"วายุฉัน" เกสรพูดไม่ออก​ วายุ​ยิ้ม​ ในที่สุดก็ยอมโผล่​หัว​ จึงแกล้ง​พูดออกไป​ "แก๊ง​คอลเซ็นเตอร์​เหรอ​ ไปหลอก​ที่อื่น​ไป" วายุวางหูทันที​ เกสรตกใจโทร​เข้าไป​อีก​ วายุ​ไม่​สนใจ​แต่ไปนอนข้างลูก​ "พ่อ​จะทำให้แม่ศิโรราบ​ให้ได้ฐาน​พรากเราพ่อลูก" เกสรโทรเข้าไป​อีก​" นายจะเอาลูกไปไม่ได้" วายุ​ถาม​ "ใครมีปัญหา" "ฉันจะไป​เอาลูก​คืน" เกสร​โกรธ​แค้น​" "ใคร​กล้า​ลองดีกับผมก็เชิญ​ ขืน​บุก​รุกเข้ามา​ผมแจ้งจับหมดไม่มี​กรณียกเว้น​"

โทษฐานของการรู้จัก - 2 เริ่มรู้จัก โดย ฟ้าเดือนหก @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ครอบครัว,เรื่องสั้น,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

โทษฐานของการรู้จัก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ครอบครัว,เรื่องสั้น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

โทษฐานของการรู้จัก โดย ฟ้าเดือนหก	 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"วายุฉัน" เกสรพูดไม่ออก​ วายุ​ยิ้ม​ ในที่สุดก็ยอมโผล่​หัว​ จึงแกล้ง​พูดออกไป​ "แก๊ง​คอลเซ็นเตอร์​เหรอ​ ไปหลอก​ที่อื่น​ไป" วายุวางหูทันที​ เกสรตกใจโทร​เข้าไป​อีก​ วายุ​ไม่​สนใจ​แต่ไปนอนข้างลูก​ "พ่อ​จะทำให้แม่ศิโรราบ​ให้ได้ฐาน​พรากเราพ่อลูก" เกสรโทรเข้าไป​อีก​" นายจะเอาลูกไปไม่ได้" วายุ​ถาม​ "ใครมีปัญหา" "ฉันจะไป​เอาลูก​คืน" เกสร​โกรธ​แค้น​" "ใคร​กล้า​ลองดีกับผมก็เชิญ​ ขืน​บุก​รุกเข้ามา​ผมแจ้งจับหมดไม่มี​กรณียกเว้น​"

ผู้แต่ง

ฟ้าเดือนหก

เรื่องย่อ

สารบัญ

โทษฐานของการรู้จัก-ตอนที่1 โคจรพบกัน,โทษฐานของการรู้จัก-2 เริ่มรู้จัก,โทษฐานของการรู้จัก-3 เหตุการณ์​ไม่​คาดฝัน,โทษฐานของการรู้จัก-4 ความช่วยเหลือ

เนื้อหา

2 เริ่มรู้จัก

ยายที่ไม่เคยมาบ้านนี้​ หันหลัง​มามาถามหลานชายอีกรอบ “หลังนี้แน่นะ”

วายุ​พยักหน้า​รับ​ “ครับ​ยาย” ถึง​วายุ​จะเคยมาที่นี่แล้วก็ตาม​ แต่เขาไม่เคย​มองเต็มตาสักครั้ง​ ชายหนุ่ม​เเหลียวมองรอบๆ​ หมู่​บ้าน​ มีไม่กี่หลัง​ แต่ละหลังก็อยู่ห่างกันพอสมควร​ บ้านที่อยู่​ใกล้​บ้าน​ป้าแก้วมากที่สุด​ หากวัดระยะ​ด้วยสายตา​ 20 เมตร​ เห็น​จะได้​ แต่ละ​บ้านปลูกไม้กินผล​ ตามข้างบ้าน​ หรือ​หลัง​บ้าน​ แล้วแต่​พื้นที่​จะอำนวย ที่วายุเห็น​ชัดเจน​คือ​ มะม่วง​ มะพร้าว​ กล้วย​ บ้านป้าแก้ว​คือหนึ่ง​ใน​นั้น​ วายุและยายเดินเข้าไปหาป้าแก้ว​ ที่นั่งกินหมากอยู่บนแคร่ไม้ไผ่เล็ก​ๆ​ ซึ่งตั้งอยู่ที่เพิงหน้าบ้าน

