ความผิดพลาดจากอารมณ์ชั่ววูบ พรากชีวิตของเสี่ยวมู่จื่อให้ดับไป จึงต้องมีคนเสียสละไปตามหาวิญญาณกลับมา

โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3 - ตอนที่ 12 ข้ารักษาสัญญาเสมอ โดย Kevinth M. PoTae @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-ชาย,จีน,ยุคปัจจุบัน,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-ชาย,จีน,ยุคปัจจุบัน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3 โดย Kevinth M. PoTae @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ความผิดพลาดจากอารมณ์ชั่ววูบ พรากชีวิตของเสี่ยวมู่จื่อให้ดับไป จึงต้องมีคนเสียสละไปตามหาวิญญาณกลับมา

ผู้แต่ง

Kevinth M. PoTae

เรื่องย่อ

เรื่องย่อ เล่ม 3

นามปากกา : Kevinth M. PoTae

วาดปก เล่ม 3 : Changli Ho

แมวดำ : Raynanimx

.

หลังจากที่เสี่ยวมู่จื่อต้องจากไปเพราะกระต่ายเทพทั้งสองทะเลาะกัน คุณนายเมิ่งจึงมอบภารกิจให้กับตัวต้นเรื่องและหลิงเซียงที่อาสาไปช่วย เพื่อนำพาดวงจิตของเสี่ยวมู่จื่อกลับมา

หากแต่เสี่ยวมู่จื่อไม่ใช่มนุษย์ทั้งยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องตาย ดวงจิตจึงกระเจิงหนีหายไปยังที่ใดไม่มีใครรู้ คุณนายเมิ่งจึงค้นหาไปทุกที่แล้วได้พบว่าเสี่ยวมู่นั้นอยู่ในปรโลก เยว่หมิงชางจึงจำต้องลงไปที่นั่นเพื่อตามหา

แต่เพราะที่นั่นคือปรโลก การจะดุ่ม ๆ เข้าไปตามหาและพากลับมาจึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะที่นั่น มีเส้นทางและด่านมากมายที่เป็นเงื่อนไขขัดขวางเป้าหมายของเยว่หมิงชางไม่ให้สำเร็จได้โดยง่าย

ถึงจะอย่างนั้น ในเมื่อเยว่หมิงชางตั้งใจจะแก้ไขเรื่องทุกอย่างให้กลับมาดังเดิมแล้ว คงไม่มีทางอื่น นอกจากทำตามนั้น...

.

.

นิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน ดังนั้นตัวละคร/สถานที่/เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเรื่อง จึงถูกสมมุติขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ทุกคำพูด ทุกตัวละครไม่มีอยู่จริง…โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน…

ฝากเป็นกำลังใจให้นักเขียนด้วยการกดไลก์ คอมเมนต์ และกดเข้าชั้นหนังสือด้วยนะครับ

 

ฝากช่องทางการติดต่อไว้ด้วยนะครับ^^

Threads : mungkorn_kevinth

Twitter : Kevinth_M

Tiktok : kevinth_m.author

Facebook : kevinthm.author

 

 

 

สารบัญ

โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 1 ภารกิจตามหาเสี่ยวมู่จื่อ,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 2 เข้าสู่เขตปรโลก,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 3 จวนกู๋อันหนิง,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 4 ชายหนุ่มรูปงามยิ่งกว่าเทพธิดา,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 5 ชายที่หมายตา,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 6 ข้อแลกเปลี่ยน,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 7 ห้วงความฝันของหวังซู,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 8 ครึ่งปีศาจปริศนา,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 9 ความทรงจำที่หลงลืม,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 10 สาวโบฮีเมียนครึ่งปีศาจ,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 11 กุญแจหยกไขประตูสวรรค์,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 12 ข้ารักษาสัญญาเสมอ,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 13 ทะเลสาบแสงจันทร์,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 14 แม้แต่เทพก็ยังไม่อาจสมหวังเรื่องความรัก,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 15 ฝูงหมาป่าแห่งความมืด,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 16 มืออุ่นประคองไหล่ของคนรัก,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 3-ตอนที่ 17 เตรียมตัวกลับเรือนไม้ของกู๋อันหนิง (จบเล่ม 3)

เนื้อหา

ตอนที่ 12 ข้ารักษาสัญญาเสมอ

ตอนที่ 12

ข้ารักษาสัญญาเสมอ

 

“พอก่อนเถอะ ข้าไม่ไหวแล้ว นี่ก็หกชั่วยามแล้วที่เจ้าหาความสุขจากร่างกายของข้า เจ้าไม่เหนื่อยบ้างหรือ?”

