ร้านชาของคุณนายเมิ่งยินดีต้อนรับ ทางร้านมีชาหลากหลายให้ท่านได้ลิ้มลอง กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่จะทำให้ท่านรื่นรมย์จนลืมหายใจ แต่อย่าดื่มมากไปล่ะ ไม่อย่างนั้น ท่านอาจจะกลายเป็นผู้ที่ไร้ลมหายใจไปเสียเอง

โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 1 - ตอนที่ 5 หญิงสาวชุดแดง โดย Kevinth M. PoTae @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,แฟนตาซี,ชาย-ชาย,จีน,ยุคปัจจุบัน,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 1

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,แฟนตาซี,ชาย-ชาย,จีน,ยุคปัจจุบัน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 1 โดย Kevinth M. PoTae @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ร้านชาของคุณนายเมิ่งยินดีต้อนรับ ทางร้านมีชาหลากหลายให้ท่านได้ลิ้มลอง กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่จะทำให้ท่านรื่นรมย์จนลืมหายใจ แต่อย่าดื่มมากไปล่ะ ไม่อย่างนั้น ท่านอาจจะกลายเป็นผู้ที่ไร้ลมหายใจไปเสียเอง

ผู้แต่ง

Kevinth M. PoTae

เรื่องย่อ

อธิบาย/เรื่องย่อ

นามปากกา : Kevinth M. PoTae

วาดปก (เล่ม 1) : strawberriblood

...

.

หลี่อี้ เข้าเรียนปีหนึ่งในมหาวิทยาลัยเล็ก ๆ ในเฉิงตู แล้วได้เจอกับร้านชาลึกลับติดกับป่าช้า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหอพักของตน

ร้านแห่งนี้จะเปิดหลังเที่ยงคืน แต่กลับขายดีมาก เพราะมีนักเที่ยวกลางคืนมานั่งกินกันมากมายจนดูครึกครื้น แต่ในทุกคืนวันขึ้น 4 ค่ำนั้น จะเป็นวันที่ประตูผีเปิดออก เพื่อเปิดโอกาสให้วิญญาณที่รับโทษแล้วได้กลับขึ้นมาเกิด นั่นจึงทำให้มีวิญญาณที่ไม่ประสงค์ดีเล็ดลอดออกมาได้

ทำให้หลังจากวันนั้น หลี่อี้ก็จะถูกวิญญาณร้าย และพบเห็นร่างไร้วิญญาณอยู่เรื่อย ๆ หลี่อี้จึงพาตัวเองไปทำงานพิเศษที่นั่นเพื่อตามหาความจริง แล้วได้พบว่า ต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดก็คือ คุณนายเมิ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน ที่เป็นคนทำเรื่องราวทั้งหมดนี้…

นิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน ดังนั้นตัวละคร/สถานที่/เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเรื่อง จึงถูกสมมุติขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ทุกคำพูด ทุกตัวละครไม่มีอยู่จริง…โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน…

ฝากเป็นกำลังใจให้นักเขียนด้วยการกดไลก์ คอมเมนต์ และกดเข้าชั้นหนังสือด้วยนะครับ

 

ฝากช่องทางการติดต่อไว้ด้วยนะครับ^^

Threads : mungkorn_kevinth

Twitter : Kevinth_M

Tiktok : kevinth_m.author

Facebook : kevinthm.author

 

สารบัญ

โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 1-ตอนที่ 1 งานพิเศษ,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 1-ตอนที่ 2 ร้านธรรมดาที่มีความไม่ธรรมดา,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 1-ตอนที่ 3 หวังซู,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 1-ตอนที่ 4 ดาราที่ทู่เอ๋อชื่นชอบ,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 1-ตอนที่ 5 หญิงสาวชุดแดง,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 1-ตอนที่ 6 ความน่ากลัวเหนือขอบประตู,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 1-ตอนที่ 7 ทู่เอ๋อเสิน…เทพแห่ง LGBTQ,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 1-ตอนที่ 8 เสี่ยวมู่จื่อ,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 1-ตอนที่ 9 วิญญาณลักพาตัว,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 1-ตอนที่ 10 หวังปว๋อและเป่าเหลียน,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 1-ตอนที่ 11 ดวงตาพิเศษ,โรงน้ำชาคุณนายเมิ่งหลังเที่ยงคืน เล่ม 1-ตอนที่ 12 เพื่อนรักแต่วัยเยาว์ (จบเล่ม 1)

เนื้อหา

ตอนที่ 5 หญิงสาวชุดแดง

ตอนที่ 5

หญิงสาวชุดแดง

 

“กล้องวงจรปิดงั้นเหรอ มันอยู่ตรงไหนกันนะ ถ้าทู่เกอสามารถเห็นเราจากตรงนั้นได้ กล้องมันก็ควรจะอยู่แถว ๆ นี้ไม่ใช่หรือไง…”