 ป้าแก้ว​จำวายุ​ได้​ วายุแนะนํา​ให้​ป้าแก้ว​รู้จัก​ยายของเขา​ ป้าแก้ว​ไหว้​ยายของวายุ​ แล้วเชิญนั่ง​ จากนั้น ​เดินไปเอานํ้าจากในครัวมา 2​ ขวด​ ส่งให้ยาย​

และ​วายุ​คนละขวด​ วายุ​ไหว้ขอบคุณ​ป้าแก้ว​ จากนั้น​เปิดขวดกินทันที​ แล้วเหลียวมองรอบ​ๆ​ บริเวณบ้านหลังนี้ไม่มีรั้ว​ มองบ้านที่เขายืนตรงหน้า​ เป็นบ้านปูนหลังเล็กชั้นเดียว​ มุงด้วยสังกะสี​ตอนนี้​เริ่มเก่าแล้ว​ มีเพิงยื่นมาด้านหน้า​ ซึ่งเป็นบริเวณ​ที่เขายืนอยู่​ และ​เพิงยื่นไปด้านหลัง​ ประตู​หน้าบ้านเป็นประตูไม้บานคู่​ ดูธรรมดา​ หน้าต่างไม้เก่าๆ​ ไม่มีลวดลาย​อะไร​ 

แล้ว​คู่กรณีเขาอยู่ไหน​ วายุเริ่มมองหา​

พลันสายตาปะเข้ากับเพิง​พักจั่วสามเหลี่ยม​ มุงด้วยหญ้าคา​ อยู่ข้างๆ​ แต่เยื้องหลังบ้านนิดหนึ่ง​ ใต้เพิงมีแคร่ไม้วางอยู่​ ส่วนเสาที่เป็นฐานของเพิงมีเปลผูกอยู่​ 2ผืน​ อีกเปลว่างเปล่า​ ส่วนเปลที่รับนํ้าหนักน่าจะใช่เกสร​ วายุ​คิดในใจ

ป้าแก้วเชิญ​ให้ยายกินหมาก​ด้วยกัน​ นางมองผู้มาเยือน​สูง​วัย​ อายุน่าจะเข้าเลข​ 7 กว่าๆ​ แล้ว​ ผม​ขาวโพลนทั้งหัว​ หน้าตาดูมีสง่าราศี​ รูป​ร่างท้วม

ผิวขาว​ แล้วชุดที่ใส่มานั้น​ เป็นเสื้อและกางเกงสีเดียวกันคือสีฟ้าลายดอก​

เป็นเสื้อคอกว้างแขนปล่อย​ ส่วนกางเกงคลุมหัวเข่า​ รองเท้าแบบสวมสีดำ​ ป้าแก้ว​คิดในใจ​ ยายของวายุคงฐานะดี

ยายไสวกินหมาก​ แล้วพิจารณา​เจ้าของบ้าน ตัวผอมเล็ก​ ผมสั้นเลยหู​ หน้าตา​ดูธรรมดา​ ผิวดำ​ ดูจากการแต่งตัว​ เสื้อคอกระเช้า​สีขาวหม่น

ผ้าถุง​ลายไทย​ รองเท้า​พลาสลอนตราดาวโคจร​ มองจากสภาพรองเท้า

น่าจะใช้การนานโขอยู่​ มองรวมถึงที่อยู่อาศัย​ น่าจะขัดสน​ หรือว่านางเป็น

ผ้าขี้ริ้วห่อทอง​ ยายไสวคิดในใจ​ 

“บ้านร่มรื่น​ดีนะแม่แก้ว​ ต้นไม้เยอะ​ อากาศ​ก็​เย็น​สบาย” ยายหันมองรอบๆ

“มาอยู่ที่นี่ฉันก็เริ่มปลูกเลย​ ได้กินได้ขายมานานแล้ว”ป้าแก้วมองผลงานที่นางปลูก

“แม่แก้วมาอยู่​ที่นี่​นานหรือยัง​” ยายมองที่นาที่อยู่ข้างบ้าน

“ตั้งแต่แต่งงานกับพ่อของเก๋​ ปู่กับย่าเขาแบ่งที่ให้”ป้าแก้ว​เล่าความเป็นมาของที่ดิน​

