ได้เกิดใหม่มาแบบสับคือมีความสับสนเป็นที่สุด

เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง - ตอนที่ 27 พวกเราควรหาเวลาพักผ่อนเสียบ้าง ปลดเหรียญอ่านฟรี 29 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 5พฤศจิกายน 68 โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จีน,เกิดใหม่,ครอบครัว,รัก,เสี่ยวหลิงยอดนักสู้,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,เกิดใหม่,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

จีน,เกิดใหม่,ครอบครัว,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เสี่ยวหลิงยอดนักสู้,นิยายรักจีนโบราณ,ครอบครัว,เกิดใหม่

รายละเอียด

เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ได้เกิดใหม่มาแบบสับคือมีความสับสนเป็นที่สุด

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

ภาระหน้าที่ของเทพเซียนบนสวรรค์คือช่วยเติมเต็มดวงชะตาและชีวิตที่บกพร่องของมนุษย์แต่เมื่อพวกเขาเป็นผู้สร้างความบกพร่องขึ้นเองด้วยความประมาทเลินเล่อการแก้ปัญหาแบบปัจจุบันทันด่วนจึงได้เกิดขึ้นซึ่งนั่นก็คือการส่งเซียนฝึกหัดตัวน้อยซึ่งอยู่ในช่วงพักผ่อนว่างเว้นจากภาระงานลงมาแก้ไขปัญหาโดยที่ไม่ถงไม่ถามสุขภาพหรือความยินยอมเลยสักคำ

ซึ่งนั่นก็ทำให้หลิงเสวี่ยหญิงสาวชาวบ้านธรรมดาตาดำๆ ต้องมีชะตาพลิกผันอย่างที่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเป็นไปได้แต่กว่าชีวิตจะได้อยู่อย่างสงบและแสนสบายก็เล่นเอาเหงื่อตกกันเลยทีเดียว

 

หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้

1. ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์ (4 เหรียญ)

2. ปลดเหรียญอ่านฟรี 1 สัปดาห์

3. หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มไปจนถึงตอนจบ (8 เหรียญ)

สารบัญ

เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 1 หลิงเสวี่ยลูกไม่มีพ่อ,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 2 หลานสาวคนเก็บฟืน,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 3 ชีวิตอับโชค,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 4 เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาก็ไม่ใช่ข้าคนเดิม,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 5 ข้าผู้นี้ก็มีบิดาเช่นเดียวกับพวกเจ้า,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 6 จากนี้ไปข้าจะไม่ยอมอ่อนข้อให้คนพาล,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 7 ลำพังตัวข้าไม่อาจพลิกฟ้าด้วยฝ่ามือ,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 8 พออยู่พอกินพอได้เหลือเก็บออม,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 9 ความหวังยังคงมี,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 10 ชายผู้นี้กำลังตามหาครอบครัว,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 11 ท่านผู้นี้คือท่านแม่ทัพอุดรผู้เกรียงไกร ปลดเหรียญอ่านฟรี 1 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 8 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 12 ตัวข้ามีบิดาเป็นถึงท่านแม่ทัพ ปลดเหรียญอ่านฟรี 3 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 10 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 13 ช่วงเวลาของครอบครัว ปลดเหรียญอ่านฟรี 4 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 11 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 14 จากหลิงเสวี่ยลูกไม่ทีพ่อสู่คุณหนูหลิงเสวี่ย ปลดเหรียญอ่านฟรี 6 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 13 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 15 อันที่จริงบุตรสาวของเรานั้นมีคู่หมาย ปลดเหรียญอ่านฟรี 7 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 14 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 16 วันพบหน้า ปลดเหรียญอ่านฟรี 9 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 16 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 17 เสี่ยวหลิงเป็นสตรีที่แปลกและแตกต่าง ปลดเหรียญอ่านฟรี 10 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 17 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 18 การจากลาที่วนเวียนมาอีกครั้ง ปลดเหรียญอ่านฟรี 13 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 20 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 19 การมาถึงของฮูหยินท่านแม่ทัพและคุณหนูหลิงเสวี่ย ปลดเหรียญอ่านฟรี 14 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 21 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 20 ถึงเวลาต้องออกเรือน ปลดเหรียญอ่านฟรี 15 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 22 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 21 มีเรื่องให้ตกใจจนเกือบหงายหลัง ปลดเหรียญอ่านฟรี 17 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 24 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 22 การใช้ชีวิตในเมืองทิศบูรพา ปลดเหรียญอ่านฟรี 20 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 27 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 23 ชีวิตหกคะเมนตีลังกา ปลดเหรียญอ่านฟรี 21 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 28 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 24 ชีวิตพระชายาของชินอ๋องใครว่าง่าย ปลดเหรียญอ่านฟรี 22 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 29 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 25 พระชายากับการค้าขาย ปลดเหรียญอ่านฟรี 23 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 30 ตุลาคม 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 26 แนวคิดอันแสนแปลกใหม่ ปลดเหรียญอ่านฟรี 27 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 3 พฤศจิกายน 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 27 พวกเราควรหาเวลาพักผ่อนเสียบ้าง ปลดเหรียญอ่านฟรี 29 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 5พฤศจิกายน 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 28 สารพัดเครื่องปรุงเลิศรส ปลดเหรียญอ่านฟรี 29 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 5 พฤศจิกายน 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 29 เพื่อให้ชาวบ้านได้อยู่ดีกินดี ปลดเหรียญอ่านฟรี 29 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 5 พฤศจิกายน 68,เกิดใหม่แบบสับสนกับวาสนาอลวนและชีวิตแสนอลเวง-ตอนที่ 30 ความสุขที่แสนเรียบง่าย (จบ) ปลดเหรียญอ่านฟรี 29 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 5พฤศจิกายน 68

