“เห็นไหม... อุ่นกว่าข้างนอกเยอะ” ปลายฝันเบือนหน้าหนี “คุณมันบ้า” “รู้แล้ว...” เขาพูดพลางหัวเราะ “แต่บ้าก็เฉพาะเวลาอยู่ใกล้เธอเท่านั้นแหละ”ปลายฝันยังนั่งนิ่งอยู่บนเตียง ใบหน้าร้อนผ่าวไม่ยอมสบตาเขา ไฟเดินไปปิดหน้าต่างที่ลมพัดกระทบกันไปมา ก่อนหันกลับมานั่งลงข้างเธออย่างเงียบ ๆ บรรยากาศในห้องนิ่งจนได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของกันและกัน

เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก - ตอนที่2 พลางตัว โดย Lyra malin @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ผู้ใหญ่,ยุคปัจจุบัน,หลงเมีย,หลงรัก,ปากร้าย,อกหัก,เจ้านายลูกน้อง,คลั่งรัก,คลั่งรักขั้นสุด,โรแมนติก,รัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ผู้ใหญ่,ยุคปัจจุบัน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

หลงเมีย,หลงรัก,ปากร้าย,อกหัก,เจ้านายลูกน้อง,คลั่งรัก,คลั่งรักขั้นสุด,โรแมนติก,รัก

รายละเอียด

เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก โดย Lyra malin @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“เห็นไหม... อุ่นกว่าข้างนอกเยอะ” ปลายฝันเบือนหน้าหนี “คุณมันบ้า” “รู้แล้ว...” เขาพูดพลางหัวเราะ “แต่บ้าก็เฉพาะเวลาอยู่ใกล้เธอเท่านั้นแหละ”ปลายฝันยังนั่งนิ่งอยู่บนเตียง ใบหน้าร้อนผ่าวไม่ยอมสบตาเขา ไฟเดินไปปิดหน้าต่างที่ลมพัดกระทบกันไปมา ก่อนหันกลับมานั่งลงข้างเธออย่างเงียบ ๆ บรรยากาศในห้องนิ่งจนได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของกันและกัน

ผู้แต่ง

Lyra malin

เรื่องย่อ

เขา...คือ ผู้ชายปากร้าย ดุดัน ที่ปิดกันตัวเอง ไม่ยอมเปิดใจให้ใครง่ายๆเธอ...หญิงสาวจากเมืองใหญ่ ผู้หนีจากบาดแผลแห่งรักเก่ามาเพียงเพื่อพักใจไร่แห่งนี้ควรเป็นเพียงที่หลบซ่อนชั่วคราวทว่าโชคชะตา กลับพาให้เธอพานพบเจ้าของไร่ผู้แข็งกร้าวและต้องเผชิญกับคำพูดร้าย ๆ ที่ทำให้ทั้งโกรธ ทั้งสั่นไหวไปพร้อมกันทุกการปะทะคือไฟที่พร้อมเผาผลาญทุกการสบตาคือแรงดึงดูดที่ยิ่งผลักก็ยิ่งถลำลึกจากความไม่เข้าใจ กลายเป็นความผูกพันที่ไม่ทันรู้ตัวและเมื่อ “ความร้าย” ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็น “ความรัก”หัวใจของเธอจะเลือกหนี…หรือจะยอมพ่ายแพ้ให้กับผู้ชายปากร้ายตลอดกาล

สารบัญ

เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่1 จุดเริ่มต้นชีวิตใหม่,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่2 พลางตัว,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่3 ผู้หญิงของนายไฟ?,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่4 ผู้ชายปากร้าย,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่5 ผู้ชายเปิดเผย,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่6 เย้าหยอก,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่7 ความสวยที่หลบซ้อน,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่8 ภาพติดตา,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่9 แอบหวง,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่10 แฟนเก่า,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่11 แรงหึง,เหมือนจะร้าย แต่กลายเป็นรัก-ตอนที่12 ข่าวลื่อ