“พ่อของ​ลูก​ไม่อยู่หรือ” ยาย​สงสัย

“เสียไปตั้งแต่​เก๋กับ​ กุ้ง​ ยังเล็กอยู่”กุ้งคือน้องชายของเกสร​ ซึ่งตอนนี้ก็แต่งงานมีครอบครัว​ไปแล้ว

​ ป้าแก้วขยายความ​

“เจ้า​ตัวอยู่ไหนหนอ” ยายไสวมองหาเกสร

“ขดตัวอยู่ใน​เปลโน่น​ ตั้งแต่เที่ยงยันจะเย็นอยู่แล้ว​ ไม่ยอมลุกสักที” ป้า​แก้ว​บอกเปรยบ่น

ยายไสวมองไปที่เปล​ มีต้นมะม่วงต้นใหญ่​ ปลูกใกล้กันพอสมควร​ และมีหลายต้นด้วย​ แถมตอนนี้่​มีลมพัดเบาๆ​ “ก็บรรยากาศ​มันน่านอน”

ยายไสวเสริม​

“เก๋​ ลุกได้แล้ว” ป้าแก้ว​ตะโกนเรียกจากหน้าบ้าน “แล้วมาหาแม่ด้วย” นางสั่งลูกสาว​

เกสรลุกแต่ยังนั่งแช่ในเปลต่อ​ มองมาหน้าบ้าน​ เห็นวายุนั่งอยู่บนแคร่​ ส่วนผู้หญิงสูงวัยที่กำลังกินหมากกับแม่ของเธอ​ น่าจะเป็นญาติ​ของวายุ​ เกสรควานหายาดมมาสูด​ แล้วเดินไปหาแม่ที่หน้าบ้าน

วายุเหลือบมอง​หญิงสาว​คู่กรณีที่กำลังเดินมา ประเมิน​จากสายตา​ ความสูงน่าจะไม่ถึง 155 เตี้ยมากสำหรับเขา​ ปัดทิ้งไปได้เลย​ ผมดำยาวมัดรวบไว้

หน้าตา​พอผ่าน​ ตัวเล็ก​ เอวเล็ก​ เสื้อ​ที่เธอใส่นั้นเป็นเสื้อยืดแขน​สั้น​สีขาวธรรมดา​ กางเกงขาสั้น​สีดำเลยเข่า​ รองเท้าแตะ​แบบสวม​ ที่หาซื้อได้ตามตลาดทั่วไป​ ยิ่งเกสรเดินมาใกล้​ วายุ​ยิ่งแอบจ้อง​ ถึง​ผิวไม่ขาวมากแต่ก็ยังเนียนอยู่

แม่แก้วบอกให้เกสรไหว้ยายไสว​ และบอกว่าเป็นยายของวายุ​ 

วายุเตร่ไปเตร่มาแถวนั้น​ 

เกสรเหลือบมองวายุ​ ผู้ชาย​อะไร​ตัวสูงใหญ่​ ผมดำตัดสั้น​ ใบหน้าหล่อเหลา​

ผิวขาว​ แต่ดูมาดกวน​ มาดนักเลง​ เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่มานั้น​ คงมีราคา​ แถมมีกระเป๋าสีดำเล็ก​ๆ​ คาดที่หน้าอกด้วย

“ไหน​ ยายดูซิ​ ค่อยยังชั่ว​หรือยัง​” ยายไสวจับแขนเกสรดูบาดแผล

“ไม่เป็นไร​แล้ว​ค่ะยาย​ หนู​หายดีแล้ว” เกสร​มองยายไสว​ ดูๆไป​ หน้าก็คล้ายวายุ​อยู่​เหมือนกัน​

“ไม่เป็นไร​ก็ดีแล้ว​ ถ้าแบบนั้น​ เรื่อง​ที่วายุ​ชน​ หนู​จะว่ายังไงจ๊ะ​” ยาย​ไม่อ้อมค้อม​

