ได้เกิดใหม่มาแบบสับคือมีความสับสนเป็นที่สุด

เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง - ตอนที่ 28 สารพัดเครื่องปรุงเลิศรส ปลดเหรียญอ่านฟรี 29 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 5 พฤศจิกายน 68 โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จีน,เกิดใหม่,ครอบครัว,รัก,เสี่ยวหลิงยอดนักสู้,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,เกิดใหม่,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

จีน,เกิดใหม่,ครอบครัว,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เสี่ยวหลิงยอดนักสู้,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,เกิดใหม่

รายละเอียด

เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ได้เกิดใหม่มาแบบสับคือมีความสับสนเป็นที่สุด

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

ภาระหน้าที่ของเทพเซียนบนสวรรค์คือช่วยเติมเต็มดวงชะตาและชีวิตที่บกพร่องของมนุษย์แต่เมื่อพวกเขาเป็นผู้สร้างความบกพร่องขึ้นเองด้วยความประมาทเลินเล่อการแก้ปัญหาแบบปัจจุบันทันด่วนจึงได้เกิดขึ้นซึ่งนั่นก็คือการส่งเซียนฝึกหัดตัวน้อยซึ่งอยู่ในช่วงพักผ่อนว่างเว้นจากภาระงานลงมาแก้ไขปัญหาโดยที่ไม่ถงไม่ถามสุขภาพหรือความยินยอมเลยสักคำ

ซึ่งนั่นก็ทำให้หลิงเสวี่ยหญิงสาวชาวบ้านธรรมดาตาดำๆ ต้องมีชะตาพลิกผันอย่างที่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเป็นไปได้แต่กว่าชีวิตจะได้อยู่อย่างสงบและแสนสบายก็เล่นเอาเหงื่อตกกันเลยทีเดียว

 

หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้

1. ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์ (4 เหรียญ)

2. ปลดเหรียญอ่านฟรี 1 สัปดาห์

3. หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มไปจนถึงตอนจบ (8 เหรียญ)

สารบัญ

เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 1 หลิงเสวี่ยลูกไม่มีพ่อ,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 2 หลานสาวคนเก็บฟืน,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 3 ชีวิตอับโชค,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 4 เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาก็ไม่ใช่ข้าคนเดิม,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 5 ข้าผู้นี้ก็มีบิดาเช่นเดียวกับพวกเจ้า,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 6 จากนี้ไปข้าจะไม่ยอมอ่อนข้อให้คนพาล,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 7 ลำพังตัวข้าไม่อาจพลิกฟ้าด้วยฝ่ามือ,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 8 พออยู่พอกินพอได้เหลือเก็บออม,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 9 ความหวังยังคงมี,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 10 ชายผู้นี้กำลังตามหาครอบครัว,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 11 ท่านผู้นี้คือท่านแม่ทัพอุดรผู้เกรียงไกร ปลดเหรียญอ่านฟรี 1 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 8 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 12 ตัวข้ามีบิดาเป็นถึงท่านแม่ทัพ ปลดเหรียญอ่านฟรี 3 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 10 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 13 ช่วงเวลาของครอบครัว ปลดเหรียญอ่านฟรี 4 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 11 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 14 จากหลิงเสวี่ยลูกไม่ทีพ่อสู่คุณหนูหลิงเสวี่ย ปลดเหรียญอ่านฟรี 6 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 13 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 15 อันที่จริงบุตรสาวของเรานั้นมีคู่หมาย ปลดเหรียญอ่านฟรี 7 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 14 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 16 วันพบหน้า ปลดเหรียญอ่านฟรี 9 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 16 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 17 เสี่ยวหลิงเป็นสตรีที่แปลกและแตกต่าง ปลดเหรียญอ่านฟรี 10 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 17 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 18 การจากลาที่วนเวียนมาอีกครั้ง ปลดเหรียญอ่านฟรี 13 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 20 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 19 การมาถึงของฮูหยินท่านแม่ทัพและคุณหนูหลิงเสวี่ย ปลดเหรียญอ่านฟรี 14 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 21 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 20 ถึงเวลาต้องออกเรือน ปลดเหรียญอ่านฟรี 15 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 22 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 21 มีเรื่องให้ตกใจจนเกือบหงายหลัง ปลดเหรียญอ่านฟรี 17 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 24 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 22 การใช้ชีวิตในเมืองทิศบูรพา ปลดเหรียญอ่านฟรี 20 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 27 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 23 ชีวิตหกคะเมนตีลังกา ปลดเหรียญอ่านฟรี 21 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 28 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 24 ชีวิตพระชายาของชินอ๋องใครว่าง่าย ปลดเหรียญอ่านฟรี 22 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 29 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 25 พระชายากับการค้าขาย ปลดเหรียญอ่านฟรี 23 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 30 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 26 แนวคิดอันแสนแปลกใหม่ ปลดเหรียญอ่านฟรี 27 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 3 พฤศจิกายน 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 27 พวกเราควรหาเวลาพักผ่อนเสียบ้าง ปลดเหรียญอ่านฟรี 29 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 5พฤศจิกายน 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 28 สารพัดเครื่องปรุงเลิศรส ปลดเหรียญอ่านฟรี 29 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 5 พฤศจิกายน 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 29 เพื่อให้ชาวบ้านได้อยู่ดีกินดี ปลดเหรียญอ่านฟรี 29 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 5 พฤศจิกายน 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 30 ความสุขที่แสนเรียบง่าย (จบ) ปลดเหรียญอ่านฟรี 29 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 5พฤศจิกายน 68

