จากที่ไม่ค่อยชอบขี้หน้า ทำหน้าตาน่าหมั่นไส้ เห็นแล้วเป็นต้องคอยตามคอยแกล้ง พอไม่เห็นหน้าทำไมหัวใจมันร้อนรนอยู่ไม่ได้ต้องอยากเห็นหน้าตลอด หรือจะเป็นแบบที่โบราณว่าไม่เห็นหน้าเห็นหลังคาก็ยังดี
ดราม่า,ชาย-ชาย,ไทย,ครอบครัว,วัยว้าวุ่น,พระเอกหื่น,พ่อตาดุ,ท้องได้,ตามง้อ,นายเอกหนี,นายเอกท้อง,พระเอกปากหมา ,ดราม่า,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
วิศวะขอรักคุณหมอ Mpregจากที่ไม่ค่อยชอบขี้หน้า ทำหน้าตาน่าหมั่นไส้ เห็นแล้วเป็นต้องคอยตามคอยแกล้ง พอไม่เห็นหน้าทำไมหัวใจมันร้อนรนอยู่ไม่ได้ต้องอยากเห็นหน้าตลอด หรือจะเป็นแบบที่โบราณว่าไม่เห็นหน้าเห็นหลังคาก็ยังดี
บอม กิตติภพ เลิศธนาธีรกานต์
เดือนคณะแพทย์ หน้าตาหล่อละมุน พิมพ์เกาหลีนิยม ลูกชายคนเล็กของที่บ้านพ่อแม่หวงมาก ที่บ้านทำไร่ชาและรีสอร์ต
ไอ้คนบ้า ไอ้คนมักมาก เราไม่น่าไปรักคนอย่างนายเลย
พ่อจ๋าแม่จ๋าลูกขอโทษแทนที่ลูกจะหาสะใภ้เขาบ้านแต่กลับได้ลูกเขยแทน
โน้ต วรงกรณ์ โชติกุลวัฒนา
เดือนคณะวิศวะ และเดือนมหาวิทยาลัย หล่อทรงแบด ลูกคนกลางมีแฝดน้องเป็นผู้หญิง ที่บ้านทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
โพเมียอย่างนาย เป็นผัวใครเขาไม่ได้หรอก นอกจากเป็นเมีย และต้องเป็นเมียวรงกรณ์เท่านั้น
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็จะทำเหมือนเดิม ขืนใจเอานายมาเป็นเมีย
“โน้ต จับราวเหล็กไว้แน่นๆ ก่อนนะ ยืนทรงตัวให้ได้ก่อนนะมองตรงมาทางบอม เวียนหัวไหม ถ้าไม่เวียนหัว ทีนี้โน้ตก็ค่อยๆ ก้าวมาหาบอมนะ นั่นแหละครับ ค่อยๆ ก้าวมาช้าๆ ทีละก้าว ดีครับดี มาครับ เก่งครับ”
เสียงหวานๆ ของกิตติภพกระตุ้นให้กำลังใจเพื่อที่จะให้ขายาวๆ ของวรงกรณ์ค่อยๆ ก้าวเดินมาหาตัวเองในห้องฝึกทำกายภาพ วรงกรณ์เป็นคนที่ฟื้นตัวเร็วมาก ขยันทำกายภาพเพราะมีกำลังใจที่ดีทั้งจากที่บ้านเองแด็ดดี้มามี้ยังอยู่กับเขาที่เชียงใหม่ไม่กลับกรุงเทพเลยและก็มาช่วยเขาทำกายภาพทุกวัน ที่สำคัญที่สุดก็เป็นร่างบางของบอมบอมกับร่างเล็กๆ ของน้องบูมนั่นเองที่เป็นกำลังใจชั้นดีที่ทำให้คุณพ่ออย่างเขาอยากจะรีบหายปกติโดยเร็วที่สุดเพราะอยากที่จะได้อุ้มได้พาลูกน้อยไปเที่ยวแล้ว
