โอ๊ยยยยย เมื่อไหร่ลุงซาเหรินจะยอมให้น้องสี่คนนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจสักที!!!

น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book] - บทที่ 3 น้องสี่ขออ่อย : เลเวล 25 (1/3) โดย ภุมโม @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-ชาย,ยุคปัจจุบัน,ไทย,ตลก,วาย,ชาย-ชาย,ชายรักชาย ,nc,yaoi,bl,รักต่างวัย,ตลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-ชาย,ยุคปัจจุบัน,ไทย,ตลก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

วาย,ชาย-ชาย,ชายรักชาย ,nc,yaoi,bl,รักต่างวัย,ตลก

รายละเอียด

น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book] โดย ภุมโม @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

โอ๊ยยยยย เมื่อไหร่ลุงซาเหรินจะยอมให้น้องสี่คนนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจสักที!!!

ผู้แต่ง

ภุมโม

เรื่องย่อ

สวัสดีนักอ่านที่น่ารักทุกคนนะคะ นิยายเรื่องนี้เป็นผลงานเรื่องที่ห้าของโมแล้วค่ะ โดยเรื่อง ‘น้องสี่ คนดีขยี้ใจ’ จะเป็นเรื่องราวของหนึ่งในแฝดสี่จากตระกูลอัศวนาคินทร์ ซึ่งผลงานเล่มนี้เป็นหนึ่งในนิยายเซ็ตที่โมได้มีโอกาสเขียนร่วมกับนักเขียนท่านอื่นค่ะ

ประกอบไปด้วย 

#เฮียหนึ่งxหวาหว่า จากเรื่อง : ข้อผูกมัดมาเฟีย เขียนโดย ดาววันศุกร์

#เฮียสองxคุณฉัตร จากเรื่อง : เป็นเหยื่อก็ ก็เขมือบเสือได้แล้วกัน เขียนโดย แทะเม็ดแตง

#เฮียสามxคุณลาฟ จากเรื่อง : สุนัขทรงเลี้ยงของคุณลาติฟาห์ เขียนโดย หทัยปรีดิ์

และเรื่องสุดท้ายคือ #น้องสี่xลุงซา จากเรื่อง : น้องสี่ คนดีขยี้ใจ เขียนโดย ภุมโม

ซึ่งเรื่องน้องสี่ คนดีขยี้ใจ โมจะเน้นไปที่ความอ้อนความอ่อยของสี่ที่ทำให้คนขับรถอย่าง ‘ซาเหริน’ ต้องเคลิ้มอยู่ตลอด มาลุ้นไปด้วยกันค่ะว่าความรักระหว่างลูกเจ้านายกับคนขับรถจะลงเอยอย่างไร

ขอกระซิบว่าความจริงแล้วอยากเขียนนิยายเรื่องนี้ให้เป็นแนว pwp แต่ยังไปได้ไม่สุดทางเพราะมีปมดรามาความหลังฝังใจของแต่ละตัวละครเข้ามามีบทบาททำให้นิยายเข้มข้นขึ้น แต่มีฉาก nc ให้อ่านอย่างจุใจ หวังว่าทุกท่านจะสนุกสนานและรู้สึกฟินจนจิกหมอนไปด้วยกันนะคะ >///< สามารถติดตามผลงานเรื่องอื่นได้จากนามปากกา ภุมโม ค่ะ

คำเตือน

เนื้อหาในนิยายเรื่องนี้อาจมีบางส่วนที่ค่อนข้างรุนแรง รวมไปถึงพฤติกรรม การกระทำหรือคำพูดบางอย่างที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นการเพิ่มเสริมเติมแต่งเพื่อให้เนื้อหามีอรรถรสมากขึ้น หวังอย่างยิ่งว่าทุกคนจะเข้าใจนะคะ

ทั้งนี้ภุมโมไม่มีเจตนาส่งเสริมการกระทำใดก็ตามที่เกิดขึ้นภายในเรื่อง ฉะนั้นโปรดใช้วิจารญาณในการอ่านนะคะ หากนักอ่านท่านใดไม่สะดวกใจ สามารถอ่านนิยายเรื่องอื่นของโมได้ค่ะ😊

