ความเป็นกับความตายห่างกันแค่คืบ เช่นเดียวกับหัวใจทั้งสองที่ไม่อาจคู่ควร

After Dark Flirtation รัตติกาลผัดรัก - 1 ผัดซีอิ๊วเงาเมือง (1/2) โดย GreySweater @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

หญิง-หญิง,แฟนตาซี,ดราม่า,ดราม่า,แฟนตาซี,GL,ผัดซีอิ๊วหน้าง่วง,รัตติกาลผัดรัก,AfterDarkFlirtation,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

After Dark Flirtation รัตติกาลผัดรัก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

หญิง-หญิง,แฟนตาซี,ดราม่า

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,แฟนตาซี,GL,ผัดซีอิ๊วหน้าง่วง,รัตติกาลผัดรัก,AfterDarkFlirtation

รายละเอียด

After Dark Flirtation รัตติกาลผัดรัก โดย GreySweater @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ความเป็นกับความตายห่างกันแค่คืบ เช่นเดียวกับหัวใจทั้งสองที่ไม่อาจคู่ควร

ผู้แต่ง

GreySweater

เรื่องย่อ

AFTER DARK FLIRTATION รัตติกาลผัดรัก


Girl Love | Fantasy By GreySweater


หนึ่งมนุษย์ หนึ่งอมนุษย์พานพบเจอกันโดยไม่ใช่เรื่องบังเอิญนัก "ซิบิล" ปีศาจแห่งการหลับใหล ผีอำและฝันร้าย ผู้ดูแลปากท้องแห่งนรกมีเวลา 3 สัปดาห์เพื่อหานักโภชนาการคนใหม่ และไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าสาวน้อยผู้มีเสน่ห์ปลายจวัก เจ้าของร้านผัดซีอิ๊วเงาเมืองรุ่นที่ 5 อย่าง "วี" อีกแล้ว


ติดแค่... เธอไม่ยอมทำสัญญาดี ๆ เนี่ยสิ!



ภาพหน้าปกและภาพประกอบโดย Kira



#AfterDarkFlirtation #รัตติกาลผัดรัก #ผัดซีอิ๊วหน้าง่วง #เกรย์สเวตเตอร์เขียน #จักรวาลนิยายทริลเลอร์แฟนตาซี #นิยายยูริ #GirlLove

สารบัญ

After Dark Flirtation รัตติกาลผัดรัก-บทนำ บทนำ,After Dark Flirtation รัตติกาลผัดรัก-1 ผัดซีอิ๊วเงาเมือง (1/2),After Dark Flirtation รัตติกาลผัดรัก-1 ผัดซีอิ๊วเงาเมือง (2/2),After Dark Flirtation รัตติกาลผัดรัก-2 ลูกค้าคนนี้แปลก (1/2),After Dark Flirtation รัตติกาลผัดรัก-2 ลูกค้าคนนี้แปลก (2/2),After Dark Flirtation รัตติกาลผัดรัก-3 ท่าจะบ้าใหญ่แล้ว,After Dark Flirtation รัตติกาลผัดรัก-4 หลอนอย่างต่อเนื่อง,After Dark Flirtation รัตติกาลผัดรัก-แจ้งข่าว ขอให้ทุกท่านปลอดภัย,After Dark Flirtation รัตติกาลผัดรัก-5 เจตนา จินตนาการและประสาทเสีย,After Dark Flirtation รัตติกาลผัดรัก-6 หญิงผมสั้นสีชานมกับมวลพลังงานตามมาติด ๆ (1/2)

เนื้อหา

1 ผัดซีอิ๊วเงาเมือง (1/2)

 