เป็นเวลาอีกเกือบสองอาทิตย์ที่วรงกรณ์ต้องทำกายภาพอยู่ในโรงพยาบาล ทุกๆ วันกิตติภพก็มาเฝ้ามาคอยช่วยเขาทำกายภาพจนวรงกรณ์รู้สึกได้ว่ากล้ามเนื้อเขามีแรงดีขึ้นสามารถใช้งานเดินเหินได้ดีเป็นปกติ วันนี้เป็นวันที่คุณหมออนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลแต่คนที่ไม่อยากออกกลับเป็นผู้ป่วยเสียเอง ด้วยเขากลัวว่าถ้าออกจากโรงพยาบาลแล้วเขาจะต้องกลับไปอยู่บ้านที่กรุงเทพจะไม่ได้อยู่กับลูกกับเมียอีก เพราะช่วงที่นอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลลูกกับเมียเขาก็อยู่ที่นี่เพิ่งจะกลับไปอยู่ที่บ้านเมื่อวันก่อนเพราะบอมบอมของเขาบอกว่ามีธุระสำคัญที่ต้องทำ พอจะได้ออกจากโรงพยาบาลร่างสูงจึงค่อนข้างที่จะงอแงเมื่อมีแค่แด็ดดี้กับมามี้มารับออกจากโรงพยาบาล เขาอยากที่จะรอบอมบอมกับลูกทำธุระเสร็จก่อนเพื่อที่จะมารับเขาออกจากโรงพยาบาลด้วยกัน
“นะครับมามี้ โน้ตยังไม่หายดีเลยขอโน้ตอยู่โรงพยาบาลต่อได้ไหมครับ” คนลูกออดอ้อนพ่อกับแม่ แต่ทว่าก็ไม่ได้ผล
“ไม่ได้หรอกลูก มามี้ว่าโน้ตหายดีแล้วนะ แผลก็แห้งสนิทหมดแล้ว แขนขาก็แรงดีเดินได้เองเป็นปกติแล้วเนี่ย กลับบ้านดีกว่าลูกมีสิ่งดีๆ รอเราอยู่” นวพรรษพยายามเกลี้ยกล่อมคนงอแง
“แต่โน้ตว่าโน้ตยังไม่ค่อยมีแรงเท่าไร แล้วอีกอย่างเวลากลืนข้าวก็คอยแต่จะสำลัก ตอนนี้ก็รู้สึกปวดหัวด้วยครับมามี้ เพื่อความชัวร์ให้โน้ตอยู่ต่อให้หายดีกว่านี้ดีกว่านะครับ บอกคุณหมอให้โน้ตหน่อยครับแด็ดดี้” เมื่ออ้อนมามี้ไม่ได้ คนที่โดนอ้วนคนต่อไปก็คือแด็ดดี้ เวทานนท์ถอนหายใจออกมายาว หมั่นไส้ในความเจ้าเล่ห์ของลูก ไม่รู้ว่าได้ใครมา
“คือจะอยู่ให้ได้ใช่ไหมครับ แด็ดดี้จะได้ไปแจ้งคุณหมอให้ว่าลูกชายแด็ดดี้ยังป่วยอยู่ยังไม่ต้องให้ออกจากโรงพยาบาล” เวทานนท์ถามลูกชายเพื่อความแน่ใจว่าอีกคนยังต้องการที่จะป่วยการเมืองต่อเพื่อที่จะได้นอนพักที่โรงพยาบาลในสถานะผู้ป่วยต่อไป
“อยู่ต่อครับแด็ดดี้ ขอบคุณนะครับที่เข้าใจ ลูกรักแด็ดดี้ที่สุดเลย” เมื่อได้ตามที่ต้องการเด็กโข่งก็กอดเอวผู้เป็นพ่ออย่างออเซาะจนน่าหมั่นไส้ก่อนที่จะเอาหน้าถูไถไหล่หนาของแด็ดดี้ พลางเงยหน้าทำตาปริบๆ มองผู้เป็นพ่อจนเวทานนท์อยากจะเอามะเหงกประเคนใส่หน้าผากลูกชายสักครั้ง
