สุด
Drymoor: ดินแดนแห้งแล้ง เต็มไปด้วยอันตรายและความลับ
Ravenna: ถิ่นของครึ่งคนครึ่งสัตว์ และภูเขาสูง
Neravelle: หมู่เกาะของเผ่าทะเลและเงือก
หมู่เกาะต้องห้าม: ดินแดนที่ยังไม่มีผู้ใดกลับมาเล่าเรื่องราวได้...
💧 แม่น้ำและทะเลสาบ:
Elvaren / Isvalen – แม่น้ำสายหลักของเกาะกลางและ Fralindor
Lake Caelis – ทะเลสาบข้างเมืองหลวง
Lake Nareth – ทะเลสาบทางเหนือ
Lake Selvon – ทะเลสาบทางใต้
🕳️ ดันเจี้ยนหลัก:
Fangs of Vireth
Abyssgale Coves
Labyrinth of Chance
The Scorchvault
Frozen Sanctum
💰 ระบบเงิน:
Solin (โซลิน)
เหรียญทอง / เงิน / ทองแดง
1โซลินทอง=10โซลินเงิน=100โซลินทองแดง
⚔️แรงค์นักผจญภัย
SS S A B C D E F
________________________________________
มีเป้าหมายเขียนให้ได้100บท+
ลงทุกๆ1-3วันต่อ 1บทงับ ใครลองอ่านแล้วฝากคอมเมนต์ฟีดแบ็คนิยายผมหน่อยน้า~
ปล.เป็นนักเขียนมือใหม่ฮะ พึ่งฝึกเขียน ยังไม่มีงบจ้างทำปกเรื่องเลยใช้อันนี้ก่อนทำแผนที่และเขียนในโทรศัพท์สเกลรูปภาพและสไตล์การพิมพ์อาจจะดูแปลกไปบ้างแต่พร้อมรับฟังความคิดเห็น/ติชมได้งับ ถ้าพร้อมแล้วไปลุยกันเลย
Map world
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากค่ำคืนอันแสนสุข อากาศยามเช้าของออเรเวสต์เย็นสบาย แสงแดดอ่อน ๆ ทอดผ่านหลังคาบ้านไม้และกระทบเป็นประกายตามหยดน้ำค้าง ผมพาพวกนิโคและลูก้าออกไปข้างนอกเพื่อยืดเส้นสายและฝึก เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่อ
ทว่ากลับได้ยินเสียงโหวกเหวกดังก้องกังวานของเสียงระฆังจากหอคอยกลางเมือง
“...แก๊ง! แก๊งๆ”
ผมหยุดชะงัก หัวใจเต้นแรงขึ้นเสียงระฆังหรอโอ้นี่มันต้องเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นแน่ๆแต่ในเมืองหลวง..เนี่ยนะ?
“ช่วยด้วย! ฝูงหมูป่าไวเรธบุกเมือง!”
“ปิดประตู! ปิดประตูเร็วเข้า!”
เสียงชาวบ้านร้องโวยวาย วิ่งหนีกันอลหม่าน ฝุ่นฟุ้งคลุ้งไปทั่ว ผมหันไปสบตากับลูก้าและนิโค ทั้งคู่สีหน้าตึงเครียด ก่อนจะมีเสียงประกาศจาก กิลด์นักผจญภัย เวทกระจายเสียงส่องแสงวาบ ก่อนจะมีเสียงของแอนนาเจ้าหน้าที่กิลด์นักผจญภัยดังทั่วทั้งเมือง
“ประกาศจากกิลด์นักผจญภัย! มีฝูงหมูป่าไวเรธจำนวนมากบุกเข้ามาใกล้เขตเมืองหลวง”
“ขอให้ประชาชนทุกคนรีบกลับเข้าที่พักและปิดประตูหน้าต่างโดยทันที!”
“นักผจญภัยทุกท่านที่อยู่ภายในเมือง ได้โปรดมารวมตัวที่กิลด์เพื่อเข้าร่วมปฏิบัติการขับไล่และกำจัดฝูงหมูป่าเคียงบ่าเคียงไหล่กับเหล่าทหารแห่ง ออเรเวสต์โดยด่วน!”