หลี่อี้พยายามเดินวนอยู่ตรงบริเวณหน้าร้านหลายต่อหลายครั้ง แหงนหน้าขึ้นไปก็ยังไม่เห็นว่าตรงไหนจะมีกล้องวงจรปิด ไม่มีแม้แต่ร่องรอยหากว่าพี่ทู่เอ๋อจะถอดออก ‘หรือว่าจะเป็นแบบฝังเอาไว้ในผนังกันนะ’

“กลับเถอะน่า วันนี้มีเรียนตอนเช้า ตอนนี้ก็ห้าโมงเย็นแล้ว ฉันอยากกลับไปนอนเต็มทีแล้วนะ”

“นายก็กลับไปนอนก่อนสิ ฉันอยู่คนเดียวได้น่า ไม่เห็นว่าจะต้องตามมาแบบนี้เลยนี่นา”

หลี่อี้รีบออกตัวให้หวังซูกลับบ้านไปก่อน เพราะเมื่อหลี่อี้ดูสีหน้าของหวังซูแล้ว เขาก็รับรู้ได้ทันทีว่าเพื่อนสนิทของตัวเองนั้นดูเหนื่อยอ่อนเต็มที

“จะไม่ให้ฉันตามนายได้ยังไงกันล่ะ ก็ฉันเป็นห่วงนายนี่นา อีกอย่างวันนี้มันไม่ใช่วันธรรมดานะ กับสถานที่แบบนี้เวลานี้นายไม่ควรอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ”

“นายหมายความว่าอะไรฉันเห็นนายพูดแปลก ๆ ตั้งแต่ก่อนที่เราทั้งสองจะมาถึงที่นี่กันแล้วนะ ตกลงว่านายรู้อะไรมากันแน่ทำไมนายถึงไม่รีบบอกฉันล่ะ”

“ก็ถ้าฉันบอกนาย นายจะเชื่อฉันหรือเปล่าล่ะ?”

“นายก็ลองบอกฉันมาก่อนสิเชื่อไม่เชื่อเดี๋ยวก็ว่ากันอีกที หรือว่ามันเกี่ยวอะไรกับเรื่องลี้ลับกันแน่ นายถึงไม่กล้าพูด?”

หลี่อี้พูดติดตลก หากแต่หวังซูนั้นกลับมีสีหน้าที่ดูเป็นกังวลอย่างจริงจัง

“เอาน่า ตกลงที่นายบอกว่าวันนี้มันไม่ใช่วันธรรมดา ตกลงว่ามันเป็นวันอะไรกันแน่?”

“ก็วันนี้คือวันขึ้น 4 ค่ำ มันเป็นวันที่ประตูผีจะเปิด ฉันถึงบอกไงว่านายไม่เหมาะกับที่นี่หรอก โดยเฉพาะเวลานี้”

หลี่อี้ทำหน้าเบ้ด้วยความไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่หวังซูพูด แล้วเพียงครู่หนึ่งก็หลุดหัวเราะออกมาจนเกือบเสียงดัง หลี่อี้รีบเอามือทั้งสองอุดปากของตัวเองเอาไว้ เพราะเกรงว่าหากเสียงหัวเราะนี้ดังออกไป หากมีใครอยู่ในร้านเวลานี้ คนที่อยู่ในร้านอาจจะได้ยินเอาก็ได้

“นี่นายพูดอะไรกันนายกำลังอำฉันเล่นเหรอ?”

“ฉันคิดว่านายจะรู้เรื่องพวกนี้อยู่แล้วเสียอีก ที่นายสงสัยจนมาหาความจริงถึงที่นี่ ไม่ใช่เพราะเรื่องแบบนี้หรอกเหรอ อีกอย่าง…ถึงที่นี่จะเป็นที่ทำงานของนาย แต่ในเวลาแบบนี้ กับท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ แบบนี้ฉันว่ามันไม่ดีเอาซะเลยนะ”

“นายคิดมากเกินไปแล้ว มันไม่เป็นไรหรอกน่าเชื่อฉันสิ เดี๋ยวถ้าฉันโดนจับได้ ฉันก็แค่บอกไปว่าลืมของแค่นั้นแหละ ส่วนเรื่องลี้ลับที่นายพึ่งจะแต่งขึ้นมาอำฉันนั่นน่ะ ฉันก็คงเชื่ออยู่หรอกนะ แต่ฉันก็มีนายอยู่เป็นเพื่อนอีกอย่างตอนนี้ฟ้าก็ยังไม่มืดเสียหน่อยนายจะต้องกลัวอะไรกัน”

ทั้งสองคนโต้ตอบกันไปมา…โดยไม่ทันได้สังเกตเลยว่ามีใครบางคนกำลังจ้องมองทั้งสองอยู่

“สวัสดี เธอกำลังหาอะไรอยู่อย่างนั้นเหรอ?”

