“เห็นไหม... อุ่นกว่าข้างนอกเยอะ” ปลายฝันเบือนหน้าหนี “คุณมันบ้า” “รู้แล้ว...” เขาพูดพลางหัวเราะ “แต่บ้าก็เฉพาะเวลาอยู่ใกล้เธอเท่านั้นแหละ”ปลายฝันยังนั่งนิ่งอยู่บนเตียง ใบหน้าร้อนผ่าวไม่ยอมสบตาเขา ไฟเดินไปปิดหน้าต่างที่ลมพัดกระทบกันไปมา ก่อนหันกลับมานั่งลงข้างเธออย่างเงียบ ๆ บรรยากาศในห้องนิ่งจนได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของกันและกัน

เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก - ตอนที่11 แรงหึง โดย Lyra malin @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ผู้ใหญ่,ยุคปัจจุบัน,หลงเมีย,หลงรัก,ปากร้าย,อกหัก,เจ้านายลูกน้อง,คลั่งรัก,คลั่งรักขั้นสุด,โรแมนติก,รัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ผู้ใหญ่,ยุคปัจจุบัน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

หลงเมีย,หลงรัก,ปากร้าย,อกหัก,เจ้านายลูกน้อง,คลั่งรัก,คลั่งรักขั้นสุด,โรแมนติก,รัก

รายละเอียด

เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก โดย Lyra malin @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“เห็นไหม... อุ่นกว่าข้างนอกเยอะ” ปลายฝันเบือนหน้าหนี “คุณมันบ้า” “รู้แล้ว...” เขาพูดพลางหัวเราะ “แต่บ้าก็เฉพาะเวลาอยู่ใกล้เธอเท่านั้นแหละ”ปลายฝันยังนั่งนิ่งอยู่บนเตียง ใบหน้าร้อนผ่าวไม่ยอมสบตาเขา ไฟเดินไปปิดหน้าต่างที่ลมพัดกระทบกันไปมา ก่อนหันกลับมานั่งลงข้างเธออย่างเงียบ ๆ บรรยากาศในห้องนิ่งจนได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของกันและกัน

ผู้แต่ง

Lyra malin

เรื่องย่อ

เขา...คือ ผู้ชายปากร้าย ดุดัน ที่ปิดกันตัวเอง ไม่ยอมเปิดใจให้ใครง่ายๆเธอ...หญิงสาวจากเมืองใหญ่ ผู้หนีจากบาดแผลแห่งรักเก่ามาเพียงเพื่อพักใจไร่แห่งนี้ควรเป็นเพียงที่หลบซ่อนชั่วคราวทว่าโชคชะตา กลับพาให้เธอพานพบเจ้าของไร่ผู้แข็งกร้าวและต้องเผชิญกับคำพูดร้าย ๆ ที่ทำให้ทั้งโกรธ ทั้งสั่นไหวไปพร้อมกันทุกการปะทะคือไฟที่พร้อมเผาผลาญทุกการสบตาคือแรงดึงดูดที่ยิ่งผลักก็ยิ่งถลำลึกจากความไม่เข้าใจ กลายเป็นความผูกพันที่ไม่ทันรู้ตัวและเมื่อ “ความร้าย” ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็น “ความรัก”หัวใจของเธอจะเลือกหนี…หรือจะยอมพ่ายแพ้ให้กับผู้ชายปากร้ายตลอดกาล

สารบัญ

เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่1 จุดเริ่มต้นชีวิตใหม่,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่2 พลางตัว,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่3 ผู้หญิงของนายไฟ?,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่4 ผู้ชายปากร้าย,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่5 ผู้ชายเปิดเผย,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่6 เย้าหยอก,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่7 ความสวยที่หลบซ้อน,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่8 ภาพติดตา,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่9 แอบหวง,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่10 แฟนเก่า,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่11 แรงหึง,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่12 ข่าวลื่อ

เนื้อหา

ตอนที่11 แรงหึง

“ปลายฝันไปไหน” เพลิงพญาเอ่ยถามเสียงขรึมทันทีที่ก้าวเข้ามาในออฟฟิศ

เอื้องที่นั่งอยู่ถึงกับสะดุ้งเฮือก มือกำชายกระโปรงแน่น เหลือบไปเห็นนายควนก้มๆ เงยๆ ขุดดินอยู่ข้างพุ่มไม้ด้านนอกก็ยิ่งลนใจ ซวยแล้ว…จะบอกนายไฟยังไงดีเนี่ย

“ไปเออ…” เสียงของเอื้องตะกุกตะกักอย่างเห็นได้ชัด

“เอ้า! ทำหน้าเป็นก้อนหินอยู่นั่น มันตอบยากมากหรือไง เอื้อง?” เพลิงพญาเริ่มคาดคั้น สีหน้าตึงขึ้น

“คือ…เอื้องบ่ฮู้จะบอกจะอธิบายจะใดดีจ๊ะ นายไฟ”

“ก็ตอบมาตามจริง จะไปยากอะไรนักวะ ฉันถามแค่ว่าปลายฝันไปไหน”

“คือว่า…เมื่อกี้มีคนมารับพี่ปลายฝันไปเจ้า…”

“ผู้หญิงหรือผู้ชาย?”

