นี้คือเรื่องราวการผจญภัยแฃะเอาชีวิตรอดในโลกที่เปลี่ยนไป มาดูกันว่าสิ่งต่างๆจะเปลี่ยนไปแค่ไหนกันเถอะ

CHESS:พลิกกระดานเทพ - ตอนที่ 12.3 โพชั่นชำระล้าง โดย TKFD @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,แอคชั่น,ผจญภัย,ชาย-หญิง,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

CHESS:พลิกกระดานเทพ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,แอคชั่น,ผจญภัย,ชาย-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี

รายละเอียด

CHESS:พลิกกระดานเทพ โดย TKFD @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

นี้คือเรื่องราวการผจญภัยแฃะเอาชีวิตรอดในโลกที่เปลี่ยนไป มาดูกันว่าสิ่งต่างๆจะเปลี่ยนไปแค่ไหนกันเถอะ

ผู้แต่ง

TKFD

เรื่องย่อ

ถ้าเกิดอยู่ๆ วันหนึ่งโลกที่พวกเราอาศัยอยู่มีมอนสเตอร์มาบุกพร้อมกับมีสิ่งประหลาดมากมายเกิดขึ้นมา เป็นคุณจะทำอย่างไร นี้คือบันทึกการเอาชีวิตรอด ของ ทาคุมะ อากิ ตัวละครหลักในเรื่องทีต้องเอาชีวิตรอดให้ได้

สารบัญ

CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 0 ปฐมบท,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 1 ระบบ,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 2.1 อลิสและระบบเพิ่มเติม,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 2.2 การอัพเดทที่ 01.01 และ การสำรวจ,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 2.3 ดาบและกลับที่พัก,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 3.1 พิธีกรรม?,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 3.2 บทเรียนราคาแพง,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 3.3 RIP เตียง,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 4.1 สหาย?,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 4.2 การจากลา?และการอัพเดทที่ 01.02,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 4.3 สำรวจหลังการอัพเดต,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 5.1 ไข้หวัด,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 5.2 ตัวกรับแดง,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 5.3 จุดจบ?,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 6.1 เรื่องราวนะอีกฟากฝั่ง,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 6.2 ถึงที่หมาย,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 6.3 บีบหัวใจ,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 6.3.1 ราชาที่ไม่อาจเอ่ยนาม,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 7.1 ปลอมแปลงและหลอกลวง,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 7.2 รางวัลที่ไม่อาจปฏิเสธ,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 7.3 2 เดือนต่อมา...,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 8.1 ช่วยเหลือ,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 8.2 กลับถึงห้องพัก,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 8.3 เข้าร่วมปาร์ตี้,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 8.3.1 เป้าหมายต่อไป,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 9.1 ผุ!!!,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 9.2 กับดัก,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 9.3 ล้มเหลว,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 6.1.1 เรื่องราวนะอีกฟากฝั่ง,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 8.1.1 ช่วยเหลือและพักผ่อน,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 10.1 ติดเชื่อ,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 10.2 234 กิโลเมตร,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 10.3 คำของ่ายๆ,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 11.1 สัญชาตญาณผู้หญิง,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 11.1.1 เพื่อนใหม่?,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 11.2 แลกเปลี่ยนเรื่องราว,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 11.3 สถานการณ์อีกด้าน,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 11.3.1 อาการแย่ลงและความต่างของเวลา,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 12.1 อันซงและหลีกวน,CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 12.2 ก็อบบลายท์(Gobblight),CHESS:พลิกกระดานเทพ-ตอนที่ 12.3 โพชั่นชำระล้าง

เนื้อหา

ตอนที่ 12.3 โพชั่นชำระล้าง

    เอริน่าที่เห็นเมิ่งซินทำหน้าเครียดแบบนั้นก็ยิ้มบางๆ ก่อนจะพูดขึ้นมาอย่างใจเย็น


 


    ^เอริน่า:เจ้าไม่ต้องทำหน้าเครียดแบบนั้นก็ได้^


 


    เมิ่งซินหันมามองเธอเล็กน้อย สีหน้าของเธอยังคงหม่นหมอง


 


    'เมิ่งซิน:จะให้ไม่เครียดได้ไง... ทางรอดที่คิดไว้ก็หายไปแล้วนี่นา'


 


    จิมมี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ เหลือบมองเอริน่า และเอริน่าก็พยักหน้านิดๆ เหมือนทั้งคู่ตกลงกันเงียบๆ โดยไม่ต้องพูดอะไร


 


    จากนั้นเอริน่าก็ยกมือทั้งสองขึ้นมาประกบกันอย่างช้าๆ เหมือนจะตั้งท่าใช้เวท เมิ่งซินขมวดคิ้วมองอย่างสงสัย แต่ก็ยังไม่ทันได้ถามอะไร


 


    ก่อนที่เธอจะทันสังเกต... จิมมี่ก็ มุดตัวเข้าไประหว่างมือของเอริน่า อย่างคล่องแคล่วจนดูเหมือนหายวับไป


 


    แล้วเอริน่าก็ยื่นมือทั้งสองที่ยังประกบกันมาตรงหน้าเมิ่งซิน


 


    เมิ่งซินสะดุ้งนิดๆ ก่อนจะพูดด้วยเสียงสั่นเล็กน้อย


 


    "เมิ่งซิน:ทะ-ทำอะไรเนี่ย?"


 


    ^เอริน่า:ก็นำสิ่งที่จะแก้ปัญหาให้เพื่อนเจ้ามาให้น่ะ^


 


    คำตอบนั้นทำให้เมิ่งซินเบิกตากว้าง


 


    "เมิ่งซิน:มันคืออะไร!?"


