ยามมนุษย์ที่บิดเบี้ยวและสายเลือดความเลวได้ส่งต่อไปยังบุตรหลาน ได้สร้างฆาตรกรขึ้นมาจากความรัก เพื่อเป็นนักฆ่าที่ไม่มีใครต่อกรได้

วิปลาสทรชน - ตอนที่ 3 เธอมาที่นี่ (1) โดย myisodore @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,อาชญากรรม,ไทย,รัก,แฟนตาซี,วิปลาสทรชน,แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,พล็อตสร้างกระแส,แอคชั่น,นิยายชายหญิง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

วิปลาสทรชน

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,อาชญากรรม,ไทย,รัก,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

วิปลาสทรชน,แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,พล็อตสร้างกระแส,แอคชั่น,นิยายชายหญิง

รายละเอียด

วิปลาสทรชน โดย myisodore  @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ยามมนุษย์ที่บิดเบี้ยวและสายเลือดความเลวได้ส่งต่อไปยังบุตรหลาน ได้สร้างฆาตรกรขึ้นมาจากความรัก เพื่อเป็นนักฆ่าที่ไม่มีใครต่อกรได้

ผู้แต่ง

myisodore

เรื่องย่อ

 

ยามมนุษย์ที่บิดเบี้ยวและสายเลือดความเลวได้ส่งต่อไปยังบุตรหลาน ได้สร้างฆาตรกรขึ้นมาจากความรัก เพื่อเป็นนักฆ่าที่ไม่มีใครต่อกรได้

 


 

วันที่สร้าง 22 มิ.ย 2567

วันที่ลงตอนแรก 29 มิ.ย 2567

 


เรื่องย่อ

ปลายฟ้า รินใจ นิสิตสาวมหาลัยวัย 22ปี จากคณะวิทยาศาสตร์และการกีฬามา ที่กำลังจะจบแล้วไปทำงานต่อที่บริษัทจังเกิ้ลเทคโน แล้วทันใดนั้นเธอก็ได้ตกหลุมรักหนุ่มหล่อเจ้าของรอยยิ้มแสนหวานอย่าง ปวริศที่ทำงานฝ่ายโปรแกรมเมอร์รับผิดชอบระบบการทำงานทุกอย่างเกี่ยวกับโปรแกรมในบริษัททั้งหมด

 

แต่ยังไม่ทันได้รู้จักอะไรก็ทำให้เธอเจอแต่เรื่องสงสัยและไม่เข้าใจเต็มไปหมดราวกับว่าเหมือนทุกอย่างตั้งใจให้มันเกิดขึ้นเสียอย่างนั้น และไม่น่าเชื่อว่าการที่ได้รู้จักปวริศจะทำให้ชีวิตเรียบง่ายของเธอที่ใฝ่ฝันนั้นเปลี่ยนไปตลอดกาล

 


คำเตือน

ฆาตกรรม / ชำแหละศพ / บังคับขู่เข็ญ / กักหน่วงเหนี่ยว / ทำร้ายร่างกาย / ศีลธรรมครอบครัวในเชิงชู้สาว /นามธรรมความรักให้เหยื่อขาดไม่ได้ /อำพรางศพ / ฝังทั้งเป็น / อาการหลงรักฆาตกร / ฆ่านองเลือด / จิตวิทยาครอบครัว / ฆ่าด้วยหลายวิธีให้เหยื่อสิ้นชีวิต

 

#นึกออกเท่านี้ค่ะ ไว้นึกออกจะมาเพิ่มนะคะ


 

นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับบุคคลที่สาม หากชื่อไปตรงกับใครขออภัยมา ณ ที่นี้ 

 

ในส่วนเนื้อหามีความรุนแรงเพศอาชญากรรมและการกระทำไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

 


ช่องทางการติดตามทั้งหมด AllMyLink

 

