คู่หมั้นที่ท่านพ่อจับคู่ให้ เป็นเพียงชายชั่วที่หวังแค่ร่างกายและยศศักดิ์ประดับบารมี หากแต่ชายที่ข้ารักสุดหัวใจ ไยท่านพ่อถึงต้องกีดกันความรักของข้าด้วย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ทาส มิคู่ควรกับข้าเช่นนั้นฤา?

บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL) - ตอนที่ ๓๓ ปัญหาอาจนำสู่เบาะแส โดย ดาวดวงที่ห้า @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ย้อนยุค,ไทย,BL,พีเรียดไทย,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ย้อนยุค,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

BL,พีเรียดไทย,ดราม่า

รายละเอียด

บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL) โดย ดาวดวงที่ห้า @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

คู่หมั้นที่ท่านพ่อจับคู่ให้ เป็นเพียงชายชั่วที่หวังแค่ร่างกายและยศศักดิ์ประดับบารมี หากแต่ชายที่ข้ารักสุดหัวใจ ไยท่านพ่อถึงต้องกีดกันความรักของข้าด้วย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ทาส มิคู่ควรกับข้าเช่นนั้นฤา?

ผู้แต่ง

ดาวดวงที่ห้า

เรื่องย่อ

คำเตือน

นิยายเรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านอย่างถี่ถ้วน

*****

    นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องราวแต่งที่เกิดจากจินตนาการเท่านั้น ตัวละคร ฉาก สถานที่
และเหตุการณ์ในเรื่องล้วนสมมุติขึ้นมาทั้งหมด
ไม่ได้มีการพาดพิงถึงใคร ไม่ได้เน้นหลักความสมเหตุสมผลหรือหลักการความเป็นจริงเท่าที่ควรนะคะ

    นิยายวายพีเรียด ไม่อิงประวัติศาสตร์ใด ๆ ภาษาที่ใช้อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด อาจมีการใช้ถ้อยคำหยาบคาย เพื่อให้เข้ากับบริบทของตัวละคร (ตรงส่วนนี้ต้องขออภัยล่วงหน้าค่ะ)

    เนื้อหาในนิยายมีการแบ่งแยกชนชั้นทางสังคมอย่างชัดเจน มีการใช้อำนาจ การดูถูกเหยียดหยาม การถูกกีดกันต่าง ๆ มีฉากความรุนแรง กักขัง ทำร้ายร่างกาย บังคับขู่เข็ญ ไปจนถึงฆาตกรรม มีการกล่าวถึงไสยศาสตร์ ความเชื่อ วิญญาณ ความสูญเสีย

    ตัวละครในเรื่องบางตัวละครมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไม่ควรลอกเลียนแบบ

*****

   เรื่องราวความรักที่ไม่เหมาะสมจะเคียงคู่กัน นำไปสู่โศกนาฏกรรมที่ยากจะลืมเลือน

  เมื่อคุณชายคำหอม บุตรชายเพียงคนเดียวของพระยาคมศักดิ์ ผู้ปกครองเมืองภูคำใต้ ดันไปตกหลุมรัก พบกล้า ทาสหนุ่มในเรือนของตนเข้าอย่างจัง และเพราะความผูกพันที่ทั้งคู่มีให้กันตั้งแต่เยาว์วัย ทำให้พวกเขาต่างชอบพอกัน จนก่อตัวเป็นความรักในที่สุด แต่มันดันติดปัญหาตรงที่พวกเขาทั้งคู่ไม่เหมาะสมที่จะเคียงคู่กันเลยสักนิดนี่สิ

  เมื่อคนหนึ่งเป็นถึงคุณชายผู้สูงศักดิ์ กับอีกคนเป็นแค่ทาสใช้แรงงานผู้ต่ำต้อย

  เมื่อคนหนึ่งมีคู่หมั้นหมายที่เหมาะสมกันทั้งหน้าตา ฐานะและยศศักดิ์ กับอีกคนที่ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่มีความเหมาะสมใด ๆ เลยสักนิดเดียว

  เมื่อคนหนึ่งรักมากจนแสดงออกมาอย่างชัดเจน กับอีกคนที่รักมากแต่ไม่สามารถแสดงออกมาได้