เนื้อหา

ตอนที่2 พลางตัว

"เป็นไงบ้าง ปลายฝัน ถึงที่ไร่หรือยัง" วารีเอ่ยเสียงใสมาตามสาย

"รู้ไหมว่าฉันต้องมายืนกลางลำธารเพื่อหาสัญญาณโทรศัพท์ แกส่งฉันมาที่ไหนกันเนี่ย วารี ทำไมมีแต่ต้นไม้กับต้นไม้"

เสียงหัวเราะดังแว่วมาให้ได้ยิน จนคนเอ่ยถามแอบนึกเคืองอยู่ไม่น้อย

"แล้วแกใส่ชุดที่ฉันบอกหรือเปล่า ปลายฝัน"

"ใส่สิ อึดอัดจนหายใจไม่ออกแล้วเนี่ย ฉันต้องใส่แบบนี้ทุกวันเลยหรือ"

"ก็ถ้าแกอยากอยู่รอดปลอดภัยก็ต้องใส่ชุดเชย ๆ แบบนี้แหละ" วารีเอ่ย ก็ปลายฝันออกจะตรงสเปกพี่ชายจอมเถื่อนของเธอซะเหลือเกิน ถ้าไม่แต่งตัวเชย ๆ ปิดบังความสวยไว้ มีหวังหนีเสือปะจระเข้เป็นแน่ ถึงเธอจะอยากได้เพื่อนสาวเป็นพี่สะใภ้ก็เถอะ


"ฉันเริ่มสงสัยแล้วว่า แกส่งฉันมาทำงานในไร่หรือดงโจรกันแน่ ยิ่งพี่ชายแกยิ่งดูน่ากลัวเข้าไปอีก ฉันคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่ที่เชื่อแผนบ้า ๆ ของแก"


"ก็ถ้าแกอยากหนีจากนายภาค แกก็ต้องหนีไปให้ไกลแบบนี้แหละ นายนั่นตาเป็นสับปะรด แกจะอยู่ส่วนไหนของกรุงเทพ เขาก็ตามแกเจอ"


"แต่ฉันว่ามันก็ไกลไปนะ ไกลจนจะติดชายแดนอยู่แล้ว"


"เอาน่า ถือว่าไปพักผ่อน ไว้ฉันเสร็จงานที่นี่เมื่อไหร่ จะรีบขึ้นไปหาแกทันที ตอนนี้นายภาคมันตามฉันแจเลย จะให้ฉันบอกที่อยู่ของแกให้ได้ เอาไว้ฉันสลัดมันหลุดก่อนจะรีบตามไปเลย"

ปลายฝันวางโทรศัพท์จากวารีเรียบร้อย ความเงียบเริ่มมาเยือนอีกครั้ง ความจริงก็ไม่ถือว่าเงียบหรอก ถ้าเธอคิดว่าเสียงน้ำไหล ใบไม้ปลิว หรือนกร้องเป็นเสียงที่เธออยากได้ยิน แต่ตอนนี้เธออยากได้ยินเสียงผู้คนซะมากกว่า เธอดูจะยังไม่อินกับเสียงธรรมชาตินี้ ก็เธอมันสาวกรุงเทพเต็มตัวน่ะสิ

กดวางจากวารี ก็โทรไปหาพ่อกับแม่ เพื่อบอกว่าเธอมาถึงอย่างปลอดภัย ตอนที่เธอบอกท่านว่าเธอได้งานทำที่ต่างจังหวัด ท่านก็ดูจะเป็นห่วงไม่น้อย ก็เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้าน พ่อกับแม่ต้องห่วงมากเป็นธรรมดา