สารบัญ

วิปลาสทรชน-ตอนที่ 1 สิ่งสกปรก,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 2 ความตาย,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 3 เธอมาที่นี่ (1),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 3 เธอมาที่นี่ (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 4 ครอบครัวอมาตยกุล (1),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 4 ครอบครัวอมาตยกุล (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 4 ครอบครัวอมาตยกุล (3),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 5 ตัวหมาก (1),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 5 ตัวหมาก (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 5 ตัวหมาก (3),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 6 บ้าน (1),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 6 บ้าน (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 6 บ้าน (3),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 7 ความรัก (1),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 7 ความรัก (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 8 เรื่องของเธอคนนั้น (1),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 9 ผกามาศเพชฌฆาต (1),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 8 เรื่องของเธอคนนั้น (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 9 ผกามาศเพชฌฆาต (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 10 ดิ้นรนเพื่อคนอื่น (1),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 10 ดิ้นรนเพื่อคนอื่น (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 11 ล่าเหยื่อ (1),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 11 ล่าเหยื่อ (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 11 ล่าเหยื่อ (3),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 12 พลิกกลับ (1),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 12 พลิกกลับ (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 12 พลิกกลับ (3),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 13 รู้ตัวเสียแล้ว (1),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 13 รู้ตัวเสียแล้ว (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 13 รู้ตัวเสียแล้ว (3),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 14 โลกอีกด้าน (1),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 14 โลกอีกด้าน (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 14 โลกอีกด้าน (3),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 14 โลกอีกด้าน (4),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 15 เด็กหญิงเมย่า (1),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 15 เด็กหญิงเมย่า (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 16 ไม่มีชื่อ (1),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 16 ไม่มีชื่อ (2),วิปลาสทรชน-ประกาศ ชี้แจงแจ้งเตือนตอนเก่า ๆ,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 16 ไม่มีชื่อ (3),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 16 ไม่มีชื่อ (4),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 17 เดาอารมณ์ (1),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 17 เดาอารมณ์ (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 18 จิตสังหาร (1),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 18 จิตสังหาร (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 18 จิตสังหาร (3),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 19 เส้นทางของปลายฟ้า (1),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 19 เส้นทางของปลายฟ้า (2)

เนื้อหา

ตอนที่ 3 เธอมาที่นี่ (1)

วิปลาสทรชน

ตอนที่3 เธอมาที่นี่ (1)


การทำงานครั้งนี้ผ่านมาได้ 1 อาทิตย์ที่ปลายฟ้า รินใจที่เริ่มจะปรับตัวได้แล้วกับที่ทำงานบริษัทจังเกิ้ลเทคโน ด้วยตำแหน่งแอดมินและตั้งแต่ 2 วันก่อนที่ได้คุยกันกับชายหนุ่มผิวน้ำผึ้ง ปลายฟ้าไม่เห็นพี่ไนซ์เลยในหัวเธอแอบนึกเป็นห่วงไม่น้อยเพราะเวลาทำงานชายหนุ่มอยู่ในตำแหน่งโปรแกรมเมอร์คนนั้นจะมาทำงานเช้าก่อนทุกคนเสมอ

พอไม่เห็นแล้วเหมือนขาดอะไรสักอย่างไปเลยจริง ๆ ไม่ว่าจะมองไปไหนปลายฟ้า รินใจจะมองไปยังที่โต๊ะทำงานของไนซ์ เขมทัศเสมอ

‘ไม่สบายรึเปล่านะ’

ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่านอกจากจะเป็นห่วงเขาแล้วยังคิดถึงด้วยเช่นกัน ซึ่งภาพจำที่ไม่สามารถสลัดมันออกไปคือร่างกายของชายหนุ่มที่ดูเพอร์เฟค ทั้งกล้ามเนื้อแรงแขนกับขา ความยาวลำตัวทั้งร่างกายที่ดูโปร่งแต่ไม่หนาเกินไป และการเคลื่อนไหวทั้งการเดิน จังหวะในการลงเท้าเดินย้ำพื้น มีความยืดหยุ่นและน่าค้นหาในเวลาเดียวกัน

โดยเฉพาะข้อมือและเท้าที่เห็นก็รู้แล้วเขาต้องกระโดดสูงเหนือพื้นมากหลายเมตร เธอคาดเดาได้แบบส่ง ๆ ได้ว่าพี่ไนซ์สามารถกระโดดได้สูงมากพอข้ามเน็ตแบตมินตันได้สบาย ๆ และข้อมือที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของมือ ทำให้เล็งจับปาอะไรได้แม่นแถมส่งแรงให้วัตถุที่ปามีความเร็วและแรงอย่างแน่นอน

‘เหมือนไม่ใช่คนเลย ไม่น่าป่วยได้หรอก’

หญิงสาวคิดในใจแต่ก็น่าแปลกที่ปลายฟ้ากลับขัดใจอย่างหนึ่งนั่นก็คือ..