  เมื่อคนหนึ่งรักสุดหัวใจ จนไม่สนเรื่องความถูกต้องและความเหมาะสมใด ๆ กับอีกคนที่รักสุดใจ แต่ไม่สามารถมอบความรักให้อีกฝ่ายได้ เพราะเจียมตัวว่าเราต่างไม่คู่ควรกัน 

*****

   ความรักที่ไม่เหมาะสมจะเคียงคู่กัน หากยังคงฝืนรักกันต่อไป อาจนำมาซึ่งความสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไปตลอดกาล

สารบัญ

บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-บ่วงเจ้าคำหอม อารัมภบท,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑ คำสัญญาของทาสหนุ่ม,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๒ ดวงจิตของคำหอม,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๓ เรื่องที่ยากจะลืมเลือน,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๔ ความปรารถนาของทาสหนุ่ม,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๕ เบาะแสจากภาพความฝัน,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๖ ภาพจำอดีตของเด็กชายพบกล้า,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๗ ภาพจำเมื่อครั้งแรกเจอ,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๘ สาเหตุแรกของความเกลียดชัง,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๙ จากเด็กชายตัวน้อยสู่ชายหนุ่มผู้เติบโต,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๐ เราต่างมีอิทธิพลต่อจิตใจ,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๑ รักแรกของว่าที่คู่หมั้น,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๒ ว่าที่คู่หมั้นที่คำหอมไม่ปลื้ม,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๓ ข้อตกลงที่ไม่คาดคิด,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๔ พบกล้าใจดีกับคำหอมเสมอ,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๕ ความสุขของคำหอม,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๖ ฉัตรผู้ซื่อตรง,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๗ อดีตของฉัตร,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๘ เรื่องที่น่าลำบากใจ,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๑๙ คำสัญญาดั่งข้อผูกมัด,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๒๐ ผลลัพธ์ที่รู้อยู่เต็มอก,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๒๑ ความเหมาะสมที่รู้อยู่เต็มอก,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๒๒ แผนร้ายจากสหายรัก,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๒๓ ของขวัญวันเกิด,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๒๔ ของโปรดนายพบกล้า,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๒๕ การตัดสินใจอีกครั้ง,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๒๖ กล้วยบวชชีเป็นเหตุ,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๒๗ ชายคู่หมั้นหรือจะสู้ชายในใจ,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๒๘ ความเกลียดชังของว่าที่คู่หมั้น,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๒๙ ศัตรูแค้นตัวฉกาจ,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๓๐ ปมแค้นเหนือสิ่งใด,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๓๑ การเตือนจากศัตรูคู่แค้น,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๓๒ การสั่งสอนของผู้เกลียดชัง,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๓๓ ปัญหาอาจนำสู่เบาะแส,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๓๔ อดีตลับของท่านเจ้าเมือง,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๓๕ คุณชายกับการปกป้องทาสหนุ่ม,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๓๖ ว่าที่คู่หมั้นผู้เลวทราม,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๓๗ คำหอมผู้เสียเปรียบเสมอ,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๓๘ บทลงโทษที่ไม่อาจยอมรับ,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๓๙ คำร้องขอเพื่อช่วยเหลือ,บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)-ตอนที่ ๔๐ จุดเริ่มต้นของการต่อต้าน

เนื้อหา

ตอนที่ ๓๓ ปัญหาอาจนำสู่เบาะแส

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

.

.

.

ทางด้านพระยาคมศักดิ์ หลังจากที่เขาและบรรดาสหายร่วมงานได้พักรับประทานของหวาน ที่คุณชายคำหอมตั้งใจทำมามอบให้เป็นของว่างเสร็จสิ้น ก็กลับมานั่งที่เพื่อเริ่มประชุมงานกันต่ออีกครั้ง

ณ ห้องโถง ที่ใช้สำหรับประชุมงานของพระยาคมศักดิ์ในยามนี้ บ่งบอกได้ถึงความเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด สีหน้าคร่าตาของบรรดาเจ้าเมืองต่าง ๆ เต็มไปด้วยความเครียดและความกังวลใจไม่แพ้กัน สืบเนื่องมาจากการประชุมงานในครั้งนี้…

