เรื่องราววุ่น ๆ ของคนสองคนที่เริ่มต้นจากการปลอมเป็นแฟนเพื่อช่วยหญิงสาวหลบหนีจากการหมั้นกับผู้ชายที่เธอไม่ได้รัก แต่กลับพบว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไปไกลเกินกว่าคำว่าแฟนปลอม ๆ
รัก,ชาย-หญิง,แอคชั่น,อาชญากรรม,ไทย,ธุรกิจ,รักวัยรุ่น,คุณหนูไฮโซ,ท่านประธาน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
คุณหนูวุ่นวายกับคุณชายจักรพรรดิเรื่องราววุ่น ๆ ของคนสองคนที่เริ่มต้นจากการปลอมเป็นแฟนเพื่อช่วยหญิงสาวหลบหนีจากการหมั้นกับผู้ชายที่เธอไม่ได้รัก แต่กลับพบว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไปไกลเกินกว่าคำว่าแฟนปลอม ๆ
ท่ามกลางมหานครที่ไม่เคยหลับใหล ชายหนุ่มเจ้าของสตูดิโอออกแบบเล็ก ๆ ผู้ใช้ชีวิตหลีกหนีจากความวุ่นวายต้องพบกับความปั่นป่วนครั้งใหญ่ เมื่อสาวสวยเพื่อนบ้านห้องข้างบน ผู้มีรอยยิ้มสดใสและความดื้อรั้นไม่แพ้ใคร ตกอยู่ในสถานการณ์ที่พ่อแม่บังคับให้หมั้นกับชายที่เธอไม่รัก
เพื่อแก้ปัญหา เธอเสนอข้อตกลงที่ทั้งบ้าบอและน่าตื่นเต้น “ช่วยเป็นแฟนปลอม ๆ ให้ฉันหน่อยได้ไหม”
แต่สิ่งที่เริ่มต้นจากการแกล้งทำ ความสัมพันธ์ปลอม ๆ กลับค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความรู้สึกจริงใจ เมื่อเขาพบว่าเธอไม่ใช่แค่สาวสวยธรรมดา แต่คือลูกสาวตระกูลมหาเศรษฐีที่กำลังหนีจากชีวิตที่ถูกกำหนดไว้
เมื่อความลับถูกเปิดเผย เรื่องราวรักปลอม ๆ ของพวกเขาจะจบลงอย่างไร ความสัมพันธ์ที่เริ่มจากคำโกหกจะกลายเป็นความรักที่แท้จริงได้หรือไม่ และเมื่อเส้นทางของทั้งคู่มาบรรจบกัน ท่ามกลางความคาดหวังของครอบครัว พวกเขาจะเลือกเดินตามหัวใจ หรือยอมสยบต่อกฎเกณฑ์ที่ถูกกำหนดไว้
เสียงเครื่องปรับอากาศในห้างสรรพสินค้าดังหึ่งเมื่อทั้งคู่ก้าวเข้ามาด้านใน ข้างนอกแดดยังจัด แต่ภายในกลับเย็นสบายจนทำให้คนที่เพิ่งเดินจูงมือกันมายิ้มให้กันโดยไม่รู้ตัว
“อืม...มีที่ไหนอยากไปเป็นพิเศษไหมคะ” นะโมเอียงหน้าถามขณะยังจับมือเขาไว้อย่างไม่ปล่อย
โอมเหลือบตามองป้ายร้านรวงโดยรอบ ก่อนส่ายหน้าช้า ๆ “แล้วแต่โมเลยครับ ปกติผมไม่ค่อยมีเวลามาเดินห้าง แค่เดินผ่านแล้วก็กลับบ้านเลย”
“อ้าว จริงดิ” เธอเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “งั้นนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เดินเล่นในห้างกับคนสวยน่ะสิ”
“ก็...คงอย่างนั้น” เขาหัวเราะเบา ๆ “แถมยังจับมือกันด้วย”
นะโมอมยิ้มแต่ไม่ตอบ เธอแค่เดินต่อ ชวนคุยเรื่อย ๆ เรื่องเล็ก ๆ ที่ดูไร้สาระแต่กลับทำให้คนข้าง ๆ คลายเกร็งลงอย่างชัดเจน ไม่กี่นาทีต่อมา เขาก็เริ่มเล่าเรื่องของตัวเองอย่างลื่นไหล ทั้งเรื่องต้นไม้ที่ปลูกไม่ขึ้น เรื่องแมวข้างคอนโดที่ชอบให้เขาจกพุง
