หลินซือหยู หญิงสาวจากโลกปัจจุบัน ถูกจี้หยกพาดิ่งสู่อดีตอันโหดร้ายของเมืองฉางอานแห่งราชวงศ์ถัง เธอต้องเผชิญกับกบฏ สงคราม ความรัก และโชคชะตาที่ผูกพันกับแม่ทัพจ้าวหย่งเฉิน จี้หยกกลายเป็นทั้งพลังแห่งความหวังและคำสาป เธอจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์ หรือยอมสละทุกสิ่งเพื่อคนที่รักได้หรือไม่?
ชาย-หญิง,จีน,เกิดใหม่,ย้อนยุค,ข้ามเวลา,ดราม่า,จีนโบราณ,นิยายจีน ,นิยายจีนโบราณ,ย้อนเวลา,ย้อนยุค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เงาจันทร์ซ่อนพันฤดูหลินซือหยู หญิงสาวจากโลกปัจจุบัน ถูกจี้หยกพาดิ่งสู่อดีตอันโหดร้ายของเมืองฉางอานแห่งราชวงศ์ถัง เธอต้องเผชิญกับกบฏ สงคราม ความรัก และโชคชะตาที่ผูกพันกับแม่ทัพจ้าวหย่งเฉิน จี้หยกกลายเป็นทั้งพลังแห่งความหวังและคำสาป เธอจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์ หรือยอมสละทุกสิ่งเพื่อคนที่รักได้หรือไม่?
หลินซือหยู นักศึกษาประวัติศาสตร์สาวจากยุคปัจจุบัน ถูกจี้หยกโบราณพาดิ่งสู่ราชวงศ์ถังอันรุ่งโรจน์แต่เต็มไปด้วยเงามืด เธอตื่นขึ้นในร่างของ หลินซือเยว่ ลูกสาวขุนนางที่ถูกวางยาพิษ และต้องเอาตัวรอดท่ามกลางแผนกบฏขององค์ชายสามที่หมายโค่นบัลลังก์ ด้วยไหวพริบและความรู้สมัยใหม่ ซือหยูจับมือกับ จ้าวหย่งเฉิน แม่ทัพหนุ่มผู้แบกปมจากตระกูลที่ล่มสลาย เพื่อล้างมลทินและปกป้องเมืองหลวง จากความไม่ลงรอยกลายเป็นความรักที่ลึกซึ้งใต้แสงจันทร์
การผจญภัยข้ามกาลเวลา ความรักที่ท้าทายโชคชะตา และการตัดสินใจที่อาจเปลี่ยนประวัติศาสตร์ คุณพร้อมหรือยังที่จะตามซือหยูไปค้นหาคำตอบใต้เงาจันทร์?
หลินซือหยูรู้สึกถึงความหนาวเย็นที่ซึมผ่านผิวของเธอ ขณะที่ลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ ในโรงหมอสนามใกล้ชานเมืองหลวงฉางอาน กลิ่นสมุนไพรฉุนปนกลิ่นยาต้มลอยคละคลุ้งในอากาศ แสงตะเกียงสลัวส่องผ่านผ้าม่านหยาบ ๆ ที่กั้นเตียงของเธอ เสียงฝนตกลงมาแผ่วเบาดังจากด้านนอก เธอรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านจากแขนและอก ความทรงจำของสนามรบผุดขึ้นในหัว
ลูกธนูพิษที่ปักเข้าที่หน้าอกของหย่งเฉิน เธอใช้จี้หยกดูดพิษออกจากร่างของเขา และจี้หยกที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ
เธอยกมือขึ้นสัมผัสที่คอของเธอด้วยความหวัง จี้หยกที่เคยร้อนผ่าวและเรืองแสงได้หายไปแล้ว เธอรู้สึกถึงความว่างเปล่าที่คอและหัวใจของเธอเต้นแรงขึ้น “ฉัน... ยังไม่ตาย” เธอพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สั่น
“ซือหยู!” เสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังขึ้นจากข้างเตียง เธอหันไปมองและเห็นจ้าวหย่งเฉินนั่งอยู่ที่นั่น ใบหน้าคมเข้มของเขาเต็มไปด้วยรอยคล้ำใต้ตาและคราบโคลนที่ยังไม่เช็ดออก บาดแผลที่หน้าอกของเขาถูกพันด้วยผ้าสีขาวสะอาด เขาดูซีดเผือด แต่ดวงตาของเขาสว่างขึ้นเมื่อเห็นเธอตื่น