พระยาทรงยศ หนึ่งในเจ้าเมืองผู้เป็นสหายร่วมงานกับพระยาคมศักดิ์ ไม่สามารถหาแนวทางแก้ปัญหาที่เขาได้รับการร้องเรียนจากชาวเมืองได้ ปัญหาที่ชาวเมืองของเขาต้องทนทุกข์ทรมานมาตลอดหลายปี ต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวงและหวาดกลัว เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นอาจทำให้พวกเขาสูญเสียทั้งทรัพย์สินและชีวิตเลยก็ว่าได้

ปัญหาที่พระยาทรงยศได้รับการร้องเรียนมา ยังคงไม่ได้รับการคลี่คลายมาตั้งแต่สมัยที่บิดาของเขายังเป็นเจ้าเมืองอยู่ ไม่ว่าบิดาของเขาจะสั่งการลงไปให้เหล่าทางการหาหนทางแก้ปัญหา ก็ยังไม่สามารถจัดการปัญหาเหล่านั้นได้หมดเสียที 

สาเหตุมันเป็นเพราะอะไรกันแน่ ตรงส่วนนี้พระยาทรงยศเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ในเมื่อบิดาของเขาเป็นถึงเจ้าเมือง แล้วเหตุใดปัญหาที่ระดับเจ้าเมืองน่าจะแก้ปัญหาได้มากที่สุด กลับทำไม่ได้ซะอย่างนั้น

จนกระทั่งบิดาได้สิ้นอายุขัยลงด้วยโรคภัยไข้เจ็บ และเขาผู้เป็นบุตรชายได้รับตำแหน่งเจ้าเมืองแทนบิดา พระนางทรงยศพยายามหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่ยังไม่ได้รับการคลี่คลายมาตลอดหลายปีอย่างไม่ลดละความพยายาม

และยิ่งเขาพยายามสืบเสาะหาถึงต้นตอของปัญหามากเพียงใด ก็ยิ่งทำให้เขาเข้าใจถึงสาเหตุที่บิดาไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้เสียที ไม่ใช่ว่าบิดาของเขาไม่หาทางแก้ปัญหา แต่ยิ่งบิดาของเขาพยายามหาทางแก้ปัญหามากเพียงใด ปัญหาพวกนั้นก็ยิ่งมากขึ้นไปอีก

กลุ่มโจรป่า คือปัญหาหลัก ๆ ที่มีมาตั้งแต่สมัยที่บิดายังเป็นเจ้าเมือง ว่ากันว่าโจรป่าพวกนี้มักจะตระเวนดักปล้นเหล่าเจ้าขุนมูลนาย ไปจนถึงเหล่าเศรษฐีมากมี ในช่วงแรกโจรป่าพวกนี้ไม่ได้ชุกชุมมากนัก เนื่องจากบ้านเมืองของเขาไม่ได้มีทรัพยากรมากมาย ไม่มีแม้กระทั่งแร่ทอง เหมือนอย่างละแวกเมืองใกล้กัน เศรษฐกิจภายในเมืองก็ถือว่าอยู่ในระดับย่ำแย่ โจรป่าจึงไม่ค่อยมาดักปล้นในเมืองนี้ให้เสียแรง เสียเวลา

จนกระทั่งช่วงที่บ้านเมืองฟื้นตัว หลังจากบิดาของเขามารับตำแหน่งเจ้าเมืองได้ไม่ถึงห้าปี ด้วยการบริหารจัดการบ้านเมืองทำให้บ้านเมืองของเขา เข้าสู่สภาวะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เศรษฐกิจภายในเมืองถือได้ว่าสูงขึ้นในรอบหลายปี ชาวเมืองที่ตกอยู่ในสภาวะขาดแคลนด้านการเงิน และขาดแคลนในเรื่องของใช้บริโภค สามารถลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง

บรรดาเจ้าเมืองใกล้เคียงต่างพากันยินดีและพากันมาร่วมลงทุน ส่งเสริมให้เมืองของเขาเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น เหมืองแร่เหมืองทองมีมากขึ้นจากปกติถึงเท่าตัว วิถีชีวิตของชาวเมืองจากที่ตกต่ำสู่จุดที่ดีขึ้น แม้ว่าการเจริญรุ่งเรืองขึ้นจะดีต่อเมืองและชาวเมืองมากเพียงใด แต่สุดท้ายแล้วมันก็ส่งผลเสียต่อพวกเขาในภายภาคหน้าอยู่ดี ยิ่งมีทรัพยากรต่าง ๆ รวมไปถึงทรัพย์สินมาก ก็ยิ่งเป็นจุดเด่นในการล่อตาล่อใจกลุ่มคนที่อยู่ตรงกันข้ามกับพวกเขา หรือที่เรียกกันว่า กลุ่มโจรป่าอยู่ดี

หลังจากเศรษฐกิจและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมืองดีขึ้น ข่าวคราวเกี่ยวกับโจรป่าก็เริ่มมีมากขึ้นเช่นกัน และนั่นก็ยิ่งส่งผลให้เหล่าชาวเมืองได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้บิดาของเขาจึงออกคำสั่งให้ทางการหาหนทางจัดการกลุ่มโจรป่า ที่คอยสร้างความเดือดร้อนกับชาวเมือง

และทันทีที่ทางการได้รับเรื่อง ก็ไม่ลืมที่จะกระตือรือร้นทำตามคำสั่งการของเจ้าเมือง ไม่ช้านานกลุ่มโจรป่าบางส่วนก็ถูกจับกุมแทบจะในทันที การทลายรังโจรป่าที่ชอบลักเล็กขโมยน้อยเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับเหล่าทางการ จนกระทั่งมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นในคืนเดือนดับ ที่ทำให้ทางการต้องยอมรับว่าพวกเขานั้นประเมินค่าพวกโจรป่าต่ำไป

.

.

ในคืนเดือนดับ ณ เรือนไทยหลังใหญ่โตของขุนนางผู้หนึ่ง ถูกโจรป่าบุกรุกเข้าไปขโมยทรัพย์สิน หากเป็นการขโมยทรัพย์เพียงอย่างเดียว ทางการก็คงไม่เคร่งเครียดมาจนถึงปัจจุบันเช่นนี้

กลุ่มโจรป่าพวกนี้ไม่ได้ลักทรัพย์เพียงอย่างเดียว แต่ยังเริ่มเข่นฆ่าเหล่าทาสบริวารของขุนนางที่พยายามปกป้องทรัพย์สิน และพยายามช่วยกันปกป้องผู้เป็นนายจนตัวตาย มิหนำซ้ำขุนนางผู้เป็นเจ้าของเรือนยังถูกหนึ่งในโจรป่าพวกนั้นฆ่าปาดคอ จนสิ้นใจตายในคืนนั้นเช่นกัน

และในคืนเดือนดับนั้น นอกจากจะมีการสูญเสียเกิดขึ้น ก็ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่โจรป่าพวกนั้นหลงเหลือไว้ในที่เกิดเหตุ มันคือสัญลักษณ์บางอย่างที่บ่งบอกถึงตัวผู้กระทำ

ทางการสันนิษฐานว่าสัญลักษณ์ที่ถูกสลักทิ้งเอาไว้บนเสาเรือน เป็นสัญลักษณ์ที่แม้แต่ทางการเองก็เพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก สัญลักษณ์นั้นน่าจะเป็นสัญลักษณ์ที่กลุ่มโจรตั้งใจทำเอาไว้เพื่อเป็นการประกาศศักดา หรือเป็นการชี้ให้เห็นเด่นชัดถึงการมีอยู่ของพวกมัน แต่ไม่ว่ากลุ่มโจรป่าพวกนั้นจะสลักไว้เพื่อบอกอะไรกันแน่ ทางการก็ตัดสินใจเด็ดขาด ว่าพวกเขาไม่มีทางปล่อยโจรป่ากลุ่มนี้เอาไว้แน่นอน

แต่ยังไม่ทันที่ทางการจะได้เริ่มสืบหาข้อมูลใด ๆ เพิ่มเติม ในคืนต่อ ๆ มาก็มีเหยื่อรายที่สองสามสี่ตามมาติด ๆ ชนิดที่ว่าในหนึ่งเดือน มีเหยื่อของกลุ่มโจรป่าพวกนี้มากถึงยี่สิบราย