ระหว่างเดินผ่านหน้ากระจกของร้านหนึ่ง เธอก็หยุดกะทันหัน
“เดี๋ยวค่ะ...โอม” เธอหันมาจับคางเขาหมุนเบา ๆ “ผมยุ่งมากเลยรู้ตัวไหม”
เขาหัวเราะแห้ง ๆ ลูบผมตัวเองลวก ๆ “ไม่รู้เลยครับ ผมไม่ค่อยส่องกระจกเท่าไหร่”
“งั้นดีเลยค่ะ ไปตัดผมกัน” เธอฉุดมือเขาเข้าร้านทำผมทันทีโดยไม่รอให้เขาโต้แย้ง
เขานั่งบนเก้าอี้ ตรงหน้ากระจกบานใหญ่ ช่างผมถามว่าอยากได้ทรงไหน แต่นะโมเป็นคนตอบแทนแทบจะทันที “เอาทรงที่ดูสะอาด หน้าตาดี มีความรับผิดชอบค่ะ”
โอมหัวเราะอย่างยอมจำนน “ครับ…ถ้าอย่างนั้นก็ฝากหัวไว้กับช่างแล้วกันนะครับ”
ไม่นาน เส้นผมยุ่งเหยิงก็ถูกตัดแต่งอย่างประณีต เผยให้เห็นรูปหน้าชัดเจนขึ้น พอช่างไดร์ผมเสร็จและส่งกระจกให้ นะโมเป็นคนที่ยิ้มก่อน
“วู้…หล่อมากเลยค่ะ”
โอมเบนหน้าหนีอย่างเขิน ๆ “เหมือนไม่ใช่หน้าตัวเอง ไม่ชินเลย”
“ก็ต้องชินไว้สิคะ เพราะเราจะพาไปแต่งหล่อ”
เธอจูงมือเขาเข้าโซนเสื้อผ้าชายอย่างกระตือรือร้น หยิบเสื้อตัวนั้น วางกางเกงตัวนี้ ลองรองเท้าอีกหลายคู่ เธอจัดให้เขาเข้าห้องลองทีละชุด แล้วเดินวนรอบ ๆ ดูผลลัพธ์อย่างพิจารณาเหมือนดีไซเนอร์ส่วนตัว
“ออกมาค่ะ ชุดนี้ต้องดู” เธอเคาะประตูเบา ๆ
โอมเปิดประตูออกมาในชุดเชิ้ตสีครีมกับกางเกงสแลคเข้ารูปสีเทาเข้ม รองเท้าหนังสีน้ำตาลเรียบแต่ดูแพง เธอถึงกับอ้าปากค้างเล็กน้อย
“โอ้โห…โอม เหมือนนายแบบเลย”
เขายืนขยับคอเสื้ออย่างเก้ ๆ กัง ๆ “มันดู...แปลก ๆ สำหรับผมนิดหน่อยครับ”
“ไม่แปลกหรอกค่ะ มันเหมาะเลยมากต่างหาก” เธอเดินเข้าไปจับแขนเสื้อให้เข้าทรง “ตอนนี้โอมดูเหมือนหนุ่มไฮโซเลยนะ”
“แล้วคุณหนูคนนี้จะยอมควงผมจริง ๆ หรือครับ”
“ถ้าหล่อแบบนี้ ยอมแน่นอนค่ะ” เธอยิ้มหวาน
หลังเลือกชุดเรียบร้อย เธอไม่ยอมให้เขาเปลี่ยนกลับไปใส่ชุดเดิม แต่จูงเขาเดินตรงไปยังแผนกนาฬิกา เธอหยุดหน้าตู้กระจก แล้วชี้ให้เขาดู
“เรือนนี้ค่ะ เข้ากับลุคมากเลย”
โอมเหลือบตามองป้ายราคา แล้วเบิกตากว้าง “อันนี้มันแพงไปครับโม ผมใส่นาฬิกาหลักร้อยมาทั้งชีวิตนะ”
“แต่โอมกำลังจะไปพบพ่อแม่ของเรานะคะ” เสียงของเธออ่อนโยนแต่หนักแน่นจนเขาเงียบไป “โอมอาจจะยังไม่เห็นตัวเองแบบที่เราเห็น แต่เราเห็นแล้ว…โอมคู่ควรกับมัน”
เขาเงียบไปชั่วขณะ มองนาฬิกาเรือนนั้นอีกครั้ง มันเรียบหรู ไม่มีเพชร ไม่มีทอง แต่ดูหนักแน่นและมีรสนิยม
“...แน่ใจแล้วนะครับ”
เธอพยักหน้า “เราแค่กำลังเตรียมคนสำคัญของเราให้ดูดีที่สุดในสายตาของพ่อแม่เราเท่านั้นเอง”
โอมมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้พนักงานช้า ๆ “งั้นเอาเรือนนี้ครับ”
นะโมยิ้มบาง ๆ ดวงตาเป็นประกายอย่างพึงพอใจ มันเป็นรอยยิ้มแบบที่เขาไม่เคยเห็นจากใครมาก่อน