“...รีบไปที่กิลด์กัน” ผมหันไปบอกนิโคและลูก้าก่อนจะเริ่มวิ่งไป
“ขอรับนายท่าน” ลูก้าตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ส่วนนิโคไม่พูดอะไร แต่สายตาคมที่เปล่งประกายก็บอกชัดเจนว่าเขาพร้อมเต็มที่
พวกเราเร่งฝีเท้ากันฝ่าฝูงชน จนมาถึงที่กิลด์ เมื่อมาถึงผมเห็นเหล่านักผจญภัยมากมายที่มารวมตัวกัน พวกเขาดูกำลังถกเถียงอะไรกันอยู่ รายล้อมรอบตัวหญิงสาวที่ผมคุณเคยเธอคนนั้นคือแอนนานั้นเอง ผมเดินผ่านฝูงชนเพื่อเข้าไปหาเธอ
“...นี่ แอนนา เกิดอะไรขึ้นหรอครับ? ”
เหล่าเจ้าหน้าที่กิลด์นักผจญภัยกำลังยุ่งอยู่กับการสนทนาอย่างชลมุนกับฝูงชน แอนนาเธอหันมาเมื่อผมเรียกหา
“ ...คุณแบล็กเวล มาได้เวลาพอดีเลยเราได้รับรายงานมา เหมือนว่าหมูป่าตัวที่คุณกำจัดไปเมื่อวาน มันจะเป็นตัวเมียของฝูงพวกที่คลุ้มคลั่งที่มาบุกในวันนี้ค่ะ ”
ผมยกมือเกาหัว โอ้วฟังดูเหมือนต้นเหตุจะเป็นเพราะเราเลยแฮะ ผมขำแห้งๆพร้อมฟังเธอพูดต่อ
“ ส่วนนักผจญภัยที่มารวมตัวกัน บางก็เรียกร้องผลตอบแทนในครั้งนี้ค่ะ บ้างก็ไม่อยากเข้าร่วมภารกิจในครั้งนี้ ”
“....โชคร้ายที่ตอนนี้ปาร์ตี้ของผู้กล้า และนักผจญภัยแรงค์สูง ออกไปทำภารกิจที่นอกเมืองกันหมดเลยค่ะ”
งี้นี่เองคนพวกนั้นส่วนใหญ่เป็นพวกนักผจญภัยแรงค์ต่ำและ กำลังเรียกร้องเงินรางวัลกับทางกิลด์สินะ ปาร์ตี้ผู้กล้าคินงั้นหรอ บ้าจริงหมอนั้นเอาการเอางานก็ว่าที่คิดแฮะ
“เข้าใจแล้วครับพวกผมจะเข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ งั้นพวกผมล่วงหน้าไปกันก่อนนะครับ” ทำไงได้ล่ะเนอะยังไงต้นเหตุนี้เราก็มีส่วนเกี่ยวข้องนี่น่ะ
“..เอ่อ...แต่ว่าดิฉันไม่สามารถออกรางวัลให้แก่คุณได้นะคะ มีเพียงกิลด์มาสเตอร์เท่านั้นที่สามารถทำได้ ตอนนี้เขาหายไปไหนก็ไม่รู้...”
