"วายุฉัน" เกสรพูดไม่ออก วายุยิ้ม ในที่สุดก็ยอมโผล่หัว จึงแกล้งพูดออกไป "แก๊งคอลเซ็นเตอร์เหรอ ไปหลอกที่อื่นไป" วายุวางหูทันที เกสรตกใจโทรเข้าไปอีก วายุไม่สนใจแต่ไปนอนข้างลูก "พ่อจะทำให้แม่ศิโรราบให้ได้ฐานพรากเราพ่อลูก" เกสรโทรเข้าไปอีก" นายจะเอาลูกไปไม่ได้" วายุถาม "ใครมีปัญหา" "ฉันจะไปเอาลูกคืน" เกสรโกรธแค้น" "ใครกล้าลองดีกับผมก็เชิญ ขืนบุกรุกเข้ามาผมแจ้งจับหมดไม่มีกรณียกเว้น"
รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ครอบครัว,เรื่องสั้น,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
โทษฐานของการรู้จัก"วายุฉัน" เกสรพูดไม่ออก วายุยิ้ม ในที่สุดก็ยอมโผล่หัว จึงแกล้งพูดออกไป "แก๊งคอลเซ็นเตอร์เหรอ ไปหลอกที่อื่นไป" วายุวางหูทันที เกสรตกใจโทรเข้าไปอีก วายุไม่สนใจแต่ไปนอนข้างลูก "พ่อจะทำให้แม่ศิโรราบให้ได้ฐานพรากเราพ่อลูก" เกสรโทรเข้าไปอีก" นายจะเอาลูกไปไม่ได้" วายุถาม "ใครมีปัญหา" "ฉันจะไปเอาลูกคืน" เกสรโกรธแค้น" "ใครกล้าลองดีกับผมก็เชิญ ขืนบุกรุกเข้ามาผมแจ้งจับหมดไม่มีกรณียกเว้น"
เช้าวันจันทร์อากาศสดชื่น เกสรออกมาจากบ้านด้วยชุดทำงาน ทักแม่เสียงใส “แม่ใครมาเปลี่ยนหลอดไฟให้เรา แล้วก็ปลั๊กไฟอันใหม่”สงสัยเพราะเมื่อวานยังเห็นของเก่าอยู่
“วายุไง มาเปลี่ยนตอนที่เอ็งไปซื้อปูนกินหมากให้แม่” แม่แก้วนั่งที่แคร่หน้าบ้าน ข้างๆแม่แก้วนอกจากจะมีตะกร้าหมากแล้ว ยังมีขันเงินใส่ข้าวพร้อมกับข้าวที่ห่อใบตอง รอพระมาบิณฑบาต เช้านี้นางใส่เสื้อคอกระเช้าสีขาวใหม่ ส่วนผ้าถุงเป็นผ้าถุงไหมที่มีชื่อของท้องถิ่น
เกสรยิ้มเบาๆ ผู้ชายคนนี้อีกแล้วหรือนี่ “แม่ ไปทำงานนะ”บอกแม่แล้วใส่เสื้อคลุมตัวเดิม หยิบหมวกกันน็อคที่อยู่ในตะกร้าหน้ารถออกมาสวม
เคลื่อนรถออกจากบ้าน อารมณ์ของเกสรตอนนี้ช่างมีความสุขนัก
เพราะผู้ชายที่ชื่อวายุหรือเปล่านะ แต่อีกใจคิด ไม่มีความเป็นไปได้เลย
ระหว่างเขาและเธอ เพราะอีกคนเป็นหม้ายแถมไม่มีลูก ส่วนอีกคนทางครอบครัวหมายมั่นปั้นมือจะให้เขามีทายาท แค่ข้อแรกก็ตกไป นอกจากนั้นหล่ะ อายุก็มากกว่าเขาตั้งห้าปี ไม่นับฐานะอีกไม่รู้จะต่างกันเท่าไหร่
ยิ่งหน้าตาไม่ต้องพูดถึงเขาเลือกใครก็ได้ แต่ไม่ไช่เธอแน่นอน
เพราะฉะนั้นเลิกคิดเลยเถิดกับเขาได้แล้วเกสรเอ๋ย เตือนตัวเอง
แค่เคยรู้จักเขาเท่านั้น อย่าเสียเวลาคิดอะไรกับผู้ชายคนนี้อีกเลย
ความเป็นไปได้แทบเป็นศูนย์
ที่โรงอาหารในโรงงาน สามสาวในชุดฟอร์มของโรงงานกำลังกินข้าว แต่ละคนก็มีแก้วกาแฟเย็นวางอยู่ตรงหน้า
“ว่าจะออกรถใหม่ จะเอาคันเก่าไปเทิร์น หวันพอรู้ไหมว่าจะได้เท่าไหร่”เกสรมองหน้าดาหวัน
“แป้บหนึ่ง โทรถามเพื่อนก่อน รถพี่เก๋ปีไหนนะ”เกสรบอกปีที่ออกรถ ดาหวันประสานงานกับเพื่อนสักครู่แล้วหันมาบอกเกสร “น่าจะได้ไม่เกินสองพัน แต่พี่เก๋ต้องเอารถไปให้เขาดูก่อนนะ ดีแล้วที่พี่เก๋คิดจะออกคันใหม่ ทนใช้ของเก่าอยู่ได้”ดาหวันสนับสนุน
“เอาสีที่ตรงข้ามกับปัจจุบันนะแก” นิดนภาแสดงความคิดเห็น
ดาหวันเห็นด้วย
เย็นวันนั้นเกสรได้ปรึกษาแม่เรื่องออกรถใหม่ ซึ่งแม่ก็เห็นดีด้วย
และพร้อมช่วยออกเงินสนับสนุน เกสรซึ้งใจวันก่อนให้แม่หมื่นหนึ่ง
แต่ถ้าวันไหนไปออกรถแม่จะช่วยหมื่นห้า
สามวันต่อมาขณะที่เกสรกำลังจะออกจากบ้านไปทำงาน
“พี่ เก๋ มารับหนูด้วย รอพี่เก๋ที่ร้านอีตาช่างขี้เมานะ รถยางแตก”