“เออ…คือว่า…” เอื้องยกมือเกาหัวแกรกๆ หน้าตาปั้นยากสุดขีด

“เอื้อง! ตอบมา ผู้หญิงหรือผู้ชาย?” น้ำเสียงเข้มจัดจนบรรยากาศตึงเครียด

“คือ…เอื้องบ่ค่อยแน่ใจ๋จ๊ะ”

“ไม่แน่ใจงั้นหรือ…” เพลิงพญากัดกรามแน่น ก่อนหมุนตัวกลับไปทรุดนั่งเก้าอี้ ทำเอาเอื้องหัวใจเต้นระส่ำ

“พรุ่งนี้เอื้องไม่ต้องมาทำงานที่นี่แล้ว กลับไปช่วยป้าผันที่โรงครัวเหมือนเดิม”


เอื้องตาเบิกกว้าง บะเอานะเว้ย ตายแน่ๆ!* รีบร้องแก้ตัวเสียงสั่น 

“นายไฟ บะเอานะ เอื้อง…เอื้องเหมือนจะเห็นรางๆ ว่าเป็นผู้ชายเจ้า”

เพลิงพญาหันขวับ สายตาวาวโรจน์ “ผู้ชายที่ไหน…ปลัดธนาหรือ?”

“บะใช่เจ้า…น่าจะเป็นคนกรุงเทพ รถหรูมาเชียว”

“แล้วออกไปนานหรือยัง”

“ก็ซักพักแล้วเจ้า…พี่ปลายฝันฝากให้เอื้องลานายไฟ บอกว่าจะไปธุระในเมือง”

เพลิงพญาหน้าเครียดขรึมขึ้นทุกที เอื้องยิ่งลนลาน มือบิดชายเสื้อไม่หยุด

“แล้วทำไมไม่รีบมาบอกฉันทันที!”

“เอื้อง…เอื้องก็บะฮู้ ว่าต้องรีบบอกเดี๋ยวนั้น นึกว่านายไฟมาแล้วค่อยบอกก็ได้เจ้า” เสียงเธอสั่นราวจะร้องไห้

“นึกว่าน่ะเรอะ! คิดว่าฉันเอาเอื้องมานั่งเล่นที่นี่หรือไง! คราวหลังมีอะไรเกิดขึ้น รีบไปตามฉันทันที เข้าใจไหม!” เพลิงพญาตะคอกลั่นจนเอื้องหน้าซีดเผือด น้ำตาคลอหน่วย

“มีอะไรก็ไปทำเถอะ ฉันขี้เกียจดูคนมานั่งบีบน้ำตาแถวนี้” เขาโบกมือไล่เสียงห้วน

น้ำตาหยดหนึ่งร่วงแหมะลงบนโต๊ะไม้ตรงหน้าเอื้องทันที เธอได้แต่ยกมือเช็ดตาป้อยๆ ถอนหายใจยาว บะดีแล้ว เอื้องเอ๊ย เฮ็ดพี่ปลายฝันซวยไปโตย

เพลิงพญาเอนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ มองโต๊ะทำงานว่างเปล่าของปลายฝันด้วยแววตาหนักอึ้ง ความรู้สึกบางอย่างตีรวนขึ้นในอกความร้อนใจ ความหงุดหงิด และความหวั่นไหวที่หญิงสาวหายไปโดยไม่เอ่ยคำลา

เขาไล่นิ้วเคาะโต๊ะเป็นจังหวะสั้นๆ สีหน้าตึงเครียดมากขึ้นทุกที

หายไปกับใครไม่ว่า แต่ดันไม่บอกสักคำ แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน

เพลิงพญาสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามกดอารมณ์ที่ปะทุอยู่ในอก ก่อนจะเอนตัวพิงเก้าอี้ สายตายังคงจับจ้องโต๊ะทำงานว่างเปล่านั้นด้วยความรู้สึกทั้งหงุดหงิดและไม่สบอารมณ์



ปลายฝันเดินเตร็ดเตร่ไปในเมืองหลังจากแยกกับนายภาคภูมิ ยิ่งเจอวันนี้ เธอก็ยิ่งรู้สึกรังเกียจชายหนุ่ม

“แบบนี้ก็มีด้วยเหรอ...ไม่แมนแล้วยังขี้งกอีก” เธอคิดในใจ ฝ่ามือแนบหน้าผากเบา ๆ “ขอให้ชาติหน้าอย่าได้เจอผู้ชายแบบนี้อีกเลย อยู่โสดไปแบบนี้น่าจะสบายใจกว่า”