 


    เอริน่ายิ้ม ก่อนจะคลายมือออกอย่างช้าๆ — แสงเวทมนต์สีอ่อนๆ ละอองฟรุ้งฟริ้งลอยออกมาเบาๆ และจิมมี่ก็โผล่หน้าขึ้นมาจากฝ่ามือพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์


 


    "จิมมี่:ทาดา~!!"


 


    เมิ่งซินที่เห็นแบบนั้นก็ทำหน้างุนงงปนตกใจนิดๆ สายตาของเธอสลับมองไปมาระหว่างมือของเอริน่ากับจิมมี่ที่เพิ่งโผล่มาอย่างงงๆ


 


    เอริน่าจึงยิ้มนิดๆ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสบายๆ


 


    ^เอริน่า:เจ้าอาจจะไม่รู้... แต่จิมมี่น่ะ มีความสามารถในการเล่นแร่แปรธาตุถึงระดับ 7 เลยนะ เพราะงั้นการช่วยเพื่อนเจ้ามันง่ายมากเลยล่ะ^


 


    "เมิ่งซิน:เล่นแร่แปรธาตุ...?"


 


    "จิมมี่:ที่โลกเจ้ามันไม่มีศาสตร์พวกนี้เลยเหรอ?"


 


    เมิ่งซินส่ายหน้าช้าๆ สีหน้ายังเต็มไปด้วยความสงสัย


 


     "จิมมี่:งั้นข้าจะอธิบายให้เองละกัน!"


 


    จิมมี่ยืดอก พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังผิดกับบุคลิกขี้เล่นเมื่อครู่


 


  "จิมมี่:ศาสตร์แห่งการแปรธาตุนั้น มีหลักการอยู่ 4 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ นิเกโด, อัลเบโด, ซิททริเนทัส และรูเบโด


     นิเกโด คือการทำลายตัวตนเก่า มันเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง ขั้นตอนนี้เราจะต้องแยกและทำลายสิ่งเดิม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง


    อัลเบโด เป็นขั้นตอนแห่งการชำระล้าง เราจะเริ่มรวบรวมองค์ประกอบที่บริสุทธิ์เข้าด้วยกันอีกครั้ง


    ซิททริเนทัส คือการตระหนักรู้ เป็นช่วงที่เราสังเกตและเข้าใจผลลัพธ์จากสิ่งที่เราทำ มันคือแสงแห่งปัญญาที่เริ่มฉายมา


    และสุดท้าย... รูเบโด คือความสมบูรณ์ เป็นการหลอมรวมทุกอย่างให้กลายเป็นหนึ่งเดียว ขั้นตอนสุดท้ายของการแปรธาตุอย่างแท้จริง"


 


    เมิ่งซินที่ฟังอยู่ก็ค่อยๆ พยักหน้า สีหน้าเปลี่ยนจากความงงมาเป็นครุ่นคิด


 


    'เมิ่งซิน:ว่าง่ายๆ... แยก ผสม สังเกต แล้วก็รวมสินะ ฟังดูเหมือนง่าย แต่พอเอาเข้าจริงก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ๆ...'


 


    จิมมี่ที่สังเกตเห็นว่าเธอเริ่มเข้าใจ ก็ยิ้มแล้วถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน


 


    "จิมมี่:พอเข้าใจไหมขอรับ?"


 


    "เมิ่งซิน:ถ้าตามที่ฉันเข้าใจ... มันคือการแยก ผสม สังเกต แล้วก็รวม ใช่ไหม?"


 


    "จิมมี่:ถูกต้องเลยขอรับ! แต่ในการปฏิบัติน่ะ มันซับซ้อนกว่าที่คิดเยอะเลยนะ


    แยก ไม่ใช่แค่ทุบ บด หรือสับอย่างเดียว บางทีก็ต้องตาก ต้ม เผา หรือใช้เวทมนต์แยกส่วน


    ผสม ก็ต้องคำนึงถึงปริมาณ ความเข้ากัน และช่วงเวลาในการผสม


    ส่วน สังเกต เราต้องบันทึกผลอย่างละเอียด อาจจะต้องลองผิดลองถูกหลายรอบ


    และสุดท้าย... รวม เราต้องนำสิ่งที่ได้จากทุกขั้นตอนมารวมให้กลายเป็นผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ที่สุดขอรับ"


 


    จิมมี่พูดพลางยิ้ม ภายใต้ท่าทีร่าเริงนั้นแฝงด้วยความจริงจัง


 


    เมิ่งซินพยักหน้าอย่างเข้าใจกับคำอธิบายที่เรียบง่ายของเขา ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้


 


    'เมิ่งซิน:พอเขาอธิบายแบบนี้แล้วเข้าใจได้ง่ายขึ้นเยอะเลย... แต่ระดับ 7 ที่พูดถึงก่อนหน้านี้มันคืออะไรกันแน่นะ... ฉันคงต้องถามดู'


 


    "เมิ่งซิน:แล้วระดับ 7 ที่พูดถึงก่อนหน้านี้... มันคืออะไรเหรอ?"