'แต่ไหล่ซ้ายดูเคลื่อนไหวแปลก ๆ แฮะ' เธอคิดในใจแม้ตายังจ้องหน้าจอและบริการลูกค้าไปด้วย

ถึงอย่างนั้นเหมือนคนอื่นในที่ทำงานจะดูคิดถึงมากกว่าเธอเสียอีกเพราะไนซ์ เขมทัศเป็นคนที่เก่ง เข้าใจและทำทุกอย่างได้รวดเร็ว เกิดปัญหาอะไรสามารถแก้ปัญหาได้อย่างไม่มีข้อบกพร่อง เมื่อไม่มีเขาคอยจัดการแล้วทุกปัญหาที่เคยคิดว่าไม่ได้ยากเย็นอะไรก็วุ่นวายไปซะหมด

‘พอไม่มีเขาอยู่..การประสานงานมันยากขึ้นขนาดนี้เลยสินะ ดีนะที่ฉันทำงานแค่แอดมินเท่านั้น ไม่ต้องเจออะไรจุกจิก’

ปลายฟ้าคิดในใจแต่ก็ยังทำงานตัวเองต่อไป เธอได้รู้แล้วว่าการที่แสดงตัวว่าเก่งมาก ๆ มักจะมีงานให้ทำเยอะโดยหลายคนชอบโยนงานมาให้ทำจนละหน้าที่ไปทำอย่างอื่นในเรื่องส่วนตัว

เพราะฉะนั้นต่อให้ตำแหน่งที่เธออยู่จะเป็นแค่ฝ่ายแอดมินตอบแชทก็ต้องไม่ทำตัวเก่งเกินไป ถึงมันไม่ได้มีหน้าที่อะไรมากแต่ปลายฟ้าไม่ชอบงานอื่นที่ไม่ใช่หน้าที่ตัวเองต้องมารับผิดชอบ

ที่สำคัญในช่วงที่ทุกคนส่งไฟล์หรือดำเนินการไม่เสร็จให้ท่วงทัน ไม่ก็ปัญหาสารพัดมากมายที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ระบบหลังบ้านต่าง ๆ นานา พี่ไนซ์คนนี้สามารถจัดการให้ทุกอย่างเรียบร้อยราวกับว่าเหมือนเป็นเรื่องง่ายเพียงแป๊บเดียวเท่านั้น

“นี่ งานตรงนี้ทำไมยังไม่เสร็จเนี่ย?”

เสียงของผู้ชายที่คาดว่าน่าจะเป็นคนทำงานในส่วนดูอุปกรณ์นำเข้าจากต่างประเทศพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ

“ไนซ์มันทำไม่เสร็จได้ไง?!” อีกคนพูดขึ้นในอารมณ์ไม่พอใจเหมือนกัน

“มันไม่ได้มา 2 วันแล้ว เขาลาเหรอ?”

“ไม่รู้สิ พอดีพี่ให้ไอ้ไนซ์ทำเพราน้องเข้าใจเร็วน่ะครับ แต่เขาไม่มาเราก็ต้องจัดการในส่วนของไนซ์สินะ แย่จังมันทำถึงไหนแล้วนะ”

“ของพี่ไม่ใช่เหรอ?”

“จริง ลืมเลยให้มันทำตลอดเลยไง มันไม่สบายเหรอถึงไม่ได้มา”

“ไม่รู้สิครับ ในแชทที่ทำงานมันก็ไม่ได้บอกอะไรเลยพี่”

การสนทนาที่อยู่ไกลในตำแหน่งปลายฟ้าที่เป็นแอดมินนั้นยังได้ยิน เธอได้แต่ถอนหายใจเบา ๆ พึ่งรู้ว่างานแบบนี้ยังให้คนที่อยู่สายงานอื่นทำให้ด้วย 

'น้ำเสียงตอนคุยดูไม่มีน้ำใจเลย พี่ไนซ์เนี่ยใจดีพร่ำเพรื่อเกินไปแล้ว'