หากจะเปรียบเทียบกับความร้อนจากแสงพระอาทิตย์ที่สาดส่องมายังโลก มนุษย์พร่ำบ่นถึงอากาศร้อนอบอ้าว บ้างทนไม่ไหวจึงต้องดับความร้อนด้วยการดื่มน้ำเย็นหรือแม้กระทั่งลงแช่น้ำ เปิดเครื่องปรับอากาศในอุณหภูมิที่เย็นสบาย แน่นอนบนโลกมนุษย์สามารถเลือกทำสิ่งเหล่านั้นได้ แต่เมื่อมนุษย์ไร้สิ้นชีวิตแล้วถึงเวลาที่ต้องชดใช้กรรม ลงมายังที่ขุมนรกซึ่งร้อนยิ่งกว่าลาวาภูเขาไฟเป็นสิบเท่า ไม่มีสระน้ำให้ลง ไม่มีเครื่องปรับอากาศให้เปิด ความร้อนจะแผดเผาดวงวิญญาณที่กระทำความชั่ว ความทรมานสะสมที่ได้กระทำไว้เมื่อตอนมีชีวิต แต่หากว่าวิญญาณที่ยังพอมีบุญที่สะสมมา แม้จะตกมาที่ขุมนรกเช่นนี้ ก็จะมีปีศาจคอยคัดสรรวิญญาณ ละเว้นให้ไปอยู่อีกฝั่งของขุมนรก ใช้งานจนกว่าชดใช้กรรมครบถ้วนเพื่อไปเกิดใหม่

อย่างเช่นห้องครัวแห่งขุมนรกชั้นบาดาลนี้ที่เหล่าวิญญาณกำลังวุ่นวายในการทำอาหารให้เหล่าปีศาจทุกระดับชนชั้นและท่านผู้ปกครองนรกอย่างเทพเจ้าฮาเดส วิญญาณทุกตนกำลังทำหน้าที่ของตนเองด้วยความขะมักเขม้น รวมถึงหัวหน้าพ่อครัวอย่างคงเดช ชายวัยกลางคนหน้าโทรมผู้ตายด้วยเส้นเลือดในสมองแตกระหว่างที่กำลังทำอาหารอยู่ในครัวของโรงแรมชื่อดัง ตอนเป็นมนุษย์ เขาเป็นเชฟที่ทำอาหารได้อร่อย มีความรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบชั้นดีที่นำมาใช้ในการประกอบอาหารและคำนึงความสดสะอาดของอาหารเป็นเลิศ แต่คงเดชไม่ใช่คนดี... เรียกว่าชั่วช้าเลยก็ย่อมได้ ยามเขาสวมชุดเชฟสีขาวสะอาดอันทรงเกียรติคือหน้ากาก ทว่ายามถอดเครื่องแบบ เขาคือนักวางยาเบื่อสังหารสัตว์จรจัดสุดอำมหิต หมาแมวไร้เดียงสาต้องมาตายด้วยน้ำมือของคงเดชเพียงเพราะเขาไม่ชอบให้มันเดินเพ่นพ่านหน้าบ้าน ดังนั้นเมื่อเขาสิ้นลมหายใจก็ตกมาอยู่ในขุมนรก ยมบาลตัดสินคัดสรรหน้าที่ให้เป็นหัวหน้าพ่อครัวของเหล่าวิญญาณที่อยู่ในที่นี่ด้วยกัน แม้ไม่มีค่าจ้างแต่ทุกนาทีคือการชดใช้กรรม

"เชฟครับ อาหารของสัตว์ปีศาจเป็นเนื้อระดับแรร์ใช่มั้ยครับ"

วิญญาณตนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นมา คงเดชได้แต่พยักหน้าเพราะกำลังเร่งทำอาหารในกระทะ วิญญาณตนนั้นจึงเตรียมภาชนะในการใส่ไว้รอเพื่อที่จะให้คงเดชได้จัดใส่จานเมื่อเสร็จสิ้นการทำ แต่แล้วเสียงตะหลิวที่คนกะทะกลับเงียบลง พร้อมกับการเลือนลางของวิญญาณคงเดชแล้วหายวับไปต่อหน้าต่อตาวิญญาณตนอื่น ทุกคนต่างพากันตกใจและลุกลี้ลุกลนทำอะไรไม่ถูก มิใช่เพราะการหายตัวไปของคงเดช แต่เพราะพวกเขาต้องวุ่นวายเพราะไม่มีหัวหน้าอยู่แล้วต่างหาก!

