"ความวุ่นวาย" และ "การแก้แค้น" ย่อมเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาอยู่เสมอ เฉกเช่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ของชายหนุ่มผู้มาพร้อมกับ 'หายนะ' จากสิ่งที่เขาได้ก่อเอาไว้
อาชญากรรม,ผู้ใหญ่,ไซไฟ,แอคชั่น,ดาร์ค,ไซไฟ + ระทึกขวัญ (Science Fiction+Thriller),สงคราม,สืบสวนสอบสวน,อนาคต,อาชญากรรม,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Codename 5567"ความวุ่นวาย" และ "การแก้แค้น" ย่อมเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาอยู่เสมอ เฉกเช่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ของชายหนุ่มผู้มาพร้อมกับ 'หายนะ' จากสิ่งที่เขาได้ก่อเอาไว้
[ Introduction ]
"ในทุกความเป็นไปได้ล้วนก่อเกิดขึ้นจากความทะเยอทะยานที่ไม่มีวันหยุดนิ่งของมนุษย์"
หากแต่ในความทะเยอทะยานนั้น กลับถูกแบ่งแยกออกไปเป็นทั้งหมดสามฝั่ง สามเส้นทาง และสามเป้าหมายของผู้ที่ถูกจองจำภายใต้อุดมการณ์ที่พวกเขาคิดว่ามันคือสิ่งที่ 'มนุษยชาติ' ควรมุ่งตรงไป
แม้ว่าหากมองภาพรวมใหญ่ ๆ ขึ้นมา สิ่งเหล่านี้มันกลับลงเอยด้วยผลกระทบอย่างรุนแรงแสนสาหัส จนเป็นการยากที่จะซ่อมแซมมันให้กลับมาเหมือนเดิมได้ก็ตาม
'อาชญากรรม' และ 'ความรุนแรง' แพร่กระจายออกไป ณ ทั่วทุกแห่งหน ความป่าเถื่อนของสัญชาตญาณดิบในตัวของมนุษย์หล่อหลอมจนเป็นสาเหตุหลักทำให้มันจำเป็นต้องมี 'ตัวแทน' สำหรับการไกล่เกลี่ยและคอยควบคุมความสมดุลเหล่านั้น แม้จะต้องใช้วิธีการที่มันขัดต่อหลักศีลธรรมและจริยธรรมไปก็ตาม
ดำดิ่งลงสู่ห้วงอเวจีของความวิปลาส ตามหาซึ่งวิวัฒนาการที่สูญหาย ก่อกำเนิด 'โครงการ (Project)' ที่มันกำลังจะนำไปสู่ความวินาศสันตะโรในทุก ๆ ก้าวเดิน...
กระบวนการของอำนาจทางกฎหมายที่ถูกลดทอนลง เป็นผลทำให้ไม่เพียงแต่มันแสดงถึงการแทรกแซงเข้ามาของผู้มีอำนาจและอิทธิพล หากแต่กระนั้นยังส่งผลทำให้มันคุกรุ่นไปด้วย 'ความขัดแย้ง' ที่ไม่อาจลงรอยได้ อุดมการณ์ของสองฝักฝ่ายที่เป้าหมายเหมือนกัน คงเป็นการยากยิ่งที่กระบวนการของพวกเขาทั้งคู่จะสามารถไปด้วยกันได้โดยลื่นไหล
อย่างไรเองก็ดี เมื่อมันขึ้นชื่อว่า 'ภารกิจ (Mission)' นั่นย่อมหมายความว่ามันจึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ในการหันมาเป็น 'พันธมิตร' ด้วยกันในเวลาชั่วคราว...
เฉกเช่นเดียวเองที่เมื่อ "สมรภูมิรบ" มันกลับไม่ได้ถูกจำกัดแต่เพียงในพื้นที่สงคราม หากแต่มันยังลุกลามและแฝงตัวอยู่ภายใต้เหตุการณ์อันสงบเงียบ หลบซ่อนอยู่ภายใต้สังคมที่ถูกฉาบด้วย 'เปลือกนอก' ที่ถูกเคลือบให้หนามากกว่าเดิมด้วยสิ่งที่เรียกว่า 'ผลประโยชน์ของประเทศ' จนเป็นสาเหตุสำคัญทำให้ตัวแทนของมหาอำนาจจำเป็นต้องจัดตั้งกลุ่มผู้คอยกำจัดเสี้ยนหนามที่เรียกว่า 'การก่อการร้าย' ให้หมดไป โดยไม่อาจล่วงรู้ได้ถึงสิ่งที่ต้องสูญเสียไปจากการเลือกเดินในเส้นทางที่มันถูกปูเอาไว้โดยเหล่าผู้มองไม่เห็นถึง 'คุณค่าของชีวิต' ที่มันกลับสั้นเสียเกินกว่าจะยุติทั้งหมดไปได้
'ปฏิบัติการ (Operation)' ที่พวกเขากำลังมุ่งไปพร้อมคำถามจำนวนนับอนันต์ พ่วงมาด้วยศัตรูผู้รายล้อมในทุกทิศทาง แบกรับซึ่งภาระอันหนักอึ้งที่เรียกว่า 'มวลมนุษยชาติ'
แด่ความวิปริตทั่วทั้งมวล
แด่ความยุติธรรมที่ยากจะเท่าเทียมได้โดยแท้จริง