ก่อนที่เธอจะทันได้พูดจบผมก็ตอบเธอด้วยน้ำเสียงเรียบสั้น
“ไม่เป็นไรครับ”
ผมหันไปพูดกับลูก้าและนิโค
“ป่ะ รีบไปกันเถอะ”
พวกเราวิ่งผ่านซอกซอยไปทั่วเมือง ช่วยเหลือชาวบ้านบางคนเล็กน้อย พร้อมทั้งกำจัดหมูป่าบางตัวไปบ้าง ผมหอบหายใจอย่างแรงเล็กน้อย
“..แฮก แฮก! ไม่จบไม่สิ้นเลย” ผมสบถออกมาเบาๆ
เหนื่อยเหมือนกันแฮะ เราต้องวางแผนอะไรสักหน่อยแล้ว ผมหันไปหานิโคและลูก้า
“..นี่! พวกนายแยกกันไป เราต้องต้อนพวกมันไปอยู่รวมกันตรงกลางจะได้ขับไล่พวกมันไปทีเดียว”
ทั้งสองพยักหน้าให้ผม เมื่อถึงแยกข้างหน้าภายในเมืองที่มีตรอกซอยยั้วเยี้ย เราแยกกันออกเป็นสามทาง
ผมวิ่งมาได้ระยะนึง ผมสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ ตลอดทางที่ผมมาไม่มีวี่แววของฝูงหมูป่าเลย หรือแม้กระทั่งทหารสักคน เมื่อผมมาจนสุดทาง ออกมาจากซอยที่ผมอยู่ ข้างหน้าเป็นลานชุมชนพื้นที่กว้างพอประมาณ
มีร่างมหึมาขนดำขลับ ดวงตาสีแดงก่ำ เขี้ยวแหลมโผล่พ้นริมฝีปาก เสียงกีบมันกระแทกพื้นดัง ตึง ๆ ๆ เหมือนสายฟ้าฟาดกลางดิน ขนาดของมันใหญ่กว่าตัวเมื่อวานเท่าตัวเลย ตามลำตัวของมันมีร่องรอยจากการผ่านสมรภูมิมามากมาย
“โว้ แกเองสินะจ่าฝูง”
ผมชักดาบแอสทรีเอลล์ออกมาพร้อมทั้งตั้งการ์ด ผมมองดูมันพร้อมทั้งคิดคำนวณในหัว เราจะทำยังไงดี เราคนเดียวจะสู้มั้ยไหวมั้ยนะ ลองดูสกิลใหม่หน่อยแล้วกัน ผมคำรามออกไปอย่างมุ่งมั่น
“Blade Resonance…”
ทันใดนั้น คมดาบสั่นสะท้อนออกเสียงใสกังวาน วี๊งงงง! เหมือนเครื่องสายโลหะดีดขึ้นในอากาศ ร่างกายผมรู้สึกเหมือนทุกกล้ามเนื้อถูกปรับเข้าจังหวะเดียวกับดาบ ลมหายใจกลายเป็นจังหวะสั้นยาวที่พอดีกับการก้าวเท้าทุกการเคลื่อนไหวราวกับถูกกำหนดเอาไว้แล้วล่วงหน้า แม้แต่แรงกดดันจากหมูป่าไวเรธก็ไม่ทำให้สมาธิผมสั่นคลอน เหมือนว่าสกิลนี้จะเป็นสกิลเสริมบัพร่างกายแฮะ
“เอาล่ะ… มาลองของจริงกันหน่อย”
หมูป่าคำรามกระโจนใส่ ผมพลิกตัวเบี่ยงหลบกีบมหึมาด้วยจังหวะเฉียดฉิว ปลายดาบสะบัดฟันสวน
ฉัวะ! เสียงโลหะสั่นสะท้อนดังกังวานออกไปเป็นคลื่นกระแทกใส่ผิวหนังหนา ๆ ของมัน หมูป่าถอยกรูด เลือดไหลริบจากบาดแผล แม้เพียงรอยเดียว แต่คมดาบเหมือนจะสั่นสะท้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
ผมหอบหายใจแต่ยิ้มบาง ๆ ออกมา
“เข้าใจแล้ว…นี่มันจังหวะของเราจังหวะของดาบ”
ผมก้าวเข้าหาอีกครั้ง ทุกการฟันสามครั้งคลื่นสะท้อนระเบิดออก สะบัดฝุ่นและใบไม้ปลิวว่อน หมูป่าไวเรธเริ่มชะงักงัน ก้าวถอยหนีแทนที่จะบุก มันถอยหลังแล้ววิ่งหนีสุดกำลัง ผมรีบวิ่งตามมันไปติดๆ
ทันใดนั้นเอง มีลูกศรธนูปริศนาหุ้มด้วยสายฟ้าพุ่งเข้ามาผ่านข้างผมไปปักที่ขาของมันทั้งสี่ข้างอย่างแม่นยำ
ฟิ้ว! ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บๆ!
ใครกันลูก้าหรอ! ไม่สินี่มันไม่ใช่เขาใครกันน่ะ?
เสียงตะโกนปริศนาจากผู้ที่ปล่อยศรเมื่อครู่ ดังก้องด้วยเสียงกร้าว
“..จังหวะนี่แหละ ปิดฉากมันเลย!”