ปลายฟ้าไม่เข้าใจเท่าไหร่การที่เราได้ช่วยเหลือคนอื่นแบบนี้ แต่กลับได้ผลตอบแทนด้วยการไม่เห็นคุณค่าอะไร เสมอตัวกับโดนด่าไม่เกินจริง

'คนแบบนี้น่ะเหรอที่จะนอกใจได้'

ช่างเป็นความแปลกที่แสนยากจะคาดเดาเหลือเกิน ทุกอย่างย้อนแย้งไปหมดเลยทั้งเรื่องใจดีช่วยคนอื่นแต่กลับนอกใจจนพี่ดารินฆ่าตัวตายหรือหนีไปต่างประเทศเพื่อพักใจโดยกุเรื่องทั้งหมด อย่างที่เขาเรียกว่าเรียกร้องความสนใจเหมือนที่เขาว่ากันจริง ๆ

'พักเรื่องชาวบ้านแล้วทำงานดีกว่านะปลายฟ้า'

ถึงจะคิดไปโดยที่ในใจยังคงตั้งคำถามแบบรอคำตอบ

'แล้วก็ห้ามเก่ง ห้ามออกตัว ห้ามทำอะไรให้เขารู้ว่าเก่งเด็ดขาดด้วย!'

ปลายฟ้ากำลังจินตนาการอยู่ว่าถ้าหญิงสาวเก่งรอบด้านเหมือนพี่ไนซ์ คงถูกใช้ยาว ๆ อย่างแน่นอน แค่นึกภาพตัวเองทำงานหนักในส่วนที่ไม่รับผิดชอบแล้วก็แอบกังวลเล็กน้อย

ช่วงเวลาพักเบรกจากงาน 10 นาที ระหว่างที่ได้พักสายตาจากหน้าจอคอม ปลายฟ้าได้เหลือบไปเห็นพนักงานสาวอีกคนที่เป็นแอดมินเหมือนกับเธอนั่งอยู่ไม่สุก เดี๋ยวลุกเดี๋ยวบิดตัวไปมา หญิงสาวรู้ได้ทันทีว่าเพื่อนร่วมงานคนนี้เป็นปวดหลังที่สูงเหนือเกือบไปถึงไหล่ขวา

“พี่คะ..เออ..ให้หนูช่วยไหมคะ?”

“ช่วยอะไรเหรอน้อง”

“ก็พี่ปวดตรงนี้น่ะค่ะ หนู”

“เอ๊ะ? ได้สิ”

พนักงานสาวคนข้าง ๆ ตอบรับโดยง่าย ปลายฟ้าลุกขึ้นไปและทำการจัดท่าสำหรับแก้ปวดหลังไหล่ มือบางได้กดน้ำหนักลงไปยังจุดที่เจ็บปวดเมื่อย รวมแล้วใช้เวลาไม่นานจุดที่เธอเมื่อยนั้นของพนักงานสาวรู้สึกโล่งอย่างเห็นได้ชัด

“ดีมากเลย หายเมื่อยแล้ว”

รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของสาวเพื่อนร่วมงาน จากที่ปวดมาหลายวันมาหายและโล่งในพริบตาเดียว เพียงเพราะการกดน้ำหนักมือนวดมันลงไปอย่างพิถีพิถันของพนักงานสาวน้องใหม่คนนี้

“ขอบคุณค่ะ”

ปลายฟ้าตอบรับด้วยรอยยิ้มเพราะอย่างน้อยได้ใช้สิ่งที่เธอถนัดช่วยเหลือคนอื่น ถึงจะไม่มากแต่ยังดีกว่าไม่ทำอะไร

เวลาพักบ่ายได้เข้ามาปลายฟ้ายังคงประหยัดด้วยการเอาข้าวที่ทำกินเองมากินที่ทำงานเหมือนเดิม จนกว่าเงินเดือนแรกจะออกปลายฟ้าต้องประหยัดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และนิสัยที่ไม่ชอบกินข้าวกับใครก็เหมือนเดิม นั่นคือหาที่กินคนเดียวเหมือนทุกครั้ง เพราะปลายฟ้าไม่ชอบกินในที่คนเยอะ