แด่ทุกการสูญเสียที่ดำเนินมาสู่จุดที่ไม่อาจหันหลังกลับได้
ยิ น ดี ต้ อ น รั บ
เ ห ล่ า ผู้ ร อ ด ชี วิ ต
::: Talking with the Void (ครั้งที่ 1) :::
สวัสดีเหล่านักอ่านทุกท่าน รวมไปถึงใครก็ตามที่ผ่านเข้ามาในหน้าเว็บตรงนี้ด้วยนะครับ (และใช่... ในแอพลิเคชั่นด้วยเช่นเดียวกัน xD)
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวสักเล็กน้อย นามของตัวผู้เขียนนั้นคือ 'Chaotic Voice'
ไม่ใช่ทั้ง 'นักเขียนหน้าใหม่' และ 'นักเขียนหน้าเก่า' แต่น่าจะเรียกว่าเป็นนักเขียนผู้หลบซ่อนอยู่ในซอกลืบแห่งหนึ่งของมิติพิศวงที่ไหนสักแห่ง (ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นที่แห่งหนใดบ้าง ไปสืบหากันเอาเองล่ะ ;p)
สำหรับสถานที่แห่งนี้ เรียกได้ว่ามันค่อนข้างเป็น 'เรื่องใหม่' มากทีเดียวในระดับหนึ่ง ส่วนตัวยอมรับตามตรงว่าอาจจะรู้สึกเกร็ง ๆ ไปบ้างเพราะด้วยความที่พอต้องขยายฐานไป ก็ล้วนหนีไม่พ้นต้องมาสร้างจุดแวะเวียนพูดคุยกับนักอ่านใหม่อยู่ดี XD
หากแต่ก่อนอื่น เพื่อที่พวกเราจะได้ทำความเข้าใจตรงกัน สำหรับใครก็ตามที่มาจากทางหน้าเว็บ Dek-D หรือ Readwrite อันนี้ไม่ต้องห่วง ส่วนของการพูดคุยนั้นจะยังเหมือน ๆ กัน เว้นแต่ส่วนของสถานที่แห่งหนใหม่ตรงนี้ ผมอยากจะขอใช้พื้นที่สำหรับการเน้น 'ประชาสัมพันธ์' ในส่วนสำคัญแบบสั้น ๆ เพื่อไม่เป็นการทำให้ผู้อ่านเสียเวลาไปมากนัก
ข้อแรก - นิยายที่มีการนำมาลงทั้งหมด ล้วนเป็นเนื้อหาแบบเดียวกับทั้งสองเว็บไซต์ที่ทางผู้เขียนได้ทยอยอัปเดตลงไปแล้ว
ข้อสอง - จำนวนตอนที่มีการอัปเดตลงไปในเว็บนี้ จะมีระยะเวลาล่าช้ากว่าในช่วงแรก ๆ แต่จะเริ่มขยับขึ้นมาเร็วเท่ากันภายหลังจากจบเรื่องราวในส่วนของ Phase 1 (ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ส่วนของ Project เป็นต้นไป)
ข้อสาม - กระบวนการเขียนแต่ละตอนของผู้เขียนนั้นจะใช้ระยะเวลานานพอสมควร หากแต่ทั้งนี้จะมีการอัปเดตออกมาเรื่อย ๆ ผ่านตัวของทั้งช่องทาง Bluesky และหน้านิยายของทางสองเว็บไซต์ที่ได้บอกไปข้างต้น
และข้อสุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุด...
- เนื้อหาทั้งหมดเป็นแค่จินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความเป็นจริงแต่อย่างใด ทั้งชื่อ ตัวละคร และเหตุการณ์ต่าง ๆ ล้วนเป็นเหตุการณ์ที่ถูกสมมุติขึ้นมาโดยนำเค้าโครงความเป็นจริงบางส่วนมาปรุงเสริม เติมแต่ง และปราศจากเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ ดังนั้นโปรดจงเสพผลงานอย่างมีวิจารณญาณและแยกแยะ ‘โลกความเป็นจริง’ และ ‘โลกในจินตนาการ’ ออกจากกันด้วย -
สุดท้ายนี้ก็อยากจะขอฝากเรื่อง Codename 5567 ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ ส่วนของการขายนั้นจะยังไม่ขอพูดถึงก่อนเพราะ ณ ตอนนี้ต้องบอกว่าทางผู้เขียนกำลังอยู่ในช่วง 'นีทเกม' และ 'เผชิญโชค' อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง (หมายรวมไปยันเรื่องของการต่อสู้ทางความคิดในหัวของตัวเองที่มันยุ่งเหยิงกัน สมกับเป็นชื่อนามปากกาตัวเอง 5555)
เอาเป็นว่าเพื่อไม่ให้เสียเวลา ขอยินดีต้อนรับสู่โลกแห่งอาชญากรรม ณ บัดนี้ได้เลยครัช :DDD
Nightingale (Ch.1)
