ความผิดพลาดจากอารมณ์ชั่ววูบ พรากชีวิตของเสี่ยวมู่จื่อให้ดับไป จึงต้องมีคนเสียสละไปตามหาวิญญาณกลับมา

โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3 - ตอนที่ 17 เตรียมตัวกลับเรือนไม้ของกู๋อันหนิง (จบเล่ม 3) โดย Kevinth M. PoTae @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-ชาย,จีน,ยุคปัจจุบัน,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-ชาย,จีน,ยุคปัจจุบัน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3 โดย Kevinth M. PoTae @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ความผิดพลาดจากอารมณ์ชั่ววูบ พรากชีวิตของเสี่ยวมู่จื่อให้ดับไป จึงต้องมีคนเสียสละไปตามหาวิญญาณกลับมา

ผู้แต่ง

Kevinth M. PoTae

เรื่องย่อ

เรื่องย่อ เล่ม 3

นามปากกา : Kevinth M. PoTae

วาดปก เล่ม 3 : Changli Ho

แมวดำ : Raynanimx

.

หลังจากที่เสี่ยวมู่จื่อต้องจากไปเพราะกระต่ายเทพทั้งสองทะเลาะกัน คุณนายเมิ่งจึงมอบภารกิจให้กับตัวต้นเรื่องและหลิงเซียงที่อาสาไปช่วย เพื่อนำพาดวงจิตของเสี่ยวมู่จื่อกลับมา

หากแต่เสี่ยวมู่จื่อไม่ใช่มนุษย์ทั้งยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องตาย ดวงจิตจึงกระเจิงหนีหายไปยังที่ใดไม่มีใครรู้ คุณนายเมิ่งจึงค้นหาไปทุกที่แล้วได้พบว่าเสี่ยวมู่นั้นอยู่ในปรโลก เยว่หมิงชางจึงจำต้องลงไปที่นั่นเพื่อตามหา

แต่เพราะที่นั่นคือปรโลก การจะดุ่ม ๆ เข้าไปตามหาและพากลับมาจึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะที่นั่น มีเส้นทางและด่านมากมายที่เป็นเงื่อนไขขัดขวางเป้าหมายของเยว่หมิงชางไม่ให้สำเร็จได้โดยง่าย

ถึงจะอย่างนั้น ในเมื่อเยว่หมิงชางตั้งใจจะแก้ไขเรื่องทุกอย่างให้กลับมาดังเดิมแล้ว คงไม่มีทางอื่น นอกจากทำตามนั้น...

.

.

นิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน ดังนั้นตัวละคร/สถานที่/เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเรื่อง จึงถูกสมมุติขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ทุกคำพูด ทุกตัวละครไม่มีอยู่จริง…โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน…

ฝากเป็นกำลังใจให้นักเขียนด้วยการกดไลก์ คอมเมนต์ และกดเข้าชั้นหนังสือด้วยนะครับ

 

ฝากช่องทางการติดต่อไว้ด้วยนะครับ^^

Threads : mungkorn_kevinth

Twitter : Kevinth_M

Tiktok : kevinth_m.author

Facebook : kevinthm.author

 

 

 

สารบัญ

โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 1 ภารกิจตามหาเสี่ยวมู่จื่อ,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 2 เข้าสู่เขตปรโลก,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 3 จวนกู๋อันหนิง,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 4 ชายหนุ่มรูปงามยิ่งกว่าเทพธิดา,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 5 ชายที่หมายตา,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 6 ข้อแลกเปลี่ยน,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 7 ห้วงความฝันของหวังซู,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 8 ครึ่งปีศาจปริศนา,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 9 ความทรงจำที่หลงลืม,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 10 สาวโบฮีเมียนครึ่งปีศาจ,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 11 กุญแจหยกไขประตูสวรรค์,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 12 ข้ารักษาสัญญาเสมอ,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 13 ทะเลสาบแสงจันทร์,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 14 แม้แต่เทพก็ยังไม่อาจสมหวังเรื่องความรัก,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 15 ฝูงหมาป่าแห่งความมืด,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 16 มืออุ่นประคองไหล่ของคนรัก,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 17 เตรียมตัวกลับเรือนไม้ของกู๋อันหนิง (จบเล่ม 3)

เนื้อหา

ตอนที่ 17 เตรียมตัวกลับเรือนไม้ของกู๋อันหนิง (จบเล่ม 3)

ตอนที่ 17

เตรียมตัวกลับเรือนไม้ของกู๋อันหนิง

 

“นี่ท่านพูดจริง…หรือเพียงแค่อยากจะเอาใจข้ากันแน่?”