 


    เอริน่าหันมายิ้มบางๆ ก่อนจะอธิบายอย่างใจเย็น


 


  ^เอริน่า:มันเป็นระดับที่ใช้บอกถึงความสามารถของนักเล่นแร่แปรธาตุน่ะ โดยทั่วไปจะมีทั้งหมด 10 ระดับด้วยกัน


    ระดับที่หนึ่ง — แค่แปรหินเป็นทราย หรือทำโพชั่นระดับต่ำมากได้


    ระดับที่สอง — ทำโพชั่นระดับต่ำได้


     ระดับที่สาม — แปรหินเป็นทราย แปรทรายกลับเป็นหิน ทำโพชั่นระดับต่ำ-กลางได้


    ระดับสี่ — เริ่มแปรทรายเป็นกระจก หรือเปลี่ยนหินให้เป็นดินได้ ทำโพชั่นระดับกลางได้


    ระดับห้า — สามารถแปรถ่านเป็นตะกั่ว และทำโพชั่นระดับกลาง-สูงได้


    ระดับหก — แปรของแข็งให้กลายเป็นของเหลวได้ ทำโพชั่นระดับสูงได้


    ระดับเจ็ด — ขั้นนี้แปรตะกั่วเป็นทองได้ ทำโพชั่นระดับสูงและสมบูรณ์แบบได้


    ระดับแปด — สร้างสิ่งมีชีวิตเวทมนตร์ได้ ทำโพชั่นสมบูรณ์แบบระดับสูงสุดได้


    ระดับเก้า — สร้างร่างกายของสิ่งมีชีวิตได้ ทำโพชั่นฟื้นชีวิตได้


     ระดับสิบ... — สร้างสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาได้ และทำโพชั่นได้ทุกอย่างเลยล่ะ^


 


    เมิ่งซินที่ฟังอยู่ถึงกับเบิกตากว้าง สีหน้าดูไม่อยากเชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะเป็นไปได้ แต่ในใจก็มีบางอย่างกระซิบว่า... มันจริงแน่นอน เพราะเอริน่าเป็นคนพูดเอง


 


     'เมิ่งซิน:อะไรเนี่ย... เล่นแร่แปรธาตุถึงขั้นชุบชีวิตหรือสร้างสิ่งมีชีวิตได้เลยงั้นเหรอ... นี่มันออกจะเกินจินตนาการไปแล้ว...'


 


    เอริน่าหัวเราะเบาๆ ก่อนจะพูดเสริม


 


    ^เอริน่า:แต่ระดับแปดน่ะ... หาตัวคนที่ทำได้จริงๆ ยากมากเลยนะ ส่วนระดับเก้ากับสิบ... นับนิ้วได้เลยว่ามีกี่คน หรือ... กี่ตน^


 


    เมิ่งซินนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะหันไปมองจิมมี่ด้วยแววตาเปี่ยมความหวัง และเอ่ยถามออกไปตรงๆ


 


    "เมิ่งซิน:จิมมี่... นายทำโพชั่นชำระล้างให้ได้ไหม?"


 


    จิมมี่บินลงที่โต๊ะ ก่อนจะเดินกลับไปกลับมาด้วยสีหน้าครุ่นคิด ราวกับกำลังตัดสินใจเรื่องสำคัญ


 


    "จิมมี่:อืม..."


 


     เมิ่งซินมองเขาไม่วางตา ดวงตาเต็มไปด้วยความหวัง เธอรู้สึกได้ว่าคำตอบของเขาจะสามารถช่วยอากิได้


 


    ในขณะเดียวกัน จิมมี่เริ่มพูดกับเอริน่าผ่านเทเลพาธีอย่างรวดเร็ว


 


    ;"จิมมี่:ทำอย่างไรดีครับ ท่านเอริน่า... เราควรช่วยเธอดีไหม?";


 


    ;^เอริน่า:ข้ายังไงก็ได้ แต่เจ้า... ลืมไปหรือเปล่าเรื่องของผู้ดูแล? ถ้าเธอไม่อนุญาต เราก็ทำอะไรไม่ได้^;


 


    ;"จิมมี่:ใช่ แต่ว่า... เราจะรู้ได้ยังไงล่ะว่าผู้ดูแลไม่อนุญาต?";


 


    ;^เอริน่า:... งั้นเจ้าก็ปรุงขึ้นมา แล้วให้เธอลองจับดู ถ้าผู้ดูแลไม่อนุญาต เธอก็จะจับไม่ได้เองนั้นแหละ^;


 


    ;"จิมมี่:ก็จริง... แล้วค่าตอบแทนล่ะขอรับ?";


 


    ;^เอริน่า:เจ้าลืมแล้วรึ? เรารับมาแล้วนี่^;


 


    ;"จิมมี่:ก็จริงของท่าน...";


 


    หลังจากเงียบไปสักพัก จิมมี่หยุดเดิน หันมามองเมิ่งซินตรงๆ ดวงตาเขาดูแน่วแน่กว่าก่อนหน้านี้


 


    "จิมมี่:แน่นอน ข้าจะช่วย"


 


    เมิ่งซินเบิกตากว้างด้วยความดีใจ


 


    "เมิ่งซิน:ขอบคุณ... ขอบคุณจริงๆ!"


 


    เธอพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ แต่ในขณะที่เธอกำลังจะกล่าวขอบคุณอีกครั้ง จิมมี่กลับนิ่งไป


 


    เธอชะงัก


 


    "เมิ่งซิน:...มะ-มีอะไรเหรอ? ทำไมเงียบไปแบบนั้น?"