ทั้งสองคนหันไปมองตามเสียงนั้น หญิงสาวในชุดสีแดงเพลิง ลิปสติกสีแดงสดเข้ากับเสื้อผ้าที่สวมใส่ ผิวขาวราวกับหิมะและสีผมดำขลับนั้นกำลังจ้องมองกลับมาด้วยสายตาประหลาดจนน่าขนลุก

“สวัสดีครับ ผมทำงานอยู่ที่นี่ คุณเป็นใครหรือครับทำไมถึงเข้ามาอยู่ตรงนี้ได้?”

“ฉันเหรอ ฉันก็เป็นลูกค้าของที่นี่น่ะสิ แต่น่าแปลก ที่ฉันมาเจอเธอที่นี่ในวันแบบนี้ ฉันคิดว่าวันนี้ร้านปิดเสียอีก…”

คำพูดนั้นมันทำให้หลี่อี้รู้สึกประหลาดใจขึ้นมา ก็ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าที่นี่ร้านปิด แล้วทำไมหญิงสาวคนนี้ถึงได้เข้ามาในร้านได้กันล่ะ ‘นี่ถ้าทู่เกอมาเห็นเข้าเราก็จะได้ซวยไปด้วยน่ะสิ อุตส่าห์แอบเข้ามาเงียบ ๆ แล้วแท้ ๆ’

.

.

“หลี่อี้ ฉันว่าเราออกไปจากที่นี่กันเถอะ…”

“ทำไมล่ะ นายเป็นอะไรหรือเปล่า แล้วลูกค้าคนนี้ล่ะ เขาอาจจะหลงทางอยู่ก็ได้นะ”

“ฉันว่าตอนนี้นายอย่าเพิ่งไปสนใจคนอื่นเลย รีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเถอะ…” หวังซูพยายามกระซิบด้วยคำพูดที่หนักแน่น และสีหน้าที่ดูออกว่าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด

“เดี๋ยวสิ พวกเธอจะรีบไปไหนกันล่ะ เราเพิ่งจะได้เจอกันเองนะ อีกอย่างฉันก็ไม่ได้หลงทางด้วย ฉันจงใจผ่านมาทางนี้ เพราะเธอน่ะ”

หญิงสาวท่าทางกรีดกรายเดินเยื้องย่างเข้าหาหลี่อี้ราวกับจะยั่วยวน แววตาที่สวยจนสะกดสายตานั้นทำเอาหลี่อี้หลงเคลิ้มไปชั่วครู่จนลืมระวังตัว เพราะหลี่อี้ไม่รู้เลยสักนิดว่าตอนนี้ภัยกำลังจะถึงตัวอยู่แล้ว

“ฉันเห็นเธอกำลังก้ม ๆ เงย ๆ ฉันก็เลยเดินเข้ามาเผื่อว่าฉันจะช่วยอะไรเธอได้ยังไงล่ะ”

“นี่ผมว่า…เราจะใกล้กันเกินไปแล้วนะครับ”

หลี่อี้ประคองสติรีบถอยตัวเองไปอีกทาง ถึงแม้เธอจะดูสวยมาก แต่หลี่อี้ก็ไม่ใช่ผู้ชายที่ชอบฉวยโอกาสแบบนั้นเสียหน่อย ‘แย่แล้วกำแพง…ทางตัน’ และใช่…หลี่อี้หลบไปผิดทาง

แทนที่หลี่อี้จะไปอีกทางเพื่อเดินไปที่ประตูนั่นและกลับเข้าไปในร้านเพื่อออกทางประตูหน้า แต่กลับพาตัวเองมาติดอยู่ตรงซอกกำแพง ซึ่งทางเดียวที่จะรอดคือปีนขึ้นไปเท่านั้น ‘แต่กำแพงสูงตั้งสองเมตรขนาดนี้ จะออกไปยังไงกันล่ะ…’

.

.

“ผมว่าคุณถอยออกไปให้ห่างจากเพื่อนของผมจะดีกว่า…”

หวังซูเมื่อเห็นว่าหลี่อี้หมดหนทางจะหนีได้แล้วจึงรีบเข้าไปขวางหญิงสาวชุดแดงนั้นเอาไว้

“ฮิ ฮิ ถือตัวเสียด้วย เธอรู้มั้ย ว่าฉันน่ะไม่ว่าจะอยู่ใกล้ผู้ชายคนไหน ต่างก็หลงใหลฉันกันทั้งนั้น ถึงฉันจะไม่งดงามเท่าพี่ต๋าจี แต่ก็สามารถทำให้เธอมีความสุขได้นะ”

“ผมว่าอย่าดีกว่าครับ เราต่างคนต่างอยู่กันเถอะ…”