ในบรรดาเหยื่อของกลุ่มโจรรายนี้ส่วนใหญ่ มักเป็นคนใหญ่คนโต ไม่เป็นเจ้าขุนมูลนายก็เป็นจำพวกเศรษฐีที่มีฐานะร่ำรวยทั้งสิ้น และก็เป็นอย่างที่ทางการคาดการเอาไว้ บนเสาเรือนของเหยื่อทุกรายล้วนมีสัญลักษณ์นั้นสลักเอาไว้ทั้งสิ้นเช่นกัน ทางการจึงสามารถระบุตัวฆาตกรผู้กระทำได้ในทันทีไม่ต้องสืบหาตัวฆาตกรผู้กระทำที่ไหนไกล

และจากการสืบค้นข้อมูลต่าง ๆ มาอ้างอิงเพิ่มเติม ทางการสันนิษฐานว่าโจรป่ากลุ่มนี้ น่าจะหมายตาของมีค่ามีราคาจากชนชั้นสูงมากกว่าชาวบ้านตาดำ ๆ ในขณะที่ทางการบางส่วนเอง ก็สันนิษฐานว่าบางทีโจรป่ากลุ่มนี้น่าจะได้รับการจ้างวานให้มาสังหารเหยื่อตามคำสั่งเช่นกัน

เพราะจากประวัติเหยื่อที่ทางการตรวจสอบมา เหยื่อส่วนใหญ่มีศัตรูทางการงาน และการขัดผลประโยชน์รอบด้าน จึงอาจเป็นไปได้ว่ากลุ่มโจรพวกนี้ถูกจ้างวานให้มาลอบฆ่าเหยื่อ ก็เป็นไปได้มากเช่นกัน

แต่ไม่ว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน สุดท้ายแล้วโจรป่ากลุ่มนี้ก็เหี้ยมโหดและอันตรายกว่าโจรป่าทั่วไปที่เคยพบเจอมา หากไม่รีบจับกุมตัวมาลงโทษ มีหวังบ้านเมืองไม่มีทางสงบสุขลงได้แน่นอน

ด้วยความเหี้ยมโหดของกลุ่มโจรป่าและความอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับชาวเมืองได้ ทางการจึงประกาศกร้าวออกไปทั่วทั้งเมืองถึงการมีอยู่ของพวกมัน รวมไปถึงได้ตั้งชื่อเรียกกลุ่มโจรพวกนี้ จากสัญลักษณ์ของกลุ่มโจรป่าที่สลักเอาไว้ มีลักษณะคล้ายสมิงและดวงตารวมเข้าด้วยกัน ทางการจึงใช้เรียกชื่อกลุ่มโจรป่านี้ว่า…สมิงตาพราน

และติดประกาศหาตัวพวกมันมาเป็นเวลานานหลายปี จนถึงช่วงที่เขาได้ขึ้นเป็นเจ้าเมืองต่อจากบิดา กลุ่มโจรสมิงตาพรานก็ยังไม่ถูกจับกุมตัวเสียที โจรป่ากลุ่มนี้เก่งในเรื่องการซ่อนตัว ซ่อนตัวจากทางการมาได้หลายสิบปี ไม่ว่าทางการจะหาเบาะแสมากเพียงใด พวกเขาก็ไม่เจอที่ซ่อนของกลุ่มโจรพวกนี้เสียทีเช่นกัน 

จนเวลาผ่านไปนาน กระทั่งช่วงหนึ่งที่กลุ่มโจรสมิงตาพรานเลิกออกอาละวาด ไม่มีเหตุการณ์ดักปล้น ไม่มีเหตุการณ์นองเลือด ไม่มีเหตุการณ์ที่สร้างความอันตรายต่อบ้านเมือง ซึ่งทางการเองก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดพวกมันถึงหายไปอย่างไร้ร่องรอย และแม้ว่าข่าวคราวของพวกมันค่อย ๆ เลือนหายไป แต่ทางการก็ยังไม่ลืมและไม่มีวันล้มเลิกที่จะตามหาตัวพวกมันต่อไป จนกว่าจะจับกุมพวกมันมารับโทษที่ก่อไว้ได้สำเร็จ

หลังจากที่พวกมันหายไป ชาวเมืองสามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติได้อีกครั้ง แต่เมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมาข่าวคราวของกลุ่มโจรสมิงตาพรานก็กลับมาอีกครั้ง เหล่าชาวเมืองพากันหวาดกลัว จึงได้ร้องเรียนมายังพระยาทรงยศ ที่เป็นเจ้าเมืองคนปัจจุบันให้หาทางแก้ไขปัญหานี้

และไม่ว่าเขาจะพยายามมากเพียงใด สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อยู่ดี เหมือนกับทางการที่ต่อให้พยายามตามหาตัวและที่กบดานของโจรกลุ่มนี้ แต่ก็ไม่มีวี่แววเสียที

.