 


    จิมมี่ยังไม่ตอบ แต่แววตาของเขาดูอึดอัด เมิ่งซินเริ่มรู้สึกถึงบางอย่างที่เธอไม่เข้าใจ ก่อนที่เอริน่าจะพูดขึ้นมาแทน


 


    ^เอริน่า:เราทั้งสองอยากช่วยเจ้าแน่นอน แต่มีบางสิ่งที่ข้าบอกเจ้าไม่ได้... หากเขาไม่อนุญาต เราก็ทำอะไรไม่ได้^


 


    "เมิ่งซิน:หมายความว่ายังไง? แล้ว 'เขา' ที่ว่า คือใคร?"


 


    ^เอริน่า:ข้า... ไม่สามารถบอกเจ้าได้ มันอันตรายเกินไปสำหรับตัวเจ้า หากรู้มากกว่านี้^


 


    น้ำเสียงของเอริน่าเปลี่ยนไป เต็มไปด้วยความห่วงใย และมันก็ทำให้เมิ่งซินหยุดถาม เธอนั่งลงเงียบๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลที่ควบคุมไม่อยู่


 


    จิมมี่มองเธอสักพัก ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงปลอบโยน


 


    "จิมมี่:อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ เราไม่ได้บอกว่าจะช่วยไม่ได้เสียหน่อย แค่... อาจจะไม่ได้ แล้วจะไม่ลองพยายามหน่อยเหรอ?"


 


    "เมิ่งซิน:แล้ว... ฉันต้องทำอะไร?"


 


    "จิมมี่:สิ่งที่เจ้าต้องทำน่ะ ไม่ยากเลย จริงๆ มันง่ายมากด้วยซ้ำ"


 


    "เมิ่งซิน:ง่ายเหรอ...? ทำอะไรล่ะ?"


 


    "จิมมี่:งั้น... ขอข้าเวลาสักครู่ รออยู่ตรงนี้นะ"


 


    พูดจบ จิมมี่ก็บินจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เมิ่งซินงงอยู่ที่เดิมด้วยใจที่ยังสับสน


 


    ^เอริน่า:เจ้ารออย่างใจเย็นเถอะ เมื่อจิมมี่กลับมา เราจะได้รู้กันว่า... เราสามารถช่วยเจ้าได้หรือไม่^


 


    เมิ่งซินเงยหน้าขึ้นมองเอริน่า เธอพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะหลุบตามองต่ำ กำมือแน่นพยายามกดความกังวลไม่ให้ปะทุขึ้นมาอีก


 


        เวลาผ่านไป 45 นาที...


 


    เสียงลมหายใจของเธอหนักขึ้นนิดหน่อยขณะนั่งรออย่างเงียบงัน และในที่สุดจิมมี่ก็บินกลับเข้ามา พร้อมถาดแบนลอยตามหลังมาอย่างมั่นคง ถาดนั้นค่อยๆ ลอยมาหยุดตรงหน้าเธอ


 


    บนถาดมีขวดแก้วทรงกลมเรียงกันอยู่ 3 ขวด


    ขวดขวาสุดมีของเหลวสีขาวขุ่นคล้ายหมอกจางๆ ลอยอยู่ภายในขวด


    ขวดด้านซ้ายบรรจุน้ำใสสะอาดเหมือนน้ำเปล่า


    ส่วนขวดตรงกลางมีน้ำที่ใสราวกับแก้ว ส่องแสงแผ่วเบาออกมาจากภายในราวกับมีแสงจันทร์ขังอยู่ในขวด


 


    "จิมมี่:โพชั่นสามขวดนี้คือโพชั่นชำระล้าง


    ขวดด้านขวานั้นคือระดับต่ำ


    ขวดซ้ายคือระดับกลาง


    ส่วนตรงกลางคือระดับสูง


    เจ้าต้องจับดู ถ้าจับได้ขวดไหน ก็เอาขวดนั้นไป"


  


    'เมิ่งซิน:พูดแบบนั้น... หมายความว่ายังไง? ขวดก็อยู่ตรงหน้า พูดเหมือนกับฉันจะจับมันไม่ได้?'


 


    เมิ่งซินได้แต่คิดในใจอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะยื่นมือไปแตะที่ขวดด้านขวา


 


    แต่...


 


   มือของเธอกลับทะลุผ่านขวดไปอย่างไร้น้ำหนัก ราวกับขวดนั้นเป็นเพียงภาพลวงตา


 


    "เมิ่งซิน:ห่ะ...?"


 


    เธอชะงักงัน ก่อนจะพยายามจับขวดอีกครั้ง... และอีกครั้ง... แต่มือของเธอก็ยังทะลุผ่านมันเหมือนเดิมทุกครั้ง


 


    "เมิ่งซิน:นี่มันอะไรกัน…"


 


    เมิ่งซินพึมพำอย่างไม่เข้าใจ หันไปมองจิมมี่กับเอริน่าด้วยแววตาเต็มไปด้วยความสับสน


 


    "จิมมี่:นั่นแหละคือเหตุผล ถึงเราจะอยากช่วยเจ้าแค่ไหน แต่ถ้าเขาไม่อนุญาต... เราก็ทำอะไรไม่ได้"


 


  "เมิ่งซิน:ไม่จริง... ไม่จริงน่า...!"


 


    เมิ่งซินคำรามเบาๆ ขณะมองขวดยาที่อยู่ตรงหน้าแต่เอื้อมไม่ถึง


 


    "เมิ่งซิน:มันอยู่ตรงหน้าแท้ๆ แล้วทำไมฉันจับมันไม่ได้... ทำไม! ทำไมกันล่ะ! ทำไม!!!"