“ต่างคนต่างอยู่งั้นเหรอ น่าแปลก ที่คนอย่างเธอมาอยู่กับเจ้าหนุ่มนี่ได้ ฮ่า ๆ ๆ น่าแปลกเสียจริง”

หญิงสาวชุดแดงพูดจบก็ยังคงทำท่ายั่วยวนใส่หลี่อี้ พลางใช้นิ้วมือสวยบีบหน้าของชายหนุ่มเอาไว้จนแน่น มือเรียวสวยนั้นมันช่างมีพลังจนเกินกว่าจะเป็นเพียงมือของหญิงสาวทั่วไป จนถึงตอนนี้ หลี่อี้ก็เริ่มสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของหญิงสาวตรงหน้า ราวกับว่านี่คือสิ่งที่หลี่อี้กำลังตามหาอยู่อย่างไรอย่างนั้น

“มองตาฉันสิ ตาฉันไม่สวยหรือไง”

“หลี่อี้ปิดตาซะ!!!…”

เสียงพูดเสียงดังจากเพื่อนรักของตนทำเอาหลี่อี้ตกใจจนถึงขีดและรีบหลับตาปี๋ลงทันทีเมื่อสิ้นเสียงพูดนั้น เพราะรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดูมีบางอย่างที่ไม่ปกติ และพยายามแทรกตัวหนีไปให้ได้…แต่ว่า…

“ฉันบอกว่าให้มองตาของฉันไง!!!”

เสียงตวาดนั้นทำหลี่อี้ตกใจสะดุ้งโหยงอีกครั้งจนเผลอลืมตา หญิงสาวที่สะสวยเมื่อครู่ ตอนนี้ดวงตาแดงก่ำ ในตาขาวเต็มไปด้วยเส้นเลือดแดงฉานมากมายวิ่งไปเป็นทาง

“ว้ากกกกกกกกก…”

ฝ่ามือเรียวสวยที่ดูไม่ใหญ่มาก แต่กลับมีพละกำลังราวกับท่อนเหล็กกำลังบีบคอของหลี่อี้อยู่ จนเริ่มที่จะหายใจไม่ออก เรื่องส่งเสียงร้องเพื่อขอความช่วยเหลือจากคนในร้านนั้นอย่าได้หวัง

และสิ่งที่เห็นตอนนี้คือแม้แต่หวังซูเองก็โดนหญิงสาวท่าทางน่ากลัวนี้บีบคอและยืดออกไปจนสุดแขนอยู่เช่นกัน ทันใดนั้น…สายตาของหลี่อี้ก็ทอดมองไปด้านหลัง เห็นหางของจิ้งจอกงอกออกมาจากร่างของหญิงสาวที่กำลังพันธนาการร่างของทั้งสองเอาไว้อยู่

‘น…นี่มันเรื่องอะไรกัน…’ ปัง!!!

เสียงดังสะเทือนเลือนลั่นไปทั่วทั้งบริเวณ หลี่อี้หลุดออกมาจากอุ้งมือนั้นอย่างฉิวเฉียดก่อนจะสิ้นลมหายใจไปจริง ๆ ความตกใจและรอยบาดเจ็บที่คอมันทำให้หลี่อี้ไร้เรี่ยวแรงอย่างสุดกำลังจนทรุดตัวลงไปที่พื้น และพยายามอย่างสุดแรงเพื่อสูดลมหายใจเข้าไปให้เต็มปอด

เมื่อเริ่มมีสติ หลี่อี้จึงหันไปมองว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้ สิ่งที่เห็นคือผู้ชายในชุดสีดำแดงอย่างชุดจีนโบราณกำลังต่อสู้กับหญิงสาวคนนั้นอย่างดุเดือด หลี่อี้พยายามจ้องมองคนที่คาดว่าน่าจะมาช่วยเหลือทั้งสอง แต่กลับไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย

เพราะส่วนใบหน้าของผู้ชายคนนั้นเต็มไปด้วยควันสีดำครอบคลุมจนไม่เห็นอะไร ทั้งส่วนหัวยังมีฮู๊ดสวมเอาไว้ยิ่งยากกว่าเดิมที่จะรู้ว่าคนที่กำลังต่อสู้นั้นหน้าตาเป็นยังไง

“หลี้อี้!!!”

หางตาของหลี่อี้เห็นทู่เกอและหลิงเซียงวิ่งเข้ามาหาด้วยสีหน้าตกใจ แต่กลับได้ยินแค่เพียงเสียงก้องดังเข้ามาในหัว ตาของหลี่อี้เริ่มปิดลงทีละน้อยจนแทบไม่เห็นอะไร ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดดำลงไปในที่สุด…

“หวังซู หวังซูล่ะ หวังซูอยู่ที่ไหน…” นั่นคือคำพูดสุดท้ายก่อนที่หลี่อี้จะแน่นิ่งและสิ้นสติไป…

.

.