“เห็นไหม... อุ่นกว่าข้างนอกเยอะ” ปลายฝันเบือนหน้าหนี “คุณมันบ้า” “รู้แล้ว...” เขาพูดพลางหัวเราะ “แต่บ้าก็เฉพาะเวลาอยู่ใกล้เธอเท่านั้นแหละ”ปลายฝันยังนั่งนิ่งอยู่บนเตียง ใบหน้าร้อนผ่าวไม่ยอมสบตาเขา ไฟเดินไปปิดหน้าต่างที่ลมพัดกระทบกันไปมา ก่อนหันกลับมานั่งลงข้างเธออย่างเงียบ ๆ บรรยากาศในห้องนิ่งจนได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของกันและกัน

เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก - ตอนที่9 แอบหวง โดย Lyra malin @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ผู้ใหญ่,ยุคปัจจุบัน,หลงเมีย,หลงรัก,ปากร้าย,อกหัก,เจ้านายลูกน้อง,คลั่งรัก,คลั่งรักขั้นสุด,โรแมนติก,รัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ผู้ใหญ่,ยุคปัจจุบัน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

หลงเมีย,หลงรัก,ปากร้าย,อกหัก,เจ้านายลูกน้อง,คลั่งรัก,คลั่งรักขั้นสุด,โรแมนติก,รัก

รายละเอียด

เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก โดย Lyra malin @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“เห็นไหม... อุ่นกว่าข้างนอกเยอะ” ปลายฝันเบือนหน้าหนี “คุณมันบ้า” “รู้แล้ว...” เขาพูดพลางหัวเราะ “แต่บ้าก็เฉพาะเวลาอยู่ใกล้เธอเท่านั้นแหละ”ปลายฝันยังนั่งนิ่งอยู่บนเตียง ใบหน้าร้อนผ่าวไม่ยอมสบตาเขา ไฟเดินไปปิดหน้าต่างที่ลมพัดกระทบกันไปมา ก่อนหันกลับมานั่งลงข้างเธออย่างเงียบ ๆ บรรยากาศในห้องนิ่งจนได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของกันและกัน

ผู้แต่ง

Lyra malin

เรื่องย่อ

เขา...คือ ผู้ชายปากร้าย ดุดัน ที่ปิดกันตัวเอง ไม่ยอมเปิดใจให้ใครง่ายๆเธอ...หญิงสาวจากเมืองใหญ่ ผู้หนีจากบาดแผลแห่งรักเก่ามาเพียงเพื่อพักใจไร่แห่งนี้ควรเป็นเพียงที่หลบซ่อนชั่วคราวทว่าโชคชะตา กลับพาให้เธอพานพบเจ้าของไร่ผู้แข็งกร้าวและต้องเผชิญกับคำพูดร้าย ๆ ที่ทำให้ทั้งโกรธ ทั้งสั่นไหวไปพร้อมกันทุกการปะทะคือไฟที่พร้อมเผาผลาญทุกการสบตาคือแรงดึงดูดที่ยิ่งผลักก็ยิ่งถลำลึกจากความไม่เข้าใจ กลายเป็นความผูกพันที่ไม่ทันรู้ตัวและเมื่อ “ความร้าย” ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็น “ความรัก”หัวใจของเธอจะเลือกหนี…หรือจะยอมพ่ายแพ้ให้กับผู้ชายปากร้ายตลอดกาล

สารบัญ

เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่1 จุดเริ่มต้นชีวิตใหม่,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่2 พลางตัว,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่3 ผู้หญิงของนายไฟ?,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่4 ผู้ชายปากร้าย,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่5 ผู้ชายเปิดเผย,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่6 เย้าหยอก,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่7 ความสวยที่หลบซ้อน,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่8 ภาพติดตา,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่9 แอบหวง,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่10 แฟนเก่า,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่11 แรงหึง,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่12 ข่าวลื่อ