“เจ้า... เจ้าตื่นแล้ว!” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นสะท้านจากความโล่งใจ เขาคว้ามือของเธอแน่นด้วยมือที่หยาบกร้านและเย็นเฉียบ “ข้าคิดว่า... ข้าจะเสียเจ้าไปเสียแล้ว” น้ำตาคลอในดวงตาของเขา ขณะที่เขาก้มศีรษะลงสัมผัสหน้าผากของเธอด้วยหน้าผากของเขา
ซือหยูรู้สึกถึงน้ำตาของตัวเองที่ไหลลงมา เธอยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าของเขา “คุณ... คุณรอดแล้ว” เธอกระซิบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความดีใจ เธอมองไปที่หน้าอกของเขาและเห็นว่าสีดำของพิษหายไป “พิษ... มันถูกถอนออกจากคุณหมดแล้วใช่ไหม”
“ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว” หย่งเฉินเอ่ยตอบด้วยความรู้สึกโล่งใจ
แต่ความรู้สึกเจ็บปวดจากพิษที่ไหลย้อนมาเข้าร่างกายของเธอยังทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดไม่น้อย เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นพิษอะไร แล้วจะหายจากอาการเหล่านี้เมื่อไหร่
ความทรงจำสุดท้ายของเธอคือภาพของการใช้จี้หยกดูดพิษออกจากร่างกายของแม่ทัพจ้าว เธอยังคงรู้สึกเจ็บปวดจากพิษที่ไหลย้อนเข้าสู่ร่างกายของเธอก่อนที่จี้หยกจะแตกออก
“ฉันยังไม่ตายจริง ๆ ใช่ไหม...”
“เจ้ายังมีชีวิตอยู่” หย่งเฉินเอ่ยพูดพลางกุมมือเธอเอาไว้แน่น “หมอหลวงบอกว่าพิษเกือบฆ่าเจ้า แต่เจ้ารอดมาได้ด้วยพลังบางอย่าง” เขาหยุดชั่วขณะ ขณะที่มองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกังวล “จี้หยกของเจ้าแตกไปแล้ว ข้าคิดว่า... มันอาจพาเจ้ากลับไปไม่ได้แล้ว” เขากระซิบด้วยน้ำเสียงที่สั่นพลางยกมือขึ้นสัมผัสที่คอของเธอที่ว่างเปล่า
ซือหยูรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรงเมื่อนึกถึงพลังของจี้หยกที่เคยอยู่เคียงข้างเธอมาโดยตลอด เธอปิดตาลง และพยายามสัมผัสถึงพลังนั้นอีกครั้ง แต่เธอกลับไม่รู้สึกถึงอะไรเลย
ไม่มีแสงสีเขียว ไม่มีแรงดึง หลงเหลือเพียงเฉพาะความเจ็บปวดจากพิษที่ยังอยู่ในร่างของเธอ และกลิ่นสมุนไพรจากยาต้มที่หมอหลวงทิ้งไว้
เธอลืมตาขึ้น และมองไปรอบ ๆ โรงหมอสนาม เตียงที่ทำจากไม้และหญ้าแห้ง ผ้าม่านหยาบที่เปียกฝน และหมอหลวงที่กำลังต้มยาอยู่ใกล้เตาถ่าน
“ฉัน... ติดอยู่ที่นี่แล้วสินะ” ความรู้สึกหลากหลายท่วมท้นอยู่ในอกของเธอ ไม่ว่าจะเป็นความเสียใจที่สูญเสียหนทางการกลับสู่โลกปัจจุบัน หรือความโล่งใจที่ยังมีชีวิตอยู่ รวมไปถึงความรักที่มีต่อหย่งเฉินอย่างเต็มเปี่ยม
“เจ้า... เสียใจหรือ” หย่งเฉินมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสับสน ก่อนจะใช้ปลายนิ้วของเขาสัมผัสแก้มของเธอเบา ๆ หลางยิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนและเปี่ยมไปด้วยความหมาย
“ไม่...” ซือหยูส่ายหน้าก่อนที่เธอจะพูดต่อ “ฉันเลือกแล้ว” เธอยกมือขึ้นวางทับมือของเขา “ฉันเลือกที่จะอยู่ที่นี่ กับคุณ” น้ำตาของเธอไหลลงมา ขณะที่เธอจับมือของเขาแน่น “จี้หยกแตกไปแล้ว เพราะมันช่วยดูดพิษของธนูออกจากตัวคุณ และมันก็ตัดขาดหนทางกลับบ้านของฉัน... แต่ถ้ามันหมายถึงการได้ช่วยให้คุณยังมีชีวิตอยู่ ถ้ามันหมายถึงการยังได้อยู่กับคุณ ฉันยินดี...”