เสียงแจ้งเตือนจากนาฬิกาดิจิทัล ปลุกให้ตัวของชายหนุ่มค่อย ๆ สะลึมสะลือตื่นขึ้นมาในสภาพเปลือยกาย โดยไม่มีอะไรปิดบังส่วนสงวนของตัวเองแม้แต่นิดเดียว เหมือนกับว่าก่อนหน้านี้เขาเองได้สำเร็จความใคร่ให้กับตัวเองไปประมาณสามครั้ง เพื่อปลดปล่อยความเครียดจากการทำงานอย่างหนักหน่วงมาตลอดระยะเวลาสามเดือน
“อ่า เยี่ยม สงสัยคงได้ซักผ้าปูที่นอนใหม่แหง”
เขาลุกขึ้นจากเตียงนอน ยืดเส้นยืดสาย พร้อมกับพยายามไม่หันไปสูดกลิ่นคาวโลกีย์และคราบน้ำกามที่มันเปรอะเปื้อนบนผ้าห่มด้วยความรู้สึกผิดเล็ก ๆ และหันไปสนใจกับการเดินออกจากห้องพักไป มุ่งหน้าไปทำกิจวัตรประจำวันของตัวเอง ดื่มด่ำกับช่วงเวลายามชำระล้างร่างกายและจิตใจ สลัดความทรงจำที่ทำให้ตัวเองหวนนึกถึงเรื่องราวในอดีตไปเพื่ออยู่กับชีวิตและ ‘ตัวตน’ ปัจจุบัน
ตัวตนของนักประดิษฐ์ และผู้ก่อการร้ายลำดับสามที่ทั้งโลกต้องการตัว…
อรุณสวัสดิ์ยามเช้าค่ะ
“เช่นกัน อลิส”
ภายหลังจากหมดเวลาไปกับการแต่งกายด้วยชุดเครื่องแบบคล้ายทหาร ต่อด้วยเสื้อโค้ทยาวสีน้ำตาลเก่า ๆ ที่เอาไว้เพื่อปกปิดตัวชุดด้านใน ชายหนุ่มตัดสินใจที่จะหยิบหน้ากากแก๊สอันเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่จดจำได้เป็นอย่างดี ด้วยรูปทรงและการออกแบบเพื่อใช้งานในยุทธวิธีทางการทหาร ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าหน้ากากดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นเครื่องสวมใส่คู่กายของเขา แต่ยังเปรียบเป็นหนึ่งใน ‘สัญลักษณ์’ ที่เขาแสดงให้โลกได้รับรู้ถึงความอันตรายและลึกลับที่ทุกคนล้วนอยากเห็นใบหน้าที่อยู่ใต้หน้ากาก
“สรุปข่าวและเรื่องราวของเมื่อวานให้ฉันรับทราบที แล้วบอกด้วยว่าในกล่องข้อความมีงานภาคสนามอะไรที่ฉันต้องไปลุยเดี่ยวบ้าง”
ทราบแล้วค่ะ เริ่มการประมวลผลและตรวจสอบข้อความ…
ต้องขอบคุณในความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ทำให้การทำงานต่าง ๆ ของมนุษย์นั้นง่ายและสะดวกมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อเจ้าสิ่งที่เรียกว่า ‘ปัญญาประดิษฐ์’ มันได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตของมนุษย์มากในระดับที่ทำให้การคิดค้นระบบการทำงานต่าง ๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีสิ่งที่เรียกว่า ‘ระบบยุทธวิธีอัจฉริยะ’ หรือ เอส.ที.ไอ อันเป็นระบบปัญญาประดิษฐ์ตัวหนึ่งที่มันถูกเขียนขึ้นโดยองค์กร ๆ หนึ่งเพื่อขายให้กับกองทัพทหารทั่วโลกที่กำลังมองหาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของตัวเอง
ทว่าไม่ทันไรกลับถูกแย่งชิงไปจนระบบดังกล่าวมาตกอยู่ในมือของชายหนุ่มที่เขาได้เปลี่ยนมันให้กลายเป็น ‘ผู้ช่วยส่วนตัว’ ที่เอาไว้เพื่อจุดประสงค์ส่วนตัวของตนเองแต่เพียงผู้เดียว
แน่นอนว่าชายหนุ่มที่ว่าคนนั้นคือคนที่กำลังยกกาแฟดำร้อนขึ้นจิบเบา ๆ พร้อมกับทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ มองดูหน้าจอมอนิเตอร์ขนาดเล็กนับกว่าร้อยตัว ฉายให้เห็นถึงภาพตามจุดและมุมต่าง ๆ ของเมืองร้างที่มันได้รับผลจากการปนเปื้อนของกัมมันตรังสีเมื่อครั้งที่ภัยพิบัติอุบัติขึ้นมาจนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากมาย
คุณมี 2 ข้อความเข้ามาค่ะ จะให้เปิดอ่านเลยไหมคะ?
“งานหนึ่ง แล้วก็จากหุ้นส่วนของฉันใช่ไหม?”