เธอเดินมาถึงท่ารถ แต่ก็เจอปัญหาใหญ่—เหมือนวันนี้จะไม่มีเที่ยวรถกลับไร่

“รถหมดแล้วหนู ต้องรอพรุ่งนี้เที่ยวแรก 6 โมงเช้า”

คนขายตั๋วเอ่ยบอก พลางก้มหน้าก้มตานับหางตั๋วอย่างใจเย็น

ปลายฝันหน้าเสีย มองนาฬิกาบนฝาผนัง “หกโมงกว่าแล้วเหรอเนี่ย!” เธอถอนหายใจยาว ๆ

“เอาไงดีล่ะ...หาที่พักก่อน พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับไร่ก็แล้วกัน”

โชคดีที่นายภาคภูมิทิ้งเธอไว้ในเมือง หากทิ้งไว้กลางป่าคงโดนเสือคาบไปกินแน่

แต่ก็ไม่เป็นไร…เงินเดือนออกมาสองเดือนแล้ว วันก่อนยังซื้อของไม่จุใจ วันนี้ขอละลายทรัพย์หน่อยก็แล้วกัน เธอคิดพลางยิ้มมุมปาก ด้วยความตั้งใจนั้น ปลายฝันก็เดินหาที่พักไปพร้อมช็อปปิ้งไปตลอดทาง

“เฮ้อ...อย่างน้อยก็มีความสุขแบบสาวโสดในเมืองบ้างละนะ”

---------------------

รุ่งเช้า ปลายฝันต่อรถเที่ยวแรกเข้าสำนักงานตั้งแต่เช้า กะว่าจะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้อง แต่ก็เลยเวลาเข้างานมาครึ่งชั่วโมงแล้วหากไปเปลี่ยนเสื้อผ้า คงสายไปกว่านี้แน่

ปลายฝันมองไปที่ เอื้องที่ยืนหน้าเครียดอยู่หน้าออฟฟิศ เธอวางถุงข้าวของที่ซื้อจากในเมืองลงบนม้าหิน ก่อนจะเดินเข้าไปสะกิด ควนที่ยืนอยู่ด้านหลังเอื้อง ทั้งสองถึงกับสะดุ้ง

“โถ่เจ้า! ปลายฝันมาตกใตหมดเลยเน่อ” ควนยกมือขึ้นทาบอกด้วยรอยยิ้มกวน ๆ

“มายืนลับๆ ล่อๆ กันตรงนี้ทำไมคะ ทั้งสองคน?” ปลายฝันถามด้วยความสงสัย

“พี่ปลายฝันกลับมาแล้วหรือเจ้า?” เอื้องตะโกนด้วยความดีใจ ปลายฝันได้ยินแล้วอดยิ้มไม่ได้

ยังไม่ทันเอ่ยปากพูดอะไร คนด้านในออฟฟิศก็เปิดประตูพรวดออกมา ใบหน้าดูทมึนทึง ปลายฝันมองหน้าชายหนุ่มด้วยความสงสัย

นี่ไปกินรังแตนที่ไหนมาแต่เช้า เบ้าตาดูลึกโกรนเหมือนคนไม่ได้นอนเลย เธอคิด

“ตามฉันไปที่ไร่เดี๋ยวนี้” เขาออกคำสั่ง เสร็จก็เดินพรวด ๆ ไปยังรถกระบะทันที ไม่เหลียวกลับไปมองด้วยซ้ำว่าคนที่เพิ่งถูกสั่งคำสั่งเดินตามมาหรือไม่

เอื้องหันมาโบกมือไล่ปลายฝันให้รีบตาม

“คะ…ค่ะ” เธอตอบเสียงเบา มือเกร็งบนเข็มขัดนิรภัย

ตลอดทาง ปลายฝันรู้สึกอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก เธอไม่รู้จะคุยอะไรดี ขนาดอารมณ์ปกติยังไม่กล้าพูดกับเขาเลย

“ขอโทษนะคะที่มาสายค่ะ”

แต่ก่อนที่เธอจะทันพูด เขาก็เอ่ยขึ้นมาก่อน

“เธอยังอยากทำงานที่นี่ต่อหรือเปล่า?”