เนื้อหา

ตอนที่ 28 สารพัดเครื่องปรุงเลิศรส ปลดเหรียญอ่านฟรี 29 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 5 พฤศจิกายน 68

การที่ได้อาศัยอยู่ใกล้กับเมืองที่มีพื้นที่ติดชายทะเลนั้นเหยาหลิงเสวี่ยรู้สึกว่าตนเองดูจะมีความสุขมากกว่าใครทั้งหมดโดยหลังจากที่ร้านค้าส่วนกลางเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการและสินค้าจากหมู่บ้านได้รับความนิยมค่อนข้างดีไม่มีสินค้าตัวใดเลยที่ขายไม่ออกนางจึงคิดหาวิธีการเพิ่มมูลค่าให้สินค้าในท้องถิ่นชนิดอื่นๆ ต่อไปรวมถึงเดินทางเพื่อไปกินของอร่อยถูกใจจากแหล่งแบบสดๆ

อันที่จริงอาหารทะเลสดๆ มีให้กินมิได้ขาดทั้งกุ้ง หอย ปู ปลาแต่อยากกินเมื่อไหร่ก็แค่ให้คนไปสั่งที่หมู่บ้านชาวประมงจากนั้นก็รอให้ถึงวันรุ่งขึ้นก็จะมีชาวบ้านนำอาหารทะเลสดใหม่มาส่งให้ถึงจวนแม่ทัพแล้ว

“หอยชนิดนี้พบมากในแถบนี้หรือเจ้าคะผู้ใหญ่บ้าน” เพราะวันก่อนหมู่บ้านแห่งนี้ส่งหอยนางรมไปให้ที่จวนแม่ทัพเหยาหลิงเสวี่ยที่สนใจจะทดลองทำสิ่งใหม่อยู่แล้วจึงรีบเดินทางไปพบผู้นำหมู่บ้านในวันต่อมาพร้อมเปลือกหอยนางรมที่นางรับประทานตัวมันไปหมดแล้ว

“มีปัญหาอะไรหรือไม่ฮูหยินอันที่จริงข้าและชาวบ้านแถบนี้ก็ไม่เคยกินมันหรอกขอรับแต่เพราะว่าคนที่มาสั่งอาหารทะเลบอกกับชาวบ้านว่าหากพบสัตว์ทะเลแปลกๆ ใหม่ๆ ก็ลองจับส่งไปให้ฮูหยินท่านแม่ทัพดูข้าจึงจับมันส่งไปด้วย แถวนี้มีเยอะพอสมควรนะขอรับมันเกาะอยู่ตามโขดหินที่ด้านหน้านั้นก็มีเช่นกัน” การมาปรากฏตัวของเหยาหลิงเสวี่ยนั้นทำเอาผู้นำหมู่บ้านตกใจเพราะกลัวว่าตนเองจะทำอะไรผิดไปหรือเปล่าแต่กระนั้นผู้อาวุโสก็ยังคงอธิบายให้นางได้ฟังถึงที่มาที่ไปของหอยหน้าตาประหลาดได้อย่างดี