ใช่ค่ะ ในส่วนใจความหลักของมันคือ–
“ไม่ต้อง ให้ฉันเปิดอ่านมันเอง”
รับทราบแล้วค่ะ
เขาไม่ได้สนใจกับตัวของระบบปัญญาประดิษฐ์นั่นเท่าไหร่ แม้มันจะเป็นถึงกับ ‘ผู้ช่วยส่วนตัว’ ไปก็จริง หากแต่ว่าการตั้งชื่อเรียกมันว่า อลิส นั่นดูเหมือนว่าชายหนุ่มกำลังคิดว่ามันไม่ต่างอะไรจาก ‘คนรับใช้’ ผู้อยู่เคียงข้างเขามายาวนาน แน่นอนว่าการมีอยู่ของระบบปัญญาประดิษฐ์ตัวนี้ ถือเป็นส่วนสำคัญที่มันได้หล่อหลอมให้เขาได้ใช้ความสามารถต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ โดยไม่จำเป็นต้องกั๊กเอาไว้ ซึ่งมันส่งผลทำให้ทุกครั้งเขามักเจ็บตัวจากการได้รับอันตรายของการกระทำเสี่ยงอันตรายอยู่เสมอ
แต่ถ้าหากเทียบกับการที่ต้องปกปิดใบหน้าของตัวเองภายใต้หน้ากากแก๊สที่ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว การมีอะไรสักอย่างช่วยในการทำสิ่งต่าง ๆ ให้กับตัวเองนั้นก็เป็นเรื่องดีกว่าปล่อยให้ความโดดเดี่ยวกัดกินตัวเองจนต้องฝังกระสุนเข้าสมองตัวเองไปตั้งแต่ตอนครั้งเยาว์วัย
ชายหนุ่มตัดสินใจเปิดระบบการทำงานของเครื่องบางอย่างขึ้นมา ก่อนมันปรากฎออกมาเป็นหน้าจอสามมิติ แสดงคำสั่งต่าง ๆ และเปลี่ยนกลายเป็นหน้าจอเปล่า ๆ ที่มีตัวอักษรพื้นหลังเขียนว่า A.L.I.C.E ชื่อของระบบปัญญาประดิษฐ์ที่เขาเป็นเจ้าของ ดูเหมือนว่าเจ้าเครื่องดังกล่าวมันทำหน้าที่ไม่ต่างอะไรจากคอมพิวเตอร์เว้นแต่มีประสิทธิภาพสูงเกินกว่าจะใช้งานทั่วไป หากแต่มีไว้สำหรับเพื่อปฏิบัติการทางทหารมากกว่า
“ไหนดูสิว่ามันคืออะไร”
เขาไม่รีรอที่จะไปเปิดตรงกล่องข้อความ ก่อนจะเลือกไปในหมวด สิ่งประดิษฐ์ เนื่องจากมันเป็นหมวดของงานการเป็นนักประดิษฐ์ที่เขาทำอยู่ในทุกวัน มากเสียยิ่งกว่างานภาคสนามที่เขาทำเป็นห้าเท่า
“อา…โอเค”
ข้อความดังกล่าวถูกส่งมาโดยไม่ระบุชื่อสถานที่ เวลา หากมีแต่เพียงชื่อของผู้ส่งคือ ‘เนเลส’ หญิงสาวผู้เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของธุรกิจค้าอาวุธสงครามที่เขาได้รู้จักกับเธอเมื่อไม่นานมานี้ และดูเหมือนว่ายังได้พัฒนาความสัมพันธ์อันลึกซึ้งจนกลายเป็น ‘คู่รัก’ โดยไม่ได้เปิดเผยเรื่องราวดังกล่าวนี้ให้ใครฟัง
เฮ้! ไง สวัสดี นานมากที่เราไม่ได้คุยกัน คงน่าจะสักสามเดือนเลยใช่ไหม?
ช่างเถอะ เอาเป็นว่าฉันหวังว่านายคงโอเคดี เพราะตอนนี้ฉันเองก็ดีขึ้นแล้ว หลังจากที่ไม่ได้ทำงานชิ้นสำคัญนานมาก ต้องขอบคุณนายที่ช่วยทำให้สินค้าของฉันขายได้จนทำให้ฉันมีเงินซื้อล็อตใหม่มาได้
แล้วก็นะ…อีกอย่างหนึ่ง…
ดูแลตัวเองดี ๆ ด้วย ถือซะว่าเป็นความห่วงใยจากแฟนคนที่สามของนาย
เคออส เวนเจกซ์
เนเลส (Neles)
ตัวอักษรที่มาพร้อมกับเสียงข้อความที่อัดมาด้วย พร้อมทั้งแนบรูปภาพอันวาบหวิวของหญิงสาวที่เหมือนจะส่งมาเป็นการปลุกกำลังใจให้กับชายหนุ่ม
“เช่นกัน เนเลส…”
ช่วงเวลาในอดีตแวบเข้ามาในหัวของเขาโดยไม่ได้ตั้งตัว ประสบการณ์ในเรื่องของการมีใครสักคนสำหรับเขาเป็นเรื่องที่สร้างความเจ็บปวดสาหัสทางจิตใจของเขา แม้ว่าครั้งแรกมันจะเป็นเรื่องปกติทั่วไป หากแต่ว่าในครั้งที่สองมันสร้างความสะเทือนใจให้กับเขามากเป็นทวีคูณ จนมันกลายเป็นหนึ่งในฝันร้ายที่เขาต้องพบเจอในยามหลับ
ทว่าอาจเพราะความคุ้นชิน นั่นเลยทำให้ตัวเคออสสามารถก้าวข้ามมันไปได้ และมองมันเป็นเพียงแค่ ‘ภาพหลอน’ ที่แวบมาเพื่อหลอกให้ผวาหรือตกใจเล่น ๆ
ทั้งนี้แล้ว เหมือนว่ามันจะไม่ได้ทำให้เขานึกกลัวเท่าไหร่ เว้นเสียแต่มันทำให้เขาจมดิ่งกับความโศกเศร้าไปเพียงเท่านั้น
เคออส กลับไปดูข้อความสำคัญอีกหนึ่งอย่าง และเลือกมองผ่านพวกข้อความที่ไม่ระบุชื่อผู้ส่งมากมาย หากแต่มีสัญลักษณ์เป็นรูปตราของจักรวรรดิรัสเซีย ซึ่งแน่นอนว่าเขารู้ความหมายของมันจริง ๆ ว่ามันหมายถึงอะไรและมันมาจากไหน ถ้าหากไม่ใช่หนึ่งในชุมชนของกลุ่มอาชญากรรมที่ใหญ่และมีอำนาจมากที่สุดในโลกนี้
ฉันตรวจสอบพบว่ามีงานว่าจ้างอีกมากที่ถูกส่งมาจาก ‘เครือข่ายอาชญากรรม’ ไม่ทราบว่าจะให้ตอบข้อความพวกเขากลับไปว่าอะไรคะ?