ปล. เนื้อหาในนิยายเป็นเพียงจินตนาการของภุมโมเท่านั้น ขอให้ดื่มด่ำบรรยากาศและสนุกไปกับการอ่านค่ะ🍀

 

สารบัญ

น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-บทที่ 1 น้องสี่ขอจอง (1/3),น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-บทที่ 1 น้องสี่ขอจอง (2/3),น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-บทที่ 1 น้องสี่ขอจอง (3/3),น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-บทที่ 2 น้องสี่ขออ่อย : เลเวล 0 (1/3),น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-บทที่ 2 น้องสี่ขออ่อย : เลเวล 0 (2/3) NC,น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-บทที่ 2 น้องสี่ขออ่อย : เลเวล 0 (3/3) NC,น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-บทที่ 3 น้องสี่ขออ่อย : เลเวล 25 (1/3),น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-บทที่ 3 น้องสี่ขออ่อย : เลเวล 25 (2/3) NC,น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-บทที่ 3 น้องสี่ขออ่อย : เลเวล 25 (3/3) NC,น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-บทที่ 4 น้องสี่ขออ่อย : เลเวล 50 (1/3) NC,น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-บทที่ 4 น้องสี่ขออ่อย : เลเวล 50 (2/3) NC,น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-บทที่ 4 น้องสี่ขออ่อย : เลเวล 50 (3/3),น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-ประกาศ!!! Promotion E-book,น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-บทที่ 5 น้องสี่ขออ่อย : เลเวล 100 (1/3) NC,น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-บทที่ 5 น้องสี่ขออ่อย : เลเวล 100 (2/3),น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-บทที่ 5 น้องสี่ขออ่อย : เลเวล 100 (3/3),น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-บทที่ 6 น้องสี่ขอเปิดตัว (1/3),น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-บทที่ 6 น้องสี่ขอเปิดตัว (2/3) NC,น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-บทที่ 6 น้องสี่ขอเปิดตัว (3/3) NC,น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-บทที่ 7 น้องสี่ขอลองใจ (1/3),น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-บทที่ 7 น้องสี่ขอลองใจ (2/3),น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-บทที่ 7 น้องสี่ขอลองใจ (3/3),น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-บทที่ 8 น้องสี่ไม่ขออะไรอีกแล้ว (1/3),น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-บทที่ 8 น้องสี่ไม่ขออะไรอีกแล้ว (2/3),น้องสี่ คนดีขยี้ใจ [มี E-book]-บทที่ 8 น้องสี่ไม่ขออะไรอีกแล้ว (3/3) ตอนจบ

เนื้อหา

บทที่ 3 น้องสี่ขออ่อย : เลเวล 25 (1/3)

ย้อนกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อน

เด็กชายมารุตในวัยสิบสามปีเดินทางกลับถึงบ้านตามปกติ เขาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่หนึ่งของโรงเรียนชื่อดังในแถบนั้น ซึ่งแน่นอนว่าบรรดาเฮียทั้งสามก็เรียนที่เดียวกัน ทว่ากลับไม่มีพี่น้องฝาแฝดคนไหนกลับถึงบ้านในเวลาพร้อมเพรียงกันเลย 

“กลับมาแล้วครับ!” เสียงสดใสของสี่ดังก้องกังวานไปทั่วโถงทางเดินเข้าบ้านที่กว้างขวางและเคว้งคว้างไร้ผู้คน

“สวัสดีค่ะคุณสี่ วันนี้กลับถึงบ้านก่อนทุกคนเลยนะคะ” ตอนนั้นเองก็มีเสียงหญิงสาววัยกลางคนคนหนึ่งเดินออกมาขานรับ สี่รีบเงยหน้าขึ้นมองทันทีแม้ว่าจะกำลังเปลี่ยนรองเท้าอยู่ก็ตาม

“อ๊ะ! สวัสดีครับ...คุณหมิงจู” เธอคนนี้คือคุณนายคนที่สองของบ้านอัศวนาคินทร์หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ‘เมียคนที่สองของป๊า’ 

