"วายุฉัน" เกสรพูดไม่ออก วายุยิ้ม ในที่สุดก็ยอมโผล่หัว จึงแกล้งพูดออกไป "แก๊งคอลเซ็นเตอร์เหรอ ไปหลอกที่อื่นไป" วายุวางหูทันที เกสรตกใจโทรเข้าไปอีก วายุไม่สนใจแต่ไปนอนข้างลูก "พ่อจะทำให้แม่ศิโรราบให้ได้ฐานพรากเราพ่อลูก" เกสรโทรเข้าไปอีก" นายจะเอาลูกไปไม่ได้" วายุถาม "ใครมีปัญหา" "ฉันจะไปเอาลูกคืน" เกสรโกรธแค้น" "ใครกล้าลองดีกับผมก็เชิญ ขืนบุกรุกเข้ามาผมแจ้งจับหมดไม่มีกรณียกเว้น"
รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ครอบครัว,เรื่องสั้น,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
โทษฐานของการรู้จัก"วายุฉัน" เกสรพูดไม่ออก วายุยิ้ม ในที่สุดก็ยอมโผล่หัว จึงแกล้งพูดออกไป "แก๊งคอลเซ็นเตอร์เหรอ ไปหลอกที่อื่นไป" วายุวางหูทันที เกสรตกใจโทรเข้าไปอีก วายุไม่สนใจแต่ไปนอนข้างลูก "พ่อจะทำให้แม่ศิโรราบให้ได้ฐานพรากเราพ่อลูก" เกสรโทรเข้าไปอีก" นายจะเอาลูกไปไม่ได้" วายุถาม "ใครมีปัญหา" "ฉันจะไปเอาลูกคืน" เกสรโกรธแค้น" "ใครกล้าลองดีกับผมก็เชิญ ขืนบุกรุกเข้ามาผมแจ้งจับหมดไม่มีกรณียกเว้น"
ต้นมีนาคม เช้าวันทำงานวันหนึ่งก่อนที่จะเริ่มงาน
ที่โรงอาหารสาวสามในชุดพนักงาน กำลังกินและคุย
“พี่น้อย พี่เก๋ เลิกงานเย็นนี้เราแวะตลาดไหม”ดาหวันชวน ทุกคนเห็นดีด้วย
ที่ตลาดเล็กๆในอำเภอ สามสาวในชุดทำงาน กำลังคุยกันเรื่องของกิน ต่างคนต่างมองหาของที่ตัวเองต้องการ แต่ใจของเกสรกลับนึกถึงอดีตเมื่อครั้งก่อน
เพราะตลาดที่นี่เธอมักใช้บริการประจำ ครั้งที่อยู่กับนิคม ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับปากท้อง และข้าวของเครื่องใช้เกสรแทบจะใช้บริการตลอด ตลาดนี้อยู่ใกล้บ้านนิคมมากกว่าตลาดไหนๆ
หลายเดือนแล้วสินะที่เกสรไม่ได้มา หลังจากที่เลิกรากับอดีตสามี
วันนี้ได้มาอีกครั้งเพราะดาหวันชวน สายตาสอดส่องมองดูไปทั่ว
ทุกอย่างแทบไม่เปลี่ยนแปลง
“พี่น้อย พี่เก๋ เราไปทางโน้นกันดีกว่า”ดาหวันไม่พูดเปล่าจับมือเกสรให้เดินตามด้วยนะ พามาหยุดที่ร้านหมึกย่าง จากนั้นเลือกหมึกใส่จานส่งให้แม่ค้าย่างในตะแกรงถ่านที่อยู่ใกล้ๆ เกสรและนิดนภาเห็นดาหวันซื้อหมึก เลยจัดไปด้วย ระหว่างที่รอ นิดนภาบอกทุกคน
“จะไปดูผลไม้ฝากคนที่บ้าน ใครจะไปด้วย”
เกสรพยักหน้า ส่วนดาหวันส่ายหน้าบอกจะขอดูแถวนี้