ตั้งแต่เข้ามาทำงานที่บริษัทนี้ ปลายฟ้าได้เรียนรู้และเข้าใจงานได้แล้วจากรุ่นพี่สาวเกวลินก็ไม่มายุ่งกับเธออีกเลย เหมือนการสอนงานให้รุ่นน้องจบลงด้วยดี เกวลินไปทำงานหน้าที่ของตนแถมตอนพักเธอก็มีกลุ่มเพื่อนของตัวเองด้วยอยู่แล้วด้วยแต่รุ่นพี่สาวคนนี้ก็แสนดี ถามไถ่เรื่องกินข้าวคนเดียวจะเหงาไหมในช่วงแรก

ซึ่งสำหรับคนที่ชอบอยู่กับตัวเองอย่างปลายฟ้า รินใจนั้นการกินข้าวคนเดียวถือเป็นช่วงเวลาส่วนตัวอย่างหนึ่ง แค่บอกเหตุผลไปรุ่นพี่สาวก็ไม่ว่าอะไร หลังจากนั้นปลายฟ้าก็ได้อยู่คนเดียวในพักเที่ยงคนเดียวมาตั้งแต่ตอนนั้น

ทันใดนั้นสายตาหญิงสาวช่างดีเหลือเกินที่ได้สังเกตเห็นชายหนุ่มเจ้าของผิวสีน้ำผึ้งสวยกับผมสีดำสนิทและเสื้อคอเต่าสีดำที่ใส่ไม่สนฤดูกาลในประเทศแต่อย่างใด

‘พี่ไนซ์นี่น่า เขามาทำงานแล้วเหรอ?’

ปลายฟ้ารีบกินข้าวและไม่รู้ทำไมเธอถึงอยากไปหาเขาทันที

คงเป็นเพราะเจ้าตัวมีเรื่องอยากถามเยอะแยะเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของพี่ดารินหรือตัวพี่ไนซ์ รวมไปถึงคำพูดนิ่งและเฉยชาที่บอกเธอไว้เมื่อหลายวันก่อน นั่นคือการยอมรับหน้าตาเฉยโดยไม่แก้ตัวอะไร แม้จะมีแต่บอกว่าถูกเล่ามาอีกทีก็ตาม

เมื่อปลายฟ้าได้ไล่ตามเขาทันแล้ว ทว่าเธอจำได้ว่าพี่ไนซ์เขาเดินไปที่ชั้น 3 หญิงสาวมองรอบ ๆ ตั้งแต่ห้องโถงใหญ่ ทางเดินหลักของชั้นก็ไม่เจอใครเลย

“หายไปไหนแล้ว?”

ปลายฟ้าถึงกับงงตาคิ้วขมวดเข้าหากัน เมื่อกี้เธอตามมาติดแท้ ๆ ไม่น่าหายไปเร็วได้ขนาดนี้

"รู้ว่าเดินเร็วนะ แต่หายไปได้เร็วขนาดนี้เลยเหรอ หรือเขาไปที่ห้องทำงานของคุณปรานปรียาแล้ว?"

เพราะชั้นนี้คือชั้นของผู้บริหารและห้องประชุม ซึ่งถ้าเกิดพี่ไนซ์เข้าไปห้องของคุณปรานปรียาแล้วจริง ๆ ปลายฟ้าก็คงต้องกลับไปทำงานของเธอ ด้วยเวลาพักที่ใกล้หมดเต็มทน ไว้มีโอกาสค่อยหาเรื่องคุยในเรื่องนี้

พอหญิงสาวจะหันหลังกลับไปที่ออฟฟิศชั้น 4 ของเธอ ปลายฟ้าก็ได้เจอไนซ์ เขมทัศยืนด้านหลังเธอพอดีเป๊ะเหมือนรอให้หันหลังมาอย่างไรอย่างนั้น แถมความสูงของเขาที่ปลายฟ้าอยู่เพียงแค่ไหล่อีกฝ่ายทำให้เธอหน้าชนจมอกพอดี

“พี่ไนซ์?!”

เธอรีบถอยหลังไปสองสามก้าวและยิ้มแห้งทันที แอบตกใจที่ชายหนุ่มมาอยู่ข้างหลังเธอได้

“ตามพี่มาเหรอครับ?”

“ค่ะ..คือพี่ไนซ์ไม่มาทำงานสองวัน คนในออฟฟิศวุ่นวายมาก”

“อ๋อ วุ่นวายเลยเหรอ?”