เสียงดาหวันมาตามสาย
“พี่จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”วางหูเอาโทรศัพท์ใส่กระเป๋าจากนั้น บอกลาแม่ไปทำงาน ใกล้จะถึงที่นัดหมายกับดาหวันจู่ๆ ทำไมรถมันสั่น
หยุดรถข้างทางแล้วลงมาดู “ยางล้อหน้าแตกหรือนี่ ทำไงดี”
ตัดสินใจโทรไปบอกดาหวัน
“เราสองคนน่าจะไปทำงานสาย เดี๋ยวจะให้แม่อีตาช่างปลุกลูกชายดู
ถ้าเขาตื่นมาซ่อมเราพอมีความหวัง แค่นี้ก่อนนะพี่เก๋”ดาหวันวางหู
เกสรหันรีหันขวางจะจูงหรือว่าจะบดดี
“เป็นไรอีก”เสียงกับกลิ่นบุหรี่มาพร้อมกัน
เกสรชี้ให้วายุดูที่ล้อหน้า รู้สึกอุ่นใจที่เจอเขา
วันนี้เขาใส่หมวกกันน็อคใบเดิม เสื้อยืดสีเทา กางเกงยีนส์สีเข้ม
รองเท้าผ้าใบคู่เดิม วายุบอกให้เกสรขึ้นรถ จากนั้นเขาใช้เท้าข้างหนึ่งถีบยันตรงท่อรถของเกสร เพื่อจะไปร้านซ่อมที่อยู่ไม่ไกล ระหว่างนั้นวายุพูด
กับเธอว่า “บอกแล้วว่าขายให้ผม รถเก่าก็แบบนี้แหละ สามวันดีสี่วันไข้”
เกสรหันมาบอกวายุ “วันหลังค่อยคุย”หมายถึงราคารถ
วายุและเกสรไปถึงร้าน ทั้งสองเห็นช่างกำลังขะมักเขม้นกับการ
ปะยาง โดยมีดาหวันยืนคุมอยู่ แล้วใกล้ตัวช่างมีขวดเครื่องดื่มชูกำลัง
วายุลงจากรถ แล้วมาชะโงกมองช่าง ดาหวันชักอยากเห็นหน้าวายุ
แต่เขาไม่ยอมเปิดหมวก
พอดีพ่อของช่างมาจากธุระเห็นสาวโรงงานกำลังรอรถ และเห็นสภาพลูกชายที่กำลังซ่อมรถ น่าจะไม่เสร็จง่ายนัก
“ชัย เอารถเราไปส่งหวันก่อนไหม”
นราชัยวัย 26 ช่างซ่อมอเตอร์ไซค์ในหมู่บ้าน ถึงตัวดำแต่ก็หล่อเหลาเอาการอยู่ ชายหนุ่มรู้สึกดีใจมากที่พ่อพูดแบบนี้่ เขาพยายามหาโอกาสได้ใกล้ชิดดาหวัน วันนี้ความฝันคงเป็นจริง
“ดีเหมือนกันนะชัย สายมากแล้วด้วย”วายุสนับสนุน
ในที่สุดดาหวันจำเป็นต้องให้นราชัยไปส่ง ระหว่างซ้อนท้ายเขาไปนั้น ดาหวันรู้สึกเหมือนดมกลิ่นเหล้าตลอดทาง เวรกรรมอะไรเนี่ย เธอทำหน้าหงุดหงิด ไม่พอใจแต่ไม่มีใครเห็นเพราะใส่หมวกกันน็อค
นราชัยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่มีโอกาสได้มาส่งนางในฝัน อยากจะแช่งให้รถมอเตอร์ไซค์ของเธอเสียทุกวัน
ส่วนเกสรที่ได้ซ้อนท้ายไปทำงานกับวายุอีกครั้ง เธอคิดในใจสงสัยลืมตาตื่นมือวายุควานหาซองบุหรี่ก่อนทำอย่างอื่นแน่เลย ชาติที่แล้วเธอทำปาบกับอะไร ชาตินี้กลิ่นบุหรี่จึงวนเวียน ว่าแล้วก็ด่าเขาในใจ นายนี่หล่อแต่รูปจูบไม่หอม
วายุคิดในใจ ได้เจอกันเร็วเกินคาด ไม่ต้องรอให้ถึงวันหยุด ถ้าเป็นเมื่อก่อนผู้หญิงคนอื่นโดนเขาพาไปต่อไหนแล้ว แต่สำหรับเกสรเขารออะไร
สองหนุ่มส่งสองสาวที่หน้าโรงงานแล้วเวียนรถมาเจอกันที่หน้าทางเข้าอู่ที่ทำงานของวายุ ทั้งสองคนจอดรถคุยกัน
“พี่ทำงานที่นี่หรือ”นราชัยมองอู่ซ่อมรถที่อยู่ตรงหน้าจากนั้นก็เปิดเบาะแล้วหยิบขวดเครื่องดื่มชูกำลังมากระดก
วายุมองรถ 4 จังหวะคันแดงของนราชัยก่อนจะตอบ “ใช่”จากนั้นก็ควานหาบุหรี่ที่อยู่ในกระเป๋าคาดอก จากนั้นก็ดูดปุ๋ยสบายอารมณ์
นราชัยมองวายุหน้าตาหล่อมาก แต่เป็นสิงห์อมควัน
วายุมองนราชัยชายร่างผอมดำ หน้าตาดี ใส่เสื้อสีเทา น่าจะเป็นเสื้อแถมตอนซื้อนํ้ามันเครื่อง กางเกงยีนส์ดำเปื้อนคราบ ท่าทางจะเป็นสหายสุรา
“เย็นนี้เจอกันหน้าโรงงานนะพี่”นราชัยบอกวายุหลังจากกระดกหมดขวดแล้ว จากนั้นบึ่งรถออกทันที วายุพยักหน้าพอบุหรี่หมดมวน เข้าสู่โหมดการทำงาน