“เขาไม่ได้​ชน​ หนู​ล้มก่อนหน้า​นั้น​แล้วค่ะ​” เกสรตอบตามตรง

วายุ​ที่เตร่อยู่แถวนั้น​ แทบไม่เชื่อหู​  

“หนู​แน่ใจหรือ” ยายของวายุยํ้าอีกรอบ

“ค่ะ​ แน่ใจ​ ยายสบายใจได้” เกสรยิ้มให้ยาย

“ฉันขอโทษแทนลูกที่ทำให้ทุกคนเสียเวลา” ป้าแก้ว​มองมาทางยายไสวกับวายุ

“ดีแล้ว​ ที่เราตกลงด้วยดีกันทั้งสองฝ่าย​ ไม่ถือโทษ​โกรธเคือง​กัน​ วันข้างหน้าหากเจอกันที่ไหน​ จะได้มองหน้ากันสนิท​ เอาแบบนี้นะ​ วันอาทิตย​์หน้า

ยายจะมาทำขวัญ​ให้​หนู​” ยายจับมือเกสรแล้วยิ้มให้อย่างเอ็นดู​

วายุ​แอบไม่พอใจ​ “เขาต่างหากที่ต้องทำขวัญ​ใ้ห้ผม” ได้แค่คิดไม่กล้าพูดออกไป

พอดีชาวบ้านแถวนั้นรุ่นๆป้าแก้วเดินมา เพื่อจะ​ถามไถ่เรื่องราว​ และก็มากินหมากด้วย​ วายุ​เห็นดังนั้น​จึง​เลี่ยงออกไปที่ทางหน้าบ้าน​ จากนั้น​เดินเล่นดูวิวทิวทัศน์​บริเวณ​นี้​ ชายหนุ่ม​เลี่ยงมาไกลประมาณ​ 10​ เมตร​เห็นจะได้มองไปที่หน้าบ้านป้าแก้วอีกที​ ยัง​เห็น​ยายยังคุย​ และกินหมากอยู่​ จึง​ล้วงเอา​บุหรี่ที่อยู่ในกระเป๋าคาดอก​ ออกมาสูบ​ พลางนึกถึง​เรื่องราว​ของตนที่ผ่านมา​ ย้อนไปเมื่อเกือบสองเดือนก่อน​ ยังไม่ทันได้ฉลองปีใหม่​กับเพื่อน

ต้องมีเหตุได้มาอยู่กับยาย​ ตอนนี้​เกือบจะปลายกุมภาพันธ์​แล้ว​ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาเที่ยวเตร่​สนุก​สนาน​ อยู่​กับ​เพื่อน​ที่ชลบุรี​โน่น​ แต่กุมภาพันธ์​ปีนี้

เขากลับเดินตาม​ยายต้อยๆ​ เพื่อมาที่บ้านแม่หม้าย​ที่อยู่​ในหลืบ

 ชายหนุ่ม​มองท้องฟ้า​และพื้นดิน​ บรรยากาศ​ที่นี่​ก็​ดีอีกแบบ

กลุ่ม​กินหมากได้สลายตัวแล้ว​ แต่ยายเดินตามป้าแก้วไปที่หลังบ้าน

โดยมีเกสรเดินตามหลังยายไปอีกที

 ที่บริเวณ​หลังบ้านเยื้องกับเพิงนั่งเล่น​ ป้าแก้ว​กำลังเก็บใบพลูที่ไว้กินกับหมาก​ ให้ยายก่อนที่จะกลับบ้าน​ ส่วนเกสรไปนั่งที่เปลแล้วสูดยาดม

วายุ​มองแต่ไกล​ “ติดยาหรือ​นี่”