“ใจเย็นก่อน อลิส ฉันอยากดูให้แน่ใจว่ามีงานอะไรบ้างที่น่าสนใจ”
คำว่า ‘งานที่น่าสนใจ’ สำหรับเขาไม่ได้หมายถึงเรื่องของจำนวนเม็ดเงินที่มาก ค่าตอบแทนสูง หรือว่าการได้มาซึ่งเส้นสายที่สามารถทำให้เขาเข้าถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ทางกลุ่มรัฐบาลปกปิดเอาไว้ เรื่องเหล่านั้นเป็นสิ่งที่เขาทำได้อยู่แล้วในฐานะของการเป็นคนสำคัญในเครือข่ายอาชญากรรม พวกเขาตอบสนองความต้องการและช่วยเหลือเรื่องต่าง ๆ มากมายให้กับเขาในฐานะของ ‘ผู้ไกล่เกลี่ย’ ที่แน่นอนว่ามีไม่กี่คนที่จะได้รับแต่งตั้งตำแหน่งนี้
“เยี่ยม…เหมือนจะเจองานหนึ่งเข้าให้แล้ว”
หากแต่มันก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบมากพอสมควร แน่นอนว่าปัจจุบันตัวตนของการเป็นผู้ก่อการร้ายนั้นเป็นเพียงแค่ฉากหน้าที่เขาต้องการให้ผู้คนจดจำแบบนั้น หากแต่เบื้องหลังจริง ๆ เขาเป็นอาชญากรระดับสูงที่มีประวัติโชกโชน โดยเฉพาะในด้านของการลอบสังหาร อันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ตัวเคออสได้เข้าไปพัวพันและมีส่วนร่วมกับกลุ่มองค์กรอื่น ๆ ก่อนที่จะได้เรียนรู้งานหลากหลายที่เขาได้นำพวกมันไปต่อยอดเพื่อสร้างเงินทุนให้กับตัวเอง
เพื่อนำเงินพวกนั้นลงไปกับโครงการวิทยาศาสตร์และสร้างอาวุธทำลายล้างสูงของตัวเอง ตอบสนองอุดมการณ์อันแรงกล้าบางอย่างที่ยิ่งใหญ่และใช้เวลาเตรียมการที่เนิ่นนาน
“โป๊ะเชะ!” เคออส อุทานออกมา ก่อนจะเปิดข้อความงานจ้างหนึ่งขึ้นมา ซึ่งมันเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นแทบทั้งหมด
“อลิส ช่วยแปลข้อความทั้งหมด แล้วจัดเรียงเป็นรูปแบบสากลให้ฉันที”
รับทราบค่ะ
เวลาสำหรับการแปลข้อความรวมถึงจัดเรียงข้อความนั้นเพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียว พร้อมทั้งยังเพิ่มเติมในส่วนของการสืบข้อมูลตรงจุดที่มีการทำตัวหนาเน้นไว้ด้วย เหมือนกับรู้ล่วงหน้าโดยไม่จำเป็นต้องออกคำสั่งต่อไป
ข้อดีของระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ฉลาดล้ำ น่าหวาดหวั่น และเป็นเครื่องมือที่สำคัญมากพอที่เขาสามารถใช้มันเป็นอุปกรณ์ทำมาหากินได้ยาว ๆ ไปอีกนับหลายปี
ถึง: โค้ท แอนด์ เวทเทอร์ (Coat & Whether)
ชื่อเสียงเรียงนามของเราไม่สำคัญ หากแต่เรามีเรื่องอยากให้คุณช่วย
เราทราบถึงเกียรติศัพท์และประสบการณ์ของคุณอันมากมาย และนั่นจึงเป็นโอกาสดีที่เราอยากมอบงานชิ้นหนึ่งให้กับคุณ
เขาเป็นหนึ่งใน ‘คู่แข่ง’ ทางธุรกิจของเรา (รายละเอียดทั้งหมดแนบไว้อยู่ในไฟล์ข้อมูลแล้ว)
พวกเราอยากให้คุณทราบว่าเราทำเพื่อหวังผลประโยชน์เพื่อองค์กรของเราแต่เพียงผู้เดียว
โดยไม่ขึ้นตรงต่อเครือข่ายอาชญากรรม
หากงานนี้สำเร็จ เราสัญญาว่าจะสนับสนุนคุณในสิ่งที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม
ขอเพียงแค่ทำให้เราแน่ใจว่าคุณตั้งใจและมุ่งมั่นกับมัน
เมื่อถึงเวลานั้น เราจะต้อนรับคุณเป็นอย่างดี และส่งบัตรเชิญให้คุณเข้าร่วมงานเลี้ยงส่วนตัวของเรา
ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ
ลาโน คอร์เปอเรชั่น
Lano Corporation