ท่าทางของชายหนุ่มดูเรียบเฉยมาก ปลายฟ้าคิดในใจว่าเขาคงไม่ได้สนใจเพื่อนร่วมงานตัวเองมากขนาดนั้น นึกว่าจะมีนิสัยแสนดีโดนเอาเปรียบตลอดเวลาซะอีก ก็มีด้านไม่ดีบ้างสินะ แต่เธอเองก็ไม่อยากคิดมากเท่าไหร่ เพราะการโยนงานให้คนอื่นทำเป็นเรื่องไม่สมควรทำแต่แรกอยู่แล้ว

“ค่ะ เพราะทุกอย่างพี่ไนซ์จัดการหลายอย่างมาก พอพี่หยุดแล้วคนเลยวุ่นวายน่ะค่ะ”

“งั้นเหรอ”

ทำไมการสนทนาเหมือนไม่คิดต้องการจะคุยเลย ปลายฟ้ารู้สึกได้ถึงกำแพงที่มองไม่เห็นจากอีกฝ่าย บางทีเธออาจจะคิดมากไป

“คือว่า ทำไมถึงบอกว่าพี่ดารินตายแล้วค่ะ เธอยังอัปเดตทางโซเชียลมีเดียเลย พี่กับเธอทะเลาะอะไรกันเหรอคะ"

ปลายฟ้าพูดขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยไม่เข้าใจว่าทำไมถึงพูดแบบนี้เฉยในการเริ่มคุย มันควรจะถามสารทุกข์สุกดิบก่อนแท้ ๆ 

"ขอโทษที่เข้ามายุ่งเรื่องของสองคนนะคะ พอดีหนูแค่อยากรู้เฉย ๆ น่ะค่ะ"

"ไม่ได้ทะเลาะกันเลยครับ เธอยังรักผมอยู่"

"จริงเหรอคะ แล้วทำไม..."

"ดารินอยู่ตรงนี้ตลอดเวลาครับ"

มือหนาได้เอานิ้วมาชี้ที่หัวของตัวเอง และเคาะไปด้วย 2-3 ที พร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจแสนน่ามองด้วย ให้ตายสิ พวกผิวแทน น้ำผึ้ง รูปร่างสูงเกิน 180 แบบนี้ ทำเอาปลายฟ้าใจเต้นระรัวเลย

'ว่าแต่ทำไมถึงบอกว่า อยู่ที่หัวเขาได้ล่ะ'

ปลายฟ้าแอบไม่เข้าใจเท่าไหร่ เพราะแทนที่มันควรอยู่ที่หัวใจมากกว่าแท้ ๆ

"คือว่าปกติแล้วมันต้องอยู่ที่หัวใจไม่ใช่เหรอคะ?"

"ถามเยอะกว่าที่คิดอีกนะครับ"

"ขอโทษค่ะ คือหนูแค่อยากรู้เฉย ๆ"

นอกจากไม่มีคำพูดอื่นของไนซ์พูดขึ้นมาแล้ว มีแต่คำว่าขอบคุณและใบหน้าเขาก็นิ่งเฉยเหมือนรำคาญอย่างไรอย่างนั้น ปลายฟ้าแอบคิดว่าตัวเองยุ่งเรื่องอีกฝ่ายมากเกินไปรึเปล่า จนใจเธอเต้นไปด้วยความกลัวอย่างไม่เข้าใจ

'ทำไมเขาน่ากลัวจัง…หรือว่าเราถามเยอะเกินไปอย่างที่เขาว่าจริง ๆ’

ปลายฟ้ารู้สึกแบบนี้ในใจด้วยบรรยากาศรอบด้านที่เหมือนจะไม่เป็นใจจนน่าอึดอัดแบบนี้ ทำให้ตัวเธอไม่เข้าใจเป็นอย่างมากทั้งที่ ๆ นัยน์ตาสีดำของเขาแค่มองด้วยสายตาที่ปกติแท้ ๆ ไม่รู้ว่าความรู้สึกกลัวนี้มาจากไหน

“วันนี้พี่ปรานบอกให้เลิกเร็ว เก็บของให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้นะครับ”

“พี่ปรานบอกในกลุ่มแชทแล้วเหรอคะ?”