"เกิดอะไรขึ้น!" เสียงใสปนดุของจอมมารปีศาจแห่งการหลับใหลดังขึ้นมาท่ามกลางความวุ่นวายในครัว เธอมองไล่อาหารที่จัดเตรียมไว้แต่ขาดของท่านอาเดสที่ยังไม่มีอาหารลงจานพร้อมเสิร์ฟ "อะไรกัน ทำไมอาหารยังไม่ลงจาน มัวทำอะไรกันอยู่! แล้วนี่หัวหน้าพ่อครัวหายไปไหน ทำไมปล่อยให้พวกเจ้าทำกันวุ่นวายแบบนี้!!" เสียงแหลมโวยวายอย่างหัวเสีย เพราะอีกไม่นานก็จะถึงเวลาทานอาหารของเหล่าสัตว์ปีศาจแล้ว หากกิจวัตรการกินคลาดเคลื่อนล่ะก็... นรกได้แตกอีกหนเป็นแน่เพราะมันควบคุมยากเหลือเกิน

"หัวหน้าคงเดชเขาไปเกิดแล้วครับ ท่านจอมมาร" วิญญาณตนหนึ่งเอ่ยขึ้นบอกกล่าวอย่างเกรงกลัวจอมมารตรงหน้า

ซิบิล หญิงสาวจอมมารปีศาจแห่งการหลับใหล ผู้ที่ควบคุมเหล่าปีศาจและผีสางในขุมนรกแห่งนี้ ผู้ทรงพลังเป็นพิเศษในช่วงเวลากลางคืน เหล่าวิญญาณและปีศาจมักจะเกรงกลัวต่อเธอ เพราะเธอสามารถทำให้เหล่าวิญญาณที่ตายไปแล้วหลับใหลไม่ตื่น แม้จะถึงเวลาไปเกิดใหม่ วิญญาณนั้นก็จะไม่สามารถไปเกิดได้ หากไม่โดนปลุกจากการหลับใหลของเธอ

เหล่าวิญญาณกลัวเธอก็เพราะเหตุผลนี้ เพราะวิญญาณทุกตนต้องการหลุดพ้นแล้วไปเกิดใหม่เมื่อชดใช้กรรมหมด

"ห๊ะ! ลองดูซิว่าหัวหน้าพวกเจ้าได้ปรุงรสชาติอาหารเรียบร้อยก่อนไปเกิดใหม่หรือยัง" เธอสั่งวิญญาณที่อยู่ใกล้กระทะให้ลิ้มลองรสชาติอาหาร

"ระ... เรียบร้อยแล้วค่ะ ท่านจอมมาร"

"เรียบร้อยแล้วก็จัดใส่จานสิ ต้องให้ข้าบอกเจ้าทุกขั้นตอนเลยรึ!" ดวงตาสีแซฟไฟร์จ้องดุจนวิญญาณผู้หญิงเมื่อครู่ร้อนลนด้วยความกลัว รีบจัดอาหารลงใส่จานด้ายอาการสั่นเทา "เสร็จแล้วก็เตรียมตัวเอาไปเสิร์ฟ แล้วนี่มีใครที่พอแทนหัวหน้าพ่อครัวได้บ้าง" วิญญาณทุกตนเงียบกริบมองหน้ากันไปมา เพราะพวกเขาต่างเป็นแค่ลูกมือคอยจัดเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมและจัดเตรียมจานเท่านั้น "ให้ตายสิ!" ซิบิลขยี้ผมสีเงินตัวเองอย่างหงุดหงิด เธอทำมือสั่งให้พวกวิญญาณนำอาหารไปเสิร์ฟอีกห้อง ขณะเดินออกจากห้องครัวไปแล้วไปยังห้องทำงานของเหล่าปีศาจด้วยกัน