“พลูที่นี่​สวยใบใหญ่​ดีนะแม่แก้ว” ยาย​ไสวมองพลูที่ขึ้นดีของแม่แก้ว

เป็น​พลูรวงใหญ่​ มีขอนไม้หลายขนาด​ ตั้งไว้ให้พลูเลื้อย​

ยายมองไปด้านหลังอีก​ มีพืชผัก​สวนครัวปลูกเต็มบริเวณนั้น​

“แม่แก้วคงไม่ต้องซื้ออะไรอีกแล้ว” ยาย​แซว

“มีเกลือ​ กับผงชูรส​และเครื่องปรุง​ ที่ต้องซื้อ”ป้าแก้ว​ตอบอย่างอารมณ์ดี​

ยายบอกแม่แก้วว่าใบพลูที่เก็บ​เยอะ​แล้ว​ นางจึงหยุดและเอาใบพลูที่เก็บ​ได้

มาไว้​ที่แคร่ตรงเพิง​ จากนั้น​ก็เรียงไห้ไปในทิศทาง​เดียวกัน​ แล้วไปเด็ดใบตองมาห่อ​ จากนั้น​ก็ถามยายไสวซี่งกำลังสนใจ​ ต้นไม้ที่ปลูกอยู่หลังบ้าน

“จะเอามะม่วง​ไปกินบ้างไหม​ จะให้เก๋เก็บให้”

ยายไสวเดินมาที่เพิง​พักมีเปลผูก

  แล้วนั่งบนแคร่​ แล้วเงยมองต้นมะม่วง​ ซึ่งแต่ละต้นกำลังออกผล​ “เอาไว้คราวหน้า”

วายุ​มองมาจากทางหน้าบ้านของแม่แก้ว​ เห็น​ยายนั่งอยู่ตรงเพิงเลยเดินมาหา​ ถือวิสาสะนั่งเปลที่ว่าง​ เกสรได้กลิ่นบุหรี่ลอยมาจากตัวเขา​ เผลอสูดยาดมอีกครั้ง

“เก๋​ จะไป​ทำงานเมื่อไหร่​” ยายไสวถาม

“พรุ่งนี้​ค่ะ” ตอบยายเสียงหวาน​ แต่สายตาตำหนิหลานเรื่อง​กลิ่นบุหรี่

“หนู​ทำงานอะไร​ แล้วทำที่ไหน” ยายถาม​ คนที่เงี่ยหูฟังคือวายุ

“งานเย็บผ้าโหล​ อยู่ใกล้ๆ​ ตัวอำเภอ​ บ้านเรานี่แหล่ะค่ะ”เกสรตอบยาย

วายุที่ได้ยิน​ สาวโรงงานหรือนี่​ 

“หนูไปทำงานยังไง​จ๊ะ” ยายถาม

“หนู​ขับรถ​มอเตอร์​ไซค์​ไปทำงานเองค่ะ” เกสรบอกยาย​ 

จากนั้น​ยายไสวได้ถาม​ เส้นทางการเดินทางของเธอ

พอได้คำตอบจากเกสร​ คุณ​ยายรัองอ๋อ

“ทางเดียวกันกับวายุนะสิ​ เขาทำงานที่อู่​ซ่อม​รถยนต์​แถวนั้น

ชื่ออู่​ เจริญ​การช่าง​ หนู​พอรู้จักไหม”

เกสรพยักหน้ารับ​ ทางผ่านไปที่ทำงานของเธอ​ ไม่ยักรู้​ อีตามาดกวนทำงานอยู่ที่นี่

“หนูเข้างานแบบไหนจ้ะ” ยายไสวถาม​ แต่วายุรู้​สึก​อยาก​รู้เช่น​กัน​

“เข้าแปดโมงเช้า​ ออกห้าโมงเย็น​ ถ้ามีโอทีก็​ทำต่ออีกค่ะ” เกสรตอบยาย

วายุ​รู้​สึก​ได้ข้อมูล​เพิ่ม

“ระยะทาง​ประมาณ​ 20 กิโลเมตร​ หนู​ออกสายได้สิ​ เพราะ​ทางที่ผ่านมา​ ส่วนมากจะเป็นทุ่งนา​ กับหมู่บ้าน วายุ​ก็เข้างานแปดโมงเช้า​เหมือนกัน​

ออกจาก​บ้านเจ็ดโมงกว่าโน้น​”ยายไสวคาดคะเนการเดินทาง​ไปทำงานของเกสร

“ผิดคาดเลย​ เก๋ขับรถ​ช้ามาก​ ออกจาก​บ้านตั้งแต่​หกโมงนิดๆ” แม่แก้วเสริม​

 “ทำไมจ๊ะ” ยายไสวสงสัย​

“ก็​มัน​ยังขับรถ​ไม่​คล่อง​นะสิ” แม่แก้วมองลูกสาว​ วายุ​ยิ้มเยาะ​ในใจ​ เขาเคยประจักษ์​สายตามาแล้ว