ที่แผงผลไม้ ระหว่างที่นิดนภาเลือกส้มอยู่นั้น เกสรมองทั่วว่าจะเอาอะไรไปฝากแม่ดี นึกไปก็มีแต่ส้มนี่แหละ เพราะผลไม้อย่างอื่นที่เห็นในร้าน เช่นกล้วย ส้มโอ หรือว่ามะพร้าวนํ้าหอม ที่บ้านก็มี
เลือกเสร็จให้แม่ค้าชั่ง แล้วจ่ายเงิน เดินออกมาหานิดนภา ที่ยืนคอยข้างๆแผง
“ไปดูเนื้อหมูกับผักไว้ให้แม่ทำกับข้าว”นิดนภาบอก เกสรพยักหน้า
ก่อนที่จะถึงแผงขายเนื้อหมู นิดนภากับเกสรต้องสะดุดชั่วขณะ
รอให้คนบางคนที่ซื้อออกไปจากแผงก่อน
“เก๋ ดูไว้ไม่มีแก เขาก็มาหากับข้าวได้ เห็นในมือเขาไหมมีทั้งผักผลไม้
ของกินเยอะแยะไปหมด ทีนี้แกก็ไม่ต้องห่วงเขาแล้วนะ เอาแรงแลกเงินซื้อของอร่อยๆไปฝากแม่ดีกว่า”นิดนภาพูดให้เกสรคิด
เกสรมองตามร่างของนิคม ที่หิ้วของกินพะรุงพะรัง ตอนอยู่กับเธอเขาไม่เคยมาตลาด อยากกินอะไรก็แค่บอกเท่านั้น แล้วไม่ต้องจ่ายเงินด้วย
ตั้งแต่เขามีครอบครัวใหม่ ก็พร้อมเปลี่ยนแปลงตัวเอง ช่างเป็นพ่อบ้านที่ดี
เกสรรู้สึกอิจฉาเมียคนใหม่ของนิคม
นิดนภาและเกสรได้เนื้อหมูคนละถุงแล้ว พากันกลับไปเอาหมึกย่าง
ระหว่างที่เดินตามหลังเพื่อนไปเกสรคิดกับเพื่อนที่เดินนำหน้าเธอในขณะนี้
ถึงนิดนภาจะรุ่นคนเดียวกันกับเธอ แต่ความคิดความอ่านนิดนภาไปไกล
กว่ามาก และเป็นคนรักแม่รักลูกมาก ตลอดระยะที่คบกันยาวนาน หากเงินเดือนออกสิ่งที่เกสรมักได้ยินจากนิดนภาคือ ซื้อเพราะแม่อยากกิน ซื้อเพราะลูกอยากกิน ผิดกับเกสรที่เงินออกไว้บำรุงบำเรอผัวและแม่ผัว
ใช่ ถึงเวลาแล้วสินะ ที่เงินจากนํ้าพักนํ้าแรงเธอจะเอาไปให้แม่บ้าง
ต่อไปนี้ต้องเอาใจใส่แม่
ทั้งสองคนไปถึงที่ขายหมึกย่าง ดาหวันรอพูด
“อิจฉาเมียพี่นิคม มีผัวหาประเคน ชาตินี้จะหาได้หรือเปล่า”
นิดนภามองหน้าดาหวันเหมือนเข้าใจ “เอาเป็นว่าชาตินี้หาผัวให้ได้ก่อน
เรื่องประเคนค่อยว่ากัน เฉียดเลขสามแล้วไม่ใช่หรือเรา”
ดาหวันพยักหน้าทำท่าบ๊องแบ๊ว พี่ทั้งสองคนนึกเอ็นดู
ที่บ้านหลังหนึ่งเป็นบ้านไม่ชั้นเดียว ยกสูงจากพื้นราว 1 เมตร บ้านค่อนข้างเก่า แต่พื้นที่ใช้สอยเยอะพอสมควร ครั้งหนึ่งเกสรเคยอาศัยอยู่ใต้หลังคาบ้านหลังนี้
นิคมในชุดเสืัอโปโลสีนํ้าเงิน มีตราสัญลักษณ์ของโรงาน ซึ่งเป็นเสื้อของช่าง กางเกงยีนส์สีซีด รองเท้าผ้าใบสีดำเก่าๆจอดรถมอเตอร์ไซค์สีแดงกลางเก่ากลางใหม่หน้าบ้าน แล้วถอดหมวกกันน็อกแขวนไว้ที่แฮนด์รถ จากนั้นหยิบข้าวของที่อยู่ที่ในตะกร้าหน้ารถเอาขึ้นบ้านไป
“วันนี้ลูกแก งอแงตลอด แม่เหนื่อยแล้วนิคม” แม่ที่ชรามากแล้วบ่นให้นิคม