ภายในห้องทำงานในขุมนรกก็ไม่ได้ต่างจากออฟฟิศของเหล่ามนุษย์เท่าไหร่ มีโต๊ะทำงานมีเอกสารข้อมูลของเหล่าวิญญาณเป็นร้อยเป็นพันดวง เมื่อซิบิลเข้ามาในห้องก็มานั่งที่โต๊ะประจำตำแหน่งของเธอพร้อมกับกุมขมับ เธอวนนิ้วชี้เป็นวงกลมคล้ายพายุก่อให้เกิดขวดแก้วบรรจุน้ำร้อนจากภูเขาไฟขึ้นมากระดกจนเปื้อนคาง

"เจ้าเป็นอะไรไป ซิบิล ทำหน้าเคร่งเครียดอย่างกับทำวิญญาณในปกครองหาย" ซาเตอร์ จอมมารปีศาจแห่งการทรมานเอ่ยทักเธอขึ้นพลางไขว่ห้างจิบน้ำดื่ม เขาสามารถนั่งอยู่ในห้องนี้ได้ทั้งวันจนกว่าจะเหตุเกิดขึ้นในขุมทรมานวิญญาณมีบาป ซาเตอร์คือสหายร่วมรบกับซิบิลเมื่อหลายร้อยปีก่อนเพื่อให้ได้ปกครองแว่นแคว้นนรก

"ก็วิญญาณพ่อครัวที่ชื่อว่าคงเดชเพิ่งไปเกิด ตอนนี้ในครัวก็วุ่นเพราะไม่มีใครรอบรู้เรื่องการทำอาหารเท่าเขา ที่มีอยู่ก็เป็นแค่ลูกมือ คุมงานครัวไม่ไหว"

"อ่า ไปแล้วเหรอ น่าเสียดายนะฝีมือทำอาหารถูกปากข้าซะด้วย แล้วนี่เจ้าจะทำยังไง"

"ข้าไม่รู้ ข้าถึงนั่งเครียดอยู่นี่ไง"

"อื้ม เอาแบบนี้ ข้าจะลองไปคุยกับเทพเจ้าเฮสเตียเพื่อขอให้เจ้าได้ไปหาวิญญาณที่มีทักษะทางด้านอาหารโภชนาการมาแทนหัวหน้าพ่อครัวดีหรือไม่"

"เจ้าคิดว่าท่านเฮสเตียจะยอมหรือ" คิ้วขมวดย่นคลายลงเล็กน้อยเมื่อได้รับคำเสนอแนะจากเพื่อน

"ท่านเป็นถึงเทพีแห่งเตาอิฐและการจัดระเบียบกิจกรรมในครอบครัวเชียวนะ ท่านเข้าใจอยู่แล้ว แต่ว่าท่านจะช่วยให้เวลาในการหาเท่าไหร่ แค่นั้นเอง"

"อืม ขอบใจเจ้านะซาเตอร์ ข้าฝากด้วย"

"ยินดีมาก สหายข้า" จอมมารซาเตอร์เดินออกจากห้องไปเพื่อไปทำตามที่พูดกล่าวเมื่อครู่ ซิบิลได้แต่นั่งคิดว่าจะไปหาวิญญาณที่มีความสามารถเช่นนั้นมาจากที่ไหน แต่ไม่ว่าจะหายากแค่ไหนเธอก็ต้องทำให้ได้ เพื่อความเป็นอยู่ของปากท้องเหล่าปีศาจและผู้ปกครองนรกท่านอื่น ๆ

ว่าแล้วก็ดีดนิ้วทีหนึ่งเมื่อนึกขึ้นได้ถึงใครบางคนซึ่งไม่ได้เจอกันเนิ่นนานมากแล้ว ซิบิลเดินไปยังหน้ากระจกสะท้อนภายในห้องแต่งกายของตัวเอง ดวงตาสีแซฟไฟร์มองเงาตัวเองด้วยความคิดสุดบรรเจิด



 