“ไม่น่าเชื่อ​ สมัยนี้​เด็ก​ประถมบางคนก็ขับได้แล้ว” ยายไสวไม่อยากเชื่อว่าเกสรขับมอเตอร์ไซค์​ไม่คล่อง

“ตอน​อยู่กับ​ผัวแทบจะไม่ได้ขับ​ อาศัย​ซ้อน​ท้ายเขาตลอด​ พอมาอยู่คนเดียวเหมือนเริ่มใหม่​ สู้ไอ้จ้อยหลานแม่แจ่มไม่ได้​ แค่สิบขวบขับคล่องกว่า

ตั้งเยอะ” แม่แก้ว​เล่า​เรื่อง​การขับรถของลูกสาว​ และยกตัวอย่าง​เด็กที่อยู่แถวนี้ให้ฟัง วายุ​ที่ได้ยิน

แอบคิด​ พึ่งพา​แต่ผัว​ อยู่คนเดียว​ลำบากสิถ้า​ แต่ก็ยังดีสามารถ​บังคับ​รถให้ถึงที่​ทำงาน​ได้​ แม้จะใช้เวลามากก็ตาม

ยายกับแม่แก้วยังคุยต่อได้อีก

วายุ​เห็น​ดังนั้น​เลยลุกจากเปล แล้วไปสูบบุหรี่​ที่เดิม

เกสร​ที่ในเปลแอบมองแล้วค่อนแคะ​”ขยัน​บริหาร​ปอดนะนายคน​นี้​”

ยายไสวส่ายหน้า​เมื่อ​เห็น​หลานชาย​ไป​สูบบุหรี่​ “รายนี้เตือนไม่ฟัง

เผลอไม่ได้เลย​ บางที​ก็หนักใจกับเขาเหมือนกัน​”

แม่​แก้ว​สงสัย​ นางรู้สึก​ว่า​วายุ​ไม่มีอะไร​ “ทำไมหล่ะ”

“ อยู่​กับ​พ่อแม่มันมีแต่จะสร้างเรื่อง​ ล่าสุดก่อนที่มาอยูที่นี่​ เห็น​พ่อมันบอก

ไปตีกับผัวชาวบ้าน​สงสัยจะอยากได้เมียเขา ฉันกลัวมันจะเอาสันดาน​เก่ามาใช้ที่นี่นะสิ” ยาย​ไสวแอบหวั่นใจ​วายุ​

เกสรแอบยิ้ม​พลางสมนํ้าหน้า​วายุในใจ​ ไม่ดูตาม้าตาเรือเลย

โชคดีแค่ไหน​ หัวกบาลไม่แตก​ ยังรอดมาอยู่กับยายได้

ยาย​ไสวคุยกับแม่ต่อสักครู่​ จึงขอตัวกลับ​ 

วายุ​เห็น​ยายเดินมาพร้อมป้าแก้วและเกสร​ จึงเตรียมรถ​

เขาเห็นเกสรถืออะไรเขียวๆในมือมาด้วย​

 วายุ​ลงมา​จากรถแล้วเปิดประตูให้ยาย

ยาย​นั่งบนรถเรียบร้อย​แล้วหันมาบอกแม่กับเกสร​

“ยายกลับ​ก่อน​ วันอาทิตย์​หน้าจะมาใหม่”

แม่และเกสรไหว้​ยาย​ โดยที่เกสรไม่ลืมให้ของฝากยาย

วายุ​ปิดประตู​รถให้ยายแล้วไหว้ป้าแก้ว​ “ผมกลับนะครับ”

ป้าแก้ว​อวยพรให้เขาโชคดี

วายุ​เหลือบมอง​เกสรที่ทำท่าไม่สนใจขณะที่เขารํ่าลาป้าแก้ว

แล้วคิดในใจ​ “ดู​ทำท่า​ ยังกับตัวเองสวยตาย​ ยายหนอยาย

เขาไม่เอาเรื่อง​แล้ว​ ไม่รู้จะอยากมาทำไมอีก”