“ข้าก็ต้องพูดจริงอยู่แล้ว ข้าจะโกหกเจ้าไปทำไมกัน เจ้าเป็นคนแรกที่ทำให้ข้ารู้จักกับความรัก และทำให้ข้ารู้ว่าความรู้สึกปรารถนามันเป็นอย่างไร”

“ข้าดีใจ ที่ท่านบอกว่ารักข้า แต่สำหรับข้าแล้ว หากจะมีรัก ข้าต้องเป็นที่หนึ่ง และข้าก็รู้ ว่าในใจของท่านยังมีคนอื่นซ่อนอยู่ในนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะมอบหัวใจให้ท่านไปทั้งหมดได้อย่างไรกัน”

“ข้ายอมรับ ว่าข้ามีใจให้กับสหายของข้าที่ครั้งหนึ่งเขาก็เคยเป็นคนที่ข้ารักเมื่อหลายพันปีก่อน และข้าก็ไม่เคยหย่อนคลายในความรักนั้นลงเลยตลอดระยะเวลาหลายพันปี จนข้าได้มาเจอกับเจ้า”

หวังซูยกแขนขึ้นโอบไหล่ของคนที่นั่งชมดาวอยู่ข้างกัน แล้วดึงร่างบางสวยนั้นเข้ามากอดด้วยใจรัก จนกู๋อันหนิงเองก็รู้สึกได้ถึงความจริงใจที่หวังซูมอบให้นี้

“เจ้าวางใจเถอะ ข้าสัญญาว่าข้าจะมีแค่เจ้า…กู๋อันหนิงผู้นี้ เพียงผู้เดียวเท่านั้น”

“นี่ท่านพูดจริงอย่างนั้นหรือ?”

“หากข้าพูดไม่จริง ข้าขอให้ตัวข้า…”

กู๋อันหนิงรีบเอามือมาปิดปากของหวังซูเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้หวังซูพูดคำที่ไม่เป็นมงคลพวกนั้นออกมา

ถึงแม้ว่ากู๋อันหนิงจะเป็นปีศาจล่อลวงที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมมากมาย แต่กับหวังซูแล้ว กู๋อันหนิงกลับกลายเป็นเพียงแค่แมวเชื่อง ๆ ตัวหนึ่งเท่านั้น

“ท่านอย่าพูดคำนั้นออกมาหากท่านไม่แน่ใจ สำหรับข้า คำสาบานคือสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่เอาเถิด ยังพอมีเวลาเหลืออยู่ หากพวกเขากลับมาถึงที่นี่ก่อนเที่ยงคืนของวันนี้ ท่านก็จะเป็นอิสระ หากไม่…ข้าก็จะไม่บังคับท่าน”

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

“ท่านไม่จำเป็นต้องทำในสิ่งที่ท่านต้องฝืนใจหรอกนะ ข้ายื้อท่านเอาไว้ เพราะข้ารักท่านจริง ๆ แต่หากความรักของข้ามันทำให้ท่านต้องทรมาน ข้าก็ยินดีหากท่านจะจากไป”

หวังซูไม่คิดว่ากู๋อันหนิงจะพูดคำนั้นออกมา เพราะตลอดระยะเวลาสามวันที่ผ่านมา ทั้งสองอยู่กันที่นี่ ในเรือนไม้แห่งนี้ และใช้ชีวิตกันอย่างสามีภรรยา ราวกับว่าทั้งสองได้ร่วมหอกันมานับพันปีแล้วอย่างไรอย่างนั้น