เนื้อหา

ตอนที่ 27 พวกเราควรหาเวลาพักผ่อนเสียบ้าง ปลดเหรียญอ่านฟรี 29 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 5พฤศจิกายน 68

“เอาเป็นว่าพรุ่งนี้เราสองคนจะหยุดทำงานกันสักวันหนึ่งแล้วก็ออกไปเที่ยวเล่นกันเจ้าว่าดีหรือไม่” จ้าวตงหยางรบเร้าภรรยาให้หยุดทำงานมาหลายวันแล้วเนื่องจากต้องการพานางไปพักผ่อนทั้งสมองและร่างกายที่เหนื่อยล้าจากการทำงานหนักเป็นระยะเวลาหลายเดือนติดต่อกัน

และในยามนี้พ่อตาของเขาก็เดินทางมาถึงแล้วอีกทั้งยังเริ่มทำงานฐานะที่ปรึกษาแม่ทัพในทันทีมากันทั้งอดีตแม่ทัพบูรพาและนายทหารมากฝีมือจึงช่วยทำให้งานการที่ทำอยู่รุดหน้าไปมากขึ้นส่งผลให้ทั้งจ้าวตงหยางและเหยาหลิงเสวี่ยเริ่มที่จะมีเวลาว่างได้หายใจหายคอกันมากขึ้น

ด้วยเพราะเหตุนี้จ้าวตงหยางจึงต้องการพาภรรยาไปที่พักผ่อนในสถานที่ที่พิเศษสุดที่เขาบังเอิญค้นพบเมื่อหลายปีก่อนและตั้งใจมาตลอดว่าต้องพานางมาด้วยกันสักครั้งให้ได้

“ตกลงเจ้าค่ะท่านพี่พรุ่งนี้ข้าจะไปพักผ่อนกับท่าน” เมื่อภรรยารับปากเช่นนั้นท่านแม่ทัพก็ขอให้นางเตรียมแต่งชุดสวยๆ ส่วนตัวเองก็ไปในครัวด้วยตนเองเพื่อฝากให้พ่อครัวเตรียมอาหารที่รับประทานง่ายๆ ให้สักหนึ่งตะกร้าเพราะพวกเขาน่าจะใช้เวลาพักผ่อนอยู่ด้วยกันหนึ่งวันเต็มๆ หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้วก็จะออกเดินทางกันในทันที

 

“ท่านพี่จะใช้ม้าตัวนี้หรือเจ้าคะ” เหยาหลิงเสวี่ยแปลกใจเมื่อม้าที่ใช้ในการเดินทางมิใช่ม้าตัวเก่งของสามีแต่กลับเป็นม้าที่มีรูปร่างปราดเปรียวอีกทั้งดูแตกต่างจากม้าที่เคยเห็นกันโดยทั่วไปเพราะทั้งผมหน้าม้า แผงคอและหางนั้นเป็นสีออกไปทางขาวและยังมิใช่เส้นขนที่ตรงเช่นที่เคยเห็นมาอีกด้วยดูเผินๆ แล้วม้าตัวนี้ก็ไม่ต่างจากสตรีที่มีเส้นผมหยิกเป็นลอนตามธรรมชาติ