เท่าที่เด็กหนุ่มจำความได้ เธอไม่มีลูกไม่มีเต้าเลยตัดสินใจรับเฮียสามไปอุปการะเลี้ยงดูและคอยอบอรมสั่งสอนราวกับว่าเฮียสามเป็นลูกแท้ ๆ ของตัวเอง

“ครับ วันนี้สี่ไม่มีเวรทำความสะอาดเลยได้กลับเร็วครับ” เด็กชายตอบกลับอีกฝ่ายด้วยท่าทีปกติ ซึ่งใครได้มาเห็นก็คงไม่คิดว่านี่คือบทสนทนาระหว่างลูกของเมียหลวงกับคนเป็นเมียน้อย

“ดีแล้วล่ะค่ะ รีบขึ้นไปเปลี่ยนชุดเถอะนะคะ ดูเหมือนวันนี้ท่านเจ้าสัวมีเรื่องจะคุยกับทุกคนค่ะ” เธอพูดเพียงแค่นั้น ก่อนจะโค้งตัวลงเพื่อกล่าวลาและเดินออกจากบ้านหลักไป

“...โอเคครับ” สี่ทำได้แค่พยักหน้าตอบรับคำพูดนั้นพลางเดินขึ้นห้องของตัวเอง ขณะที่กำลังเปลี่ยนชุดอยู่นั้น ในใจก็ครุ่นคิดว่าวันนี้ผู้เป็นพ่อมีเรื่องอะไรจะคุยกันนะ

เปลี่ยนชุดเสร็จก็รีบตรงดิ่งลงไปยังห้องครัวเพื่อหาของอร่อยกินรองท้อง พลางสอดสายตาดูว่ามื้อเย็นวันนี้แม่ครัวทำเมนูอะไรเอาไว้บ้าง ทว่าไม่ทันจะได้เห็นเมนูอาหาร เสียงรถที่แสนคุ้นหูก็ดังแว่วมาให้ได้ยิน

“ป๊ากลับมาแล้ววว!” ความดีใจของเด็กชายวัยใสที่รับรู้ได้ว่าผู้เป็นพ่อกลับมาบ้านก็ถูกแสดงออกมาอย่างไม่ปิดบัง

“เอ๊ะ! สองคนนั้นเป็นใครน่ะ” ความสงสัยใคร่รู้เริ่มมีมากขึ้นเมื่อมีใครอีกสองคนลงมาจากรถคันเดียวกัน คนแรกเป็นหญิงสาวที่น่าจะอายุใกล้เคียงกับคุณหมิงจู ส่วนอีกคนเป็นเด็กผู้ชายที่คาดว่ารุ่นราวคราวเดียวกับเขา

“ป๊า! สี่คิดถึงป๊าจังครับ!” เด็กชายไม่สนใจบุคคลที่มาใหม่ เขาพุ่งตรงไปหาชายสูงวัยพร้อมตะโกนเสียงดังไม่อายใคร ก่อนจะโผเข้ากอดชายคนนั้น

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ว่าไงไอ้แสบของป๊า เปิดเทอมแล้วเป็นยังไงบ้าง” ชายสูงวัยย่อตัวลงเล็กน้อยและโอบกอดลูกชายคนเล็กสุดหวงแหนพลางถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ

“ระดับสี่ทั้งที สบาย ๆ อยู่แล้วครับ!” เด็กชายยิ้มร่าสดใส

“สวัสดีครับป๊า” ไม่ทันไร เฮียหนึ่งก็กลับถึงบ้าน แม้ว่าจะเป็นฝาแฝดกันแต่ความรับผิดชอบและความมุ่งมั่นของเฮียหนึ่งสูงลิ่วยิ่งกว่าแฝดคนไหน ๆ 

อาจเป็นเพราะเฮียหนึ่งเกิดก่อนคนอื่นและถือเป็นพี่คนโต เลยทำให้ภาระหน้าที่และแรงกดดันบางอย่างโถมเข้าหาเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่เฮียหนึ่งฉลาดและมีไหวพริบ จึงวางตัวได้เหมาะสม