 


    คำพูดระเบิดออกมาพร้อมหยดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ความเจ็บใจถาโถมใส่หัวใจของเธออย่างรุนแรง ความหวังที่เคยสว่างกลับกลายเป็นภาพหลอกหลอน


 


    เอริน่าลุกจากเก้าอี้เงียบๆ เดินมาหาเธออย่างนุ่มนวล ก่อนจะนั่งย่อลงตรงหน้าแล้วโอบเธอเข้ามากอด เมิ่งซินสะอื้นและกอดเธอกลับราวกับเกาะเสี้ยวความอบอุ่นสุดท้ายที่เธอเหลืออยู่


 


    ทั้งสองกอดกันเงียบๆ จนเมิ่งซินเริ่มสงบลง


 


    ^เอริน่า:เจ้ารู้สึกดีขึ้นบ้างหรือยัง...^


 


    เมิ่งซินพยักหน้าช้าๆ น้ำตายังเกาะอยู่ที่ขอบตา


 


    ^เอริน่า:อย่าเพิ่งสิ้นหวังขนาดนั้นสิ ลองดูที่ถาดนั้นก่อน ยังมีอีกสองขวดไม่ใช่เหรอ... เจ้ายังไม่ได้ลองไขว่คว้ามันเลย ลองดูเถอะนะ^


 


    เมิ่งซินหันไปมองขวดที่เหลือด้วยความหวังริบหรี่ ก่อนจะค่อยๆ ยื่นมือไปยังขวดทางซ้าย ทว่า...


 


    มือของเธอกลับทะลุผ่านมันไปเหมือนขวดแรก


 


    'เมิ่งซิน:ฉันจับมันไม่ได้อีกแล้ว... เหลือแค่โอกาสเดียว ขอให้มันได้ทีเถอะ...'


 


    เมิ่งซินกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือไปยังขวดสุดท้ายที่อยู่ตรงกลาง


 


    แต่แล้ว—ความคิดหนึ่งก็แล่นวาบเข้ามาในหัวของเธอ


 


    'เมิ่งซิน:ฉันจับขวดนี้ได้จริงๆ ใช่ไหม... ถ้าได้ อากิต้องรอดแน่นอน แต่ถ้าไม่ได้... เขาต้องตายแน่ๆ แบบนั้นมันก็แปลว่าเขาตายเพราะฉัน... ฉันจะรับผลลัพธ์นั้นได้ไหม'


 


    มือของเธอค้างอยู่อย่างนั้น—กลางอากาศ ความกลัว ความลังเล และความกดดันไหลบ่าเข้ามาในใจของเธอราวกับพายุโหมกระหน่ำ


 


    เธอกำลังกลัวจริงๆ... กลัวที่จะรู้คำตอบ


 


    แล้วเสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นข้างหลัง


 


    "จิมมี่:ทำไมเจ้าไม่จับขวดสุดท้ายล่ะ"


 


    "เมิ่งซิน:…"


 


    "จิมมี่:เจ้ากลัวผลลัพธ์ใช่ไหม... กลัวว่าถ้าจับไม่ได้ เพื่อนเจ้าจะตาย"


 


    "เมิ่งซิน:…"


 


    "จิมมี่:งั้นข้าจะพูดอะไรให้ฟัง...


    ถ้าเจ้าจับขวดนี้ได้ เพื่อนเจ้าก็จะรอด


    ถ้าจับไม่ได้ เขาก็อาจจะตาย


    แต่ว่าถ้าเจ้าไม่แม้แต่จะลอง… เขาจะต้องตายแน่นอน


    และเมื่อถึงวันนั้น เจ้าจะโทษตัวเองไปตลอด ว่าทำไมวันนั้นถึงไม่พยายาม


    เจ้าจะจมอยู่กับคำถามนั้นทั้งชีวิต ว่า ถ้าลองจับล่ะ... มันจะต่างไหม


    แต่ถ้าเจ้ากล้าที่จะยื่นมือออกไป แม้จะไม่สำเร็จ อย่างน้อยเจ้าก็ได้พยายามเต็มที่แล้ว


    เจ้าจะได้ไม่ต้องเสียใจที่ไม่ลอง ดังนั้น... เพื่ออนาคตของเจ้าเอง เจ้ายังจะไม่ลองจริงๆ หรือ?"


 


    เมิ่งซินที่ได้ยินคำพูดนั้นก็นิ่งไป ดวงตาที่เต็มไปด้วยความลังเลกลับแปรเปลี่ยนเป็นแน่วแน่


 


    'เมิ่งซิน:ที่เขาพูดมาก็ถูก... ฉันก็แค่ต้องจับขวดนี้ และยอมรับผลลัพธ์ที่จะตามมา แค่นั้นเอง'


 


    เธอสูดหายใจเข้าลึก หลับตาลง ยื่นมือไปข้างหน้าอย่างช้าๆ มือที่ยังสั่นเล็กน้อยกำลังก้าวข้ามความกลัว


 


    เธอเพ่งสมาธิทั้งหมดไปที่ปลายนิ้ว...และในจังหวะนั้น เธอก็รู้สึกถึง "บางอย่าง"


 


  สัมผัสนั้น—สัมผัสของพื้นผิวเย็นๆ แข็งๆ เธอลืมตาพรวดขึ้น


 


    "เมิ่งซิน:!"


 


    มือของเธอรีบคว้าสิ่งนั้นเอาไว้แน่น เธอเบิ่งตามองอย่างไม่เชื่อสายตา เธอจับขวดได้จริงๆ!


 


    !"เมิ่งซิน:ฉะ—ฉันจับมันได้!! ฉันจับมันได้จริงๆ!! จิมมี่ ดูสิ!! ฉันจับมันได้ เย้~~"!