“ม้าตัวนี้เป็นของขวัญสำหรับเจ้าทูตต่างแคว้นนำมามอบให้ก่อนที่เจ้าและครอบครัวจะเดินทางมาถึงที่นี่มันโดยสารเรือลำใหญ่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาไกลยิ่งนักโชคดีที่มันมีร่างกายแข็งแรงมากจึงไม่มีปัญหาเมื่อต้องเปลี่ยนที่อยู่อาศัย” จ้าวตงหยางเล่าที่มาที่ไปของเจ้าม้าขนสีน้ำตาลเป็นมันเงาตัวนี้ให้ภรรยาได้ฟัง

“ที่พี่ตั้งใจนำมันมาให้เจ้าวันนี้เพราะมีสิ่งพิเศษที่จะมอบให้เจ้าอีกสิ่งหนึ่ง” ที่เหยาหลิงเสวี่ยไม่เคยได้รู้ว่ามีม้าตัวนี้อยู่ก็เพราะท่านแม่ทัพต้องการปิดเอาไว้เป็นความลับเมื่อถึงเวลาจึงนำออกมาให้นางประทับใจ

“ข้าตื่นเต้นยิ่งนักเจ้าค่ะมันสวยงามมากจริง” ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปทั่วตัวม้าอย่างชื่นชมม้าศึกของสามีนั้นสง่างามและน่าเกรงขามแต่ม้าตัวนี้กลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปมันยังคงเป็นอาชาที่สง่างามแต่ก็นุ่มนวลและอ่อนหวานในเวลาเดียวกันด้วย

“มันเป็นม้าตัวเมียในอนาคตทางคณะทูตบอกเอาไว้ว่าจะหาพ่อพันธุ์ดีๆ มาให้เข้าคู่กับมันด้วย” ทูตจากต่างแคว้นนั้นเดินทางมาค้าขายเครื่องเทศและสัตว์จากต่างถิ่นโดยในครั้งนั้นแม้เรื่องค้าขายสัตว์นั้นจะยังตกลงกันมิได้แต่สำหรับการค้าขายเครื่องเทศนั้นกลับเป็นไปได้ด้วยดีมีเรือจากต่างแคว้นเทียบท่าเพื่อขนส่งสินค้าทุกๆ สามสี่เดือนเห็นจะได้

หลังจากชื่นชมม้าสาวและทำความคุ้นเคยกับมันจนพอใจแล้วเหยาหลิงเสวี่ยจึงขึ้นบนหลังของมันอย่างไม่ลังเลนางเป็นถึงบุตรสาวแม่ทัพอุดรเรื่องขี่ม้าบิดาจึงฝึกฝนมาให้ไม่น้อยนางสามารถบังคับม้ารวมถึงจัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยตัวคนเดียวได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ

ภาพที่ฮูหยินท่านแม่ทัพนั่งอยู่บนหลังม้าในท่าทีที่สง่าผ่าเผยโดยมีท่านแม่ทัพบูรพาเดินขนาบอยู่ด้านข้างทำเอาชาวบ้านถึงกับยิ้มตามในความรักของทั้งคู่ที่ไม่ต้องพูดอะไรมันก็แสดงออกผ่านมาทางดวงตาที่คนทั้งสองใช้มองกันและกันมันมีทั้งความเชื่อมั่น มั่นใจและเชื่อใจที่ฉายชัดอยู่ในนั้น

การเดินทางที่ไร้ซึ่งความรีบเร่งนั้นใช้เวลาเพียงสองเค่อกว่าๆ ก็มาถึงจุดหมายปลายทางซึ่งภาพที่ปรากฏอยู่ในครรลองสายตาในยามนี้ทำเอาเหยาหลิงเสวี่ยถึงกับมีอาการตะลึงหาเสียงของตัวเองไม่เจออยู่นานเลยทีเดียว