หวังซูรู้ดีว่า สามวันก่อนหน้านี้นั้น ไม่ใช่ครั้งแรกที่กู๋อันหนิงได้รู้จักกับตน และการที่ตนต้องมาที่นี่ บางทีก็อาจคิดได้ว่าไม่ใช่เหตุบังเอิญ เพราะดูเหมือนว่าการที่หวังซูต้องมาติดอยู่ในเรือนไม้แห่งนี้ ส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากฝีมือของกู๋อันหนิงนั่นเอง

แต่ถึงจะอย่างนั้น หวังซูก็รู้สึกได้ว่ากู๋อันหนิงนั้นรักตนอย่างจริงใจ และแม้แต่ตัวของหวังซูเอง ก็กลับรู้สึกโหยหาในความรักที่กู๋อันหนิงมอบให้ ชนิดที่ว่า ต่อให้ตายลงตรงนี้ ก็ขอให้ได้เสพสมกับกู๋อันหนิงอีกสักครั้งก็ยังดี และเมื่อเป็นเช่นนั้น หวังซูจึงตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่า ตนจะไม่จากที่นี่ไป ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม

.

.

ณ ศาลาริมน้ำทางออกของประตูปรโลก

“สถานที่ที่ดูรกร้างเช่นนี้ เหตุใดจึงมีศาลาที่ดูสมบูรณ์และงดงามเช่นนี้ด้วยล่ะ?”

“บริเวณนี้อยู่ในเขตของแม่น้ำวั่งชวนที่ท่านยายเมิ่งเป็นผู้ดูแล จึงมีเขตอาคมป้องกันสิ่งชั่วร้ายเอาไว้ไม่ให้ผ่านเข้ามาได้ เว้นเสียแต่เหล่าวิญญาณที่จะต้องไปเกิดใหม่เท่านั้น จึงจะผ่านเขตอาคมนี้เข้ามาได้” หนึ่งในยมทูตตอบ

“แม่น้ำวั่งชวนอย่างนั้นหรือ แต่ที่ข้าเคยได้ยินมา แม่น้ำวั่งชวนเต็มไปด้วยซากศพและกลิ่นคาวเลือดมิใช่หรือ แล้วเหตุใดที่ตรงนี้จึงดูสะอาดตาและงดงามนักเล่า?”

“แม่นางหลิงเซียง เจ้าเข้าใจไม่ผิด เพียงแต่สิ่งที่เจ้าพูดไม่ได้อยู่ตรงนี้ หากแต่อยู่ตรงที่สะพานน่ายเหอซึ่งเป็นสะพานที่วิญญาณจะใช้มันเพื่อข้ามไปอีกฝั่งเพื่อเกิดใหม่”

“เป็นเช่นนี้นี่เอง แล้วนี่…เราต้องเดินทางอีกไกลหรือไม่ จึงจะไปถึงสะพานน่ายเหอแห่งนั้น?”

“อีกไม่ไกลหรอก เมื่อพวกเจ้าข้ามผ่านเส้นทางตรงนี้ไปได้ ทุกอย่างก็จะราบรื่น”

หลังจากที่พูดคุยกันหลิงเซียงก็เริ่มใช้เวทรักษาเพื่อเยียวยาร่างกายและบาดแผลให้กับพี่หมิงชางและเสี่ยวมู่ ที่ในเวลานี้ค่อย ๆ ดีขึ้นมาทีละนิดจนเกือบจะหายดี

เมื่อบาดแผลภายนอกเริ่มสมานและกลับมาหายดี เยว่หมิงชางก็ค่อย ๆ ฟื้นสติขึ้นมาจากอาการอ่อนล้านั้น ฝ่ายของเสี่ยวมู่เอง ก็เริ่มตื่นขึ้นมาตามหลังเยว่หมิงชางเพียงไม่นานนัก

“พี่หลิงเซียง…”

เสียงของเสี่ยวมู่ร้องเรียกหลิงเซียงอย่างสนิทสนม ต่างกันโดยสิ้นเชิงกับก่อนหน้านี้ เยว่หมิงชางหันไปมองเสี่ยวมู่ แล้วดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดด้วยความดีใจ เมื่อเห็นว่าเสี่ยวมู่นั้นฟื้นกลับมาและปลอดภัยดีแล้ว

