เรื่องราววุ่น ๆ ของคนสองคนที่เริ่มต้นจากการปลอมเป็นแฟนเพื่อช่วยหญิงสาวหลบหนีจากการหมั้นกับผู้ชายที่เธอไม่ได้รัก แต่กลับพบว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไปไกลเกินกว่าคำว่าแฟนปลอม ๆ
รัก,ชาย-หญิง,แอคชั่น,อาชญากรรม,ไทย,ธุรกิจ,รักวัยรุ่น,คุณหนูไฮโซ,ท่านประธาน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
คุณหนูวุ่นวายกับคุณชายจักรพรรดิเรื่องราววุ่น ๆ ของคนสองคนที่เริ่มต้นจากการปลอมเป็นแฟนเพื่อช่วยหญิงสาวหลบหนีจากการหมั้นกับผู้ชายที่เธอไม่ได้รัก แต่กลับพบว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไปไกลเกินกว่าคำว่าแฟนปลอม ๆ
ท่ามกลางมหานครที่ไม่เคยหลับใหล ชายหนุ่มเจ้าของสตูดิโอออกแบบเล็ก ๆ ผู้ใช้ชีวิตหลีกหนีจากความวุ่นวายต้องพบกับความปั่นป่วนครั้งใหญ่ เมื่อสาวสวยเพื่อนบ้านห้องข้างบน ผู้มีรอยยิ้มสดใสและความดื้อรั้นไม่แพ้ใคร ตกอยู่ในสถานการณ์ที่พ่อแม่บังคับให้หมั้นกับชายที่เธอไม่รัก
เพื่อแก้ปัญหา เธอเสนอข้อตกลงที่ทั้งบ้าบอและน่าตื่นเต้น “ช่วยเป็นแฟนปลอม ๆ ให้ฉันหน่อยได้ไหม”
แต่สิ่งที่เริ่มต้นจากการแกล้งทำ ความสัมพันธ์ปลอม ๆ กลับค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความรู้สึกจริงใจ เมื่อเขาพบว่าเธอไม่ใช่แค่สาวสวยธรรมดา แต่คือลูกสาวตระกูลมหาเศรษฐีที่กำลังหนีจากชีวิตที่ถูกกำหนดไว้
เมื่อความลับถูกเปิดเผย เรื่องราวรักปลอม ๆ ของพวกเขาจะจบลงอย่างไร ความสัมพันธ์ที่เริ่มจากคำโกหกจะกลายเป็นความรักที่แท้จริงได้หรือไม่ และเมื่อเส้นทางของทั้งคู่มาบรรจบกัน ท่ามกลางความคาดหวังของครอบครัว พวกเขาจะเลือกเดินตามหัวใจ หรือยอมสยบต่อกฎเกณฑ์ที่ถูกกำหนดไว้
โอมนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียง ท่ามกลางแสงแดดยามเช้าที่ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาทางระเบียงอย่างอ้อยอิ่ง ทว่าเสียงเคาะประตูสองครั้งก็ดังขึ้นมาอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว
ก๊อก ๆ
เขาขมวดคิ้วอย่างหัวเสีย ลูบใบหน้าเพื่อขับไล่ความง่วง แล้วพาตัวเองลุกขึ้นเดินไปยังประตูด้วยฝีเท้าเนิบนาบ พลางบ่นในใจว่าใครกันนะช่างกล้ามาปลุกเขาในเช้าอันแสนสงบแบบนี้
“ใครครับ” เขาเอ่ยด้วยเสียงยังขุ่น ๆ จากการตื่นนอน ทว่าในวินาทีที่บานประตูเปิดออก สีหน้าเรียบนิ่งของเขากลับเปลี่ยนเป็นตื่นตะลึง ราวกับมีบางอย่างทำให้หัวใจสะดุดไปชั่วขณะ
หญิงสาวร่างบอบบางยืนอยู่ตรงหน้า ผมยาวปล่อยสยายอย่างไม่ได้ตั้งใจจะออกจากบ้าน ดวงหน้าเปลือยเปล่าจากเครื่องสำอางเผยให้เห็นความน่ารักสดใสตามธรรมชาติ แววตาดูประหม่าเล็กน้อยขณะพูดออกมา
“ขอโทษนะคะ เอ่อ…เราชื่อนะโม อยู่ห้องข้างบน คือว่า…ผ้าที่เราตากไว้มันปลิวไปตกตรงระเบียงของเธอ”
หญิงสาวว่าพร้อมยกมือเกาแก้มแก้เขิน ดวงตาหลุบต่ำเล็กน้อยอย่างรู้สึกอายกับเรื่องที่ต้องเอ่ย
“เอ๊ะ อ้อ…ผมชื่อโอมนะครับ” เขารีบแนะนำตัวอย่างคนเพิ่งตั้งสติได้ ดวงตากะพริบถี่เล็กน้อยแล้วแย้มยิ้มเก้อ ๆ “เดี๋ยวผมไปดูให้ รอแป๊บหนึ่งนะครับ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวโมไปเก็บเอง” เธอรีบว่า สีหน้าเต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วนอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่เป็นไรครับ ผมเก็บให้ดีกว่า” เขายืนยันด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แล้วหันหลังเดินไปยังระเบียง
ร่างสูงโน้มตัวออกไปชะเง้อมองดูสิ่งที่ตกลงมา และทันใดนั้นเอง แววตาของเขาก็เบิกกว้าง ใบหน้าร้อนวูบขึ้นมาทันที