แต่มือยังไกวเปล “เพิ่งนอนตะกี้ แล้วเมียแกหล่ะ” มองหาแม่ของลูก
ชายหนุ่มตอบแม่เสียงเบา “ทำโอทีต่อ แม่กินข้าวนะผมซื้อกับมาแล้ว”
“กับข้าวซื้ออีกแล้วหรือ ถ้าเก๋อยู่ป่านนี้ได้กินกับข้าวอร่อยๆ นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้กินกับข้าวฝีมือเก๋” แม่ของเขาพรํ่าบ่นแต่ว่าต้องแกะกับข้าวถุง
ที่เขาซื้อมาอยู่ดี
นิคมชายวัย 40 กำลังไกวเปลลูกน้อยที่อายุไม่กี่เดือน แต่สายตากำลังมองแม่ในขณะที่แม่กำลังกินข้าว
เขากำลังรู้สึกผิดกับแม่ อายุมากแล้วแทนที่จะได้พักผ่อนกลับต้องมา
ดูแลลูกน้อยให้เขา
ส่วนนิคมเองก็ไม่ต่างจากแม่เขามากนัก กลางวันทำงาน ส่วนกลางคืนดูแลลูกเพื่อให้แม่ของเขาได้พักบ้าง
ส่วนเมียที่แทนที่เกสรแทบจะไม่ดูลูกเลย เธอมีข้ออ้างสารพัดที่จะไม่ดูลูก
สุดท้ายมีแม่และเขาเท่านั้นที่เปลี่ยนกันดูสองคน
จนเพื่อนในที่ทำงานทักว่านิคมเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
ตอนอยู่กับเกสร หน้าตาหล่อเหลาเสื้อผ้าดูสะอาดสะอ้าน
ถ้าเทียบกับตอนนี้ตรงข้ามกันเลย
ช่างประจำโรงงานไกวเปลแล้วเหม่อ นึกถึงอดีตภรรยาที่เคยอยู่ด้วยกัน
ที่บ้านหลังนี้ด้วยกันมาราว 10 ปี
บ้านหลังนี้เมื่อเกสรอยู่ตรงไหนมุมไหนก็ดูสะอาดตา ข้าวของเสื้อผ้าดูจัดเป็นระเบียบเรียบร้อย อาหารการกินก็ไม่เคยขาดตกบกพร่อง มีแต่จะกินหรือไม่กินเท่านั้น ป่านนี้เกสรทำอะไรอยู่นะ
“ยังคิดถึงพี่หรือเปล่า เก๋” นิคมพูดเบาๆ มือไกวเปลแบบเลื่อนลอย
ที่บ้านแม่แก้ว สองแม่ลูกคุยกันหลังกินข้าวช่วงหัวคํ่า ที่ประจำในบ้าน
คือแคร่ในบ้าน ซึ่งเป็นที่ดูโทรทัศน์และที่กินหมาก บางทีอาจเป็นที่นอนของแม่ด้วย ขณะที่แม่กำลังหยิบปูนแดงมาป้ายใบพลูนั้น
เกสรเอ่ยกับแม่ “แม่ เจอพี่นิคมในตลาดด้วย”
“แล้วยังไง”แม่มองหน้าลูกสาว แล้วสนใจใบพลูในมือต่อ
“เห็นเขาซื้อกับข้าว ตอนที่อยู่ด้วยกัน ไม่เห็นเคยทำ”เกสรพูดให้แม่ฟัง
“งั้นเอ็งก็รู้ไว้ เขารักคนใหม่มากกว่า ทีนี้ตาสว่างหรือยัง”แม่แก้วใช้มีดผ่า
หมากออกเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ห่อรวมกับใบพลู จากนั้นก็ใส่ปากเคี้ยว
“แล้วตอนพ่อจากพวกเราไป แม่ทำใจยังไง”เกสรมองแม่ที่กำลังเคี้ยวหมาก
“ถามได้ก็เสียใจสิวะ พ่อของเอ็งจากไปคือตายนะ ไม่ได้ไปมีใครใหม่เหมือนผัวเอ็ง แต่แม่เสียใจนานไม่ได้ เอ็งแค่หกขวบ ส่วนไอ้กุ้งแค่สามขวบ แม่ต้องหารับจ้างเลี้ยงปากท้องสามชีวิต