“แน่ใจนะว่าจะอยู่ต่อ พอแด็ดดี้ทำเรื่องให้อยู่เสร็จแล้ว แด็ดดี้กับมามี้ขอตัวทำธุระต่อแป๊บนึงนะ วันนี้โน้ตอยู่คนเดียวไปก่อนนะลูก”
“ใจร้ายจังกล้าปล่อยลูกที่ป่วยไว้คนเดียว ธุระอะไรจะสำคัญกว่าลูกเหรอครับแด็ดดี้” ลูกชายแกล้งทำหน้าเง้างอนผู้เป็นพ่อ
“ก็พอดีว่าพ่อเลี้ยงธนาเค้าจัดงานแต่งงานให้ลูกชายคนเล็กของเค้า เค้าเลยเชิญไปร่วมงานแต่งของหนูบอมน่ะ” พอได้ยินที่แด็ดดี้บอกคนอยากป่วยถึงกับหูผึ่งตาโต หันขวับมามองแด็ดดี้ใหม่ทันที ก่อนที่จะละล่ำละลักถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้งเพราะกลัวว่าสิ่งที่ตัวเองได้ยินนั้นมันผิดเพี้ยน
“งะ งานแต่งงานใคร ใครแต่งงานนะครับแด็ดดี้”
“งานแต่งงานลูกชายคนเล็กของพ่อเลี้ยงธนา หนูบอมบอมไง หนูบอมเค้าจะแต่งงานกับใครสักคนนี่แหละ เพราะลูกชายแด็ดดี้ไม่หายเสียที เค้าเลยต้องแต่งกับคนที่จะดูแลเค้ากับลูกได้”
เวทานนท์ยังคงพูดนิ่งๆ เหมือนพูดเรื่องดินฟ้าอากาศไม่ได้สำคัญอะไร เหมือนคนที่จะแต่งงานนั้นเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่คนที่ลูกชายรัก แต่ในใจยังอยากจะขยี้ลูกชายท่ามากต่อ ไอ้เจ้าลูกชายเอ้ยต่อให้เจ้าเล่ห์แค่ไหน ก็ยังไม่ถึงครึ่งของแด็ดดี้หรอกนะลูก หึ หึ
“แด็ดดี้ มามี้ครับโน้ตหายเป็นปกติแล้วครับ บอกคุณหมอด้วยครับโน้ตจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้ และเดี๋ยวนี้เลย”
“หายดีแล้วเหรอลูก ไม่ปวดหัวแล้วเหรอครับ ออกไปแล้วจะไม่สำลักเวลาทานข้าวเหรอลูก มันอันตรายนะ แด็ดดี้ว่านอนโรงพยาบาลอีกสักอาทิตย์ก็ดีเหมือนกันนะ” คนพ่อยังขยี้ต่อ
“แง้ แด็ดดี้ใจร้ายกับลูก” คนลูกโอดครวญทันทีที่โดนแด็ดดี้แกล้ง
และนั่นเองที่ทำให้วรงกรณ์ได้มาอยู่ที่บ้านใหญ่ของพ่อเลี้ยงธนากับแม่เลี้ยงกานดาในเวลานี้ ถึงแม้จะไม่ได้มีงานแต่งของบอมบอมเหมือนอย่างที่แด็ดดี้พูดบอกตัวเอง แต่มันก็ทำให้วรงกรณ์เป็นสุขใจเพราะว่า มันเป็นงานหมั้นของเขากับกิตติภพนั่นเอง สรุปเขาโดนทุกคนแกงแต่เป็นการแกงที่เขาชอบและถูกใจเขามาก
“เอาเป็นว่าตอนนี้ พ่อจะให้ทั้งสองเพียงแค่หมั้นกันไว้ก่อนได้ไหม เรียนจบกันเมื่อไหร่ก็ค่อยมาจัดงานแต่งงานกัน หรือท่านเจ้าสัวเห็นควรว่ายังไงครับ” พ่อเลี้ยงธนาหันไปถามเชิงปรึกษากับทางผู้ใหญ่ของว่าที่ลูกเขยอย่างเกรงใจ