เวียนมาถึงวันหยุดอีกรอบราวสิบโมงเช้า แสงแดดจ้า ท้องฟ้าสดใส อากาศเริ่มร้อน เกสรหลังจากทำงานในบ้านเสร็จ ก็มากวาดใบใม้บริเวณหน้าบ้าน
และที่เพิงพัก งานเรียบร้อยแล้วจากนั้นอาบนํ้าแต่งตัว เดินไปหาแม่ที่อยู่หลังบ้าน ซึ่งแม่กำลังเก็บใบพลูจำนวนมาก เพราะมีแม่ค้าได้สั่งเอาไว้
“แม่ หิวข้าวหรือยัง”มองดูแม่เก็บใบพลูอย่าตั้งใจ แม่เก็บใส่กระด้งที่สานจากใม้ไผ่ แต่มีใบกล้วยรองกระด้งอีกที แม่ใส่เสื้อคอกระเช้าสีขาวขุ่น นุ่งผ้าถุงลายไทย รองเท้าคู่เดิม
“กินก่อนแม่เลย สงสัยซดกาแฟที่เอ็งชงให้ สายป่านนี้แล้วแม่ยังไม่หิวเลย”
จากนั้นแม่เก็บใบพลูต่อ
“ยังไม่หิวเหมือนกันแม่ ฉันช่วยเก็บนะ”ทำท่าจะเด็ดใบพลู แม่ร้องห้าม
บอกว่าเธอดูใบพลูไม่เป็น
“วันหยุดพักบ้างเถอะ เหนื่อยมาทั้งอาทิตย์แล้ว นั่นใคร ใช่รถวายุหรือเปล่า”แม่มองเห็นรถยนต์สีดำกำลังเลี้ยวเข้ามาในบริเวณบ้านแล้วจอดสนิทข้างเพิงพัก
เกสรใจเต้น คาดไม่ถึงว่าวายุจะมาอีก จะเดินมาหาก็ยังไงอยู่ เลยนั่งมองแม่เก็บใบพลู
วายุเดินมาหาสองแม่ลูก “สวัสดีครับป้า วันนี้เก็บเยอะจัง”มองดูใบพลูที่อยู่ในกระด้ง แล้วมองดูเกสรที่นั่งจ้องใบพลูราวกับว่าไม่สนใจการมาของเขา เสื้อยืดแขนสั้นสีกรม กับผ้าถุงตลาดสีชมพูมีลวดลายดอกไม้
รองเท้าคู่เดิม สิ่งที่วายุมักเห็นคือเกสรใส่ผ้าถุงทับเสื้อ
แม่แก้วรับไหว้วายุ “วันนี้แม่ค้าจะมาเอาราวเที่ยงๆ แล้ววายุหล่ะ”
แม่แก้วเก็บใบพลูต่อ
“วันนี้ผมเป็นพ่อค้าครับ จะมารับซื้อรถเก่า ป้าพอรู้ไหมว่ามีใครแถวนี้สนใจจะขายให้ผมไหม”ส่งสายตาจ้องเกสรที่นั่งก้มหน้าอยู่
คราวนี้เกสรเงยหน้าขึ้นปะทะสายตาเขาอย่างจัง ดูแววตาคมซึ้ง
ที่เขามองเธอสิ หากใครไม่มีความรู้สึกก็บ้าแล้ว รีบหันหน้าออกทันที
“ว่าไงครับป้า พอจะมีไหม”ปากถามแม่แต่สายตาส่งมาที่ลูก
“ถามเก๋ดู เก๋ พาวายุไปนั่งสิ หานํ้าให้กินด้วย ตามสบายนะวายุ”
ป้าแก้วเก็บใบพลูต่อ
เกสรเดินไปเอานํ้าออกมาให้วายุที่นั่งรอในเปล รู้สึกทึ่งเพราะเขาใส่เสื้อสีเดียวกันกับเธอ เพียงแต่ว่าเขาคอวี ส่วนเธอคอกลม กระเป๋าคาดอกใบเดิม กางเกงยีนส์สีขาวซีด รองเท้าแตะคู่เดิมที่เห็นประจำเวลามาที่นี่ มาถึงยื่นนํ้าขวดเย็นๆให้โดยไม่พูดอะไร
วายุขำกริยาที่เกสรทำ “พูดกับผมบ้างก็ได้ หรือกลัวดอกพิกุลจะร่วง เปิดนํ้าให้กินหน่อย”ส่งนํ้าขวดกลับให้
เกสรคว้านํ้าขวดจากเขาแล้วเปิดส่งกลับให้คืน “ให้ป้อนด้วยไหม”ทำหน้าทำเสียงไม่พอใจ
วายุยิ้มให้ “พูดได้นี่ ตกใจหมดนึกว่าไม่ได้เจอกันสี่ห้าวัน กลับเป็นใบ้ซะแล้ว”กระดกนํ้าเกือบหมดขวด
เกสรแก้เขินนั่งบนแคร่มองไปทางอื่น ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ
“เก๋ มองหน้าผมหน่อย โกรธอะไรหรือเปล่า แค่เก๋ บอกว่าจะขายหรือไม่ขายเท่านั้น”
เกสรหันมามองชายอยู่ในเปล ที่ทำเสียงอ่อนใส่ “ขายแพง กลัวนายสู้
ราคาไม่ไหว”
“ลองบอกมาก่อน ถ้ากำลังทรัพย์พอ ”มองตรงอย่างตั้งใจ
เกสรรีบหลบสายตาเขา “สองพัน ต่อรองกันได้ สักร้อยสองร้อย”
“ผมให้แปดพัน”วายุไม่ต่อรอง
“พูดเล่นน่าวายุ นายไม่เห็นเหรอ สภาพรถ”เกสรไม่เชื่อคำพูดของเขา
“ผมพูดจริง”ล้วงเงินสดที่อยู่ในกระเป๋าคาดอก นับแล้วส่งให้เกสรแปดพัน
“ฉันยังไม่รับ ให้ฉันได้รถคันใหม่ก่อนนะ”เกสรไม่รับเงิน
วายุเดินไปหาแม่แก้วที่ยังเก็บใบพลูอยู่ เกสรเห็นคุยกับแม่ สักครู่เห็นแม่เดินมาตามด้วยวายุที่ถือกระด้งใส่ใบพลู จากนั้นเขาวางกระด้งบนแคร่