บนโลกมนุษย์

หลังจากเกริกวิทย์จากไปครบสิบปี วีสานต่อธุรกิจของผู้เป็นบิดา ถ้านับในรุ่น เธอก็เป็นรุ่นที่ 5 แล้วและยังไม่มีร้านผัดซีอิ๊วไหนที่สามารถเทียบเคียงรสชาติได้เพราะสูตรลับประจำวงศ์ตระกูล แถมเธอยังเรียนจบทางด้านบริหารธุรกิจมาจึงนำความรู้ที่เรียนมาพัฒนาและต่อยอดธุรกิจของครอบครัวได้เป็นอย่างดี ผัดซีอิ้วเงาเมืองเปิดบริการทุกวันอังคารถึงวันอาทิตย์ ส่วนวันจันทร์จะหยุดเพื่อทำบัญชีและจัดหาซื้อวัตถุดิบมาเก็บไว้เพื่อเปิดร้านวันถัดไป เวลาทำการของร้านจะเป็นตั้งแต่เที่ยงคืนถึงแปดโมงเช้า สนองนีดคนหิวช่วงดึก ไม่ว่าจะเป็นพนักงานโอที นักศึกษาภาคค่ำรวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทำให้ร้านมีการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง

ในบ่ายวันจันทร์แบบนี้ วีเกล้าผมยาวเป็นมวยแล้วคาดด้วยผ้าทรงสามเหลี่ยมพร้อมกับสวมแมสก์คาดปากเพื่อไม่ให้มีสิ่งใดร่วงหล่นลงสู่วัตถุดิบ เธอกำลังยืนหมักหมูอย่างขะมักเขม้นและเงียบงันโดยสวมถุงมือชนิดใช้แล้วทิ้งตลอดกระบวนการ แววตาสีเข้มคู่งามไม่ได้จดจ่ออยู่กับเครื่องปรุงที่แทรกซึมเข้าชิ้นเนื้อหมูเพราะสติสัมปชัญญะได้หลุดไปสู่นิมิตแห่งการหลับใหล ภาพเคลื่อนไหวปนจินตนาการที่คาบเกี่ยวกับความเป็นจริงด้วยเส้นกั้นบาง

"พ่อ" วีเดินเข้ามาหาผู้เป็นพ่อที่ยืนอยู่ริมสะพานแถวคลองโอ่งอ่างซึ่งเป็นลำธารใสสะอาดจากการลอกท่อ แม้ในความจริงจุดนี้จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีผู้คนขวักไขว่ ทว่าในนิมิตมีเพียงสองพ่อลูกโดยลำพัง บนท้องฟ้าไร้วิหกโผบินผ่านม่านเมฆ ในแหล่งน้ำไร้หมู่ปลาแหวกว่าย มีเพียงสายลมอ่อน ๆ โชยพัดกลุ่มผมของทั้งคู่ วีหย่อนก้นนั่งบนสะพานโดยที่เกริกวิทย์ยืนกอดอกหลวม ๆ หญิงสาววัยยี่สิบเจ็ดมองใบหน้าเหี่ยวย่นโรยราตามอายุของพ่อที่ไม่ต่างจากเมื่อสิบปีที่แล้วแม้แต่น้อย

"อ้าว ทำไมครั้งนี้มาเร็วจัง... เหนื่อยเหรอ" เกริกวิทย์เอ่ยถามลูกสาวคนโตด้วยใบหน้าอบอุ่น

"ใช้ได้ค่ะพ่อ ที่ร้านขายได้เรื่อย ๆ เลย สูตรของปู่ทวด ลูกค้าติดงอมแงมทั้งหน้าร้านกับออนไลน์เลยค่ะ แต่วีว่าจะลองขยายร้านดูอีกนิดเพราะลูกค้าช่วงดึกเยอะมาก พวกคนที่มันกลับจากร้านเหล้าแล้วมาหาอะไรกิน ละแวกนี้มีแต่ร้านเราที่เปิดเที่ยงคืนถึงเช้า... พ่อคิดว่าไง"

"เอาสิ เอาตามที่เห็นสมควรเลย พ่อเป็นกำลังใจให้นะ" เกริกวิทย์ลูบหัวลูกสาวเบา ๆ อย่างเอ็นดูและชื่นชมในความกระตือรือร้นผ่านแววตาสีดำที่แสดงออก “แต่วีคงไม่ได้มาหาพ่อเพียงเพราะเรื่องแค่นี้ใช่มั้ย”

