คู่หมั้นที่ท่านพ่อจับคู่ให้ เป็นเพียงชายชั่วที่หวังแค่ร่างกายและยศศักดิ์ประดับบารมี หากแต่ชายที่ข้ารักสุดหัวใจ ไยท่านพ่อถึงต้องกีดกันความรักของข้าด้วย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ทาส มิคู่ควรกับข้าเช่นนั้นฤา?
ชาย-ชาย,ย้อนยุค,ไทย,BL,พีเรียดไทย,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
บ่วงเจ้าคำหอม (พีเรียด,BL)คู่หมั้นที่ท่านพ่อจับคู่ให้ เป็นเพียงชายชั่วที่หวังแค่ร่างกายและยศศักดิ์ประดับบารมี หากแต่ชายที่ข้ารักสุดหัวใจ ไยท่านพ่อถึงต้องกีดกันความรักของข้าด้วย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ทาส มิคู่ควรกับข้าเช่นนั้นฤา?
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
.
.
.
ยามสายลมพัดผ่านไปทั่วบริเวณ กลิ่นหอม ๆ ของดอกมะลิตลบอบอวลไปตามทางเดิน เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วเป็นจังหวะฟังดูน่าไพเราะ แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านหน้าต่างไม้ เป็นการบ่งบอกให้รู้ว่ายามนี้เข้าสู่เช้าวันใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แสงแดดอ่อน ๆ กระทบเข้ากับใบหน้าของชายหนุ่ม ที่กำลังนอนหลับใหลอย่างสบายใจอยู่บนเตียงแสนนุ่มพอดิบพอดี แม้ว่าเมื่อคืนนี้เขาจะเหนื่อยล้าจากการเดินทาง และต้องพบเจอกับเรื่องราวที่กระทบจิตใจมากมายเพียงใด แต่เมื่อศีรษะถึงหมอน อาการสะลึมสะลือพลันให้เขาต้องข่มตาลง จนหลับสนิทแทบจะในทันที และใช่เมื่อคืนนี้คุณชายคำหอมนอนหลับสนิทไปพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ยังคงไหลริน
.
.
.
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
เสียงเคาะประตูห้องของคุณชายคำหอมดังขึ้นด้วยฝีมือของฉัตร ที่ได้กลายมาเป็นทาสติดตามของคุณชายคำหอมตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ดังนั้นหน้าที่ในการดูแลคุณชายคำหอมตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน คือหน้าที่ของฉัตรทั้งหมด
เมื่อพบกับความเงียบงันและประตูห้องที่ยังคงปิดสนิท ฉัตรก็รับรู้ได้ทันทีว่าคุณชายคำหอมยังไม่ตื่นแน่นอน เพราะแบบนี้ฉัตรถึงได้พยายามส่งเสียงร้องเรียกคุณชายคำหอมอยู่หน้าห้อง ไม่ลุกลี้ลุกลนเข้าไปในห้องของอีกฝ่าย แม้ว่านั่นเป็นสิ่งที่ทาสติดตามควรจะทำก็ตาม
แต่ฉัตรที่เพิ่งรับหน้าที่ดูแลและตามติดคุณชายคำหอมเป็นวันแรก ได้เล็งเห็นว่าอีกฝ่ายอาจจะไม่ยินยอมให้เขาเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาตเสียก่อน เขาจึงเลือกที่จะไม่เข้าไป แต่พยายามส่งเสียงร้องเรียกอยู่นอกห้องแทน