ถ้าหากพ่อยังอยู่พวกเราอาจจะมีชีวิตกว่านี้ก็ได้ แล้วเอ็งกับน้องจะได้เรียนสูงๆ”แม่เคี้ยวหมากเล่าความทุกข์ยากเมื่อลูกยังเล็ก
“แม่เก่งจังเลย สมัยก่อนแทบไม่มีงานให้จ้าง แต่แม่ก็ยังเลี้ยงฉันกับกุ้งมาได้” เกสรทึ่งในความสามารถแม่
“เพราะเอ็งทั้งสองคนคือสิ่งที่มีค่า มีความหมายสำหรับแม่
แม่จะทำทุกอย่างเพื่อให้เรามีกิน ตอนเด็ก เราไม่อดอยากปากแห้งเกินไช่ไหมลูก”แม่บ้วนนํ้าหมากลงในกระป๋องใบเก่าๆ
เกสรรู้ซึ้งถึงความลำบากของแม่ครั้งที่เธอและน้องยังเด็ก
เกสรค่อยๆกอดแม่ บ่อนํ้าตาเริ่มทำงาน แม่แก้วแปลกใจ
เกสรไม่เคยกอดนางนานมากแล้ว วันนี้ลูกเป็นอะไร
“แม่จ๋า ฉันขอโทษ”พูดได้แค่นี้จากนั้นเริ่มร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร
แม่แก้วตกใจ “เก๋ เป็นอะไร”นางกอดลูกตอบ
เกสรไม่ตอบกลับกอดแม่แน่น พลางนึกถึงเรื่องราวที่ตัวเองละเลยผู้ให้
กำเหนิดมานาน ครั้งมีความสุขก็จากแม่ไป พอมีความทุกข์กลับมาซบอกแม่ แต่แม่แก้วของเกสรไม่เคยซํ้าเติมลูกเลย กลับเอาใจใส่เพิ่ม
ผู้ชายที่คิดว่าความสุขของเธอ แม้แต่ถามไถ่อาการ ตอนที่ได้รับบาดเจ็บในฐานะคนที่ทำงาน
ที่เดียวกัน ยังไม่มีเลย แถมบอกผ่านเพื่อนมาว่าเธอประมาทเอง
วันนี้ยิ่งตอบยํ้าชัด นิคมไม่รักเกสรตั้งนานแล้ว
ภาพที่เขาซื้อกับข้าวให้ครอบครัวยังวนเวียนในหัว
“บอกแม่ได้หรือยังว่าเป็นอะไร”แม่แก้วถามลูกสาวหลังจากหยุดร้องไห้แล้ว
“เอาไว้วันหลังฉันจะบอกแม่ แต่วันนี้”เกสรผละจากอ้อมกอดแม่ไปที่ห้อง
แล้วกลับมาหน้ายิ้มเปื้อนนํ้าตา “แม่ ให้แม่ใช้นะ ฉันรู้ว่าว่าเมื่อก่อน กว่าจะได้ให้แม่แต่ละทีนานมาก ต่อไปจะให้แม่ใช้ทุกเดือน อาจจะไม่เยอะแต่ก็อยากให้แม่” เกสรกำเงินสดใส่มือแม่
แม่แก้วนับแล้วตกใจ “เก๋ ทำไมให้แม่เยอะจัง”
เกสรกอดแม่อีกครั้ง “แม่รู้ไหม อยากให้แม่เยอะกว่านี้ถ้ามี”
“แต่ ตั้งหมื่นนะเก๋” แม่แก้วยํ้า
“เงินฉันห้าพันส่วน อีกครึ่งหนึ่งของยายไสว ที่ให้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านไงแม่ แม่อยากกินหรืออยากได้อะไร ตามใจแม่เลยนะ”
“ขอบใจมากลูก ถึงเก๋ไม่ให้แต่แม่พอมีอยู่บ้างนะ”แม่แก้วบอกลูกแบบยิ้มๆ
เกสรเปลี่ยนท่าจากนั่งกอดแม่เป็นนอนหนุนตักแม่ สงสัยว่าแม่มีเงินได้ยังไง ทั้งที่ไม่ได้ทำงานประจำเหมือนเธอ พอรู้คำตอบถึงกับอึ้ง