 


    "จิมมี่:ยินดีด้วยครับ"


 


    ^เอริน่า:ยินดีด้วยนะ^


 


    เมิ่งซินยืนยิ้มกว้าง น้ำตาคลอเบ้าแต่ครั้งนี้ไม่ใช่เพราะความกลัว... แต่เป็นเพราะความดีใจสุดหัวใจ


 


    ในขณะที่เมิ่งซินกำลังดีใจอยู่นั้น เอริน่าก็ใช้โทรจิตสื่อสารกับจิมมี่อย่างเงียบๆ


 


    ;^เอริน่า:แปลว่า... คนที่เมิ่งซินอยากช่วย ผู้ดูแลคงให้ความสนใจแน่ๆ^;


 


    ;"จิมมี่:ก็จริงขอรับ... แถมคงจับตามองอย่างใกล้ชิดด้วย เพราะแค่กับก็อบบลายท์แบบนั้น ไม่น่าต้องใช้โพชั่ระดับสูงแบบนี้";


 


    ;^เอริน่า:ถ้าเป็นแบบนั้น เราควรส่งเมิ่งซินกลับไปเร็วที่สุด... เพื่อให้เธอได้ไปช่วยเพื่อนคนนั้น^;


 


    ;"จิมมี่:เป็นความคิดที่ดีครับ การช่วยคนที่ 'ผู้ดูแล' ให้ความสนใจ ไม่ใช่เรื่องเสียหายแน่นอน";


 


    หลังจากบทสนทนาเงียบลง เอริน่าก็เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง


 


    ^เอริน่า:เมิ่งซิน^


 


    เสียงนั้นเรียบและหนักแน่นพอจะทำให้เมิ่งซินหันมามองทันที


 


    "เมิ่งซิน:มีอะไรงั้นเหรอ?"


 


    ^เอริน่า:ข้าว่า... ในเมื่อเจ้าได้โพชั่นสำหรับรักษาสหายของเจ้าแล้ว เจ้าก็ควรรีบกลับไปเถอะ ข้าคิดว่าเขาคงอาการไม่ดีเท่าไหร่นัก^


 


    เมิ่งซินชะงักไปเล็กน้อย ดวงตาที่มองกลับเต็มไปด้วยความลังเล แม้ในตอนแรกเธอจะอยากออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด แต่หลังจากได้ใช้เวลาหลายวันอยู่กับเอริน่าและจิมมี่ หัวใจของเธอกลับรู้สึก “แปลกๆ” กับการต้องจากลา


 


    ทั้งสองดูออกทันทีว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังสับสน พวกเขาจึงเดินเข้ามาใกล้ และพูดกับเธอด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน


 


    "จิมมี่:ตั้งแต่ข้าได้พบกับท่าน ข้าก็สนุกมากเลยครับ ไว้เจอกันใหม่นะ แล้วข้าจะรอดูซีรีส์ต่อ แต่ตอนนี้—ท่านควรรีบไปช่วยสหายก่อน"


 


    ^เอริน่า:ส่วนข้าเองก็รู้สึกดีมากเช่นกัน ที่ได้เห็นสิ่งใหม่ๆ ผ่านดวงตาของเจ้า... แต่—งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลาล่ะ เจ้าควรรีบกลับไปเถิด^


 


    เมิ่งซินเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะยิ้มขึ้นอย่างจริงใจ นี้เป็นรอยยิ้มที่บริสุทธิ์ที่สุด นับตั้งแต่เธอก้าวเข้ามาในสถานที่แห่งนี้


 


    "เมิ่งซิน:ขอบคุณนะ... สำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา ตั้งแต่มาที่นี่ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึก... ปลอดภัยที่สุด ขอบคุณที่ดูแลกันมาตลอดหลายวัน แต่ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าจะได้เจอพวกคุณอีกไหม เพราะไม่รู้ว่าจะเจอประตูนั้นอีกเมื่อไหร่"


 


    เอริน่าไม่ตอบอะไร เพียงแค่ยิ้มบาง ก่อนจะยื่นมือมาจับมือเมิ่งซิน แล้วเขียนอักษรบางอย่างลงบนนั้น ᛞᛟᛟᚱ อักษรโบราณสว่างขึ้นชั่วขณะ แล้วค่อยๆ เลือนหายไป... เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


 


    ^เอริน่า:นี่คืออักษรรูนพิเศษ ถ้ามีประตูที่นำกลับมาที่นี่ใกล้ตัวเจ้า อักษรนี้จะสว่างขึ้นอีกครั้ง ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเราจะได้พบกันอีกไหม แต่ถ้าได้พบกันอีก... หวังว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันนานกว่านี้^


 


    "เมิ่งซิน:คิดเหมือนกันเลย..."


 


    เมิ่งซินยกแขนขึ้น แบกว้างออกเล็กน้อยคล้ายขออ้อมกอด ทั้งเอริน่าและจิมมี่ก็ไม่ลังเล เดินเข้าไปกอดลาอย่างอบอุ่น


 


    "เมิ่งซิน:ไว้เจอกันใหม่นะ"


 


    "จิมมี่:ไว้เจอกันใหม่ขอรับ"


 


    ^เอริน่า:เช่นกัน... ไว้เจอกันใหม่^


 


    หลังจากนั้น เอริน่าก็สั่นกระดิ่งในมือเบาๆ


 


    "กริ่งๆ... กริ่งๆ..."