เนื้อหา

ตอนที่9 แอบหวง

ปลายฝันนั่งคุยกับเอื้องอย่างออกรส เมื่อเด็กสาวเล่าถึงวีรกรรมของคนในไร่ ที่แอบได้เสียกันจนโดนจับได้ และกลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะผู้ชายที่ถูกพูดถึงดันมีเมียแล้ว แถมยังเป็นคนแก่คราวลุง แต่กลับไปยุ่งกับเด็กสาวจนท้อง งานนี้เมียหลวงถึงกับอาละวาดหนัก เพราะแม่ของเด็กสาวดันเป็นเพื่อนสนิทในวงไพ่เดียวกัน


เอื้องเล่าพลางหัวเราะ “แบบนี้คงนับญาติกั๋นยากแล้วละพี่ปลายฝัน นายไฟก่อยังต้องเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยอีกเน่อ แต่เห็นทีจะยาก เมียหลวงบะยอมง่าย ๆ แน่ ถึงยังไงเด็กก่อท้องไปแล้ว จะหื้อเฮ็ดจะใดได้”


ปลายฝันนั่งฟังไปก็ได้แต่ปวดหัวแทนนายไฟอยู่เหมือนกัน เอื้องยังคุยสนุกไม่หยุด ไม่นาน รถกระบะคันคุ้นตาก็แล่นมาจอดหน้าสำนักงาน


เอื้องหันไปเห็น “อ้าว ปลัดธนามาแล้ว บะฮู้ว่าจะเอาอะหยังมาอู้กั๋นแหม”


ชายหนุ่มเดินลงจากรถพร้อมถุงขนมเต็มไม้เต็มมือ “คุยอะไรกันอยู่หรือครับสาว ๆ” เขาเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มสดใส


“ก็กำลังเม้าท์คนในไร่อยู่เน่อคะ ปลัด” เอื้องยิ้มตอบ

ปลายฝันรีบลุกขึ้นต้อนรับ พลางเชิญเขามานั่งด้วยกัน


“โอ้โห ปาร์ตี้น้ำปลาหวานกันอยู่หรือครับ น่าอร่อยเชียว”


“ใช่เจ้า ปลัด ลองชิมสักคำก่อเจ้า น้ำปลาหวานสูตรเอื้องเอง” เด็กสาวยกถ้วยน้ำปลาหวานยื่นให้


ปลายฝันเสริม “ลองดูสิคะคุณปลัด อร่อยนะคะ”


ปลัดยิ้มรับ ก่อนจะจิ้มน้ำปลาหวานเข้าปาก พลันทำหน้าหยีทันทีเพราะรสเปรี้ยวจนเข็ดฟัน ปลายฝันกับเอื้องหัวเราะออกมาเสียงดัง


“โอย ไม่ไหวครับ ไม่รู้สาว ๆ ทานกันได้ยังไง ระวังท้องเสียนะครับ”


ปลายฝันหัวเราะเบา ๆ “กินแก้ง่วงน่ะค่ะคุณปลัด บ่าย ๆ หนังตามันจะปิดทุกที”


ธนาหยิบถุงขนมที่ถือมาส่งให้ปลายฝัน “นี่ของฝากครับ เอาไว้ทานแก้หิว”


เอื้องรีบแกล้งกระแอม “อะแฮ่ม!” พร้อมทำตาล้อเลียน ก่อนจะเอียงหน้าพึมพำ “แต่ยังไงเอื้องก่อเชียร์นายไฟขอเจ้า”


ทันใดนั้น รถของนายไฟก็แล่นเข้ามา


“อุ๊ย นายไฟมาพอดีเลย ปลัดโชคดีเน่อ วันนี้ได้เจอตัวจริงสักที” เอื้องเอ่ยพลางชี้ไป


เพลิงพญาลงจากรถ ขมวดคิ้วทันทีที่เห็นปลัดธนานั่งอยู่กับปลายฝันและเอื้อง ถุงขนมวางเต็มโต๊ะ เขาพึมพำในใจ *ที่แท้ ขนมในตู้สำนักงานก็มาจากปลัดนี่เอง*


“มานานแล้วหรือครับคุณปลัด แล้วนี่ทำไมไม่ให้คนไปตามฉันฮะเอื้อง ปล่อยให้ปลัดนั่งรอแบบนี้ได้ไง” น้ำเสียงดุกร้าว แต่หางตาก็เหลือบมองปลายฝันที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ


ธนายิ้ม “อย่าว่าเอื้องเลยครับ ผมก็ไม่ได้มีธุระสำคัญอะไร แค่แวะมาทักทายตามประสาเท่านั้นเอง”


นายไฟกวาดตามอง ก่อนจะหยิบมะม่วงในจานเข้าปากเคี้ยวกรุบ ๆ อย่างไม่สะทกสะท้านกับความเปรี้ยว “ใครทำน้ำปลาหวาน อร่อยดีนี่”


ปลายฝันรีบลุกขอตัวกลับเข้าไปในสำนักงาน ทิ้งให้สองชายคุยธุระกันเอง


หลังจากปลัดกลับไป นายไฟเดินเข้ามาหาปลายฝันถึงโต๊ะทำงาน เขาโน้มตัวลง มือเท้าโต๊ะ มองหน้าเธอใกล้ ๆ


“ตั้งแต่ถอดแว่นมา เนื้อหอมขึ้นเยอะเลยนะ” เขาเอ่ยแฝงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์


ปลายฝันทำเป็นไม่สนใจ หันไปพิมพ์งานต่อ ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเขา ชายหนุ่มยักไหล่แล้วเดินกลับไปนั่งโต๊ะตัวเอง แต่สายตายังเหลือบมองเธอตลอดเวลา


ครู่ใหญ่ เขาปิดแฟ้มเอกสาร เดินกลับมาหาอีกครั้ง ปลายฝันใจสั่นเล็ก ๆ เพราะไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร


“พรุ่งนี้ มาทำงานเช้าหน่อยนะ เดี๋ยวจะพาเข้าเมือง”


“คะ?” เธอเลิกคิ้วงุนงง ยังไม่ทันได้ถามอะไร เขาก็เดินออกไปเสียแล้ว


ไม่นาน เอื้องก็โผล่หน้าเข้ามา “เป็นจะใดพี่ปลายฝัน โดนดุ๋ก่อ”


ปลายฝันเงยหน้ามอง ก่อนตอบเรียบ ๆ “ก็เปล่านะ แค่บอกว่าพรุ่งนี้จะพาเข้าเมือง”


“จริงก๋าพี่! เอื้องอยากไปโตยจัง บะได้เข้าเมืองมาตั้งหลายเดือนละ”


“ก็ลองไปขอนายไฟดูสิ”


“บะเอาหรอก กลัวโดนดุ เดี๋ยวโดนเลื่อนขั้นไปเป็นคนงานเหมือนเก่า สู้อยู่กับพี่ปลายฝันบะได้ ได้นั่งห้องแอร์ กิ๋นขนมอร่อย ๆ สบายจะต๋าย พรุ่งนี้เอื้องเฝ้าสำนักงานเองก่อได้เจ้า”

ปลายฝันมายังสำนักงานแต่เช้า เห็นรถกระบะชายหนุ่มยังจอดอยู่ กำลังจะเงื้อมมือไปบิดลูกบิด ก่อนจะคิดอะไรขึ้นมาได้อย่างนึง หันกลับไปหานายควนที่ยืนรดน้ำแปลงดอกไม้อยู่ไม่ไกล

“ควน มานานหรือยัง” เธอเอ่ยถาม

ควนหันมายิ้มยิงฟันขาว

“มากำเดียวเองเจ้า คุณปลายฝันมีอะหยังจะหื้อควนช่วยก่อ”

“นายไฟตื่นหรือยัง”

“บะฮู้เน่อเจ้า แต่ควนมาเห็นไฟสำนักงานมันเปิดอยู่แล้ว คงตื่นแล้วละก่อ”