สถานที่ที่จ้าวตงหยางพาเหยาหลิงเสวี่ยมานั้นเป็นเนินเขาเตี้ยๆ ที่เป็นทุ่งหญ้าและทุ่งดอกไม้ป่าแม้จะไม่ได้กว้างใหญ่มากแต่ก็เหมาะสมยิ่งนักที่จะปล่อยม้าออกวิ่งเล่นอย่างอิสระโดยเฉพาะอย่างยิ่งม้าตัวนี้ที่ผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีแล้วต่อให้ไม่ผูกเอาไว้ก็มั่นใจได้ว่ามันจะไม่มีทางวิ่งเตลิดหนีไปไหน

“สวยจริงๆ เลยเจ้าค่ะ” ทุ่งหญ้าที่ดอกไม้ป่าหลากหลายสีกำลังผลิดอกอวดโฉมที่อยู่เบื้องหน้างดงามจนไม่รู้จะสรรหาคำใดมาอธิบายได้ครบถ้วนเหยาหลิงเสวี่ยจึงได้แต่พูดอยู่ซ้ำๆ ว่ามันงดงามยิ่งนัก

“ครั้งแรกที่เห็นพี่ก็รู้ได้ทันทีว่าหากเจ้าได้มายืนอยู่ตรงนี้แล้วจะต้องชอบเป็นแน่” ด้วยนิสัยของภรรยานั้นออกจะเป็นคนที่มีนิสัยเรียบง่ายนางมักมีความสุขกับสิ่งใกล้ตัวอยู่เสมอและก็เป็นไปตามคาดที่ภรรยาเองก็ดูจะชอบที่นี่มากหลังจากนางยืนมองจนพอใจแล้วยังนั่งลงเพื่อสัมผัสกลีบดอกไม้ป่าที่บอบบางด้วยมือเล็กๆ ของตนเองอีกด้วย

“ขอบคุณท่านพี่มากนะเจ้าคะ” หลังจากใช้ชิมวิวทิวทัศน์จนพอใจแล้วจ้าวตงหยางจึงรีบหาที่นั่งที่เหมาะสมบริเวณร่มไม้ใหญ่เพื่อปูผ้าและนั่งพักผ่อนด้วยกันโดยระหว่างที่สองสามีภรรยากำลังจัดเตรียมที่นั่งอยู่นั้นม้าสาวก็เดินเล็มหญ้าอยู่ใกล้ๆ ไม่ได้เดินออกไปไกลจากตัวพวกเขาเลย

“ดื่มน้ำสักนิดก่อนเจ้าขี่ม้ามาไกลน่าจะคอแห้งแล้ว” หลังจากจัดที่ทางสำหรับนั่งพักเรียบร้อยแล้วท่านแม่ทัพก็เปิดตะกร้าเสบียงแล้วหยิบกระบอกไม้ไผ่บรรจุน้ำดื่มออกมาส่งให้ภรรยาก่อนเป็นอันดับแรกซึ่งนอกจากในตะกร้าจะมีอาหารและน้ำดื่มจำนวนหนึ่งแล้วก็ยังมีม้วนกระดาษ เครื่องเขียนและตำราที่ภรรยามักจะนั่งอ่านก่อนนอนอยู่ในนั้นด้วยซึ่งทั้งหมดนั้นจ้าวตงหยางตั้งใจเตรียมมาเพื่อใช้เวลาด้วยกันสองคนกับเหยาหลิงเสวี่ยโดยเฉพาะ

“ท่านพี่เป็นคนเดินน่าจะเหนื่อยกว่าข้าอีกนะเจ้าคะท่านก็ดื่มน้ำเสียก่อนเถิด” นางที่นั่งอยู่บนหลังม้าตลอดการเดินทางจะไปเหนื่อยอะไรมีแต่เขานั่งแหละที่เดินตามกันมาต้อยๆ ที่น่าจะเหนื่อยมากยิ่งกว่า

“เจ้าดื่มเถิดพี่ยังมีน้ำอีกกระบอกหนึ่ง” หลังจากที่ดื่มน้ำกันจนชื่นใจแล้วจ้าวตงหยางจึงก่อกองไฟเล็กๆ ขึ้นเพื่อต้มน้ำชงชาเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยทั้งสองคนก็นั่งจิบชาพร้อมรับประทานของว่างเป็นขนมอบและมะพร้าวแก้วหลังจากนั้นก็นั่งอ่านตำรากันคนละเล่มโดยนั่งพิงหลังเข้ากับต้นไม้ใหญ่ซึ่งแม้ว่าต่างคนต่างจะให้ความสนใจกับตำราในมือของตนเองแต่ก็มีบางจังหวะที่เงยหน้ามาสบตาและยิ้มให้กันอย่างอ่อนโยน