ชายหนุ่มเปิดดูรายละเอียดของไฟล์ข้อมูลที่แนบมา ภายหลังจากที่เขาอ่านข้อความจนจบ โดยไม่มีการส่งการตอบกลับไป หากเพียงแต่หันไปจิ้มสัญลักษณ์ ๆ หนึ่งบนหน้าจอที่บ่งบอกว่าตนรับงานนี้ ซึ่งมันเป็นการตกลงรับงานจ้างที่ทางฝั่งของผู้ว่าจ้างได้ส่งตรงมาถึงตัวเอง
“สืบได้ยังไงบ้าง อลิส”
ระบบปัญญาประดิษฐ์นั้นแสดงถึงชื่อเป้าหมาย สถานที่ ช่วงเวลาต่าง ๆ รวมถึงข้อมูลโดยละเอียดที่มันแทบจะบอกทุกอย่างชนิดที่ว่าชายหนุ่มนั้นแทบจะรู้อย่างหมดเปลือก จนบางครั้งแล้วมันก็ชวนให้เขารู้สึกหวั่นใจอยู่นิด ๆ เว้นเพียงแต่สิ่งที่เรียกว่า ‘ความเป็นส่วนตัว’ สำหรับในโลกที่การสื่อสารและการเชื่อมต่ออย่างรวดเร็วเช่นเวลานี้มันจะเป็นสิ่งที่ถูกรุกรานได้โดยง่ายดายมาก
คาดการณ์ความเป็นไปได้จากระยะทางและตำแหน่งของเป้าหมายในปัจจุบัน อยู่ที่เมืองหลวงของประเทศบราซิลค่ะ
ในส่วนของตำแหน่งที่ชัดเจนนั้นขึ้นอยู่กับการสืบหาด้วยตัวเองต่อไป ซึ่งมันไม่ได้เป็นงานยากนักสำหรับตัวของเคออสที่เขาเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีอยู่แล้วเป็นกิจวัตร นอกเหนือจากอย่างหนึ่งที่มันดูเป็นปัญหามากกว่าคือหน้างานที่มีโอกาสจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมาได้ตลอดเวลา
“โอเค แบบนั้นก็เตรียมเครื่องบินกับคนขับไว้ได้เลย”
จะติดต่อให้ใครเป็นคนจัดหาให้คะ?
“ฉันมีเพื่อนคนหนึ่งที่เคยรู้จักอยู่ เดี๋ยวจะส่งข้อมูลแล้วติดต่อไปหาเขาเอง”
รับทราบค่ะ
หากแต่ก่อนหน้านั้น ดูเหมือนว่ามันจะมีสิ่งที่เขาต้องทำก่อนเป็นอย่างแรก
เคออส ผละออกจากหน้าจอของภาพสามมิติ ก่อนจะหยิบหน้ากากกันแก๊สของตัวเองขึ้นมาสวมใส่ จากนั้นได้ส่งข้อความออกไปหาใครบางคนที่เขียนเป็นชื่อภาษารัสเซีย พร้อมกับส่งข้อความแบบอัตโนมัติไป ระหว่างที่รอการตอบกลับมา ตัวเขาเองก็ใช้เวลานี้สำหรับการเตรียมนำของสำหรับที่เขาต้องการใช้ในยามออกทำงานภาคสนาม
หลัก ๆ แล้วที่เขาเตรียมไปคือ มีดคอมแบท ระเบิดควัน และอุปกรณ์ที่เรียกว่า ‘มีดสามแฉก (Tri-Knife)’
สถานที่นัดพบถูกระบุให้แล้วพร้อมกับเวลาค่ะ
เคออส ใช้เวลาไม่นานนักสำหรับการนำเอาของที่เขาต้องการไป นอกเหนือจากสิ่งหลักทั้งสามอย่างที่เขาเอาไปแล้วนั้น อีกสิ่งหนึ่งที่เหมือนว่าแม้มันจะไม่ได้จำเป็นขนาดต้องพกติดตัวไป หากแต่เขากลับเลือกเอาไปด้วยนั่นคือ ‘ระเบิดดาวกระจาย (Explosive Shurikens)’ ซึ่งเป็นอาวุธประเภทปาที่แม้ตัวของมันจะมีประสิทธิภาพน้อยกว่าระเบิดลูกเกลี้ยงหรือระเบิดแรงสูง แต่ความพิเศษคือการที่มันบรรจุเศษเหล็กเคลือบด้วยพิษร้ายแรงระดับทำลายประสาทสัมผัสทั้งห้าได้เพียงเสี้ยววินาที บวกกับขนาดที่เล็กพอ ๆ กับขนมช็อคบอลหนึ่งลูก ซึ่งแน่นอนว่าเขาสามารถพกมันติดตัวไปได้เกือบหลายสิบลูกภายในชุดของตัวเอง
“โอเค เขาส่งข้อความตอบกลับมาหาฉันแล้ว”
ของหลายชิ้นล้วนเหมือนกันหมด นั่นคือทำมาจากเทคโนโลยีขั้นสูง มีความละเอียด และผ่านการประดิษฐ์ด้วยเครื่องมือและความสามารถประจำตัวที่เขามี อาจมีบางชิ้นอย่างตัวของมีดคอมแบทที่มันเปลี่ยนผ่านมาหลายครั้งตามเวลาที่ใช้งาน หากแต่สิ่งที่ยังคงเดิมไว้คือความแหลมคมและใบมีดประสิทธิภาพสูงที่ผ่านการขัดเงามาอย่างดี