หย่งเฉินมองเธอด้วยดวงตาที่แดงก่ำ น้ำตาของเขาไหลลงมาเป็นทาง ก่อนจะก้มลงกอดเธอแน่น ร่างของเขาสั่นสะท้านจากความเจ็บปวดและความโล่งใจ “เจ้ายอมเสียสละทุกอย่างเพื่อข้า” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แตกสลาย “ข้าจะไม่มีวันลืมสิ่งที่เจ้าทำให้ข้า” เขาคลายกอดและมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก “ข้าจะใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อปกป้องเจ้า เพื่อให้เจ้ามีความสุข” เขาพูดจบก็ก้มลงจูบหน้าผากของเธอเบา ๆ
ซือหยูรู้สึกถึงความอบอุ่นจากสัมผัสของเขา ความเจ็บปวดจากพิษที่ยังหลงเหลือในร่างของเธอค่อย ๆ จางลง เธอมองไปที่ชิ้นส่วนของจี้หยกที่ยังหลงเหลืออยู่วางไว้ในผ้าข้างเตียง “มันพาฉันมาที่นี่ และมันก็ทิ้งฉันไว้ที่นี่” เธอหันมามองหย่งเฉินพลางส่งยิ้มให้ “แต่ฉันไม่เสียใจหรอกนะ ถ้าฉันต้องเลือกอีกครั้ง ฉันก็จะเลือกคุณ” เธอเอ่ยพูดพลางน้ำตาแห่งความสุขก็ไหลออกมา
หย่งเฉินยกมือของเธอขึ้นจูบที่หลังมือแล้วเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “ข้าจะไม่ทำให้เจ้าเสียใจที่เลือกข้า” เขาก้มลงกอดเธออีกครั้ง ร่างของเขายังคงสั่นจากบาดแผลแต่ความอบอุ่นจากอ้อมกอดของเขาทำให้ซือหยูรู้สึกถึงความปลอดภัย
เธอรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นช้าลง และความเจ็บปวดที่ค่อย ๆ จางไป “ฉันจะอยู่ที่นี่ ไม่ว่ามันจะยากแค่ไหนก็ตาม”
ปึง!!!
เสียงของบานประตูที่ถูกกระแทกออกดังลั่นขึ้นเรียกให้พวกเขาทั้งสองคนหันไปมอง เสี่ยวหลานโผล่หน้าเข้ามาด้านในด้วยสีหน้าแตกตื่นก่อนจะวิ่งเข้ามาหาซือหยูด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา
“คุณหนู !!” เสี่ยวหลานตะโกนเรียกเสียงดังลั่นแล้วคุกเข่าลงข้างเตียง ร้องไห้โฮพลางคว้ามือของซือหยูไปกุมเอาไว้แน่น “ข้าคิดว่าจะเสียคุณหนูไปเสียแล้ว”
“ฉันไม่ตายง่าย ๆ หรอกน่า”
“ใครจะรู้เจ้าคะ พอได้ยินข่าวเรื่องคุณหนู ข้าก็ไม่เป็นอันทำการทำงานเลย” เสี่ยวหลานพูดด้วยเสียงสะอึกสะอื้น ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาอย่างลวก ๆ
“ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ฉันเลือกแล้วว่าจะอยู่ที่นี่” เธอบอกพลางหันมามองหย่งเฉิน และบีบมือของเขาแน่นเพื่อย้ำเตือนว่าสิ่งที่เธอพูดคือความจริง
ฉันเสียจี้หยกไป แต่ฉันได้อยู่กับคุณ
และนี่คือชัยชนะที่แท้จริงของฉัน...