ปลายฝันเดินกลับขึ้นไปด้านบน ได้ยินเสียงเรียกชื่อเธอแว่วมาแต่ไกลๆ เดินมาถึงหน้าบ้านพักก็เจอสาวน้อยแรกรุ่น อายุห่างกับเธอไม่มากนักผิวสีน้ำผึ้ง ทั้งที่เป็นชาวเหนือ อาจเพราะทำงานกลางแดดทั้งวัน ใบหน้ามีรอยยิ้มสดใส มือถือปิ่นโตใบขนาดกะทัดรัด

“สวัสดีเจ้า พี่ปลายฝันก๋า หนูชื่อเอื้องเน่อ หลานป้าผัน นายไฟหื้อเอาปิ่นโตมาหื้อเจ้า” ปลายฝันยิ้มรับทันที เด็กสาวเอ่ยภาษาเหนือน่าฟัง ถึงจะไม่ค่อยคุ้นแต่ยังพอฟังเข้าใจ 

“แล้วก่อ นายไฟฝากถามมาโตย ว่าพี่ปลายฝันอยู่ได้ก่อ ถ้ายังกลัวอยู่ กะหื้อเอื้องมานอนเป็นเพื่อนก่ะได้เจ้า” 

“จริงเหรอ? ก็ดีสิ พี่ไม่ค่อยชินกับป่าแบบนี้เท่าไหร่”

ถึงแม้เธอจะเพิ่งรู้จักเด็กสาวตรงหน้า แต่การที่นายไฟส่งมาให้อยู่เป็นเพื่อน เธอคิดว่าคงไว้ใจได้ระดับหนึ่ง 

ที่สำคัญเธอไม่มีของมีค่าอะไรเลย นอกจากโทรศัพท์เครื่องหนึ่งที่ดูเหมือนที่ทับกระดาษ

เมื่อมาอยู่ที่นี่ ปลายฝันและเอื้องจัดการอาบน้ำอาบท่า ซึ่งวันนี้ก็ไม่พ้นลำธาร เพราะก๊อกน้ำในบ้านเสีย 

คงต้องเรียกคนมาซ่อมแซม เอื้องเลยช่วยปลายฝันตักน้ำมาไว้ใช้ในห้องน้ำเท่าที่จำเป็นไปก่อน เอื้องเป็นคนคุยสนุก ถึงจะดูโก๊ะ ๆ แบบสาวบ้านป่าไปบ้าง แต่ก็ดูไม่มีพิษมีภัยกับใคร พร้อมทั้งเล่าวีรกรรมต่าง ๆ ของนายไฟให้เธอฟัง ปลายฝันรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นมาเหมือนกัน เพราะเท่าที่ทราบคนงานที่นี่ให้ความเคารพและยำเกรงนายไฟกันทุกคน เพราะเป็นคนจริง และโหดสมชื่อ เพลิงพญา

เช้าวันรุ่งขึ้นปลายฝันตื่นขึ้นจากเสียงไก่ขันปนกับเสียงคนงานตะโกนเรียกกันไปมา เอื้องออกไปตั้งแต่เช้าตรู่เพราะต้องช่วยป้าผันเตรียมอาหารที่โรงครัว ปลายฝันรีบจัดการตัวเองอย่างลนลาน กว่าจะนอนหลับก็ปาไปเที่ยงคืนเพราะไม่ชินกับสถานที่ แต่ทันทีที่ก้าวลงบันได ร่างสูงใหญ่ยืนตระหง่าน กอดอกพิงรถรออยู่ก่อนแล้ว

“ช้า” เสียงทุ้มเอ่ยสั้นๆ ดวงตาคมปรายมามอง

เพิ่งเจ็ดโมงเอง ช้าตรงไหนปลายฝันคิดในใจ แต่ไม่กล้าสบตาเขาตรงๆ

“ที่นี่เจ็ดโมงคือสาย” เขาก้าวเข้าใกล้ ดวงตาคมเข้มมองเธอผ่านกรอบแว่นหนานั่นอย่างพิจารณา 

“จะทำงานไร่ได้ยังไง ถ้าแค่ตื่นเช้ายังไม่ไหว”