“ไอ้ผมน่ะไม่มีปัญหาอะไรหรอก ที่จริงแล้วก็อยากจะจัดงานแต่งให้ยิ่งใหญ่เลยก็ได้ทางฝั่งผมพร้อมเสมอ แต่ถ้าว่าถ้าทางฝั่งพ่อเลี้ยงสะดวกแบบนั้นทางผมก็โอเคครับ”
เจ้าสัวเวทินที่เป็นผู้ใหญ่ของทางฝั่งวรงกรณ์ยอมรับเงื่อนไขของทางพ่อเลี้ยงธนา เพราะแค่ทางนี้ยอมรับหลานชายของเขาเป็นลูกเขยง่ายๆ ก็ดีแค่ไหนแล้ว ถ้าไม่ได้มีเรื่องอุบัติเหตุนี้เกิดขึ้นเส้นทางรักของหลานชายน่าจะยากกว่านี้อยู่
“งั้นก็เอาตามนั้นแหละนะครับส่วนหลังจากนี้ตาโน้ตจะอยู่ที่บ้านผมก็ได้นะครับ ไหนๆ ก็ปีนี้พากันดรอปเรียนกันทั้งสองคนแล้วก็พากันช่วยกันเลี้ยงน้องบูมเลย หรือว่าโน้ตว่าไงลูก”
พ่อเลี้ยงธนาเปิดไฟเขียวให้ว่าที่ลูกเขยเพราะเขาเพิ่งรับรู้มาจากทางบ้านของวรงกรณ์ว่าลูกเขยของเขานั้นออกตามหาลูกชายเขาพอรู้ว่าอยู่เชียงใหม่ถึงขั้นขอท่ีบ้านพักเรื่องการเรียนไว้ก่อนและมาปลอมตัวเป็นคนสวนเดินหน้าของ้อน้องบอมลูกชายของเขาทำให้พ่อเลี้ยงได้เห็นถึงความพยายามของวรงกรณ์ ไหนจะเหตุการณ์อุบัติเหตุครั้งนี้จึงไฟเขียวง่าย เพราะเห็นคนที่เสียใจที่สุดเห็นจะเป็นเจ้าลูกชายเขานั่นเอง
“ถ้าคุณพ่อไม่ว่าอะไรโน้ตขออนุญาตอยู่กับบอมกับลูกนะครับ โน้ตสามารถช่วยงานคุณพ่อได้นะครับ ส่วนงานของแด็ดดี้โน้ตช่วยทางออนไลน์ได้ครับ” ร่างสูงตอบเอาใจทั้งพ่อตาและพ่อตัวเอง
“งั้นก็เขาตามนั้นล่ะนะลูก แต่ยังไงก็พากันพาหลานไปเยี่ยมปู่ที่โน่นด้วยนะ เชิญพ่อเลี้ยงกับแม่เลี้ยงนะ พี่บลูกับหนูโบว์ด้วยนะลูกว่างๆ ก็ไปเที่ยวเยี่ยมปู่กับแด็ดดี้มามี้ได้บ้านเราต้อนรับเสมอ” เจ้าสัวเวทินเชิญทุกคนไปเที่ยวเยี่ยมเยือนกันที่บ้านกรุงเทพ
หลังจากที่ผ่านงานหมั้นไปอีกสามวันต่อมาหลังจากที่ใช้เวลากับหลานน้อยน้องบูมครอบครัวโชติกุลวัฒนาก็กลับไปกรุงเทพ เหลือไว้แค่วรงกรณ์ที่มาใช้ชีวิตอยู่กับบอมบอมของเขาและลูกที่นี่ เขาได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเจ้าของบ้านทั้งสองท่านที่ยอมรับเขาในฐานะว่าที่ลูกเขย จะมีก็แต่โจทย์เก่าอย่างกิตติภูมิไอ้หน้าหล่อพี่เมียที่เคยมีเรื่องกันมา ถึงพี่ชายคนโตอย่างพี่บลูจะไม่แสดงออกมาชัดเจนว่าไม่ชอบน้องเขยสักเท่าไหร่ แต่ก็คอยหวงก้างน้องชายอยู่จนดูเหมือนเด็กโข่งสองคนแย่งน้องกัน ส่วนน้องบูมหลานชายที่ตอนนี้เริ่มจ้ำม้ำนั้นพี่บลูติดยังกับลูกตัวเอง จนให้หลานเรียกตัวเองว่าป๊าบลูเหมือนกันเพราะไม่ยอมน้อยหน้าป๊าโน้ต ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายถึงได้แต่ขำเด็กโข่งสองคนที่แย่งกันเหมือนเด็ก