แล้วไปนั่งในเปลรอแม่แก้วพูดกับลูกสาว
“เก๋ ไปออกรถวันนี้ก็ได้ ออกวันไหนก็เหมือนกัน เอาที่เราสะดวกนะ แม่จะเหมารถวายุให้ เราก็พอรู้จักกันแล้วนี่” เกสรตรึกตรองดูสักครู่ อาจจะจริงเหมือนแม่พูด จะออกวันไหนสุดท้ายก็ต้องออกอยู่ดี อยากให้แม่ไปด้วย
แต่แม่บอกนัดแม่ค้าที่จะมารับใบพลูไว้แล้ว เกสรเข้าบ้านเปลี่ยนจากผ้าถุงเป็นกางเกงยีนส์สีเข้ม และรองเท้าแตะคีบสีดำที่เธอสวมสำหรับข้าวนอกเท่านั้น เงินพร้อม ทุกอย่างพร้อม วายุและเกสรออกเดินทาง
ที่ร้านขายรถมอเตอร์ไซค์ในตัวอำเภอ วายุถามเกสรว่าจะเอารถแบบไหน เกสรจะเอาแบบวายุเพียงแต่เปลี่ยนเป็นสีแดงเท่านั้น ไม่นาน
ทุกอย่างเรียบร้อย เวฟรุ่นล่าสุดสีแดงใหม่เอี่ยม ได้ขึ้นรถกระบะของวายุ
“เอาอะไรไปฝากแม่ไหม”วายุหมายถึงของกิน
“เอาไว้ก่อน แต่ตอนนี้ฉันอยากได้จักรยานไว้ขี่เล่นแถวบ้าน”เกสรมองดูไปทั่วเผื่อมีร้านจักรยานแถวนี้
วายุวนรถหาร้านขายจักรยาน ไม่นานจักรยานคันแดงได้คู่รถมอเตอร์ไซค์บนรถกระบะ
“จะถูกจะแพงขอแดงไว้ก่อน”เกสรบอกวายุ
“รวยนะคุณนายออกรถวันเดียวสองคัน”วายุหยอกเย้า
“คนจะรวยช่วยไม่ได้”เกทับวายุ
ที่ปั๊มแห่งหนึ่งหลังจากที่วายุเติมนํ้ามันรถเสร็จ จากนั้นก็ขับ
มาจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อ
วายุขอตัวเข้าร้าน ส่วนเกสรรออยู่ที่รถ เขากลับออกมาพร้อมนํ้าและของกิน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขายื่นให้เธอ “เห็นดมบ่อย”
เกสรยิ้มกว้างมองหน้าวายุจากนั้นแกะกระดาษเอายาดมใหม่มาสูดทันที
แล้วทำท่าสดชื่น แล้วเอาส่วนที่เป็นนํ้ามาป้ายจมูก ยิ้มให้วายุอีกครั้ง
“ขอบคุณมากเลยนะ แต่ฉันจะไม่ซื้อบุหรี่ให้หรอกนะ ถึงเห็นนายสูบ
บ่อยก็ตาม”
วายุยิ้มกับคำพูดของเกสร “มันเป็นยังไงทำไมทั้งสูดทั้งดม”ชายหนุ่มรู้สึกดีที่ผู้หญิงตรงหน้าชอบในสิ่งที่เขาซื้อให้แม้ราคาไม่กี่บาทก็ตาม
เกสรคว้าข้อมือวายุจากนั้น “แบมือออก”วายุทำตามอย่างง่ายดาย
แล้วจับนิ้วชี้เขาไว้จิ้มส่วนที่เป็นนํ้าของยาดมใส่สี่ห้าที
“ป้ายจมูกดูสิ”เงยมองร่างสูงใหญ่รอว่าเขาจะทำตามที่บอกหรือไม่
วายุยกนิ้วชี้มาป้ายจมูก เขาพยักหน้าประมาณว่าพอได้ หอมสดชื่น
เกสรยิ้มให้เขาอีกครั้ง “แต่ตอนนี้ฉันหิวแล้ว เมื่อเช้าทำงานบ้านเพลินลืมกิน”สอดส่องสายตาหาของกิน
“โน่นไง”วายุชี้ไปอีกฝั่งที่เขากับเธอยืนอยู่ เป็นตึกแถวชั้นเดียวมีหลาย
คูหามีร้านอาหารประมาณห้าร้าน เป็นร้านอาหารที่อยู่ในบริเวณปั๊ม
“เลือกเลยจะกินร้านไหน”วายุบอกขณะเดินใกล้ถึง
เกสรสั่งข้าวมันไก่แล้วนั่งรอ วายุสั่งก๋วยเตี๋ยวไก่แล้วเดินสำรวจร้านอื่น
แต่ก่อนจะไปเขาบอกให้เกสรกินก่อนไม่ต้องรอ
วายุกลับมาพร้อมของกินหลากหลาย
“ถุงนี้ฝากยายกับป้า ส่วนถุงนี้ให้ป้าแก้ว”คำพูดของเขาทำให้เธอซึ้งใจอยู่กับอดีตผัวมานานไม่เคยได้ยินแบบนี้
เกสรกินข้าวหมดจาน แต่บอกวายุ “อยากกินลูกชิ้น”
ทั้งคู่ออกมาที่ร้านลูกชิ้นทอด ซื่งอยู่ใกล้ๆร้านข้าวมันไก่
จากนั้นพากันมานั่งกินที่สวนเล็กๆ ซื่งอยู่ในบริเวณปั๊ม
เกสรนั่งที่ม้าหินอ่อน วายุถามเล่นๆว่าจะกินอะไรอีก
เกสรอยากกินไอศรีมโคน เดือดร้อนวายุต้องเข้าร้านสะดวกซื้ออีกรอบ
วายุนั่งมองเกสรกินลูกชิ้นจากนั้นต่อด้วยไอศกรีม
“นี่นายคงว่า ตายอดตายอยากมาจากไหนไช่ไหม”ทำหน้าไม่สนใจใส่วายุ
แล้วกินต่อ