“ข้าดีใจเหลือเกิน ที่เจ้าไม่ได้เป็นอะไรไป หากเจ้าต้องมาตายเพราะข้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ครั้งนี้ข้าคงต้องตายตามเจ้าไปเสียจริง ๆ”

“ข้าไม่เป็นไรแล้วท่านหมิงชาง ท่านปล่อยข้าก่อนเถอะ ท่านรัดตัวของข้าเอาไว้แน่นจนข้าเริ่มจะหายใจไม่ออกแล้วนะ”

เยว่หมิงชางรีบผ่อนคลายวงแขนออกจากร่างของแมวน้อยตัวเล็กที่ในเวลานี้กลับคืนมาเป็นเด็กหนุ่มที่หมิงชางคุ้นเคย

“เสี่ยวมู่ เมื่อครู่เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ?”

“พี่หลิงเซียง ข้าเรียกท่านว่าพี่หลิงเซียง ทำไมหรือ ปกติข้าก็เรียกท่านเช่นนี้ไม่ใช่หรือ?”

คำพูดนั้นทำให้เยว่หมิงชางและหลิงเซียงหันมองหน้ากัน แววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขด้วยความดีใจที่มันเอ่อล้นออกมาจากข้างใน เพราะสิ่งที่เสียวมู่พูดนั้น มันส่งสัญญาณให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ในเวลานี้ แมวน้อยที่นั่งอยู่ตรงหน้านั้น ได้สติกลับคืนมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

.

.

“อีกเดี๋ยวเมื่อพวกเจ้าข้ามสะพานนี้ไป เจ้าก็จะเจอป่าแห่งการล่อลวง เมื่อถึงตรงนั้น ข้าคิดว่าท่านเยว่หมิงชางกับแม่นางหลิงเซียงคงจะมีวิธีรับมือที่ดี”

“ท่านทั้งสองพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”

“บริเวณนี้เลยขอบเขตของปรโลกมาแล้ว พวกเรามีหน้าที่ส่งพวกท่านได้เพียงเท่านี้ หากผ่านตรงนี้ไป พวกท่านคงจะต้องดูแลตัวเอง” ยมทูตทั้งสองกล่าวก่อนที่จะหายวับไป หากแต่เสี่ยวมู่ก็เอ่ยถามขึ้นด้วยความกลัวและสงสัย

“แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน ในเมื่อป่าแห่งการล่อลวงนั่น มันมีปีศาจร้ายอยู่มิใช่หรือ?”

“ปีศาจร้ายที่เจ้าว่า ตอนนี้กำลังควบคุมหวังซู สหายของพวกเราอยู่ที่จวนแห่งนั้น เราต้องกลับไปที่นั่นให้ทันก่อนเที่ยงคืนของวันนี้ และตอนนี้พวกเราก็มีเวลาอยู่อีกแค่สองชั่วยาม พวกเราเร่งเดินทางกันเถิด”

.

.

“แล้วเจ้าดีขึ้นแล้วหรือหมิงชาง พักอีกสักหน่อยดีหรือไม่? เสี่ยวมู่เองก็เพิ่งจะกลับคืนความจำมาได้ ระยะทางอีกเพียงไม่ไกล ข้าว่าเราค่อย ๆ เดินทางน่าจะดีกว่านะ”

“ข้าดีขึ้นมากแล้ว เวลากระชั้นชิดไม่อาจรอได้ ข้าไม่รู้ว่าหลังจากนี้เราจะต้องไปเจอกับลูกเล่นอะไรของกู๋อันหนิงอีก หวังซูที่อยู่ที่นั่น ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร หากเรายังรีรอ ทุกอย่างก็อาจจะสายไปก็เป็นได้”

“เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า หากเจ้าคิดว่าเจ้าสามารถเดินทางได้เราก็รีบไปกันเถิด…”

เมื่อพูดจบ ทั้งสามก็ออกเดินทางด้วยการสลายหายไปกับสายลมราวกับหมอกควันที่ค่อย ๆ กระจายตัวออกจนไม่เหลือร่องรอย

.

.

จบเล่ม 3