“โอโห ป๊าไม่อยู่บ้านแค่ไม่กี่วัน หนึ่งโตขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย” คนเป็นพ่อยังคงพูดจาหยอกล้อลูกชายราวกับผูกพันกันมานาน ทว่าทุกคนในบ้านย่อมรู้จักนิสัยของท่านเจ้าสัวดี

“ครับ เจ้าสองกับเจ้าสามก็สูงพอ ๆ กับผมครับ” หนึ่งตอบน้ำเสียงราบเรียบพร้อมใบหน้านิ่งเฉย ขณะเปลี่ยนรองเท้าและเดินเข้าไปในตัวบ้าน

“งั้นก็มีแค่ไอ้แสบที่ตัวผอมบางสินะ ฮ่าฮ่าฮ่า!” เมื่อเห็นว่าลูกคนโตไม่มีท่าทีสนใจตัวเอง ท่านเจ้าสัวก็หันมาแซวลูกคนเล็กทันที

“ชิ! ไว้เข้ารับบททดสอบประจำตระกูลเมื่อไหร่ สี่จะทำให้ทุกคนพูดไม่ออกเลยคอยดู!” เด็กชายรู้ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างป๊ากับบรรดาเมียหลวงและลูก ๆ ไม่ดีเท่าไหร่...ทว่าเขาไม่อยากสนใจ

ร่างสูงใหญ่ของท่านเจ้าสัวเดินเข้าบ้านพร้อมลูกคนเล็ก ตามมาด้วยคนแปลกหน้าอีกสองคนที่เดินเข้าบ้านมาอย่างเงียบ ๆ ผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีเฮียสองและเฮียสามก็กลับถึงบ้าน

“อ้าวป๊า! กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” เสียงเฮียสองที่กล่าวทักทายคนเป็นพ่อดังมาให้ได้ยินแต่ไกล

ในบรรดาฝาแฝดทั้งสี่คน เฮียสองถือได้ว่าเป็นคนอารมณ์ฉุนเฉียวและเปลี่ยนแปลงง่าย เฮียมักจะหงุดหงิดและโมโหให้กับเรื่องอะไรบางอย่างได้ง่าย ทว่าหากมองอีกด้านย่อมแปลว่าเฮียสองเป็นลูกที่จิตใจบอบบางและอ่อนไหวที่สุด

“ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับป๊า” ตามมาด้วยเสียงเฮียสาม คงเป็นเพราะเฮียสามถูกเลี้ยงดูและเติบโตมาด้วยฝีมือของคุณหมิงจู เลยทำให้เป็นเด็กสุภาพอ่อนน้อมมาโดยตลอด ทว่าแฝดอีกสามคนย่อมรู้ดีว่า...เบื้องลึกภายใต้หน้ากากนั้นไม่ได้นอบน้อมอย่างที่ใครคิด

“ไหน ๆ ก็มากันครบแล้วป๊าขอพูดเลยแล้วกัน ผู้หญิงคนนี้จะมาเป็นคุณนายคนที่สามของบ้านอัศวนาคินทร์ และเธอจะเข้ามาอยู่อาศัยในรั้วเดียวกันกับบ้านหลัก ทุกคนทำความรู้จักไว้ด้วยล่ะ” สิ้นเสียงพูดจากผู้ที่มีอำนาจเหนือสุดในบ้าน ทุกอย่างก็เงียบสงัด

“...” เด็กชายทั้งห้าคนยืนมองตากันไปมา ไร้การขยับเขยื้อน 

แม้เด็กชายคนใหม่หรือบุคคลที่ถูกเรียกว่า ‘ลูกชายคนที่ห้า’ จะมีท่าทีอยากแนะนำตัวเองและทำความรู้จักกับพี่น้องวัยเดียวกัน แต่ฝาแฝดทั้งสี่คนไม่ได้คิดอยากจะรู้จักหรือสนิทสนมด้วยเลย

“ทำไมถึงยังยืนนิ่งกันล่ะ ป๊าบอกให้ทำความรู้จักกันไว้” จนกระทั่งคนเป็นพ่อเอ่ยทักท้วงด้วยน้ำเสียงเหี้ยมโหดอีกครั้ง