วายุยิ้ม “กินต่อที่รถนะ ป้าแก้วรอแล้ว”รวบของจะถือ
เกสรขัด “ไม่อยากให้รถนายเปื้อน รอก่อนนะใกล้หมดแล้ว”รีบกินไอศกรีมที่เหลืออย่างเร่งรีบ
ชายหนุ่มรู้สึกเอ็นดูในท่าทางของหญิงสาว
ขณะเดินไปที่รถวายุเดินนำ แต่เกสรที่ตามไม่กี่ก้าวเหลือบเห็นแผงขายลอตเตอรี่ที่อยู่แถวบริเวณนั้น มองอีกทีนำหน้าไปจะถึงรถแล้ว อารามรีบ เธอจับชายเสื้อเขาเบาๆ
 บังเอิญนิคมมาซื้อนมให้ลูก แล้วแวะเติมนํ้ามัน เห็นภาพพอดี เขาคิดในใจ
เกสรหลงคนใหม่ขนาดนี้เชียวหรือ ขนาดอยู่ในปั๊มยังกล้าโอบ
เช้าวันจันทร์อากาศสดชื่น เกสรออกมาจากบ้านด้วยชุดทำงาน ทักแม่เสียงใส “แม่ใครมาเปลี่ยนหลอดไฟให้เรา แล้วก็ปลั๊กไฟอันใหม่”สงสัยเพราะเมื่อวานยังเห็นของเก่าอยู่
“วายุไง มาเปลี่ยนตอนที่เอ็งไปซื้อปูนกินหมากให้แม่” แม่แก้วนั่งที่แคร่หน้าบ้าน ข้างๆแม่แก้วนอกจากจะมีตะกร้าหมากแล้ว ยังมีขันเงินใส่ข้าวพร้อมกับข้าวที่ห่อใบตอง รอพระมาบิณฑบาต เช้านี้นางใส่เสื้อคอกระเช้าสีขาวใหม่ ส่วนผ้าถุงเป็นผ้าถุงไหมที่มีชื่อของท้องถิ่น
เกสรยิ้มเบาๆ ผู้ชายคนนี้อีกแล้วหรือนี่ “แม่ ไปทำงานนะ”บอกแม่แล้วใส่เสื้อคลุมตัวเดิม หยิบหมวกกันน็อคที่อยู่ในตะกร้าหน้ารถออกมาสวม
เคลื่อนรถออกจากบ้าน อารมณ์ของเกสรตอนนี้ช่างมีความสุขนัก
เพราะผู้ชายที่ชื่อวายุหรือเปล่านะ แต่อีกใจคิด ไม่มีความเป็นไปได้เลย
ระหว่างเขาและเธอ เพราะอีกคนเป็นหม้ายแถมไม่มีลูก ส่วนอีกคนทางครอบครัวหมายมั่นปั้นมือจะให้เขามีทายาท แค่ข้อแรกก็ตกไป นอกจากนั้นหล่ะ อายุก็มากกว่าเขาตั้งห้าปี ไม่นับฐานะอีกไม่รู้จะต่างกันเท่าไหร่
ยิ่งหน้าตาไม่ต้องพูดถึงเขาเลือกใครก็ได้ แต่ไม่ไช่เธอแน่นอน
เพราะฉะนั้นเลิกคิดเลยเถิดกับเขาได้แล้วเกสรเอ๋ย เตือนตัวเอง
แค่เคยรู้จักเขาเท่านั้น อย่าเสียเวลาคิดอะไรกับผู้ชายคนนี้อีกเลย
ความเป็นไปได้แทบเป็นศูนย์
ที่โรงอาหารในโรงงาน สามสาวในชุดฟอร์มของโรงงานกำลังกินข้าว แต่ละคนก็มีแก้วกาแฟเย็นวางอยู่ตรงหน้า
“ว่าจะออกรถใหม่ จะเอาคันเก่าไปเทิร์น หวันพอรู้ไหมว่าจะได้เท่าไหร่”เกสรมองหน้าดาหวัน
“แป้บหนึ่ง โทรถามเพื่อนก่อน รถพี่เก๋ปีไหนนะ”เกสรบอกปีที่ออกรถ ดาหวันประสานงานกับเพื่อนสักครู่แล้วหันมาบอกเกสร “น่าจะได้ไม่เกินสองพัน แต่พี่เก๋ต้องเอารถไปให้เขาดูก่อนนะ ดีแล้วที่พี่เก๋คิดจะออกคันใหม่ ทนใช้ของเก่าอยู่ได้”ดาหวันสนับสนุน
“เอาสีที่ตรงข้ามกับปัจจุบันนะแก” นิดนภาแสดงความคิดเห็น
ดาหวันเห็นด้วย
เย็นวันนั้นเกสรได้ปรึกษาแม่เรื่องออกรถใหม่ ซึ่งแม่ก็เห็นดีด้วย
และพร้อมช่วยออกเงินสนับสนุน เกสรซึ้งใจวันก่อนให้แม่หมื่นหนึ่ง
แต่ถ้าวันไหนไปออกรถแม่จะช่วยหมื่นห้า
สามวันต่อมาขณะที่เกสรกำลังจะออกจากบ้านไปทำงาน
“พี่ เก๋ มารับหนูด้วย รอพี่เก๋ที่ร้านอีตาช่างขี้เมานะ รถยางแตก”
เสียงดาหวันมาตามสาย
“พี่จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”วางหูเอาโทรศัพท์ใส่กระเป๋าจากนั้น บอกลาแม่ไปทำงาน ใกล้จะถึงที่นัดหมายกับดาหวันจู่ๆ ทำไมรถมันสั่น
หยุดรถข้างทางแล้วลงมาดู “ยางล้อหน้าแตกหรือนี่ ทำไงดี”
ตัดสินใจโทรไปบอกดาหวัน
“เราสองคนน่าจะไปทำงานสาย เดี๋ยวจะให้แม่อีตาช่างปลุกลูกชายดู
ถ้าเขาตื่นมาซ่อมเราพอมีความหวัง แค่นี้ก่อนนะพี่เก๋”ดาหวันวางหู
เกสรหันรีหันขวางจะจูงหรือว่าจะบดดี