“ก็ใช่... วีแค่เบื่อทะเลาะกับไอ้วิชเรื่องขยายร้านแล้ว ลูกค้าร้านเราเยอะจะให้แออัดอยู่ในร้านแคบ ๆ ก็ไม่ไหว แต่วิชบอกขยายร้านขึ้นชั้นสองดีกว่าออกไปหน้าร้าน แต่วีก็ไม่อยากเสียเงินซื้อกล้องวงจรปิดอีก... พ่อเข้าใจใช่มั้ยคะ” หญิงสาวบ่นอุบเกี่ยวกับสถานการณ์ช่วงที่ผ่านมาระหว่างสองพี่น้อง ทว่าผู้เป็นพ่อกลับส่งยิ้มบางให้ไม่แสดงออกเข้าข้างฝ่ายใดเป็นพิเศษ

"พ่อดีใจนะที่วีกับวิชช่วยกันพัฒนาธุรกิจร้านเราไปได้ขนาดนี้"

"แล้วผู้หญิงคนนั้น--"

 

“วี! กลับมาแล้ว!”

ทว่าคำถามของวีจำต้องกลืนหายลงคอเมื่อนิมิตเลือนรางสู่โลกความจริงซึ่งมีเสียงตะโกนเรียกจากชายหนุ่มวัยยี่สิบสองที่ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากวรภพ น้องชายตัวดี สองมือหอบถุงพะรุงพะรังเต็มไปด้วยวัตถุดิบ เช่น ผักใบเขียว เนื้อสัตว์ ไข่ไก่เบอร์ศูนย์และเครื่องเทศต่าง ๆ จนทำให้เธอหลุดจากการหลับใหลตื่นขึ้นมา มือของเธอยังคงอยู่ที่การหมักหมู วีส่ายหัวตั้งสติก่อนจะขยำหมูในกะลามังต่อ “นี่ช่วงนี้ของแพงขึ้นนะพี่ ตอนนี้ราคาไก่ปรับขึ้นอีกแล้วอะ ส่วนเนื้อก็ไม่ต้องพูดถึง... พี่ว่าเราควรปรับราคาดีไหม?”

“แกคิดว่าไงละ?”

“ตอนนี้ยอดขายเราก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งในออนไลน์ยิ่งดีเลยพี่วี ถ้าปรับราคานิดๆ หน่อยๆ ลูกค้าคงไม่อะไรมาก เพราะรสชาติของเราก็ยังคงดีเหมือนเดิม” วิชให้คำตอบอย่างไม่ลังเล ขณะจัดแจงของที่เพิ่งซื้อเข้าตู้เพราะตนนั้นเป็นดูแลบัญชีถึงได้รู้ยอดขายทุกบาททุกสตางค์ หากจะแบ่งแยกให้เห็นชัด ๆ วีเป็นคนคุมครัวเพราะแม่นยำในอัตราส่วนปรุงอาหารและมีเสน่ห์ปลายจวัก ส่วนวิชเป็นผู้จัดการร้าน คนจัดระบบระเบียบรวมถึงบัญชีรายรับรายจ่าย

“ก็ตามนั้น แต่ฉันว่าเรารอดูสถานการณ์ไปเรื่อย ๆ ดีกว่า ปรับราคากะทันหัน ลูกค้าอาจจะคอมเพลนได้”

"ไม่เยอะหรอกพี่ เอ้อ แล้วตอนนี้มีปัญหาอยู่อีกอย่างคือพวกไรเดอร์เดินทางมาร้านเราไม่ถูกเยอะเลย แถมบางคนยังหยิบออเดอร์สลับกับออเดอร์อื่นจนมั่วไปหมด" วิชบ่นขึ้นมาเพราะด้วยการที่ตนดูแลระบบความเรียบร้อยของร้าน ทำให้เขาเห็นถึงปัญหาต่าง ๆ ในการรับออเดอร์เดลิเวอรี่