 


    เสียงนั้นสะท้อนในห้องสมุดก่อนที่ชั้นหนังสือจะเริ่มเคลื่อนที่ พวกมันจัดตัวเรียงเป็นเส้นทางหนึ่งตรงไปยัง ‘ทางออก’


 


    เมิ่งซินเดินตามทางนั้นช้าๆ ก่อนจะหยุดแล้วหันกลับไปมองทั้งสองคนอีกครั้ง ราวกับต้องการจดจำช่วงเวลานี้ไว้ให้ชัดที่สุด


    เธอไม่พูดอะไรอีก... แค่ยิ้ม แล้วหันหลังเดินจากไป


 


    "จิมมี่:หวังว่าเธอจะกลับมาเร็วๆ นี้นะ ไม่งั้น... ข้าคงเหงาแน่ๆ"


 


    ^เอริน่า:ถ้าเป็นแบบนั้น ทำไมไม่ตามไปดูเธอล่ะ?^


 


    "จิมมี่:ข้าจะทำแบบนั้นได้ยังไงกัน! เว้นแต่จะร่ายคาถาสอดแนมไว้ด้วยอักษรรูน..."


 


    ^เอริน่า:...^


  


    "จิมมี่:อย่าบอกนะว่า... ท่านทำไปแล้ว!?"


 


    ^เอริน่า:อาหะ^


 


    "จิมมี่:ตอนไหนล่ะนั่น!"


 


    ^เอริน่า:ตอนกอดลาไง^


 


    "จิมมี่:เฮ้อ... ท่านนี่รู้ใจข้าจริงๆ ไปดูกันเถอะ!"


 


    ทั้งสองหันไปที่ลูกแก้วคริสตัล และฉายภาพของเมิ่งซินกำลังเดินจากไปอย่างไม่รู้ตัว... ปรากฏชัด


 


    "เมิ่งซิน:เอ๊ะ... รู้สึกเหมือนมีคนแอบมองอยู่เลยแฮะ"


 


    เมิ่งซินก้าวเดินต่อช้าๆ สายตากวาดมองไปรอบทางเดินที่ไร้เสียง ไร้เงา...จนกระทั่งถึงสุดทาง


 


    ตรงหน้าคือประตูบานเดิม—ประตูที่เคยไม่ยอมเปิดให้เธอไม่ว่าเธอจะพยายามยังไง


 


    แต่ครั้งนี้...


 


    มันเปิดออกอย่างง่ายดาย ราวกับกำลังรอเธออยู่


 


    เมิ่งซินหยุดยืนมองมันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะขยับร่างกายเดินไปข้างหน้าโดยไม่ลังเล เธอก้าวผ่านประตูบานนั้นไป


 


    ทันทีที่ข้ามผ่าน เธอก็พบว่าตัวเองกลับมาอยู่ที่เดิม—บริเวณหน้าประตูก่อนเข้ามา


 


   เธอรีบหันกลับไป


 


    ...แต่ไม่มีประตูอีกแล้ว


 


    มีเพียงกำแพงที่ทำมาจากดินเหนียวและเย็ยเชียบพร้อมกับความเงียบงัน


 


    เมิ่งซินจ้องอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนถอนหายใจเบาๆ


 


   'เมิ่งซิน:แค่ประตูหายไป...ไม่เห็นจะน่าตกใจเท่าสิ่งที่ฉันเจอข้างในนั่นเลย'


 


    เธอหันกลับไปข้างหน้าอีกครั้ง ดวงตาเริ่มกลับมามีแววมั่นใจ


 


    "เมิ่งซิน:เอาล่ะ! กลับกันเถอะ"  


 


    "เมิ่งซิน:เปิดใช้งานฉายานักวิ่ง เปิดใช้งานสกิลเร่งความเร็ว เร่งความเร็ว 2 เท่า เพิ่มมูฟเมนต์ เพิ่มการตอบสนอง แล้วก็ ควบคุมลมหายใจ!"


 


    ทันทีที่คำสั่งถูกเอ่ยจบ ร่างของเมิ่งซินก็พุ่งทะยานออกไปด้วยความเร็ว


 


    เส้นทางที่เธอเคยใช้ผ่านมาก่อนถูกเหยียบซ้ำอย่างรวดเร็ว แรงลมแหวกผ่านสองข้างตัว เธอรู้สึกว่าทุกอย่างกำลังจะจบลงด้วยดี


 


    ...จนกระทั่ง


 


    !!!"โฮ้ง! โฮ้ง! โฮ้ง!"!!!


 


    เสียงเห่าดังไล่หลังมาเป็นจังหวะชัดเจน


 


    'เมิ่งซิน:เสียงเห่า? โคลโบลละมั้ง วิ่งไปเรื่อยๆเดี๋ยวมันก็เลิกตามเองแหละ'


 


    เมิ่งซินยังคงไม่สนใจ เธอรู้ดีว่าเสียงพวกนี้มักจะตามมาเป็นแค่ช่วงสั้นๆก่อนถอดใจ


 


    แต่แล้ว...เสียงนั้นยังคงดังตามมาไม่ขาดสาย แถมใกล้เข้ามาเรื่อยๆ


 


    ...มันเร็วกว่าที่เธอจำได้จากโคลโบลธรรมดา


 


    ความรู้สึกบางอย่างทำให้เธอขมวดคิ้ว


 


   'เมิ่งซิน:แปลก...เสียงฝีเท้ามันหนักกว่าโคลโบลนะ...?'