สิ่งที่อยู่ตรงนั้นคือยกทรงลูกไม้สีดำที่ดูจะขัดกับแสงเช้าอันแสนบริสุทธิ์อย่างสิ้นเชิง
เขายืนชะงักอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วหยิบมันขึ้นมาด้วยปลายนิ้วด้วยความเขินอาย เขาเดินกลับไปที่หน้าห้อง ยกทรงในมือถูกจับไว้ในลักษณะชูให้ห่างจากตัวที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ขอโทษนะครับ ผมพยายามไม่มองแล้ว” เขาเอ่ยเสียงอ้อมแอ้ม แววตาหลบเลี่ยง ไม่กล้าสบตาเธอโดยตรง
“ก็บอกแล้วไงคะว่าโมไปหยิบเองดีกว่า…” เธอพูดพร้อมกับรับของจากมือเขาอย่างรวดเร็ว เสียงเธอเจือความขุ่นเขิน แต่ดวงแก้มกลับขึ้นสีระเรื่อ แล้วเมื่อดวงตาของทั้งสองสบกันโดยไม่ตั้งใจ เธอก็แย้มยิ้มบาง ๆ ออกมา
“ยังไงก็…ขอบคุณนะคะ โอม” เธอว่าเบา ๆ ริมฝีปากโค้งขึ้นอย่างอ่อนโยน รอยยิ้มแบบที่ทำให้หัวใจของคนมองเต้นผิดจังหวะ
“เอ่อ อา…ไม่เป็นไรครับ” เขาพูดตะกุกตะกัก สีหน้าเหมือนคนที่เพิ่งถูกแสงแดดจ้าแยงตา ใบหูเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อขณะยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่หน้าห้องเหมือนเด็กหนุ่มวัยแรกแย้มที่เพิ่งเจอกับคำทักทายแรกจากคนที่ทำให้ใจสั่น
โอมยืนอยู่หน้าประตูครู่หนึ่งหลังนะโมจากไป ราวกับยังไม่อาจตั้งหลักจากรอยยิ้มสุดท้ายที่เธอทิ้งไว้ให้ได้ ภาพยกทรงลูกไม้สีดำยังติดตา และยิ่งกว่านั้นคือเสียงของเธอที่ยังวนเวียนอยู่ในหัว เสียงที่ทั้งนุ่มนวลและสดใสในคราวเดียวกัน
เขาเดินกลับเข้าห้องอย่างเหม่อลอย ปิดประตูเบา ๆ ราวกลัวว่าจะรบกวนความทรงจำที่เพิ่งเกิดขึ้น ดวงหน้าเขายังคงติดสีแดงจาง ๆ อยู่ตรงปลายแก้ม และหัวใจก็ยังเต้นเร็วอย่างไม่รู้ตัว
“บ้าเอ๊ย…” เขาพึมพำเบา ๆ พลางยกมือขึ้นลูบผมตัวเองแรง ๆ เหมือนจะเรียกสติกลับมา แต่กลับยิ่งคิดถึงหน้าหวาน ๆ ของเธอมากขึ้น
โอมเดินกลับไปทิ้งตัวลงบนเตียง กลิ้งไปมาสองสามรอบแล้วถอนหายใจหนักหน่วง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากะจะเลื่อนดูอะไรเล่น ๆ ฆ่าเวลาในวันหยุด แต่ปลายนิ้วกลับไปหยุดอยู่ที่แอปแชตกลุ่มของคอนโดที่ไม่ค่อยได้เปิดนัก
“ห้องข้างบน…” เขาพึมพำ ก่อนจะเลื่อนดูรายชื่อผู้อาศัย แล้วพลันชะงักเมื่อเห็นชื่อหนึ่งที่เพิ่งอัปเดตรูปโปรไฟล์เป็นหญิงสาวคนเดิม รอยยิ้มในภาพทำให้เขารู้สึกเหมือนมีแสงแดดเฉพาะตัวสาดเข้ามาในหัวใจ
“NamoNat...นะโมเหรอ”
เขากดเข้าไปดูโปรไฟล์นั้นอยู่นาน ไม่กล้ากดแชต ไม่กล้าทำอะไรทั้งนั้น มีเพียงรอยยิ้มแผ่ว ๆ บนใบหน้าที่เขาไม่รู้ตัวว่ามันเผยออกมาเมื่อไหร่
ทันใดนั้น เสียงแจ้งเตือนก็ดัง...
ติ๊ง!
ข้อความจากแชตเด้งขึ้นมา
“ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ค่ะ ที่เผลอทำของตกลงไปที่ระเบียงห้อง ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยเก็บให้ 😊🙏”
โอมหัวเราะในลำคอเบา ๆ กับอีโมจิที่เธอใช้ มันทั้งสุภาพและน่ารักอย่างประหลาด เขาพิมพ์ตอบกลับไปโดยไม่ลังเล
“ไม่เป็นไรครับ ยินดีช่วยเหลือเสมอ 😅”
ไม่กี่วินาทีต่อมา
ติ๊ง!
เธอตอบกลับมา
“ดีจังเลยค่ะ ถ้างั้นเราติดหนี้น้ำใจแล้วสิ ไว้จะขอเลี้ยงกาแฟเป็นการขอบคุณนะคะ 😊”
โอมชะงักไปครู่หนึ่ง ดวงตาเบิกกว้างเล็กน้อย ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มกว้างที่เจ้าตัวก็ไม่อาจกลั้นไว้ได้
“งั้น…ผมชอบคาปูชิโน่ไม่หวานนะครับ 😉”
เช้าวันนั้นเริ่มด้วยรอยยิ้มและความรู้สึกอุ่น ๆ ในหัวใจของโอม ที่เขาไม่อาจปฏิเสธได้ว่าผู้หญิงที่ชื่อนะโมได้ฝากอะไรบางอย่างไว้ในใจเขาแล้ว