ไม่นานหมูป่าตัวนั้นร้องออกมา ก๊ากก! จากนั้นก็ทรุดลงกับพื้นเพราะฤทธิ์ชาของลูกดอกสายฟ้า ผมไม่รอช้า
“Aetherial Edge !”
ฉับ!
ร่างของมันกองลงกับพื้น ผมยกแอสทรีเอลล์ขึ้นตั้งตรง สูดหายใจลึก เสียงเรโซแนนซ์เงียบลง ทิ้งไว้เพียงความสงัดและสายลมที่พัดผ่าน ผมหอบหายใจอย่างแรง และความเหนื่อยล้าเริ่มครอบงำ
“แฮก! แฮก! ” เหงื่อท่วมหน้าผาก สกิลนี้มันกินพลังมากเกินไปมั้ย
[ ระบบ:เลเวลของคุณเพิ่มขึ้นเป็นเลเวลสิบสอง ]
นิโคกับลูก้าวิ่งเข้ามาหา ใบหน้าเต็มไปด้วยความทึ่ง
“นายท่าน…เมื่อกี้มัน…”
“สกิลใหม่…Blade Resonance และก็ดูเหมือนว่าเจ้านี้จะเป็นจ่าฝูง” ผมยิ้มจาง ๆ พลางเก็บดาบเข้าฝัก
“นี่แล้วฝูงหมูป่าล่ะ”
ครืน! ครืน! ครืน!
ก่อนที่ผมจะได้ถามจบ พื้นที่ใต้เท้าก็เริ่มสั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว ผมมองไปข้างหน้าจากทางที่นิโคและลูก้าวิ่งมา มีควันโขมงลอยขึ้นมาคลุ้งไปในอากาศ มันคือฝูงหมูป่าไวเรธจำนวนมากนั้นเอง
“..อ๋ออยู่นั้นเองสินะ แฮะๆ ” ผมพูดออกมาอย่างติดตลกและขำแห้งๆ
“ เจ้ายังจะมาหัวเราะอีก จะเอายังไงต่อ แผนของเจ้าเองเนี่ยต้อนพวกมันมารวมกัน จำนวนของพวกมันเยอะเกินไป”
นิโคพูดขึ้นมาอย่างหัวเสียและกระฟัดกระเฟียดแบบไม่พอใจ ส่วนลูก้ามองหน้าผมราวกับกำลังถามว่าทำยังไงต่อดี
เสียงพูดปริศนาที่ได้ยินเมื่อครู่ดังขึ้นอีกครั้งจากข้างหลัง ผมสะดุ้งเล็กน้อย ผมลืมไปเลยว่าก่อนหน้านี้ ผมพึ่งถูกใครบางคนช่วยสกัดเจ้าจ่าฝูงตัวตะกี้ไป
“เฮ้ย! ฝีมือไม่เบาเลยนี่ หน้าใหม่ ”
เสียงของเขานุ่มและเป็นกันเองผมหันไปมอง เขาเป็นชายหนุ่มอายุราวๆ ไม่เกินสามสิบ ผมสั้นสีฟ้า ตัวสูงใส่ชุดสีเงินคล้ายอัศวิน ในมือถือคันธนูที่ดูเท่เอามากๆ อืมเขาคนนี้ต้องเป็นนักผจญภัยแรงค์สูงแน่ๆ
“...เอ่อครับ ผมรู้นะความว่าเราควรจะทักทายกัน แต่ก่อนอื่นเรามาช่วยกันขับไล่พวกมันก่อนดีกว่ามั้ยครับ! ”
เขายักไหล่และยิ้มบางๆ
“อืม โอเคฟังดูมีเหตุผล”
พวกเราทั้งสี่ตั้งท่าเตรียมสู้ ผมชักแอสทรีเอลล์ออกมาอีกครั้ง นิโคกางกรงเล็บแบล็คแฟง คลอของเขา ส่วนลูก้ากับชายคนนั้นก็ง้างคันธนูรอ
ก่อนจะเริ่มบุกเสียงแตรศึกใหญ่ก็ดังสนั่นก้องไปทั่วเมือง…