หลังจากที่วุ่นวายและเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานกันมานานเมื่อมีเวลาได้นั่งพักว่างภาระที่แบกไว้บนบ่าลงบ้างทั้งท่านแม่ทัพและฮูหยินก็เลือกที่จะใช้วันหยุดให้ผ่านไปกับสิ่งเรียบง่ายฝั่งเหยาหลิงเสวี่ยนั้นกำลังตั้งใจอ่านตำราสมุนไพรส่วนจ้าวตงหยางก็กำลังอ่านตำราการปลูกผักต่างคนต่างกำลังเพิ่มพูนความรู้กันอย่างตั้งอกตั้งใจ

“ท่านพี่ข้าหิวแล้วเจ้าค่ะ” เมื่อภรรยาเอ่ยปากเพียงคำเดียวมีหรือที่สามีจะรอช้าเขาเร่งเปิดตะกร้าเสบียงอีกครั้งพร้อมกับหยิบแป้งย่างออกมาอุ่นบนกองไฟที่จุดไว้และวางทับด้วยแผ่นหินร้อนอีกทีเพียงแค่นี้แผ่นแป้งย่างที่เคยเย็นชืดก็จะกลับมาอุ่นและน่ากินขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

“เถียนมามาเตรียมขนมเค้กพุทราและผลไม้มาให้เจ้าด้วยนะแต่ถ้าหากินแป้งย่างอิ่มแล้วจะเก็บเอาไว้กินก่อนเดินทางกลับกันก็ได้รองท้องสักนิดก่อนจะถึงบ้าน” ตะกร้าเสบียงใบใหญ่ยังมีของกินอยู่อีกมากแต่เป็นเพราะภรรยาของเขาไม่ใช่คนที่กินเยอะอะไรหลังมื้ออาหารหลักก็มักไม่กินอะไรอีกแล้วนอกจากจิบชาดังนั้นท่านแม่ทัพจึงแนะนำวิธีจัดการอาหารให้หมดตะกร้าให้เพื่อที่พ่อครัวและเถียนมามาจะได้ไม่เสียใจที่พวกเขากินไม่หมด

“ทราบแล้วเจ้าค่ะ”

มื้อกลางวันเรียบง่ายท่ามกลางทุ่งดอกไม้ป่าหลากสีทำให้เหยาหลิงเสวี่ยเจริญาหารมากขึ้นจากที่เคยกินแป้งย่างไส้เนื้อได้ครั้งละหนึ่งชิ้นแต่วันนี้นางกินได้ถึงหนึ่งชิ้นครึ่งทำเอาคนเป็นสามีชอบใจยิ่งนักที่เห็นนางเจริญอาหารแถมยังแอบคิดเอาไว้ในใจเงียบๆ อีกว่าจะหาเวลาพานางมาพักผ่อนเดือนละครั้งให้ได้

เมื่อหนังท้องตึงก็ทำท่าจะง่วงแต่ทั้งท่านแม่ทัพและฮูหยินทำเพียงแค่นั่งรอให้อาหารย่อยเพียงครู่เดียวจากนั้นก็ผลัดกันขี่ม้าเล่นบนทุ่งหญ้าม้าสาวฝีเท้าดีได้วิ่งอย่างอิสระแต่ก็ยังไม่ได้แสดงอาการเอาแต่ใจวิ่งๆ หยุดๆ อยู่เป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วยามเหยาหลิงเสวี่ยก็ให้มันพักพร้อมกับมอบเมล็ดข้าวโพดแห้งที่นำติดตัวมาเป็นรางวัลให้กับมันเสียหลายกำมือ

“ดูเหมือนมันจะรู้ความมากนักนะเจ้าคะก่อนเดินทางมาที่นี่น่าจะถูกเลี้ยงและฝึกฝนมาอย่างดีเป็นแน่” เมื่อเจ้าม้าสาวทั้งว่าง่ายและเชื่อฟังเหยาหลิงเสวี่ยก็อดที่จะเอ่ยชมและมอบรางวัลให้มันอีกครั้งด้วยการเกาแผงคอให้อย่างเอาใจใส่ซึ่งทันทีที่มันได้รับสัมผัสที่นุ่มนวลแสนสบายมันก็เอาหัวมาซุกเข้ากับตัวของเหยาหลิงเสวี่ยในทันที