“ที่ผ่านมากุ้งส่งเงินมาให้แม่ทุกเดือน แถมบางเดือนยังส่งปลาแห้ง หมึกแห้งมาให้ ช่วงเทศกาลก็ซื้อเสื้อผ้ามาให้ทุกปี จนแม่ต้องบอกว่าไม่ต้อง
เอามาอีกแม่ใส่ไม่่ทัน บางทีแม่ก็รับจ้างทำงานแถวนี้แหละ อ้อแล้วขายของ
ในบ้านเราอีก เมื่อวันก่อนแม่ค้าก็มาตัดกล้วยไป ก่อนโน้นอีกก็มะพร้าว ส้มโอ ขนุน พลูกินหมากเขายังรับเลย ยิ่งถ้าหน้าหาเห็ด วันนั้นแม่อาจได้เงินมากกว่าค่าแรงเก๋ทั้งวันก็ได้”
“ดีใจแทนแม่จริงๆ ที่กุ้งไม่ละเลย ทั้งที่เป็นผู้ชายและก็ทำงานอยู่ไกลด้วย
ผิดกับฉัน”เกสรเริ่มโทษตัวเอง แต่แม่บอกให้หยุด
“เก๋ อย่าโทษตัวเองอีกเลยนะ แค่มาอยู่กับแม่อีกครั้งแม่ก็มีความสุขมากแล้ว”
“แม่มีความสุขง่ายจัง ฉันอยากเป็นเหมือนแม่”เกสรจับมือแม่
“ก็แม่ไม่เคยถือสาหาความใคร คนบ้านเราแม่รู้จักหมด คุยกับใครแม่คุยได้หมด อะไรในบ้านเช่นพืชผักผลไม้ แม่ก็แบ่งปันไปทั่ว หากเขาได้อะไรก็แบ่งเราคืน ที่สำคัญเวลาให้อะไรกับใคร แม่ไม่หวังว่าเขาจะให้เรากลับคืน
หรอกนะ”
“ยังไงแม่”เกสรไม่เข้าใจ
“ง่ายๆ แม่รักเอ็งกับไอ้กุ้ง แม่ไม่ได้ให้เอ็งกับน้องรักแม่กลับคืนซะที่ไหน
แม่มีความสุขที่ได้รักต่างหาก”แม่แก้วอธิบายตามความรู้สึก
“แม่มีความสุขกับอะไรอีก”เกสรเหมือนพอเข้าใจ
“เอาตั้งแต่ตื่นนอนก็แล้วกัน ได้ใส่บาตรบ้าง เดินไปหาป้าแจ่มหรือว่า
แค่พรวนดินใส่ปุ๋ยพืชผักที่แม่ปลูก แม่ก็มีความสุขตามประสา
ความสุขแม่ไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร เก๋ก็เหมือนกันนะ เลิกโกรธ เลิกโทษ
เลิกน้อยใจนิคมได้แล้วนะ ที่สำคัญเรากับเขาแยกทางกันแล้ว ลูกแม่รู้ไช่ไหมว่าตัวเองเปลี่ยนสถานะแล้ว ไม่มีสิทธิ์ในตัวเขาแล้ว” แม่พยายามบอกให้เกสรไม่ให้นึกถึงนิคม
เกสรพยักหน้า บอกแม่ว่าจะพยายามลืมนิคม แม้จะต้องใช้เวลาก็ตาม
แม่แก้วลูบหลังเกสร พร้อมที่จะให้กำลังใจ
วันอาทิตย์เวียนมาถึงอีกครั้ง
ที่บ้านป้าแก้ว ในเวลาช่วงบ่ายใกล้เย็น วายุมาพร้อมรถกระบะ แต่อาทิตย์นี้ยายไสวไม่ได้มาด้วย เขามาพร้อมอุปกรณ์ไฟฟ้า และเครื่องมือการซ่อม
วายุเลี้ยวรถจอดใกล้ๆเพิงข้างบ้าน แอบมองไปที่เปล ไม่มีแม้แต่เงาเกสร
เธอไปไหนนะ เขาถามในใจ
ป้าแก้วเดินมาจากบ้านป้าแจ่ม “วายุ”
“สวัสดีครับป้า ผมมาดูไฟให้น่ะครับ”หลังจากทักทายป้าแก้วแล้วชายหนุ่มทำงานทันที ระหว่างที่ซ่อมและเปลี่ยนปลั๊กไฟให้ป้าแก้วนั้น อยากถามป้าว่าลูกสาวไปไหน แต่ก็ไม่กล้า ชั่วโมงผ่านไปเขาเก็บอุปกรณ์ทุกอย่าง