“มันไม่มีปัญหาอะไรหรอกเจ้าค่ะสิ่งนี้คือหอยนางรมสามารถนำไปประกอบอาหารหรือว่าจะทำเครื่องปรุงรสอาหารก็ได้ข้าขอแรงชาวบ้านช่วยเก็บหอยนางรมจากโขดหินมาให้ข้าได้หรือไม่เจ้าคะเลือกที่ฝาหอยใหญ่หน่อยข้าจะให้ค่าจ้างและถ้าหากมันนำไปทำสิ่งที่ข้าคิดไว้ได้สำเร็จข้าจะกลับมาสอนคนในหมู่บ้านเอง”

เพราะซอสหอยนางรมนั้นถึงแม้เหยาหลิงเสวี่ยจะมีสูตรอยู่ในหัวแต่นางก็ยังมิเคยทำด้วยตนเองดังนั้นจึงต้องการนำหอยสดๆ กลับไปทดลองปรุงที่จวนแม่ทัพก่อนจากนั้นจะกลับมาสอนชาวบ้านให้ทำก็ยังไม่สาย

“ไม่ได้ขอรับฮูหยินเรื่องแค่นี้พวกข้ายินดีทำให้ไม่ต้องมาจ่ายค่าจ้างอะไรหรอกสิ่งที่พวกท่านช่วยให้ชาวบ้านแถบชายฝั่งลืมตาอ้าปากได้พวกเราก็ไม่รู้ว่าจะตอบแทนบุญคุณได้อย่างไรกันแล้ว” ผู้นำหมู่บ้านกล่าวอย่างนอบน้อมและสำนึกในความช่วยเหลือของฮูหยินท่านแม่ทัพ

แต่เดิมชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ส่วนมากจะออกไปรับจ้างทำงานที่ต่างหมู่บ้านแต่เมื่อฮูหยินของท่านแม่ทัพมาแนะนำและสอนวิธีการถนอมอาหารทะเลเพื่อส่งออกขายพวกเขาก็ทดลองทำกันโดยอาศัยเรือประมงของผู้นำหมู่บ้านและคนหนุ่มที่มีกำลังวังชาออกไปลากอวนจับปลากันเมื่อเรือเข้าฝั่งมากบรรดาภรรยาและบุตรทั้งหญิงชายจะมารับช่วงต่อทำความสะอาดวัตถุดิบที่จับมาได้สดๆ ใหม่ๆ จากนั้นก็นำไปปรุงรสตามสูตร

ระหว่างนี้ฝั่งผู้ชายก็จะช่วยกันเก็บและทำความสะอาดเครื่องมือหาปลาที่นำออกมาใช้งานจนเมื่อสัตว์ทะเลปรุงรสทุกอย่างได้ที่แล้วก็จะมาช่วยกันนำขึ้นตากแดดกันที่ชายฝั่งให้ทั้งแสงตะวันทั้งยังมีลมทะเลช่วยทำให้พวกมันค่อยๆ แห้งไปอย่างช้าๆ เมื่อจัดการคลุมผ้าขาวบางเพื่อกันแมลงวันและพวกนกแล้วที่เหลือก็แค่มาคอยกลับด้านเพื่อที่ให้มันแห้งสนิทจะได้เก็บรักษาไว้กินได้นานๆ

เพียงสิบห้าวันหลังจากที่ส่งอาหารทะเลตากแห้งที่สะสมมาให้ร้านค้าส่วนกลางเป็นครั้งแรกคนจากทางการก็มาส่งเงินให้กับผู้ใหญ่บ้านแถมยังบอกอีกว่าหากรักษาคุณภาพได้อย่างสินค้าที่ส่งไปคราวที่แล้วร้านค้าส่วนกลางก็จะรับซื้อทั้งหมดอีกทั้งยังบอกว่าชาวบ้านสามารถส่งขายให้ร้านค้าทั่วไปได้ตามสะดวกหากมีช่องทางเพราะทางการมิได้หวงห้ามหรือบังคับให้ส่งสินค้าผูกขาดกับร้านส่วนกลางแต่เพียงผู้เดียว