“นอกจะฉลาดแล้วยังรู้ดีด้วยว่าต้องเข้าหาใครจึงจะได้ของกิน” แม้จะแสดงท่าทีเหมือนจะบ่นในความแสนรู้แต่จ้าวตงหยางก็เข้ามาช่วยภรรยาเกาแผงคอม้าอย่างเบามือขนที่หยิกเป็นลอนมันเงาแม้จะสากมือไปสักนิดแต่ก็ไม่มีกลิ่นเหม็นกลิ่นสาบเพราะโรงม้าของค่ายทหารดูแลอาชาทุกตัวเป็นอย่างดี

ไม่ว่าจะม้าศึกหรือม้าที่เลี้ยงเอาไว้ใช้แรงงานลากรถต่างก็ได้กินอาหารดีๆ มีคนคอยอาบน้ำแปรงขนให้อย่างสม่ำเสมอหากว่าท่านแม่ทัพพบเห็นม้าในค่ายตัวใดที่อยู่ในสภาพไม่พร้อมใช้งานไม่ว่าจะเป็นเนื้อตัวม้าสกปรก แผงคอและผมหน้าพันกันยุ่งเหยิงหรือแม้แต่กีบเท้าไม่ได้รับการดูแลเขาจะสั่งลงโทษในทันทีทั้งผู้ดูแลม้าและคนที่นำม้าออกมาใช้งานโทษฐานที่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่

“ท่านพี่ก็อย่าไปว่าเจ้าเจ่อถางเลยเจ้าค่ะมันรู้ความนั่นก็ดีแล้วคนเลี้ยงจะได้ไม่ลำบากในการดูแล” อยู่ด้วยกันมาครึ่งวันม้าสาวตัวสีน้ำตาลไม่ต่างจากสีของน้ำตาลอ้อยก็ได้ชื่อใหม่เป็นชื่อตามสีขนของตัวเองเรียบร้อยแล้ว

“หากเจ้าชอบมันถึงเพียงนี้พี่ย้ายเจ้าเจ่อถางไปอยู่ที่คอกม้าในจวนดีหรือไม่เจ้าจะได้มีเพื่อนเล่นคลายเหงา” ดูแล้วภรรยาดูจะชอบใจม้าตัวนี้เป็นอย่างมากดังนั้นหากนำมันมาเลี้ยงอยู่ใกล้ๆ น่าจะให้นางได้ใช้เวลาว่างไปกับกิจกรรมอย่างอื่นมิใช่เอาแต่ทำงานช่วยเหลือสามีจนไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเช่นนี้

“ดียิ่งนักเจ้าค่ะ ขอบคุณท่านพี่มาก” เมื่อสามีเอ่ยปากออกมาโดยที่นางยังไม่ทันขอเหยาหลิงเสวี่ยก็ดีใจจนกระโดดตัวลอยเข้าไปหาเจ้าม้าสาวซึ่งก็เหมือนเจ้าเจ่อถางเองก็จะรู้ความว่าตัวเองกำลังจะได้ย้ายบ้านใหม่จึงได้เอาจมูกชื้นๆ มาดุนอยู่ที่มือของนางไม่หยุด

“ต่อจากนี้ไปก็จะได้อยู่ด้วยกันแล้วนะเจ้าเจ่อถางเป็นเด็กดีด้วยเล่าหากเจ้าดื้อข้าจะไม่ให้เจ้ากินผลไม้อร่อยๆ” เหยาหลิงเสวี่ยอารมณ์ดีขนาดที่ว่าหันไปพูดจาหยอกล้อกับม้าเล่นได้เมื่อท่านแม่ทัพเห็นภรรยามีความสุขทั้งกายและใจเช่นนี้จึงคิดว่าครั้งหน้าหากคณะทูตเดินทางมาเสนอขายสินค้าใหม่เขาอาจจะเจรจาสั่งซื้อม้าสายพันธุ์เดียวกันกับเจ้าเจ่อถางเข้ามาเลี้ยงเพิ่มเพราะไม่ว่าจะเป็นฝีเท้าหรือการใช้แรงงานมันทำได้ดีพอๆ กับม้าศึกตัวเต็มวัยเลี้ยงไปรับรองว่าไม่มีเสียเปล่า