“ฉันทำงานเอกสารค่ะ ไม่ได้แบกจอบเสียหน่อย” เธอแอบบ่นลับหลังชายหนุ่มไม่ให้เข้าได้ยิน 

เพลิงพญาพาหญิงสาวมายังคอกม้า ก่อนจะเข็นมอไซค์กึ่งเก่ากึ่งใหม่ออกมา ลองสตาร์ทเช็คระบบการใช้งาน

“มอไซค์ของวารี ปกติเอาไว้ขับเที่ยวในไร่ แต่เดี๋ยวนี้จอดทิ้งไว้ ก็ถือว่ายังใช้ได้ เดี๋ยวให้คนงานเอาไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เธอคงขับได้อยู่” ปลายฝันพยักหน้ารับ ดีเหมือนกันได้ได้ขับสำรวจไร่ ไปไหนก็สะดวก ถ้าต้องตื่นมาแล้วเจอเขายืนหน้าบึ่งรอทุกวัน เธอคงผวา คิดแล้วก็รู้สึกขลุกขึ้นมาทันที 

ปลายฝันจัดการกับเอกสารที่นายไฟเคยบอกไว้คร่าว ๆ แล้วเมื่อวาน พร้อมทั้งจัดสำนักงานไปในตัว ดูเหมือนที่นี่จะไม่มีใครเข้ามาแตะต้องเลย เพราะมันดูรกไปทุกจุด แม้แต่โซฟาก็เต็มไปด้วยเสื้อผ้าของเขา เพลิงพญาคงนอนที่นี่ด้วยกระมัง เมื่อมองเห็นหมอนและผ้าห่มเหมือนเพิ่งมีคนลุกขึ้นไปเมื่อเช้า

เริ่มเข้าช่วงสาย นายไฟก็เดินเข้ามายังสำนักงานพร้อมคนงานอีกสองคน เนื้อตัวเต็มไปด้วยโคลน ปลายฝันมองดูรองเท้าเปื้อนโคลนที่เหยียบย่ำไปมาบนพื้นสะอาดที่เธอเพิ่งจะถูเมื่อเช้าอย่างหงุดหงิด แต่ก็ต้องเก็บอารมณ์ไว้

“เป็นไง ขาดเหลืออะไรไหม” เขาหันมาเอ่ยถามเสียงห้วน ๆ

“ยังค่ะ ยังไม่ขาดเหลืออะไร” ปลายฝันตอบพลางกระชับแว่นบนใบหน้า จนกลายเป็นท่าประจำของเธอไปแล้ว ซึ่งเพลิงพญาหันมองกี่ครั้งก็ทำให้รู้สึกขัดใจ

“นี่ลุงนวย หัวหน้าคนงานที่นี่ ส่วนนี่ไอ้ควน มันทำงานแถว ๆ สำนักงานนี้แหละ มีอะไรก็เรียกใช้มันได้”

ปลายฝันยกมือไหว้ลุงนวย พร้อมทั้งเลยไปยังไอ้ควนที่เพลิงพญาเอ่ยถึง มันถึงกับสะดุ้ง ไม่คิดว่าจะมีใครให้ความเคารพมันแบบนี้

“ไม่ต้องไหว้ฉันหรอกจ๊ะ คุณปลายฝัน” ควนเอ่ยพลางหัวเราะเฮะ ๆ

เพลิงพญาเดินไปหยิบกุญแจรถไถ ก่อนจะกลับออกไปพร้อมลุงนวย ส่วนไอ้ควนที่ชายหนุ่มเรียกก็เดินไปเดินมาอยู่ด้านนอก ขนนู่นนี่ ถางหญ้า ให้สำนักงานดูไม่รกเหมือนตอนที่เพลิงพญาอยู่คนเดียว นายไฟคงกลัวงูจะเลื้อยเข้าไปกัดคุณคนสวยในสำนักงานละมัง ไอ้ควนคิด