“ท่านลุงเจ้าคะเป็นหน้าที่ของข้าและท่านแม่ทัพอยู่แล้วปากท้องของชาวบ้านนั้นเป็นเรื่องใหญ่หากผู้คนอยู่ดีกินดีแว่นแคว้นก็จะเจริญรุ่งเรืองและมั่นคง” แม้เหยาหลิงเสวี่ยจะกล่าวเช่นนั้นแต่ชาวบ้านก็ยังยืนยันว่าจะไม่ขอรับเงินดังนั้นนางจึงตั้งใจเอาไว้แล้วว่าเมื่อผลิตซอสหอยนางรมเสร็จเรียบร้อยแล้วจะนำมาให้คนในหมู่บ้านแห่งนี้ได้ใช้ทดลองประกอบอาหารเป็นที่แรก

นอกจากจะมีการรวมกลุ่มกันทำอาหารทะเลตากแห้งส่งขายแล้วในหมู่บ้านนี้ยังมีการทดลองปลูกผักทั้งแบบยกแปลงสูงขุดร่องน้ำและปลูกใส่กระบะไม้ไผ่ได้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมากแต่กระนั้นการปลูกผักมันต้องใช้เวลามากกว่าการจับสัตว์ทะเลชาวบ้านจึงลงความเห็นกันว่าพวกเขาจะเริ่มจากการปลูกผักเพื่อบริโภคกันเองในหมู่บ้านก่อนหลังจากนี้จะขยับขยายเพื่อส่งขายต่อไป

อาจจะเป็นเพราะว่าหมู่บ้านแห่งนี้มีชาวบ้านอยู่ไม่กี่สิบหลังคาเรือนอีกทั้งชาวบ้านส่วนมากก็มีฐานะไม่สู้ดีนักจึงลงทุนทำอะไรเป็นของตนเองยังไม่ได้แต่โชคดีที่ภายในหมู่บ้านนั้นผู้คนมีความสามัคคีและมีผู้นำหมู่บ้านที่เข้มแข็งและมีความคิดความอ่านจึงได้มีการจัดการรวมกลุ่มขึ้นมาทำงานไม่ต้องแยกกันไปทำของใครของมันนับเป็นการบริหารทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดได้เป็นอย่างดี

เนื่องจากวันนี้ใช้เวลาอยู่ที่หมู่บ้านชาวประมงมาจนถึงเวลาอาหารกลางวันเพื่อตอบแทนทุกคนที่มาร่วมฟังสินค้าใหม่ที่นางจะเสนอให้ชาวบ้านทำขายในอนาคตเหยาหลิงเสวี่ยจึงจัดการปรุงอาหารจากหอยนางรมที่เก็บมาสดๆ ให้ทุกคนในที่นี้ได้กินกันซึ่งวัตถุดิบก็มีไม่มากเพียงแค่หอยนางรมสด ไข่ไก่ ต้นหอมและถั่วงอกที่นางเพาะเองที่จวนแม่ทัพอีกทั้งน้ำจิ้มก็ปรุงมาเองโดยนำใส่รถม้ามาเป็นไหรับรองว่าอย่างไรก็พอกิน

เป็นที่รู้กันในบรรดาสาวใช้ว่าหากฮูหยินกับท่านแม่ทัพจะเดินทางไปพบชาวบ้านพวกนางต้องแจ้งให้คนครัวช่วยเตรียมอุปกรณ์และเครื่องปรุงต่างๆ เอาไว้ให้พร้อมอยู่เสมอเพราะเกือบทุกครั้งเหยาหลิงเสวี่ยก็จะต้องลงมือทำอาหารให้ชาวบ้านได้ลองชิมอยู่แล้ว

“หากฮูหยินเปิดร้านอาหารน่าจะขายดีนะขอรับไม่ว่าจะเป็นอาหารตากแห้งหรือว่าหอยนางรมทอดท่านล้วนแต่ปรุงออกมามีรสชาติดีเยี่ยม” ผู้นำหมู่บ้านเสนอความคิดเห็นหลังจากที่ได้ชิมอาหารจานใหม่จากรสมือของฮูหยินเป็นคนแรก

“ข้าเองก็อยากเปิดร้านเจ้าค่ะที่บ้านเก่านั้นครอบครัวของข้าก็ปรุงอาหารขายวันละสองชนิดจะมีน้ำแกงและอาหารจานผัดอีกจานรายการอาหารเปลี่ยนไปตามวัตถุดิบที่หาได้ในแต่ละวัน ในฤดูฝนข้าจะมีความสุขเป็นพิเศษเนื่องจากในป่ามีวัตถุดิบหลากหลายให้ไปเก็บไปหาทั้งหน่อไม้ ทั้งเห็ดหากเก็บมาได้เยอะข้าก็ดองบ้าง ตากแห้งบ้างเก็บเอาไว้กินนอกฤดูกาล”