“หวังว่าคงคุ้มค่าจ้าง…”
เริ่มการวางเส้นทางจากจุดเริ่มต้นไปยังที่หมาย ล่าให้สนุกนะคะ
แต่ไม่ว่าเทคโนโลยีที่ใช้นั้นจะล้ำสมัยแค่ไหน เขาก็ยังไม่ลืมถึงสิ่งสำคัญบางอย่าง นั่นคือฝีมือและประสบการณ์จากเมื่อครั้งที่ยังเป็นหัวหน้านักลอบสังหาร…
- 1 -
บรรยากาศรอบตัวที่ค่อนข้างเงียบสงบ ค่อนข้างเป็นอะไรที่ชวนให้หญิงสาวคนหนึ่งได้ผล็อยหลับไปอยู่ภายในรถบรรทุก ก่อนที่เธอจะถูกปลุกขึ้นมาโดยชายคนหนึ่งผู้นั่งอยู่ข้าง ๆ แทน
“ได้เวลาแล้ว โซร่า ถึงเวลาที่เราต้องทำงาน”
เจ้าของชื่อแสดงสีหน้าสะลึมสะลือ หากแต่ก็รับฟังเขา พลันตัดสินใจเปิดประตูลงจากรถ พร้อมกับปืนไรเฟิลจู่โจมบนมือที่บ่งบอกถึงสัญชาติของตัวเอง ซึ่งนั่นก็หนีไม่พ้นรัสเซียเป็นทุนเดิม เว้นแต่ปืนกระบอกดังกล่าวมันจะเป็นรุ่นเก่าดึกดำบรรพ์ที่ผ่านการใช้งานมานาน
“อีกสี่สิบห้านาที คนรับของจะมาที่นี่”
เสียงของชายหนุ่มผู้มีสัญชาติเดียวกัน กล่าวกับตัวของหญิงสาว ขณะที่เขานั้นมองดูข้อความจากโทรศัพท์ก่อนจะเก็บมันไว้ในกระเป๋ากางเกงตนเอง
“ไหน ๆ นี่ก็เป็นงานแรกของเธอ เพราะงั้นเมื่อกี้นี้ฉันจะถือว่าไม่รับรู้อะไรแล้วกัน”
พื้นเพหรือประวัติของคนกลุ่มนี้เป็นใคร มาจากไหน นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญเท่ากับงานของพวกเขาที่แน่นอนว่ามันคือการส่งมอบอาวุธสงครามให้กับผู้ซื้อ โดยพวกเขานั้นมีศักดิ์เป็นเพียงแค่ ‘ลูกน้อง’ คนหนึ่งในกลุ่มกองกำลังติดอาวุธหัวรุนแรง ซึ่งชื่อเสียงของกลุ่มดังกล่าวค่อนข้างฉาวโฉ่ไปในทางด้านของการต่อต้านอำนาจของกองทัพในประเทศมหาอำนาจอยู่ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้แล้วดูเหมือนว่าเรื่องราวดังกล่าวมันไม่ได้ถูกเล่าขานให้คนภายนอกรับรู้กันมากนัก
และอีกอย่างหนึ่งเอง พวกเขาทั้งสามคนก็ไม่มีประสบการณ์การสู้รบเหมือนดั่งเช่นทหารด้วย ที่จริงจะเรียกว่าเป็นทหารคงไม่ได้ด้วยซ้ำ
“อย่ากดดันเธอมากน่า” ใครคนหนึ่ง กล่าวออกไป
“ไม่ต้องกังวลไป ทุกอย่างจะเรียบร้อย ซายาฟ ฉันขอรับประกัน”
“เออ ขอให้เป็นงั้นเถอะ ลูเคียฟ”
เธอไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาแต่อย่างใด นอกจากทำเพียงแค่กวาดสายตามองโดยรอบนอกประตูโกดังไปอย่างระแวดระวัง หากแต่ในทางกลับกันก็ผ่อนคลายและไม่ได้จริงจังอะไรมากกับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมากนัก
“นานใช่ย่อยเลยนะ ว่าไหม?”
“อ-อื้อ!” โซย่า ตอบกลับ
“เอาเถอะ เสร็จงานนี่เราก็ได้กลับบ้านแล้ว”
ระหว่างนั้นเองจู่ ๆ เสียงริงโทนจากโทรศัพท์ของใครคนหนึ่งดังออกมาจากกระเป๋ากางเกง กลบความเงียบบริเวณรอบข้างไปโดยปริยาย
“ไงบอส? มีอะไร?”
และมันก็ได้แปรเปลี่ยนความเงียบพวกนั้นกลายเป็นฉากโศกนาฎกรรมขึ้นมา…
กระสุนนัดหนึ่งแล่นพุ่งเข้ามาระเบิดศีรษะของหนึ่งในกลุ่มคนทั้งสามในแบบที่ไม่รู้ที่มาและไม่ได้ตั้งตัว ส่งให้เขาคนนั้นลงไปนอนจมกองเลือดด้วยระยะเวลาเพียงไม่ถึงสามวินาที จนเป็นเหตุให้คนทั้งสองได้แต่ยืนอ้ำอึ้งกับมัน
“ล-ลูเคียฟ…ลูเคียฟ!!”
“ระวัง!!”