“...” ทว่าก็ยังไม่มีลูกคนไหนปริปากพูดอะไร กลายเป็นว่าคุณนายคนใหม่ของบ้านเลือกที่จะแนะนำตัวเองเป็นลำดับแรก

“เอ่อ...สวัสดีจ้ะเด็ก ๆ ฉันชื่อมลฤดีนะ ส่วนนี้คือลูกชายฉันหรือก็คือพี่น้องต่างแม่ของพวกเธอ” หญิงสาวคนใหม่จีบปากจีบคอพูดชื่อตัวเองและผายมือไปที่ลูกชายออกมาอย่างหน้าไม่อาย

“เหอะ!” จนเฮียสองถึงกับส่งเสียงแสดงท่าทีไม่สบอารมณ์อย่างไม่คิดปิดบังให้กับการกระทำของอีกฝ่าย

“ฉันชื่อทัตเทพ ฝากตัวด้วยล่ะ” ในที่สุดเด็กคนนั้นก็เอ่ยชื่อตัวเองออกมา แววตาของแฝดทั้งสี่เปลี่ยนไปทันทีที่ได้รู้ชื่ออีกฝ่าย

คนเป็นแม่คงอยากตั้งชื่อลูกให้รู้สึกทัดเทียมกับพวกเขาสินะ ถึงได้ตั้งชื่อว่า ‘ทัตเทพ’ ช่างเป็นเรื่องที่น่าตลกเสียจริง

“หนึ่ง ฝากตัวเช่นกัน” เฮียหนึ่งเริ่มแนะนำตัวเองเพื่อแสดงภาวะความเป็นผู้นำให้แก่แฝดอีกสามคน แต่กระนั้นก็ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย

“กูชื่อสอง” เฮียสองก็ยังคงปั้นหน้านิ่วไม่พอใจ

“สาม ยินดีที่ได้รู้จัก” ทางด้านของเฮียสามไม่อาจคาดเดาได้

“...สี่” ส่วนเด็กชายตัวน้อยอย่างสี่ก็ทำได้เพียงเอ่ยเสียงเบา

“หวังว่าลูกของป๊าทั้งห้าคนจะทำให้ชื่อเสียงของตระกูลเรายิ่งใหญ่มากขึ้นนะ” ป๊าพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ก่อนจะเดินขึ้นห้องไป

“จำไว้นะทัตเทพ ลูกจะต้องเก่งกว่าสี่แฝดให้ได้ ท่านเจ้าสัวจะได้เอ็นดูและยกสมบัติให้ลูกมากกว่าพวกมัน” นฤมลกระซิบบอกลูกชายทันทีที่ร่างของท่านเจ้าสัวหายลับตาไป โดยไม่สนใจสักนิดว่าเด็กชายอีกสี่คนจะได้ยินหรือไม่

“ครับแม่” เสียงขานรับของทัตเทพดังขึ้นอย่างเลื่อนลอย ราวกับเขาถูกล้างสมองให้มาฮุบสมบัติของตระกูลนี้เท่านั้น

“หนอย! ใครจะยอมกันล่ะ อยู่ดีไม่ว่าดีแซ่หาเรื่องเองนะ” เสียงเฮียสองพูดขึ้นด้วยอารมณ์หงุดหงิด ดวงตาทั้งสี่คู่มองตรงไปยังพี่น้องต่างแม่ ซึ่งนั่นก็เป็นอีกครั้งที่ฝาแฝดทั้งสี่คนคิดเห็นตรงกัน

หลังจากนั้นทัตเทพก็พยายามทำทุกอย่างให้เหนือกว่าแฝดสี่ บางครั้งก็ทำได้สำเร็จ บางทีก็มีเรื่องล้มเหลว แต่ไม่ว่าจะเย้าแหย่หรือหาเรื่องแฝดทั้งสี่คนอย่างไร ก็ไม่มีใครสนใจหรือให้ความสำคัญกับการกระทำพวกนั้นเลย

.

.

.