พูดแล้วก็คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ แม้ตอนนั้นครอบครัวของนางจะยังค่อนข้างขัดสนแต่ทว่าทุกคนต่างก็ทำงานตามหน้าที่ของตนอย่างเต็มความสามารถไม่เคยมีใครที่จะปริปากบ่นว่าเหนื่อยล้าหรือว่าตัดพ้อย่อท้อกับโชคชะตา

“แถบนี้ไม่ค่อยมีหน่อไม้เท่าไหร่ขอรับส่วนมากพวกเราจะปล่อยทิ้งให้มันเติบโตเพื่อใช้ประโยชน์จากต้นไผ่มากกว่าแต่เห็ดนั้นพอจะมีอยู่มากเหมือนกันแต่ฤดูฝนไม่ว่าหมู่บ้านไหนก็เก็บเห็ดไปขายกันทั้งนั้นราคามันจึงต่ำมาก” ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านจึงมักจะนำเห็ดที่เก็บได้มาบริโภคในครัวเรือนเสียมากกว่าเพราะการนำออกไปขายนอกจากจะไม่ได้ราคาแล้วมันยังเก็บข้ามวันไม่ดีอีกด้วยกลัวว่าถ้าทุ่มเทแรงกายแรงใจเข้าป่าเพื่อไปเก็บเห็ดมาขายได้ราคาถูกมันจะเสียเวลาเปล่า

“หากถึงฤดูฝนข้าจะมาแนะนำวิธีถนอมอาหารจากเห็ดเพื่อเก็บเอาไว้กินนานๆ นะเจ้าคะถึงจะมีไม่พอขายแต่ข้ามั่นใจว่าพวกท่านจะมีเห็ดกินกันนอกฤดูกาลอย่างแน่นอน” อะไรที่เหยาหลิงเสวี่ยสามารถทำได้นางไม่เคยคิดจะลังเลเลยแม้แต่น้อยนิดเพราะเรื่องปากท้องของชาวบ้านเป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไปไม่ได้

“หากฮูหยินเปิดร้านอาหารจริงข้าคงต้องลาออกจากการเป็นแม่ทัพแล้วมาช่วยนางปัดกวาดเช็ดถูร้านเพื่อจะได้มีเวลาอยู่ใกล้ชิดกับภรรยาของตนเองเป็นแน่” ท่านแม่ทัพไม่ได้กล่าวออกมาเสียงดังมากนักแต่ก็ทำให้ชาวบ้านสองสามคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นถึงกับเขินอายจนใบหูแดงเถือก

ที่เขาว่าท่านแม่ทัพบูรพารักและทะนุถนอมภรรยายิ่งนักท่าจะเป็นเรื่องจริงดูอย่างที่ฮูหยินเดินทางมาสอนชาวบ้านตามหมู่บ้านต่างๆ ไม่มีสักครั้งที่จะทิ้งให้นางมาโดยลำพังเขาจะต้องตามติดมาคอยช่วยเหลือและยืนเคียงข้างคอยให้กำลังใจอยู่เสมอ

เมื่อกลับถึงจวนเหยาหลิงเสวี่ยก็ตรงเข้าครัวเพื่อจัดการปรุงอาหารจากหอยนางรมสดๆ ให้สมาชิกในครอบครัวของนางได้รับประทานกันซึ่งอาหารแปลกใหม่อย่างหอยนางรมทอดนั้นบิดาของนางหรืออดีตท่านแม่ทัพอุดรนั้นรับประทานไปเสียสองจานใหญ่

“พ่อเคยเห็นในเหลาอาหารปรุงอาหารจานนี้เหมือนกันแต่แป้งทอดจะออกเหนียวๆ นุ่มๆ ลื่นลงคอไม่กรอบเช่นที่เจ้าทำพ่อคิดว่าแบบนี้กินอร่อยกว่าแถมน้ำจิ้มของเจ้าก็ยังมีรสชาติดีกว่ามากในเหลาอาหารนั้นเพียงกินคู่กับซีอิ๊วธรรมดากินไปกินมาก็ออกจะเลี่ยน” อันเจี้ยนกั๋วได้เคยลองลิ้มอาหารแปลกใหม่มาทั่วแคว้นแต่ก็ยังต้องยอมรับว่าฝีมือพ่อครัวเหลาอาหารชั้นหนึ่งบางร้านยังไม่สามารถเทียบเคียงฝีมือบุตรสาวของเขาได้เลย