ปลายฝันยิ้ม พลางเอ่ยขอบคุณ ที่ถามก็เพื่อความแน่ใจ ว่าเธอเปิดเข้าไปจะไม่เจอชายหนุ่มนอนแก้ผ้าอยู่บนโซฟาอย่างวันก่อน ปลายฝันบิดลูกบิดก่อนจะแง้มออกไปเล็กน้อย ยังไม่ทันตั้งตัว ประตูก็ถูกเปิดกว้างจากด้านใน ส่งผลให้หญิงสาวเซถลาไปกอดคนตรงหน้าโดยไม่ตั้งใจ ปลายฝันเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นชายหนุ่มส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ เธอรีบยืดตัวขึ้น ผละออกจากชายหนุ่มโดยไว ไม่กล้าสบตาเขาโดยตรง แต่พอจะเห็นรอยยิ้มขันจากเขา หญิงสาวได้แต่ทำหน้างอ

“พร้อมแล้วใช่มั้ย จะได้ไปกันเลย”

“พร้อมค่ะ แล้วจะให้เตรียมเอกสารอะไรมั้ยคะ”

“จะเอาไปทำอะไร เอาไปห่อกล้วยแขกในตลาดหรือไง บอกให้มาก็มาเถอะน่า” เพลิงพญาพูด ก่อนจะเดินตรงไปที่รถ

ปลายฝันได้แต่ทำหน้าหลอกชายหนุ่มจากทางด้านหลัง จะไปรู้ได้ไงว่าให้เธอไปทำอะไร ถามอะไรก็ไม่ตอบสักอย่าง ปลายฝันนั่งประจำข้างคนขับ ก่อนที่รถจะพุ่งทะยานไปด้านหน้า สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าไม้และหุบเหวลึก มองเห็นทิวเขาวางสลับไปมา หมอกลอยอ้อยอิ่งอยู่บนยอดดอย จากไร่เข้าตัวเมืองค่อนข้างจะไกล แถมรถโดยสารที่ผ่านหน้ารถก็วิ่งแค่สองคันเท่านั้น แต่ละช่วงเวลาก็ห่างกันหลายชั่วโมง นี่คงเป็นเหตุผลที่เอื้องอยากจะตามเข้ามาในเมืองด้วย

เพลิงพญาขับรถจนมาถึงหน้าอาคารพาณิชย์ที่เต็มไปด้วยกระสอบปุ๋ยและอาหารสัตว์

“รออยู่ในรถนี่แหละ ไม่ต้องลงมา” เขาเอ่ยสั่ง ก่อนจะหายเข้าไปในร้านค้า

ไม่นานคนงานสี่ห้าคนก็เดินออกมาพร้อมถุงกระสอบปุ๋ยบนบ่า พลางลำเลียงขึ้นรถ เสียงดังตึงๆ พลางรถก็สั่นไหวตามแรงเหวี่ยงของกระสอบ

“ที่แท้ก็พามาซื้อปุ๋ย ทำเป็นลับลมคมในไปได้ ถามก็ไม่ยอมตอบ” ปลายฝันเอ่ย พลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คข้อความในไลน์ที่เด้งรัวๆ จนเธอต้องรีบปิดเสียง และข้อความจากภาคภูมิเห็นจะเยอะที่สุด รวมทั้งสายที่ไม่ได้รับด้วย ปลายฝันไม่คิดอยากจะเปิดอ่าน เลยตัดสินใจเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า พอดีกับที่นายไฟขึ้นมานั่งในรถ

“ไง หิวข้าวหรือเปล่า เดี๋ยวจะพาไปกิน” เพลิงพญาหันมาถาม

ปลายฝันส่ายหน้าเบาๆ เพราะเพิ่งสิบโมง เธอยังไม่รู้สึกหิวเลยด้วยซ้ำ ชายหนุ่มขับรถออกจากอาคารพาณิชย์ได้ไม่เกินห้าร้อยเมตร ก่อนจะเลี้ยวเข้าซอยเล็กๆ แล้วหยุดจอดตรงหน้าร้านแว่นตาประจำอำเภอ ที่ทั้งอำเภอมีอยู่เพียงร้านเดียว

“ลงมา จะพาไปตัดแว่นใหม่”