คำถามนั้นทำให้ปลายฝันจุกคอ ใจเต้นแรง ความกลัวและความไม่เข้าใจปะปนกัน

“คะ…ฉัน…ยังอยากทำต่อค่ะ” เธอตอบเสียงเบา

“แล้วทำไมถึงทำตัวแบบนี้ล่ะ?” เพลิงพญาถามเสียงเย็น

“แบบนี้…คือแบบไหนคะ?” เธอถามด้วยความสงสัย

“แบบที่หายไปทั้งคืนกับผู้ชายคนนั้นโดยไม่บอกใครไง” เขาพูดช้า ๆ แต่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ

ปลายฝัน ตกใจแต่ก็แอบอึดอัดใจ ที่เขาเข้าใจเธอผิด แต่เรื่องอะไรที่เธอต้องมาถูกกล่าวหาแบบนั้น ทั้งที่เขาไม่ได้รู้เสายตาเต็มไปด้วยแรงอารมณ์ที่คุกรุ่นตลอดทั้งคืน

ก่อนที่เธอจะทันตั้งตัว เขากระชากเธอเข้ามา นั่งคร่อมบนกายหนามือหนากดตรึงท้ายทอยไม่ให้เธอหลบเลี่ยง ความใกล้ชิดทำให้หัวใจของปลายฝันเต้นรัวจนแทบไม่เป็นจังหวะ


“อึก…คุณ…ทำอะไรคะ!” เธอร้องเสียงสั่น มือเล็กพยายามผลักเขา แต่แรงของเขาทำให้แทบขยับไม่ได้


เขาโน้มตัวลง กดจูบอย่างหนักหน่วง ทุกแรงอารมณ์ที่กักเก็บมาทั้งคืนถูกถ่ายทอดผ่านริมฝีปาก ปลายฝันสะท้านไหวกับสัมผัสที่เต็มไปด้วยโทสะ รสชาติและความรุนแรงของจูบทำให้สติแทบหลุด อกอิ่มเบียดชิดกับร่างหนา มือเล็กยังคงพยายามผลักเขาออก ขณะที่หัวใจเต้นรัวราวจะระเบิด


“อื้อ! นายไฟ…หยุดนะ!” ฟันเล็กกัดริมฝีปากหนาเต็มแรง แต่ก็ไม่อาจหยุดความปรารถนาที่ลุกโชนอยู่ในใจเขาได้ ริมฝีปากบางรับรู้รสเลือดที่แทรกซึมเข้ามา แขนทั้งสองขืนสุดกำลังจนชายหนุ่มต้องถอนริมฝีปากออก เขารับรู้ถึงความไม่ประสาของรสจูบจากหญิงสาวตรงหน้า


“ครั้งแรกหรือ” เพลิงพญาเอ่ยถาม เสียงพร่าต่ำ สายตาคมพร่าเลือนด้วยความลุ่มหลง


ใบหน้าของปลายฝันแดงก่ำ ยังไม่ทันได้ตอบ เขาก็ฉกริมฝีปากบดเบียดอีกครั้ง คราวนี้จากโทษทัณฑ์ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความเร่าร้อนที่โหมแรงขึ้น


มือหนาเลื่อนไล้สัมผัสเบา ๆ ราวกับพยายามค้นหาคำตอบให้ตัวเอง ความหึงหวงและโกรธที่รุมเร้า ค่อย ๆ มลายไปกับจูบอันไม่ประสาของเธอ เขาหวนนึกสงสัย…ชายหนุ่มคนนั้นไม่เคยมอบจูบหวานละมุนให้เธอเลยหรือ หรือว่านี่คือครั้งแรกของเธอกันแน่


สติของปลายฝันเริ่มกลับคืน เมื่อชายหนุ่มถอนริมฝีปากออก คราวนี้มีรอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าคมเข้ม แต่เธอไม่ทันได้เห็น เพราะรีบมุดหน้าลงซุกอกกว้าง สัมผัสเพียงเสียงหัวใจที่เต้นแรงไม่แพ้ของเธอเอง


เธอรีบยกตัวกลับไปนั่งที่เดิมข้างคนขับ ใบหน้าแดงก่ำ ปากบวมเจ่อ “ฉันจะกลับไปทำงานค่ะ” เสียงสั่นระรัว


“ไม่ดีมั้ง…ถ้าเอื้องเห็นเธอสภาพนี้”


ปลายฝันชะงัก หันไปมองเงาตัวเองในกระจกข้างรถ เห็นหญิงสาวผมเผ้ารุงรัง ปากบวมแดง เสื้อคอเต่าที่สวมอยู่กระดุมถูกปลดออกจนเผยอกอิ่ม เธอรีบรวบเสื้อเข้าหากันทันที ก่อนจะหันกลับไปมองชายหนุ่ม—จากเมื่อครู่ที่โกรธเกรี้ยวราวจะพ่นไฟ ตอนนี้กลับนั่งยิ้มแย้มอารมณ์ดี


เขาเหยียบบิดกุญแจ ขับรถพาเธอกลับ

สู่บ้านพัก ทิ้งให้ปลายฝันนั่งใจเต้นแรงอยู่ข้างกายไม่รู้จะรับมืออย่างไรกับหัวใจตัวเอง