.

.

และด้วยเหตุนี้พระยาทรงยศจึงใช้โอกาสในการประชุมงานที่เรือนของพระยาคมศักดิ์ ผู้เป็นสหายร่วมงานในครั้งนี้ ขอแนวคิดและแนวทางช่วยเหลือจากบรรดาเจ้าเมืองต่าง ๆ เผื่อจะมีทางออกดี ๆ ที่เขาสามารถช่วยเหลือชาวเมืองได้บ้าง

“จากการที่เอ็งกล่าวมา โดยที่เอ็งยังมิได้เอ่ยชื่อของพวกมัน ข้าว่าโจรป่าพวกนี้ต้องมิใช่โจรป่าธรรมดาแน่นอน ดีมิดีอาจจะเป็นกลุ่มสมิงตาพรานที่ทางการต้องการตัวมากที่สุดก็เป็นได้” หนึ่งในเจ้าเมืองผู้เข้าร่วมประชุมได้กล่าวขึ้น

“ข้าเองก็คิดเช่นนั้น จากการที่พวกมันหายตัวไปกว่าสิบปี แต่กลับเพิ่งมาแสดงตัว เริ่มออกปล้น แถมยังเข่นฆ่าผู้คนอีกครั้งอย่างที่เจ้าว่าเช่นนี้ ต้องเป็นพวกสมิงตาพรานเป็นแน่”

น้ำเสียงเห็นพ้องต้องใจของอีกหนึ่งบุคคลเอ่ยขึ้นเช่นกัน

“ข้าเคยได้ข่าวกลุ่มโจรพวกนี้มาตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อ จนป่านนี้ยังมิมีผู้ใดแก้ปัญหาได้อีกอย่างนั้นรึ” หนึ่งในผู้ร่วมการประชุมได้เอ่ยถามอีกครั้งเช่นกัน

“เป็นอย่างที่พวกท่านสงสัย โจรป่าที่ข้าหมายถึง ก็ไอ้พวกสมิงตาพรานนี่แหละหนา” พระยาทรงยศตอบกลับ

“แล้วเหตุใดพวกมันถึงกลับมาอาละวาดอีกครั้ง” น้ำเสียงสงสัยจากหนึ่งในผู้ร่วมการประชุมยังคงสอบถามไม่หยุดหย่อน

“ข้าเองก็แปลกใจ มิคิดเช่นกันว่าไอ้โจรป่าพวกนั้น จะกล้าเข้ามาในเขตเมืองข้าอีกครั้งเช่นนี้”

พระยาทรงยศเองก็ไม่เข้าใจถึงเป้าหมายที่แท้จริงถึงการกลับมาของโจรป่ากลุ่มนี้

“พวกมันอาจจะได้ข่าวคราวถึงการขุดพบแร่ทองจากเมืองของเจ้าเข้า ดีมิดีพวกมันอาจต้องการแร่ทองพวกนั้นก็เป็นได้” พระยาไตรเทพที่นิ่งเงียบอยู่นาน ได้กล่าวเสริมขึ้นเช่นกัน

“แร่ทอง หากพวกมันต้องการของพวกนั้นจริง แล้วเหตุใดถึงต้องเข่นฆ่าผู้คนในเหมืองด้วยเล่า” พระยาทรงยศเอ่ยถามด้วยความสงสัยอีกครั้ง

“…”

ทันทีที่ได้ยินคำถามของพระยาทรงยศ บรรดาผู้ร่วมการประชุมก็ได้แต่นิ่งเงียบ และพยายามคิดตาม แต่ไม่ว่าพวกเขาจะคิดอย่างไรก็ไม่รู้ถึงปัญหาที่แน่ชัด จึงไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยอะไรออกไป เว้นเสียแต่พระยาคมศักดิ์ที่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยทันที

“เพื่อสร้างข่าวลือถึงการกลับมาของพวกมัน ฤๅเพราะถูกเห็นหน้าเข้า จึงจำเป็นต้องฆ่าให้ตายก็เป็นได้”