“เป็นไรอีก”เสียงกับกลิ่นบุหรี่มาพร้อมกัน
เกสรชี้ให้วายุดูที่ล้อหน้า รู้สึกอุ่นใจที่เจอเขา
วันนี้เขาใส่หมวกกันน็อคใบเดิม เสื้อยืดสีเทา กางเกงยีนส์สีเข้ม
รองเท้าผ้าใบคู่เดิม วายุบอกให้เกสรขึ้นรถ จากนั้นเขาใช้เท้าข้างหนึ่งถีบยันตรงท่อรถของเกสร เพื่อจะไปร้านซ่อมที่อยู่ไม่ไกล ระหว่างนั้นวายุพูด
กับเธอว่า “บอกแล้วว่าขายให้ผม รถเก่าก็แบบนี้แหละ สามวันดีสี่วันไข้”
เกสรหันมาบอกวายุ “วันหลังค่อยคุย”หมายถึงราคารถ
วายุและเกสรไปถึงร้าน ทั้งสองเห็นช่างกำลังขะมักเขม้นกับการ
ปะยาง โดยมีดาหวันยืนคุมอยู่ แล้วใกล้ตัวช่างมีขวดเครื่องดื่มชูกำลัง
วายุลงจากรถ แล้วมาชะโงกมองช่าง ดาหวันชักอยากเห็นหน้าวายุ
แต่เขาไม่ยอมเปิดหมวก
พอดีพ่อของช่างมาจากธุระเห็นสาวโรงงานกำลังรอรถ และเห็นสภาพลูกชายที่กำลังซ่อมรถ น่าจะไม่เสร็จง่ายนัก
“ชัย เอารถเราไปส่งหวันก่อนไหม”
นราชัยวัย 26 ช่างซ่อมอเตอร์ไซค์ในหมู่บ้าน ถึงตัวดำแต่ก็หล่อเหลาเอาการอยู่ ชายหนุ่มรู้สึกดีใจมากที่พ่อพูดแบบนี้่ เขาพยายามหาโอกาสได้ใกล้ชิดดาหวัน วันนี้ความฝันคงเป็นจริง
“ดีเหมือนกันนะชัย สายมากแล้วด้วย”วายุสนับสนุน
ในที่สุดดาหวันจำเป็นต้องให้นราชัยไปส่ง ระหว่างซ้อนท้ายเขาไปนั้น ดาหวันรู้สึกเหมือนดมกลิ่นเหล้าตลอดทาง เวรกรรมอะไรเนี่ย เธอทำหน้าหงุดหงิด ไม่พอใจแต่ไม่มีใครเห็นเพราะใส่หมวกกันน็อค
นราชัยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่มีโอกาสได้มาส่งนางในฝัน อยากจะแช่งให้รถมอเตอร์ไซค์ของเธอเสียทุกวัน
ส่วนเกสรที่ได้ซ้อนท้ายไปทำงานกับวายุอีกครั้ง เธอคิดในใจสงสัยลืมตาตื่นมือวายุควานหาซองบุหรี่ก่อนทำอย่างอื่นแน่เลย ชาติที่แล้วเธอทำปาบกับอะไร ชาตินี้กลิ่นบุหรี่จึงวนเวียน ว่าแล้วก็ด่าเขาในใจ นายนี่หล่อแต่รูปจูบไม่หอม
วายุคิดในใจ ได้เจอกันเร็วเกินคาด ไม่ต้องรอให้ถึงวันหยุด ถ้าเป็นเมื่อก่อนผู้หญิงคนอื่นโดนเขาพาไปต่อไหนแล้ว แต่สำหรับเกสรเขารออะไร
สองหนุ่มส่งสองสาวที่หน้าโรงงานแล้วเวียนรถมาเจอกันที่หน้าทางเข้าอู่ที่ทำงานของวายุ ทั้งสองคนจอดรถคุยกัน
“พี่ทำงานที่นี่หรือ”นราชัยมองอู่ซ่อมรถที่อยู่ตรงหน้าจากนั้นก็เปิดเบาะแล้วหยิบขวดเครื่องดื่มชูกำลังมากระดก
วายุมองรถ 4 จังหวะคันแดงของนราชัยก่อนจะตอบ “ใช่”จากนั้นก็ควานหาบุหรี่ที่อยู่ในกระเป๋าคาดอก จากนั้นก็ดูดปุ๋ยสบายอารมณ์
นราชัยมองวายุหน้าตาหล่อมาก แต่เป็นสิงห์อมควัน
วายุมองนราชัยชายร่างผอมดำ หน้าตาดี ใส่เสื้อสีเทา น่าจะเป็นเสื้อแถมตอนซื้อนํ้ามันเครื่อง กางเกงยีนส์ดำเปื้อนคราบ ท่าทางจะเป็นสหายสุรา
“เย็นนี้เจอกันหน้าโรงงานนะพี่”นราชัยบอกวายุหลังจากกระดกหมดขวดแล้ว จากนั้นบึ่งรถออกทันที วายุพยักหน้าพอบุหรี่หมดมวน เข้าสู่โหมดการทำงาน
เวียนมาถึงวันหยุดอีกรอบราวสิบโมงเช้า แสงแดดจ้า ท้องฟ้าสดใส อากาศเริ่มร้อน เกสรหลังจากทำงานในบ้านเสร็จ ก็มากวาดใบใม้บริเวณหน้าบ้าน
และที่เพิงพัก งานเรียบร้อยแล้วจากนั้นอาบนํ้าแต่งตัว เดินไปหาแม่ที่อยู่หลังบ้าน ซึ่งแม่กำลังเก็บใบพลูจำนวนมาก เพราะมีแม่ค้าได้สั่งเอาไว้
“แม่ หิวข้าวหรือยัง”มองดูแม่เก็บใบพลูอย่าตั้งใจ แม่เก็บใส่กระด้งที่สานจากใม้ไผ่ แต่มีใบกล้วยรองกระด้งอีกที แม่ใส่เสื้อคอกระเช้าสีขาวขุ่น นุ่งผ้าถุงลายไทย รองเท้าคู่เดิม
“กินก่อนแม่เลย สงสัยซดกาแฟที่เอ็งชงให้ สายป่านนี้แล้วแม่ยังไม่หิวเลย”