ปลายฝันเลิกคิ้วอย่างงงๆ นี่เขาให้เธอแหกขี้ตาตื่นแต่เช้าเพื่อมาตัดแว่นเนี่ยนะ? ไหนตอนก่อนยังบอกว่าแว่นเธอมันรกหูรกตาเขาอยู่เลย แต่ชายหนุ่มกลับจัดแจงเลือกกรอบ เลือกเลนส์ จ่ายเงินเสร็จสรรพโดยไม่เปิดโอกาสให้เธอคัดค้านอะไรเลย

“คุณไฟไม่ต้องลำบากหรอกค่ะ ปลายฝันใส่คอนแทคเลนส์ก็ได้ ไหนคุณเคยบอกว่าแว่นมันดูเกะกะไง” เธอถามตอนนั่งกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านฝั่งตรงข้าม

“ในไร่ในสวนเชื้อโรคมันเยอะ แถมคอนแทคต้องเปลี่ยนทุกเดือน เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลาโดยใช่เหตุ” เพลิงพญาพูดน้ำเสียงจริงจัง แต่เหตุผลที่แท้จริงมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้

ปลายฝันเงียบ ก้มหน้ากินก๋วยเตี๋ยวอย่างไม่อยากเถียงอีก เพราะรู้ว่ายังไงก็เถียงเขาไม่ชนะอยู่ดี เขาพาเธอมาทิ้งไว้หน้าห้างเผื่อเธอจะอยากซื้อของใช่สวนตัว ส่วนเขาแวะไปทำธุระที่อำเภอ ก่อนจะเลี้ยวกลับมารับเธอกลับไร่ เพลิงพญาขับรถเลยไปส่งหญิงสาวที่บ้านพัก ไฟในบ้านปิดสนิท

“เอื้องไปไหน ทำไมไม่เปิดไฟหน้าบ้าน” เขาถามขึ้น

“ฉันให้เอื้องกลับไปนอนที่บ้านค่ะ รู้สึกเกรงใจแก” เธอตอบพลางจะเปิดประตูลง แต่ต้นแขนก็แตะเบาๆ

“นั่งรออยู่ในรถก่อน เดี๋ยวฉันไปเปิดไฟให้ เอากุญแจมา”

ปลายฝันมองเขาด้วยความงุนงง แต่ก็ยื่นกุญแจให้ พลางมองตามแผ่นหลังกว้างที่ก้าวขึ้นบันไดไป ไม่น่าเชื่อว่าคนป่าเถื่อนอย่างเขาจะมีมุมสุภาพบุรุษกับเขาด้วย ความคิดนั้นทำให้ริมฝีปากเธอเผลอคลี่ยิ้มบางๆ โดยไม่รู้ตัว


ไม่นานไฟหน้าบ้านก็สว่างขึ้น ชายหนุ่มเดินออกมาพร้อมส่งสัญญาณให้เธอลงจากรถ ปลายฝันหยิบถุงใส่แว่นพร้อมข้าวของส่วนตัวสองสามอย่างลงมาด้วย ก่อนจะก้าวขึ้นชานบ้าน

“ขอบคุณนะคะ สำหรับแว่นตา” เธอยื่นมือเล็กออกไปรับกุญแจคืนพร้อมรอยยิ้มหวาน

“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวสิ้นเดือนฉันก็หักเงินเอง”

ปลายฝันหุบยิ้มทันที มือเล็กกระชับกุญแจแน่น

เพลิงพญาก้มลงเล็กน้อย ส่งกุญแจคืนช้าๆ อย่างอ้อยอิ่ง ดวงตาคมเป็นประกายวาว 

“ให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนมัย”

ปลายฝันเงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาเบิกกว้างเล็กน้อย ก่อนจะรีบถลึงตาใส่เขา 

“เป็นเจ้านายแบบเดิมดีแล้วค่ะ อย่าเป็นเพื่อนเลย”

เธอคว้ากุญแจไปเปิดประตูบ้านทันที ไม่กล้าสบตาเขาตรงๆ

“เปลี่ยนใจก็บอกนะ!” เสียงทุ้มตะโกนตามหลังมา

ปลายฝันได้แต่เม้มปากแน่น ถอนคำพูดเถอะ... ผู้ชายคนนี้ไม่มีทางเป็นสุภาพบุรุษได้หรอก!