ออกมาจากในบ้านป้าแก้ว
“เรียบร้อยแล้วครับ” วายุบอกป้าแก้ว ที่นั่งตรงแคร่หน้าบ้าน
“ขอบใจมาก นั่งก่อนนะ ตายจริงป้าลืมเอานํ้าให้วายุกิน”ป้าแก้วรีบเดินไปที่ครัว
วายุมองเวลาในโทรศัพท์ใกล้สี่โมงเย็นแล้ว ไม่เห็นลูกสาวเจ้าของบ้านก็คงต้องลา
“วายุคิดค่าซ่อม ค่าทุกๆอย่างเลยนะ”ป้าแก้วยื่นขวดนํ้าให้เขา
“ไม่เป็นไรครับ”เขารับขวดนํ้าจากป้าแก้ว แต่ในใจอยากรู้ว่าลูกสาวป้าหายไปไหน วันนี้ป้าใส่เสื้อคอกระเช้าสีสดใสเหมือนใหม่ ผ้าถุงลายไทย รองเท้าคู่เดิม
“ไปนั่งพักที่เพิงข้างบ้านนะ เย็นกว่าหน้าบ้าน”ป้าแก้วเดินนำเขาไป
วายุนั่งตรงเปล “เย็นดีจริงครับ” ทำเป็นมองดูรอบๆ แท้จริงแล้วมองหาเกสร
“ป้าจะเก็บใบพลูฝากให้ยาย วายุรอหน่อยนะ”ป้าแก้วบอกแล้วบ่นให้ลูกสาว “เก๋ แค่ไปซื้อปูนทำไมนานนักก็ไม่รู้”จากนั้นเดินไปเก็บใบพลู
ที่อยู่หลังบ้าน
วายุรีบตามป้าแก้ว “ปูนหรือครับ เอามอเตอร์ไซค์ไปซื้อปูน แล้วจะเอามาได้หรือครับป้า”แค่ขับให้ไม่ล้ม ให้มันได้ก่อน วายุคิด
ป้าแก้วหัวเราะเบาๆ “ปูนกินหมาก ตายยากมาแล้ว”
เกสรเอามอเตอร์ไซค์มาจอดใกล้เพิงพัก เห็นวายุยืนใกล้แม่ของเธอ
วันนี้เขาสวมเสื้อยืดสีนํ้าเงิน กางเกงยีนส์ดำ รองเท้าแตะคู่เดิม
ส่วนวายุมองเกสร ใส่เสื้อคอปกแขนยาวสีดำ น่าจะซื้ออะไรบางอย่างแล้ว
แถมเสื้อให้ กางเกงยีนส์เก่าๆ รองเท้าคู่เดิม
“นายไปยืนคุมแม่ฉันทำไม” เกสรถามวายุทีเล่นแล้วเอาปูนกินหมากที่แม่ให้ซื้อ เดินเอาไว้ที่ตะกร้าสำหรับกินหมาก อยู่ที่แคร่หน้าบ้าน
“ไปนาน รู้ไหมป้าแก้วบ่น”ไม่รู้ว่าตามมาเมื่อไหร่ ที่จริงเขานั่นแหละบ่น แต่อ้างป้าแก้ว
“รถยางแตก ฉันเลยไปเปลี่ยน เลยช้านิดหนึ่ง อย่าบอกนะ ว่ามาเอาใบพลูเฉยๆ”เกสรเริ่มกล้ามองหน้าเขา กลิ่นบุหรี่รู้สึกบรรเทาเบาบาง
“เสียเวลาเรื่องเดียวทำไมเล่า มาแล้วต้องคุ้ม เบียร์ที่ฝากไว้สามขวด อย่าบอกนะแอบกินหมด” วายุล้อเธอเล่นยังจำได้ อาทิตย์ที่แล้วเขากินยังไม่หมดขวด
ยายก็เรียกให้กลับบ้าน
“ฉันแอบกินหมดแล้ว ทำยังไงดี”เกสรล้อเล่นกับวายุ
“ผมจะฟ้องป้า แล้วเรียกค่าเสียหาย โทษฐานไม่ยอมรอ”ทีเล่นทีจริงชักจะอยากรู้จักเกสรให้มากขึ้น
“นายนั่นแหละว่าฉัน กินนมตอนนี้จะมีผลอะไร เบียร์ที่เหลือวันนั้นฉันจัดการซะเรียบ เหลือแต่นมกล่องนายกินนะ จะได้สูงกว่า….”เกสรไม่กล้าพูดว่าเปรต
วายุหัวเราะเบาๆ แค้นฝั่งหุ่นหรือเปล่า จำคำพูดของเขาได้