จากนั้นแม่เก็บใบพลูต่อ
“ยังไม่หิวเหมือนกันแม่ ฉันช่วยเก็บนะ”ทำท่าจะเด็ดใบพลู แม่ร้องห้าม
บอกว่าเธอดูใบพลูไม่เป็น
“วันหยุดพักบ้างเถอะ เหนื่อยมาทั้งอาทิตย์แล้ว นั่นใคร ใช่รถวายุหรือเปล่า”แม่มองเห็นรถยนต์สีดำกำลังเลี้ยวเข้ามาในบริเวณบ้านแล้วจอดสนิทข้างเพิงพัก
เกสรใจเต้น คาดไม่ถึงว่าวายุจะมาอีก จะเดินมาหาก็ยังไงอยู่ เลยนั่งมองแม่เก็บใบพลู
วายุเดินมาหาสองแม่ลูก “สวัสดีครับป้า วันนี้เก็บเยอะจัง”มองดูใบพลูที่อยู่ในกระด้ง แล้วมองดูเกสรที่นั่งจ้องใบพลูราวกับว่าไม่สนใจการมาของเขา เสื้อยืดแขนสั้นสีกรม กับผ้าถุงตลาดสีชมพูมีลวดลายดอกไม้
รองเท้าคู่เดิม สิ่งที่วายุมักเห็นคือเกสรใส่ผ้าถุงทับเสื้อ
แม่แก้วรับไหว้วายุ “วันนี้แม่ค้าจะมาเอาราวเที่ยงๆ แล้ววายุหล่ะ”
แม่แก้วเก็บใบพลูต่อ
“วันนี้ผมเป็นพ่อค้าครับ จะมารับซื้อรถเก่า ป้าพอรู้ไหมว่ามีใครแถวนี้สนใจจะขายให้ผมไหม”ส่งสายตาจ้องเกสรที่นั่งก้มหน้าอยู่
คราวนี้เกสรเงยหน้าขึ้นปะทะสายตาเขาอย่างจัง ดูแววตาคมซึ้ง
ที่เขามองเธอสิ หากใครไม่มีความรู้สึกก็บ้าแล้ว รีบหันหน้าออกทันที
“ว่าไงครับป้า พอจะมีไหม”ปากถามแม่แต่สายตาส่งมาที่ลูก
“ถามเก๋ดู เก๋ พาวายุไปนั่งสิ หานํ้าให้กินด้วย ตามสบายนะวายุ”
ป้าแก้วเก็บใบพลูต่อ
เกสรเดินไปเอานํ้าออกมาให้วายุที่นั่งรอในเปล รู้สึกทึ่งเพราะเขาใส่เสื้อสีเดียวกันกับเธอ เพียงแต่ว่าเขาคอวี ส่วนเธอคอกลม กระเป๋าคาดอกใบเดิม กางเกงยีนส์สีขาวซีด รองเท้าแตะคู่เดิมที่เห็นประจำเวลามาที่นี่ มาถึงยื่นนํ้าขวดเย็นๆให้โดยไม่พูดอะไร
วายุขำกริยาที่เกสรทำ “พูดกับผมบ้างก็ได้ หรือกลัวดอกพิกุลจะร่วง เปิดนํ้าให้กินหน่อย”ส่งนํ้าขวดกลับให้
เกสรคว้านํ้าขวดจากเขาแล้วเปิดส่งกลับให้คืน “ให้ป้อนด้วยไหม”ทำหน้าทำเสียงไม่พอใจ
วายุยิ้มให้ “พูดได้นี่ ตกใจหมดนึกว่าไม่ได้เจอกันสี่ห้าวัน กลับเป็นใบ้ซะแล้ว”กระดกนํ้าเกือบหมดขวด
เกสรแก้เขินนั่งบนแคร่มองไปทางอื่น ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ
“เก๋ มองหน้าผมหน่อย โกรธอะไรหรือเปล่า แค่เก๋ บอกว่าจะขายหรือไม่ขายเท่านั้น”
เกสรหันมามองชายอยู่ในเปล ที่ทำเสียงอ่อนใส่ “ขายแพง กลัวนายสู้
ราคาไม่ไหว”
“ลองบอกมาก่อน ถ้ากำลังทรัพย์พอ ”มองตรงอย่างตั้งใจ
เกสรรีบหลบสายตาเขา “สองพัน ต่อรองกันได้ สักร้อยสองร้อย”
“ผมให้แปดพัน”วายุไม่ต่อรอง
“พูดเล่นน่าวายุ นายไม่เห็นเหรอ สภาพรถ”เกสรไม่เชื่อคำพูดของเขา
“ผมพูดจริง”ล้วงเงินสดที่อยู่ในกระเป๋าคาดอก นับแล้วส่งให้เกสรแปดพัน
“ฉันยังไม่รับ ให้ฉันได้รถคันใหม่ก่อนนะ”เกสรไม่รับเงิน
วายุเดินไปหาแม่แก้วที่ยังเก็บใบพลูอยู่ เกสรเห็นคุยกับแม่ สักครู่เห็นแม่เดินมาตามด้วยวายุที่ถือกระด้งใส่ใบพลู จากนั้นเขาวางกระด้งบนแคร่
แล้วไปนั่งในเปลรอแม่แก้วพูดกับลูกสาว
“เก๋ ไปออกรถวันนี้ก็ได้ ออกวันไหนก็เหมือนกัน เอาที่เราสะดวกนะ แม่จะเหมารถวายุให้ เราก็พอรู้จักกันแล้วนี่” เกสรตรึกตรองดูสักครู่ อาจจะจริงเหมือนแม่พูด จะออกวันไหนสุดท้ายก็ต้องออกอยู่ดี อยากให้แม่ไปด้วย
แต่แม่บอกนัดแม่ค้าที่จะมารับใบพลูไว้แล้ว เกสรเข้าบ้านเปลี่ยนจากผ้าถุงเป็นกางเกงยีนส์สีเข้ม และรองเท้าแตะคีบสีดำที่เธอสวมสำหรับข้าวนอกเท่านั้น เงินพร้อม ทุกอย่างพร้อม วายุและเกสรออกเดินทาง