“ขอแค่ข้าได้อยู่กับท่าน ต่อให้ข้าขาดใจตายลงตรงนี้ข้าก็ยอม”

“เจ้าพูดอะไรแบบนั้น หากเจ้าตายไปข้าจะทำอย่างไร อีกอย่าง คนที่จะขาดใจตายดูเหมือนว่าจะเป็นข้าเสียมากกว่า”

“ท่านนี่ช่าง…น่ารักเสียจริง ข้าไม่เข้าใจเลยว่าหลี่อี้ผู้นั้นมองข้ามท่านไปได้อย่างไร”

กู๋อันหนิงพูดพลางใช้ปลายนิ้วเรียวสวยเขี่ยวนปลายยอดแท่งหยกตรงส่วนยอดที่ประดับด้วยอัญมณีสีแดงสดน่าหลงใหล มันช่างยั่วตาเสียจนกู๋อันหนิงอดใจไม่ได้ที่จะก้มลงไปใช้ริมฝีปากบางสวยนั้นจุมพิตลงบนอัญมณีแดงนุ่มนั้นอีกครั้ง พร้อมกับสูดดมกลิ่นหอมที่มันโชยมาแตะจมูกราวกับว่านั่นคือกลิ่นสาบสวรรค์

“อื้อ…จ…เจ้าอย่าพูดถึงหลี่อี้เช่นนั้นนะ เขาไม่รู้นี่ว่าในอดีตข้าคือใคร อีกอย่าง ข้าก็ไม่ได้อยากบังคับให้หลี่อี้รักข้าเพราะเรื่องในอดีตนั่นเสียหน่อย แต่ข้าอยากให้หลี่อี้รู้สึกดีกับข้าที่เป็นอยู่ตอนนี้มากกว่า”

“เช่นนั้นหรือ แต่ท่านรู้หรือไม่ ว่าหลายพันปีที่ผ่านมา ท่านเป็นเพียงชายเดียวที่ทำให้ข้าสู่สุขาวดีได้โดยไม่ต้องแลกกับความตายอย่างมนุษย์พวกนั้น การได้ร่วมอภิรมย์กับท่านนั้นถือเป็นเกียรติของข้ายิ่งนัก”

“ข้าก็เช่นกัน ข้ารักเจ้าเหลือเกินอันหนิง จากนี้ไป จงเป็นคู่ชู้ชื่นกับข้าตลอดไปเถิด ข้าขาดเจ้าไม่ได้อีกต่อไปแล้ว”

“ข้าน่ะ ต้องการให้เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า ท่านเองก็มีคนอยู่ในใจที่โลกมนุษย์นั่นมิใช่หรือ ตามรักตามปกป้องกันมานานนับพันปี ท่านจะทิ้งความพยายามทั้งหมดนี้ได้หรือ”

“เช่นนั้นก็ให้เวลาข้าสักหน่อยเถิด เจ้ากับข้าเพิ่งจะเจอกันได้ไม่ถึงสามวัน แต่กลับมีสัมพันธ์อันลึกซึ้งกันถึงเพียงนี้ จะให้ข้าหักใจจากความรักนับพันปีภายในระยะเวลาอันสั้นได้อย่างไร”

“เรื่องนั้นข้ารู้ดี เอาเถิด ข้าจะรอวันนั้น วันที่ท่านสามารถรักข้าได้เต็มหัวใจของท่านที่มี”

.

.

จวนเหยียนลั่วอ๋อง

“ท่าน…เรียกให้ข้ามาที่นี่ มีเรื่องอะไรจะพูดกับข้าอย่างนั้นหรือ?”

เยว่หมิงชางที่กำลังแหงนหน้ามองพระจันทร์ยามค่ำคืน หันกลับมาตามเสียงของคนที่เพิ่งจะมาถึง เยว่หมิงชางส่งยิ้มให้กับแมวน้อยด้วยใบหน้าที่อ่อนโยน ช่างต่างออกไปราวกับคนละคนที่อยู่ในโถงรับรองวันนี้

“ข้า…ควรจะเรียกเจ้าว่าอะไร ให้ข้าเรียกเจ้าว่าเสี่ยวมู่ได้หรือไม่?”