“งั้นเริ่มตั้งแต่วันนี้จัดการไลน์ออเดอร์เดลิเวอรี่ใหม่ แต่ห้ามใช้ปากกาเขียนบนถุงเด็ดขาดนะ เดี๋ยวสารเคมีของปากกาซึมเข้าอาหาร อันตราย...” วีออกความเห็นโดยที่นำหมูหมักใส่กล่องทับเปิ้ลแวร์และนำผักมาล้างต่อ “เอางี้ ต้องขานเลขออเดอร์ทุกครั้งกับให้แสดงภาพยืนยันออเดอร์จะได้ไม่หยิบผิดอีก ไม่ต้องให้ไรเดอร์รีบรับของแล้วหยิบไปเพราะลูกค้าเราเยอะ ไม่งั้นจะสับสนได้ไว้แกลองบรีฟกับพนักงานก็ได้ ฉันอยู่ในครัวไม่ค่อยได้โฟกัสหน้าร้านเท่าแก”

“ไม่ใช่ว่าไรเดอร์ทุกคนจะเข้าใจนะพี่”

"แต่ก็ถือว่าเราได้อธิบายบอกแล้ว ถ้าเขายังจะคอมเพลนก็ต้องตามนั้น ไม่เป็นไรหรอกน่าวิช รสชาติเรามันคือซิกเนเจอร์ยังไงลูกค้าก็ไม่หายไปไหนหรอก แต่ถ้าจัดระเบียบออเดอร์ได้ก็ดีกว่า"

“เฮ้อ ก็ตามนั้น เดี๋ยวผมจะเพิ่มการบอกและหมั่นดูตอนไรเดอร์มาหยิบไปแล้วกันนะ”

“ดี ช่วย ๆ กัน”

“แล้วพี่ล่ะ มีปัญหาอะไรในครัวมั้ย พวกอุปกรณ์หรืออะไรเสียไหม” วิชยืนพิงบานประตูตู้เย็นโดยมองแผ่นหลังพี่สาวขยับเขยื้อนตามการเคลื่อนไหวของแขนสองข้างแล้วเดินออกมาอยู่ที่บริเวณร้านซึ่งมีพื้นที่เยอะกว่า ให้วีครอบครองครัวเพียงผู้เดียวจะได้ไม่ขวางทาง

“ไม่มีนะ รู้แค่เดือนหน้าต้องเรียกช่างล้างแอร์แล้ว เดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยมีลูกค้าแปลก ๆ ที่ทำให้ต้องมาเหนื่อยตอบคำถามอะไร แต่รู้สึกเหนื่อยง่ายชอบกลยังไงก็ไม่รู้” วีแชร์ปัญหาของตัวเองให้น้องชายฟังบ้าง เพราะช่วงนี้เธอเหนื่อยง่ายมากจริง ๆ บางครั้งถึงขั้นวูบหน้ามืดก็มี

“นี่ไง พี่นอนน้อยอ่ะดิ! ผมเคยบอกแล้วว่าถ้าปิดร้านแล้วก็ไปนอนเลย พวกข้าวของที่ต้องเก็บล้าง เดี๋ยวผมกับแม่ทำกันเอง แล้วให้ไปนอนนะไม่ใช่เล่นโทรศัพท์ต่อ พี่อะชอบดื้อ” วิชบ่นดุพี่สาวยาวเหยียด เพราะความที่วีชินกับการเป็นผู้นำครอบครัว เธอจึงทุ่มแรงกายแรงใจสุด จนเผลอลืมไปว่าน้องชายตัวแสบนี้ก็อาศัยได้แล้ว เธอไม่จำเป็นแบกไว้คนเดียว “มาสก์กับสกินแคร์ที่ผมซื้อให้อะ หัดใช้บ้างนะ”

“เออขอโทษได้ป่ะล่ะ บ่นเป็นพ่อเลย”

“เนี่ย อย่างตอนเนี้ย พี่หมักหมูเสร็จแล้ว อย่างอื่นก็เตรียมหมดแล้ว พี่ก็ควรไปนอนพัก”