ที่ร้านขายรถมอเตอร์ไซค์ในตัวอำเภอ วายุถามเกสรว่าจะเอารถแบบไหน เกสรจะเอาแบบวายุเพียงแต่เปลี่ยนเป็นสีแดงเท่านั้น ไม่นาน
ทุกอย่างเรียบร้อย เวฟรุ่นล่าสุดสีแดงใหม่เอี่ยม ได้ขึ้นรถกระบะของวายุ
“เอาอะไรไปฝากแม่ไหม”วายุหมายถึงของกิน
“เอาไว้ก่อน แต่ตอนนี้ฉันอยากได้จักรยานไว้ขี่เล่นแถวบ้าน”เกสรมองดูไปทั่วเผื่อมีร้านจักรยานแถวนี้
วายุวนรถหาร้านขายจักรยาน ไม่นานจักรยานคันแดงได้คู่รถมอเตอร์ไซค์บนรถกระบะ
“จะถูกจะแพงขอแดงไว้ก่อน”เกสรบอกวายุ
“รวยนะคุณนายออกรถวันเดียวสองคัน”วายุหยอกเย้า
“คนจะรวยช่วยไม่ได้”เกทับวายุ
ที่ปั๊มแห่งหนึ่งหลังจากที่วายุเติมนํ้ามันรถเสร็จ จากนั้นก็ขับ
มาจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อ
วายุขอตัวเข้าร้าน ส่วนเกสรรออยู่ที่รถ เขากลับออกมาพร้อมนํ้าและของกิน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขายื่นให้เธอ “เห็นดมบ่อย”
เกสรยิ้มกว้างมองหน้าวายุจากนั้นแกะกระดาษเอายาดมใหม่มาสูดทันที
แล้วทำท่าสดชื่น แล้วเอาส่วนที่เป็นนํ้ามาป้ายจมูก ยิ้มให้วายุอีกครั้ง
“ขอบคุณมากเลยนะ แต่ฉันจะไม่ซื้อบุหรี่ให้หรอกนะ ถึงเห็นนายสูบ
บ่อยก็ตาม”
วายุยิ้มกับคำพูดของเกสร “มันเป็นยังไงทำไมทั้งสูดทั้งดม”ชายหนุ่มรู้สึกดีที่ผู้หญิงตรงหน้าชอบในสิ่งที่เขาซื้อให้แม้ราคาไม่กี่บาทก็ตาม
เกสรคว้าข้อมือวายุจากนั้น “แบมือออก”วายุทำตามอย่างง่ายดาย
แล้วจับนิ้วชี้เขาไว้จิ้มส่วนที่เป็นนํ้าของยาดมใส่สี่ห้าที
“ป้ายจมูกดูสิ”เงยมองร่างสูงใหญ่รอว่าเขาจะทำตามที่บอกหรือไม่
วายุยกนิ้วชี้มาป้ายจมูก เขาพยักหน้าประมาณว่าพอได้ หอมสดชื่น
เกสรยิ้มให้เขาอีกครั้ง “แต่ตอนนี้ฉันหิวแล้ว เมื่อเช้าทำงานบ้านเพลินลืมกิน”สอดส่องสายตาหาของกิน
“โน่นไง”วายุชี้ไปอีกฝั่งที่เขากับเธอยืนอยู่ เป็นตึกแถวชั้นเดียวมีหลาย
คูหามีร้านอาหารประมาณห้าร้าน เป็นร้านอาหารที่อยู่ในบริเวณปั๊ม
“เลือกเลยจะกินร้านไหน”วายุบอกขณะเดินใกล้ถึง
เกสรสั่งข้าวมันไก่แล้วนั่งรอ วายุสั่งก๋วยเตี๋ยวไก่แล้วเดินสำรวจร้านอื่น
แต่ก่อนจะไปเขาบอกให้เกสรกินก่อนไม่ต้องรอ
วายุกลับมาพร้อมของกินหลากหลาย
“ถุงนี้ฝากยายกับป้า ส่วนถุงนี้ให้ป้าแก้ว”คำพูดของเขาทำให้เธอซึ้งใจอยู่กับอดีตผัวมานานไม่เคยได้ยินแบบนี้
เกสรกินข้าวหมดจาน แต่บอกวายุ “อยากกินลูกชิ้น”
ทั้งคู่ออกมาที่ร้านลูกชิ้นทอด ซื่งอยู่ใกล้ๆร้านข้าวมันไก่
จากนั้นพากันมานั่งกินที่สวนเล็กๆ ซื่งอยู่ในบริเวณปั๊ม
เกสรนั่งที่ม้าหินอ่อน วายุถามเล่นๆว่าจะกินอะไรอีก
เกสรอยากกินไอศรีมโคน เดือดร้อนวายุต้องเข้าร้านสะดวกซื้ออีกรอบ
วายุนั่งมองเกสรกินลูกชิ้นจากนั้นต่อด้วยไอศกรีม
“นี่นายคงว่า ตายอดตายอยากมาจากไหนไช่ไหม”ทำหน้าไม่สนใจใส่วายุ
แล้วกินต่อ
วายุยิ้ม “กินต่อที่รถนะ ป้าแก้วรอแล้ว”รวบของจะถือ
เกสรขัด “ไม่อยากให้รถนายเปื้อน รอก่อนนะใกล้หมดแล้ว”รีบกินไอศกรีมที่เหลืออย่างเร่งรีบ
ชายหนุ่มรู้สึกเอ็นดูในท่าทางของหญิงสาว
ขณะเดินไปที่รถวายุเดินนำ แต่เกสรที่ตามไม่กี่ก้าวเหลือบเห็นแผงขายลอตเตอรี่ที่อยู่แถวบริเวณนั้น มองอีกทีนำหน้าไปจะถึงรถแล้ว อารามรีบ เธอจับชายเสื้อเขาเบาๆ
 บังเอิญนิคมมาซื้อนมให้ลูก แล้วแวะเติมนํ้ามัน เห็นภาพพอดี เขาคิดในใจ
เกสรหลงคนใหม่ขนาดนี้เชียวหรือ ขนาดอยู่ในปั๊มยังกล้าโอบ