“เอาที่ท่านสะดวกเถิด สำหรับข้าแล้ว ชื่อของข้ามันไม่ได้สำคัญขนาดนั้น”

“ทำไมล่ะ?” กระต่ายหนุ่มหน้าคมเอียงหน้าหรี่ตาสงสัยแต่ก็ยังอมยิ้มอยู่ในที

“ก็อย่างที่ท่านรู้ ว่าข้าเป็นเพียงเศษวิญญาณของปีศาจแมวน้อยที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไร หากข้าตายไปเสียจริง ๆ จะมีใครจำข้าได้ ท่านว่าหรือไม่?”

“เรื่องนั้นไม่จริงเลย ที่โรงน้ำชานั่นทุกคนล้วนแต่รักเจ้า หากเจ้ายินยอมที่จะไปกับข้า เจ้าก็จะได้เห็นว่ามีคนที่รักเจ้ารอเจ้าอยู่ที่นั่นอีกมากมายทีเดียวนะเสี่ยวมู่”

“ท่านอย่าเกลี้ยกล่อมข้าเสียให้ยากเลย ความรู้สึกบางอย่างในหัวของข้า มันบอกข้าว่าไม่ควรไปที่นั่น หากที่นั่นมีคนที่รักข้าจริง ๆ แล้วทำไมข้าถึงตายล่ะ หรือท่านจะบอกว่าคนที่ทำร้ายข้าคือปีศาจนอกโรงน้ำชานั่นเช่นนั้นหรือ?”

“สวนที่นี่สวยดีนะ เจ้าว่ามั้ย?”

แล้วอยู่ ๆ เยว่หมิงชางก็เปลี่ยนเรื่องไปเสียอย่างนั้น ราวกับว่ากลัวจะเสียบรรยากาศที่น่าอภิรมย์นี้ไปเสีย เมื่อแมวน้อยเสี่ยวมู่เริ่มพูดเรื่องที่เยว่หมิงชางยังไม่อยากจะอธิบายในตอนนี้

“สวนหรือ ใช่ ที่นี่สวยงามมากที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมาในปรโลกแห่งนี้แล้ว”

“เจ้ารู้หรือไม่ ว่าหลังจากที่ข้าเห็นเจ้าที่โรงน้ำชาในครั้งนั้น ข้าก็เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมา เพียงแต่ข้าเองกไม่รู้ว่าข้าจะเรียกความรู้สึกเช่นนี้ว่าอย่างไรดี แต่น่าเสียดาย…”

“น่าเสียดายอะไรหรือ?”

“น่าเสียดาย…ที่ช่วงเวลาที่ข้าได้เจอกับเจ้ามันสั้นไปสักหน่อย แล้วสาเหตุที่ข้าเรียกเจ้าให้มาที่นี่ ก็เพราะว่าข้าอยากรู้ ว่าเจ้าจะจำเรื่องที่โรงน้ำชาของคุณนายเมิ่งได้มากน้อยแค่ไหน แล้วเหตุใด เจ้าถึงได้ความจำเสื่อม ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว เรื่องพวกนั้นมันควรจะเกิดกับแค่มนุษย์ธรรมดาไม่ใช่หรือ”

เสี่ยวมู่เดินมายืนที่ริมหน้าผาเคียงข้างเยว่หมิงชางอย่างวางใจ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เสี่ยวมู่แน่ใจว่าคนที่ยืนอยู่ที่ริมผาผู้นี้ จะไม่ผลักตนให้ตกลงไปยังใต้หุบเขาที่ไร้ก้นบึ้งนั้นอย่างแน่นอน

“เรื่องนั้นข้าเองก็ไม่รู้ ยามที่ข้าเจอกับท่านเหยียนลั่วอ๋อง สติของข้าก็เลือนรางเต็มที แล้วข้าก็หลับไม่ได้สติไปตั้งแต่ตอนนั้น เท่าที่ข้ารู้ ท่านหมอบอกข้าว่า จิตดั้งเดิมของข้าฉีกขาดเสียหายจากของมีคมบางอย่าง ความรุนแรงของมันคล้ายอาวุธเทพแต่ก็ไม่ใช่”

“แน่นอนว่ามันย่อมไม่ใช่อยู่แล้ว แต่เพราะพลังวิญญาณของเจ้าที่มีไม่เพียงพอ จึงทำให้ไม่อาจต้านพลังวิญญาณของสิ่งที่สังหารเจ้าได้ก็เท่านั้น ยิ่งเจ้าพยายามต่อต้าน จิตดั้งเดิมของข้าก็จะยิ่งเสียหายจากทำลายล้างของมัน”

“แปลว่าท่านรู้ ว่าข้าตายได้อย่างไรใช่หรือไม่?”