“จ้าพ่อ” สองพี่น้องเย้าแหย่กันตามประสา แต่วิชไม่ตลกด้วย เมื่อเห็นใบหน้าไม่สดชื่นขอบตาดำนั้นของพี่สาว เขาย่นคิ้วกอดอกรอให้วีล้างมือออกจากครัวของร้านเสียทีซึ่งนานพอสมควร จนกระทั่งเธอสังเกตเห็นกระดาษโน้ตหลากสีบนบานตู้เย็นซึ่งเต็มไปด้วยตัวเลขเขียนด้วยลายมือของวิช ชายหนุ่มผู้มีเซนส์และฝันละเมอเห็นตัวเลขบ่อย ๆ ตามสถิติถูกเลขท้ายทุกสองเดือน “เอ้า นี่แกยังไม่ได้เปลี่ยนตัวเลขเหรอ วีคหน้าหวยออกแล้วนะ”

“เออลืมไปเลย แต่มันก็ยังไม่ถึงวันอะ ค่อยเขียนก็ได้ สักวันที่ 13 14 ไรงี้”

“ตามใจ เดี๋ยวคุณนายเขาจะโวยเอา ขี้เกียจฟังนางบ่น” วีเอ่ยแซวคนเป็นแม่ที่เล่นหวยเป็นชีวิตจิตใจ แต่เธอก็ไม่ได้บ่นท่าน เพราะนั่นคือความสุขของท่าน “กลับบ้านกัน”

วีจัดแจงปิดไฟครัวและบริเวณร้านรวมถึงปิดรั้วด้วยตัวเอง ส่วนวิชรออยู่ที่รถเก๋ง เขายืนกรานจะเป็นคนขับรถเพราะพี่สาวเพลียมากแล้วซึ่งเป็นอย่างคาดจริง ๆ ระยะห่างจากบ้านฐิติอิทธินันท์ไปร้านผัดซีอิ๊วเงาเมืองห่างกันเพียงสามซอยเท่านั้น ชายหนุ่มสะกิดเรียกพี่สาวเมื่อถึงบ้าน พวกเขาเห็นคุณแม่นอนงีบบนโซฟาหนังโดยมีหนังสือนวนิยายแปลเล่มหนึ่งในมือโดยที่ใช้นิ้วชี้คั่นหน้าที่ค้างไว้ด้วยจึงก้าวขาอย่างช้าและเบาเพื่อไม่เป็นการรบกวน 

สองพี่น้องต่างแยกย้ายเข้าห้องนอนของตัวเองเพื่อพักผ่อนเก็บพลังงานสำหรับกิจกรรมอื่น ๆ ระหว่างวัน เดินกลับมาที่ห้องนอนตัวเองก่อนจะเอนตัวลงนอน และพลางคิดถึงตอนที่ตอนนิมิตหลับใหลไปเจอผู้เป็นพ่อที่ริมสะพาน แม่มันจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เวลานึง แต่เธอก็มีความสุขที่ได้พูดคุยและปรับทุกข์กับพ่อ แม้จะยังคุยไม่ทันจบน้องชายตัวดีตะโกนเรียกก่อนก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงติดค้างในใจเธอยังไม่หายไปไหนตั้งแต่วันงานศพพ่อวันนั้นจนวันนี้เธอก็ยังอยากรู้ว่าผู้หญิงผมสีชานมนั่นเป็นใคร ตอนนี้ยังควบคุมพ่อเธออยู่หรือไม่ พ่อเธอสบายดีอย่างที่รอยยิ้มที่มอบมาให้เธอจริง ๆ หรือไม่

ถ้ามีโอกาสอีกครั้งพ่อมาให้วีเจออีกนะ วีพูดพร่ำเพ้ออยู่คนเดียวบนเตียง ก่อนที่เธอจะค่อย ๆ หลับตาลงเข้าสู่นิทรา

 

#AfterDarkFlirtation #รัตติกาลผัดรัก #ผัดซีอิ๊วหน้าง่วง