“ข้าเองก็ไม่แน่ใจเจ้าค่ะว่าที่เหลาอาหารนั้นรสชาติเป็นอย่างไรแต่อาหารจานนี้ข้าปรุงเลียนแบบผักทอดที่เราเคยทำขายกันเท่านั้นเองเจ้าค่ะ ท่านพ่อพอจะจำได้หรือไม่” การพูดเรื่องจริงครึ่งหนึ่งและแต่งเติมลงไปอีกครั้งหนึ่งนั้นเหยาหลิงเสวี่ยมิได้ยากทำแต่เพื่อเป็นการทำให้ครอบครัวสบายใจนางจึงต้องเลือกบอกออกไปแบบนี้ขืนบอกไปว่าเอาสูตรอาหารมาจากความทรงจำข้างในหัวจากหลายภพหลายชาติมีหวังต้องมีคนเรียกหมอผีมาจัดการนางเป็นแน่

“พ่อจำได้ผักทอดกรอบของเจ้ามีรสชาติดียิ่งนักไม่ว่าใครที่ได้กินก็ต้องติดใจอย่างแน่นอน” นอกจากจะได้กินฝีมือของบุตรสาวแล้วครั้งหนึ่งอดีตแม่ทัพอุดรยังเคยสวมบทบาทเป็นพ่อค้าขายกับข้าวช่วยลูกเมียอยู่เหมือนกันแม้มันจะเป็นงานที่ไม่เหนื่อยเท่ากับการเป็นทหารแต่กระนั้นก็ยังมีความลำบากอยู่ไม่น้อยแต่ในความเหนื่อยนั้นครอบครัวกลับมีความสุขอันเจี้ยนกั๋วจึงไม่ได้ห้ามหากบุตรสาวและภรรยาจะทำการค้าขาย

“หากหลังจากนี้ลูกทำซอสหอยนางรมได้สำเร็จรับรองเลยว่าท่านพ่อจะได้กินอาหารอร่อยๆ อีกหลายจานเลยเจ้าค่ะ” เมื่อมีโอกาสพูดออกมาแล้วหลังจบอาหารมื้อเย็นเหยาหลิงเสวี่ยจึงอธิบายถึงแผนการทำงานต่อไปให้ครอบครัวของนางได้รับทราบเมื่อพูดคุยกันจบแล้วก็ต้องรีบเข้าครัวไปจัดการกับเนื้อหอยนางรมที่ไหว้วานให้คนครัวแกะออกมาจากเปลือกเพราะอาหารทะเลนั้นเมื่อจับขึ้นมาจากน้ำแล้วจะเน่าเสียได้ง่ายมากจึงจำเป็นต้องนำมาปรุงทันที

“กลิ่นดีแต่สีสันช่างประหลาดนักสิ่งนี้มันจะเป็นเครื่องปรุงรสได้จริงหรือเสี่ยวหลิง” มารดาที่เป็นลูกมืออันดับหนึ่งตลอดกาลเอ่ยถามหลังจากที่เห็นเนื้อหอยนางรมสีตุ่นๆ กำลังเคี่ยวอยู่ในหม้อ

“ตอนนี้สีสันอาจจะไม่สวยงามเจ้าค่ะท่านแม่แต่หลังจากนี้เมื่อซอสเคี่ยวได้ที่เราจะแต่งสีของมันอีกครั้งหนึ่งรับรองว่าจะต้องทั้งมีหน้าตาสวยงามและมีรสชาติที่น่าประทับใจ”

ในยามนี้เครื่องปรุงรสส่วนใหญ่ก็มีแค่เกลือ ซีอิ๊วขาวอาหารจึงมีรสชาติไปทางเดียวกันเสียหมดไม่มีอะไรที่แตกต่างคนที่ชอบกินของอร่อยเช่นเหยาหลิงเสวี่ยจึงคิดหาวิธีการเพิ่มมิติให้กับรสชาติของอาหารจึงต้องการที่จะลองทำเครื่องปรุงรสที่แตกต่างจากสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบันออกมาโดยอาศัยสูตรที่มันติดอยู่ในหัวของตัวเอง

“แม่เชื่อเจ้า เราจะพยายามปรุงซอสหอยนางรมออกมาให้ได้”