“อันที่จริง คนที่ทำร้ายเจ้าก็อยู่ที่โรงน้ำชาแห่งนั้นนั่นแหละ แต่เจ้าเชื่อข้าเถิด ว่าเขาไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายเจ้า เป้าหมายที่แท้จริงคือข้าต่างหากล่ะ”

“ข้าตาย…เพราะช่วยท่านอย่างนั้นหรือ แล้วการที่ท่านมาบอกข้าเช่นนี้ ท่านไม่กลัวว่าข้าจะยิ่งไม่อยากกลับไปที่นั่นอย่างนั้นหรือ?”

เยว่หมิงชางยังคงยิ้มอย่างอ่อนโยนเสมอ ไม่รู้ทำไม สำหรับเสี่ยวมู่แล้ว เยว่หมิงชางถึงได้ดูสุขุมและอ่อนโยนได้มากขนาดนี้ มันไม่ใช่แค่ความรู้สึกฉาบฉวย หากแต่มันคือความรู้สึกที่เอ่อล้นมาจากหัวใจข้างในเสียมากกว่า

“ข้า…ก็แค่อยากจะพูดความจริงกับเจ้า หากเป็นความจริง ต่อให้ข้าจะพูดอีกสักร้อยครั้ง มันก็จะยังคงเดิม จะมีอะไรที่ข้าไม่ควรพูดออกมากันล่ะ…จริงมั้ย?”

“นี่ท่านกำลังจะบอกว่า…”

“พระจันทร์คืนนี้ช่างสวยงามเหลือเกิน ข้าไม่คิดเลย ว่าอยู่ในที่แห่งนี้ ข้ากลับยังสามารถมองเห็นสถานที่ที่ข้าจากมาด้วย”

“ท่านนี่ ทำไมถึงชอบเปลี่ยนเรื่องอยู่เรื่อยนะ” เสี่ยวมู่พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด หากแต่เยว่หมิงชางกลับยังคงส่งยิ้มอ่อนโยนกลับมาให้อย่างเคย

“เจ้าเคยขึ้นไปบนนั้นหรือไม่ บนพระจันทร์น่ะ?”

“ไม่เคย ข้าจะเอาพลังที่ไหนพาตัวเองขึ้นไปที่นั่นกัน”

“เช่นนั้น เจ้าไว้ใจข้าหรือไม่?”

“ไว้ใจ…อะไร?”

“ยื่นมือมาสิ…”

เยว่หมิงชางยื่นมือไปให้แมวน้อยที่ยืนทำสีหน้าประหลาดนั้น เสี่ยวมู่ค่อย ๆ ยกมือขึ้นมาวางบนฝ่ามือ สีหน้าท่าทางลังเลแต่ก็ยังยินยอม ราวกับว่านี่คือการวัดใจครั้งสำคัญอย่างไรอย่างนั้น

“ตอนนี้ เราอยู่ในเขตของปรโลก ข้าจึงไม่อาจพาเจ้าขึ้นไปบนนั้นได้จริง ๆ แต่ข้าสัญญา ว่าถ้าหากเจ้ายินยอมที่จะตามข้ากลับไป ข้าจะพาเจ้าไปดูบนนั้นด้วยตัวของข้าเอง”

“นี่ถือว่าเป็นการโน้มน้าวใจของท่านหรือไม่ท่านเยว่หมิงชาง แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไร ว่าท่านจะทำตามสัญญา?” เสี่ยวมู่ยิ้มน้อยหัวใจพองโต แต่ก็หยั่งเชิงชายหนุ่มหน้าคมที่แววตาเต็มด้วยความมุ่งมั่นนั้นด้วยใจหวังว่าจะมีสักครั้งที่ตนจะสามารถขึ้นไปบนนั้นได้จริง ๆ

“ข้าทำตามสัญญาเสมอ เจ้าอย่าลืมสิ ว่าข้าคือกระต่ายสัตว์เทพของเทพธิดาฉางเอ๋อนะ”

เมื่อพูดจบ เยว่หมิงชางก็ทะยานร่างขึ้นไปกลางอากาศ หากแต่ถูกเสี่ยวมู่คว้ากระชากเอาไว้ เพราะเสี่ยวมู่ไม่เคยบินขึ้นไปในที่สูงเช่นนี้มาก่อน ทั้งด้านล่างยังเป็นขุมนรกไร้ก้น แมวน้อยที่มีพลังวิญญาณอันน้อยนิดจึงหวาดกลัวขึ้นมาเสียอย่างช่วยไม่ได้

.

.