“น้องบูมครับ คิดถึงป๊าบลูไหมครับ อยู่แต่กับเด็กแก่แดดลูกแหง่ ทำงานหนักไม่เป็นแบบนี้แย่เลยนะครับ” คนเป็นลุงทักทายหลานรักหลังจากที่กลับมาจากเรียน พอเห็นหลานอยู่กับน้องบอมและน้องเขย เขาเลยอดเหน็บลูกคนรวยอย่างน้องเขยไม่ได้
“น้องบูมบอกลุงบลูซิลูกว่าหนูมีความสุขมาก ที่เป็นลูกป๊าโน้ต เพราะป๊ารวยมากไม่ต้องใช้แรงงานแลกเงิน แต่ยังไงป๊าเป็นลูกเขยชาวสวนชาวไร่ทั้งที ป๊าก็ทำงานสวนเป็นไม่น้อยหน้าลูกชาวสวนจริงๆ ตอนนี้น้องบูมกับม๊าบอมมีกุหลาบสวยๆ ในเรือนกุหลาบเยอะเลย เนาะลูก” น้องเขยไม่ยอมใช้ลูกเป็นทางผ่านอวดผลงานของตัวเองให้พี่เมียได้รู้
“ถ้าเก่งจริงก็เพาะกุหลาบปลูกขายไว้เป็นค่านมน้องบูมเลยดีไหม พอป๊ากับม๊าไม่อยู่จะได้มีเงินซื้อนม กล้ารับคำถ้าไหม ไอ้น้องเขย” พี่เมียอย่างพี่บลูท้าทายทันที น้องเขยยอมที่ไหนล่ะเขามีเวลาตั้งหลายเดือนกว่าจะเปิดเทอมต่อปีสองที่พากันดรอปเรียนไว้ นอกจากเลี้ยงลูกกับช่วยงานแด็ดดี้ทางออนไลน์แล้วเด็กวิศวะอย่างเขาก็ขยายพันธุ์กุหลาบเก่งมากต้องขอบคุณคุณปู่อย่างเจ้าสัวเวทินที่ชอบชวนเขาไปหมกตัวอยู่ในเรือนกุหลาบที่คฤหาสน์เพื่อปลูกกุหลาบพันธุ์หอมๆ พันธุ์หายากไว้ให้ยาย่าทำน้ำหอมอยู่บ่อยๆ
“สบายมากพี่เมีย เตรียมตัวพาหลานเอาเงินจากการขายกุหลาบไปซื้อแพมเพิสซื้อนมหน่อยนะครับเผื่อป๊ากับม๊าน้องบูมไม่ว่างมัวแต่ไปสวีทกัน”
“โอ๊ยยยย พอเลยทั้งคู่โน้ต พี่บลู กัดกันอยู่ได้ บอมจะงอนแล้วนะ เห็นหน้ากันไม่ได้เลย” กิตติภพหมั่นไส้สองคนนี้เจอกันทีไรกัดกันขิงกันทุกที
“หยอกเล่นหรอกน่าที่รัก โน้ตยังเคารพพี่บลูพี่เมียเหมือนเดิม”
“บอมบอมอย่างอนพี่ซิ พี่แค่แหย่ไอ้น้องเขยเฉยๆ ปกติก็รักกันดีเหมือนเดิม เน๊าะโน้ต ป่ะพี่ว่าไปกินเหล้าเชื่อมสัมพันธ์กันเถอะไอ้น้องเขย ถ้าใครเมาก่อนคนนั้นแพ้” พี่บลูพยายามแก้ต่าง แต่พี่บลูก็ยังเป็นพี่บลูที่ยังหาเรื่องแกล้งน้องเขยอยู่ดี