“ครับ ปลายฟ้าต้องรีบกลับให้พร้อมทุกคนนะครับ”

“เอ๊ะ แต่นี่พึ่งจะบ่ายเองนะคะท่าทีทุกคนดูจะไม่รู้ว่าเลิกงานเลย”

ระหว่างที่ปลายฟ้ากำลังคิดตามคำพูดอีกฝ่าย เสียงข้อความโทรศัพท์ดังขึ้นทันที

“เปิดดูสิครับ”

“คะ?”

“เผื่อเป็นแชทให้เลิกงานเร็ว”

มือบางได้หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าตัวเอง ปลายฟ้าเปิดข้อความก็เป็นอย่างที่ไนซ์บอกจริง ๆ

พี่ปราน: เลิกงาน 13.00 น. นะคะทุกคนเก็บของกลับบ้านได้

ปลายฟ้าถึงกับนิ่งไปเลย ในใจก็ดีใจที่เลิกงานเร็วแต่ก็ไม่เข้าใจที่เธอกลับรู้สึกแปลกจนขนหัวลุก

‘ทำไมเหมือนพี่ปรานไม่ได้บอกนะอันนี้ ช่างมันเถอะ’

เธอสลัดความคิดที่วุ่นวายออกไป เพียงแวบเดียวชายหนุ่มร่างสูงก็เดินผ่านเธอเข้าไปห้องโถงในชั้น3 โดยไม่บอกกล่าวลาหรืออะไรให้เธอ แล้วปลายฟ้าเห็นเขาจับไหลมาซ้ายตัวเองนิดหน่อยก่อนที่จะปล่อยมัน

“คือพี่ไนซ์คะ…”

ปลายฟ้าเรียกและเขาหันหลังมา

“พี่เจ็บไหล่ซ้าย คงเพราะทำงานหน้าคอมมากไปสินะคะถ้าวันไหนพี่มาทำงาน หนูจะช่วยนวดไหล่ให้พี่ดีขึ้นเองนะคะ”

ความเงียบในบรรยากาศของไนซ์ส่งมาให้เธอนั้น ทำเอาเธอเย็นวาบไปที่แผ่นหลังอย่างไม่เข้าใจ ปลายฟ้า รินใจคิดอยู่ว่าวันนี้มีแต่เรื่องแปลกจนไม่อยากเอาเก็บเอามาคิดในหัว แต่มันก็อดคิดไม่ได้ที่ชายหนุ่มมองเฉย ๆ ด้วยแววตาที่ไม่รู้สึกอะไรแบบนั้น

'จะว่าไป...เขาได้กะพริบตาบ้างรึเปล่า’

เพราะดวงตาที่มองมาจนถึงตอนนี้มันนิ่งไม่กะพริบเลยจริง ๆ ปลายฟ้าแอบตัวสั่นเบา ๆ พอรู้สึกได้ว่าเขาไม่ได้กะพริบตาตั้งแต่ตอนที่เราสองคนได้เริ่มคุยกันตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้ว หญิงสาวแอบสั่นกลัวทันที

“ครับ”

เขาตอบรับคำสั้น ๆ ปลายฟ้าก็ยิ้มรับแล้วก็โบกมือลาจากทันทีโดยที่ไนซ์ไม่ได้กระทำบอกลากลับให้เธอแต่อย่างใด

เสียงโทรศัพท์แบบสั่นของหนุ่มผิวน้ำผึ้งสั่นรอสายขึ้นมา เขาหยิบและกดรับสายโดยไม่ดูชื่อคนโทรหาแต่อย่างใด เพราะยังไงคนที่ติดต่อมาในเวลานี้จะเป็นคนอื่นไปอย่างไร

(ไงพี่ นังนั่นมาที่นั่นใช่ไหม?)

น้องชายที่น่ารักของเขา รังสิมันต์ อมาตยกุล นั่นเอง

“พี่ให้เธอมาแล้ว”

(ถ้าอันนี้เรียบร้อยคือจบงานผมเลยสินะ)

“ใช่ พี่จะได้ไปงานอื่นต่อ”

(ครับ เดี๋ยวผมจะไปทำความสะอาดให้ เจอกันตอนทุ่มหนึ่งนะครับ)

“ขอบใจมาก รังสิมันต์”

(ครับพี่ปวริศ)