หากแต่มันไม่ได้หยุดเพียงแค่ตรงนั้น เพราะยังมีกระสุนอีกหลายนัดพุ่งเข้ามาด้วยอีกมากกว่าสิบนัดขึ้นไป เป็นเหตุให้ทั้งคู่ต้องรีบตั้งสติแล้ววิ่งไปหลบอยู่หลังรถบรรทุกในทันที ท่ามกลางเสียงปืนมากมายที่ดังมาจากด้านหน้าของพวกเขา
“ซายาฟ จะเอายังไงต่อ!?”
ชายหนุ่ม ผู้ที่แสดงอาการตื่นตระหนกออกมาพยายามจะหยิบโทรศัพท์จากในกระเป๋ากางเกง หวังจะโทรศัพท์กลับไปยังผู้ว่าจ้าง ทว่าเพราะด้วยความที่ถูกเล่นงานด้วยห่ากระสุนที่ยิงตรงมายังตัวประตูโกดัง ทำให้มันเป็นเรื่องยากมากที่จะประคองสติสัมปชัญญะเอาไว้
จนไม่ทันไรเองที่พวกเขาจะได้ตั้งตัวทัน เสียงปืนเหล่านั้นก็หยุดเงียบลง
และตามมาด้วยการที่มันมีอะไรบางอย่างขนาดใหญ่พุ่งตรงเข้ามาภายในโกดังไปแทน
แรงระเบิดจากรถบรรทุกนำพาทำให้พวกเขาทั้งคู่แทบจะกระเด็นออกไปจนหลังชนกับกำแพง ด้วยฝีมือของรถถังคันหนึ่งที่มันได้วิ่งปรากฎตัวออกมาพร้อมกับเหล่ากลุ่มคนผู้ติดอาวุธและอยู่ในชุดเกราะสีขาวแทบทั้งตัว แน่นอนว่าพวกเขามีกันอยู่นับเกือบประมาณสิบคนได้ หากแต่ว่านั่นกลับไม่ใช่ประเด็นเรื่องสำคัญที่ตัวของชายหนุ่มใส่ใจ เพราะในตอนนี้เขากำลังอยู่ในสภาพที่ตัวเองลงไปนอนคว่ำกับพื้นพร้อมกับมีบาดแผลเต็มตัว ซึ่งมันสาหัสมากเสียจนแทบไม่สามารถทำอะไรได้
“โซย่า? โซย่า เป็นอะไรไหม?”
เขาตะโกนหันไปพูดกับหญิงสาว หากแต่สิ่งที่ได้กลับมามีเพียงแต่ความเงียบ สายตาของชายหนุ่มพร่ามัวลงไปทุกขณะ และกว่าที่เขาจะรู้ตัวอีกทีก็คือขาทั้งสองข้างของเขาขาดออกจากกันแล้ว
และเมื่อหันไปมองก็พบว่าตอนนี้รถบรรทุกที่มันบรรจุอาวุธสงครามไว้ก็ถูกทำลายไปจนหมดพร้อมกับซากรถที่โดนผลจากกระสุนปืนใหญ่จากรถถังด้วย
“โซ…ย่า?”
แวบหนึ่งของเขา มองเห็นถึงเศษเนื้อที่ส่งกลิ่นเหม็นไหม้ที่ปะปนกับซากรถบรรทุก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้อีกฝ่ายมีสภาพเป็นเช่นไร หากแต่สิ่งหนึ่งที่พอคาดเดาได้ การจู่โจมอย่างกะทันหันของกลุ่มคนผู้มาพร้อมกับรถถังนั้นมันได้จบชีวิตของพวกเขาทั้งคู่ไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับมา
:: เป้าหมายถูกกำจัดแล้ว โปรดทราบ เป้าหมายถูกกำจัดแล้ว ::
เฉกเช่นเดียวกับเขาที่ตัวเองค่อย ๆ หมดลมหายใจลงไป และท้ายที่สุดก็ถูกใครคนหนึ่งในกลุ่มคนชุดเกราะสีขาวนั่นปลิดชีพไปในทันทีแทน…
“ต้องลงทุนขนาดนี้เพื่อจัดการกับกลุ่มไม่กี่คนเลยเหรอ?”
หนึ่งในกลุ่มติดอาวุธผู้อยู่ในชุดเกราะสีขาวนั้นขานขึ้นภายในกลุ่มพรรคพวกของตนเอง ขณะมองดูซากรถบรรทุกกับโกดังที่มันนั้นเริ่มจะถล่มลงมาทับร่างไร้วิญญาณทั้งหมดลงให้จมอยู่ใต้ตัวมัน
“ปกติทั่วไป คุณเจ้าหน้าที่ระดับกลาง ก่อนหน้าที่คุณเข้ามามีงานหนักมากกว่านี้อีกเป็นหลายเท่า นี่เป็นเพียงการส่งสารเตือนให้พวกมันเพียงเท่านั้น”
“ผู้บัญชาการคงไม่ชอบใจแน่…”
“กลับกันเลยล่ะ เราทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดไม่ถึงเสมอ สมกับเป็นหน่วยงานของพวกเรา”
“พอเข้าใจแล้ว นี่เองที่พวกเขาถึงเรียกเราว่า ‘เอ็กซิมิวส์ (Eximius)’”
ราวกับทุกอย่างนั้นจบลงไปอย่างดื้อ ๆ หากแต่มันเป็นเพียง ‘จุดเริ่มต้น’ เท่านั้นของความวุ่นวายในอนาคตที่คืบคลานเข้ามา…