 


    ในที่สุดเธอก็หันกลับไปมอง


 


    "เมิ่งซิน:! เดี๋ยวนะ...นั่นไม่ใช่โคลโบลนิ!?"  


 


    "เมิ่งซิน:นั่นมันหมาป่า?! ที่นี่มีหมาป่าด้วยเหรอ!"


 


    สายตาเธอมองเห็นชัด—หมาป่าขนสีเทา 4 ตัว กำลังวิ่งตรงเข้ามาหาเธอด้วยความเร็วอย่างกับติดบัฟ


 


    ฟันแหลม น้ำลายย้อย และดวงตาเปล่งแสงสีเหลือง แหลมคม... พวกมันไม่ได้วิ่งเล่น พวกมัน "ล่า"  


 


    'เมิ่งซิน:ถ้ายังวิ่งหนีไปเรื่อยๆแบบนี้ มีหวังโดนพวกมันไล่ทันแน่... ฉันต้องหันกลับไปสู้'  


 


    เธอชะลอฝีเท้าลงเล็กน้อยก่อนจะหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับภัยที่กำลังไล่ตาม มือขวาคว้ากริชที่ชโลมพิษไว้แน่น — ปลายคมสะท้อนแสงวูบหนึ่งราวกับประกาศศึก  


 


    หมาป่าตัวหน้าไม่ได้ชะลอความเร็วแม้แต่น้อย มันกระโจนอ้าปากกว้าง เผยเขี้ยวเปื้อนน้ำลายตรงมายังเธอ  


 


    เมิ่งซินย่อตัวต่ำ มือซ้ายเสยเข้าคางมันเต็มแรง —


 


    *ผัวะ!*  


 


    ร่างของมันสะบัดหน้าหงาย ก่อนที่เธอจะไม่รอช้า กริชในมือขวาแทงสวนขึ้นตรงใต้ท้องอย่างแม่นยำ  


 


    *ฉัวะ!*  


 


    ร่างของมันชะงักไป ก่อนจะถูกเมิ่งซินืทีบกลับไปด้านหลังทันที  


ร่างของมันกลิ้งลงไปกับพื้น ก่อนจะดิ้นพล่าน  


 


    "หมาป่า:เอ็ง! เอ็ง!"  


 


    มันร้องด้วยเสียงแหบต่ำ เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ส่วนหมาป่าอีกสองตัวทั่ตามก็วิ่งผ่านมันไปโดยไม่สนใจ ราวกับมันไม่เคยอยู่ตรงนั้น  


 


    เมิ่งซินเบี่ยงตัวหลบตัวแรกได้อย่างง่ายดายด้วยความเร็วของเธอ ก่อนจะคว้าคอของตัวถัดไปด้วยมือซ้ายและ *ฟาด* มันลงกับพื้นด้วยแรงเหวี่ยง  


 


    เธอหันกลับไปอย่างไว — เจ้าตัวที่เธอหลบไว้ก่อนหน้านั้นยังอยู่ และหันมาเผชิญหน้ากับเธอ  


 


    แต่แล้ว... หมาป่าตัวสุดท้ายก็ตามมา มันตัวเล็กที่สุดในกลุ่ม และที่สำคัญ — มันไม่ได้แสดงท่าทีจะโจมตีเลย  


 


    เมิ่งซินเหลือบตามองก่อนจะลดความระวังลงเล็กน้อย แต่ไม่ละสายตาจากพวกมัน เจ้าหมาป่าตัวนั้นจ้องเธอกลับมาเช่นกัน  


 


    ทั้งคู่ค่อยๆ เคลื่อนไหว วนรอบกันอย่างระวัง เมิ่งซินเดินไปทางซ้าย เจ้าหมาป่าเดินไปทางขวา ทั้งคู่ไม่ยอมให้หลังเปิด


 


    เมื่อสลับตำแหน่งกันได้ เจ้าหมาป่าก็ส่งเสียงขู่ต่ำ  


 


    "หมาป่า:กรร~!!"  


 


    เมิ่งซินตั้งท่าอย่างระมัดระวังอีกครั้ง แต่เจ้าหมาป่ากลับไม่ขยับเข้ามา มันขู่... แค่ขู่  


 


    'เมิ่งซิน:มันเอาแต่ขู่ แต่ไม่โจมตีเลย... หรือว่า—'  


 


    เธอค่อยๆ ถอยหลังออกมา  


หมาป่าก็ลดเสียงขู่ลงทันที  


 


    เมิ่งซินเข้าใจในทันที  


 


    'เมิ่งซิน:มันขู่ไล่... แสดงว่ามันไม่คิดจะตามแน่ ถ้าอย่างนั้น—'  


 


    เธอค่อยๆ ถอยออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ พอเห็นว่าพวกมันยังอยู่ที่เดิม เธอก็หันหลังกลับและออกตัววิ่งทันที  


 


    เมื่อหันกลับมามอง พวกมันก็ยังไม่ขยับตาม  


 


    "เมิ่งซิน:ฟู่ว~... นึกว่าจะซวยกว่านี้ซะอีก แค่นี้ก็ถือว่าโชคดีแล้วล่ะ"


 


 


 


 


 


 


                จากผู้แต่ง


    ทำไมมีหมาป่าหว่า ตอนอยู่ในห้องสมุดเมิ่งซินพลาดอะไรไปน่อ อ้อใช้ทำไมหมาป่ามันไม่ไล่เมิ่งซินต่อ เพราะตอนนี้เมิ่งซินนั้นไม่ใช่เหยื่อที่คุ่มค่าที่จะล่าแล้ว มันเลยแค่ไล่ไป