“คุณชายคำหอมขอรับ”
…
“คุณชายของบ่าว ตื่นรึยังขอรับ”
…
“คุณชายขอรับ ถ้าเช่นนั้นบ่าวขออนุญาตนะขอรับ”
น้ำเสียงสดใสพยายามร้องเรียกผู้เป็นนายของตน แต่เมื่อเห็นว่าเวลาก็ผ่านมากว่าสิบนาทีแล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าคุณชายคำหอมจะส่งเสียงตอบกลับมา ฉัตรถึงได้ตัดสินใจจะเปิดประตู หวังจะเดินเข้าไปด้านใน แต่ไม่ทันที่จะก้าวขาเข้าไป
คุณชายคำหอมที่กำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงก็สะดุ้งตื่นขึ้น ได้ส่งเสียงตอบกลับมา เพราะเขาได้ยินเสียงเรียกของใครบางคน ดังมาจากประตูหน้าห้อง
“นั่นผู้ใดกัน เหตุใดถึงมาเอะอะอยู่หน้าห้องข้า” คุณชายคำหอมเอ่ยถามด้วยความงัวเงีย
“บ่าวเองขอรับคุณชาย”
ฉัตรที่ได้ยินเสียงตอบกลับของคุณชาย ก็รีบโผล่หน้าเข้ามาให้อีกฝ่ายได้เห็น สายตาของคุณชายคำหอมที่เหลือบไปเห็นทาสติดตามคนใหม่ ก็ดีดตัวลุกขึ้นมานั่งพิงหมอนอย่างเร็วไว พร้อมกับเช็ดหน้าเช็ดตาที่มีหยาดน้ำตาเกาะติดอยู่ออกไป เพราะเขาไม่ต้องการให้อีกฝ่ายเห็นเขาในสภาพที่ดูโทรมเช่นนี้
“พี่ฉัตรหรอกฤๅ เข้ามาก่อนสิ”
“ขอรับคุณชาย”
“มีอะไรรึเปล่า มาหาข้าตั้งแต่เช้าเช่นนี้” หากไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ถึงขนาดต้องมาปลุกเขาตั้งแต่เช้าเช่นนี้ คุณชายคำหอมจะดุให้คอยดู
“โธ่คุณชายของบ่าว ลืมสิ้นมิตรภาพของเราไปแล้วเสียฤๅขอรับ บ่าวเสียใจนะขอรับคุณชาย”
น้ำเสียงน้อยเนื้อต่ำใจเอื้อนเอ่ยออกมา หวังจะให้อีกฝ่ายรู้สึกเห็นใจ แต่ไม่เป็นผล เพราะน้ำเสียงน้อยเนื้อต่ำใจกับท่าทางน้อยใจของฉัตรนั้น ไม่ได้ทำให้คุณชายคำหอมรู้สึกผิดที่เผลอแกล้งอีกฝ่ายเลยสักนิด คุณชายคำหอมรู้สึกตลกและเอ็นดูกับท่าทางของอีกฝ่ายอยู่ต่างหาก
“ฮ่าฮ่า ก็พี่ฉัตรมาโหวกเหวกโวยวายอยู่หน้าห้องข้า ทั้ง ๆ ที่ข้ากำลังนอนหลับสบายเองนี่”
“แต่หน้าที่ของบ่าวคือการดูแลและตามติดคุณชาย ตั้งแต่ตื่นนอนไปจนถึงเข้านอนน่ะขอรับ และนี่ก็สายมากแล้ว เพราะฉะนั้นคุณชายต้องลุกมาได้แล้วนะขอรับ”
เป็นเวลาเกือบสิบโมง ที่คุณชายคำหอมยังคงนอนอยู่บนเตียง โชคดีที่พระยาคมศักดิ์ไปเจรจาที่ต่างเมืองไม่เช่นนั้น คุณชายคำหอมของเขาอาจจะถูกบิดาดุด่าอีกก็เป็นได้ เนื่องจากการนอนตื่นสายไม่ใช่พฤติกรรมที่ดีสักเท่าไร
“ข้ายังอยากนอนอยู่เลยนี่…พี่ฉัตร”
“มิได้นะขอรับ อีกเดี๋ยวคุณชายก็ต้องไปพบแขกคนสำคัญของพระยาคมศักดิ์นะขอรับ”
และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญ ที่ฉัตรจำเป็นต้องปลุกให้คุณชายคำหอมรีบแต่งตัว เพื่อเตรียมตัวไปพบกับแขกคนสำคัญของพระยาคมศักดิ์
และแม้ว่าอีกฝ่ายจะมีอาการงอแงเหมือนเด็กน้อย ที่ต้องการนอนบนเตียงนุ่ม ๆ มากกว่าต้องตื่นเช้าลุกขึ้นจากที่นอนไปทำงานทำการ จนทำให้ฉัตรรู้สึกเอ็นดูกับพฤติกรรมของอีกฝ่ายมากเพียงใด ก็ไม่ได้หมายความว่า ฉัตรจะยอมให้คุณชายคำหอมทำตามใจตัวเอง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้คุณชายคำหอมต้องถูกบิดาดุด่า ฉัตรถึงต้องคอยบังคับคุณชายคำหอมอยู่เช่นนี้
“ผู้ใดกันพี่ฉัตร มิใช่คนที่ข้าคิดใช่ฤๅไม่”
จากท่าทางสนุกสนานที่ได้กลั่นแกล้งทาสติดตาม กลับกลายเป็นท่าทางเศร้าหมองและมีกังวลทันที เมื่อได้ยินคำที่เอื้อนเอ่ยออกมาจากทาสติดตาม…แขกคนสำคัญของบิดา
หากเป็นแขกคนอื่นของบิดาคุณชายคำหอมจะไม่แสดงท่าทางเช่นนี้ แต่ที่คุณชายคำหอมแสดงท่าทางและสีหน้าเป็นกังวลเช่นนี้ออกมา เพราะเขาดันไปคิดถึงใครบางคน ที่ไม่อยากเจอมากที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้
“คุณชาย…” แม้ไม่ต้องเอ่ยชื่ออีกฝ่ายออก ฉัตรก็พอจะรับรู้ว่าคุณชายคำหอมกำลังคิดถึงผู้ใด และคุณชายคำหอมเองก็รับรู้ได้จากท่าทางของฉัตรเช่นกัน
“ช่างเถอะพี่ฉัตร แล้วเขาคนนั้นมาถึงนานแล้วฤๅ”
“ยังเดินทางมามิถึงขอรับคุณชาย คาดว่าอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงก็คงมาถึงขอรับ”
“กลับมาพร้อมกับท่านพ่อข้าสินะ”
เนื่องจากพระยาคมศักดิ์เป็นถึงผู้ปกครองเมืองภูคำใต้ นั่นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหากพระยาคมศักดิ์จะเดินทางไปเจรจากับคู่ค้าสมาคม ต่างบ้านต่างเมืองอยู่บ่อยครั้ง แต่ที่แปลกสำหรับคุณชายคำหอมก็คือ เหตุใดบิดาของเขาถึงต้องชวนขุนไตรภพ ที่ไม่ได้ทำงานตรงส่วนนั้นไปไหนมาไหนบ่อยครั้ง แถมยังชวนมาที่เรือนอยู่บ่อยครั้งด้วย
ในเมื่อขุนไตรภพเองก็มีหน้าที่การงานของเขา แล้วเหตุใดถึงต้องไปไหนมาไหนกับบิดาของเขาอยู่บ่อยครั้งเช่นกัน นั่นก็เป็นสิ่งที่คุณชายคำหอมไม่เข้าใจเลยสักนิด หรือเป็นเพราะขุนไตรภพต้องการทำเช่นนั้น เพื่อเป็นการเอาอกเอาใจพระยาคมศักดิ์ และเพื่อต้องการจะทำให้คุณชายคำหอมยอมรับรักเขากันแน่
คุณชายคำหอมได้แต่ตั้งข้อสงสัย แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด เขาก็ไม่มีทางยอมรับขุนไตรภพคนนี้มาเป็นคู่ครองอย่างแน่นอน
“ขอรับคุณชาย พระยาคมศักดิ์เชิญชวนขุนไตรภพมาทานอาหารเที่ยงที่เรือนขอรับ พวกทาสคนครัวต่างก็เตรียมสำรับอาหารเสร็จสรรพเป็นที่เรียบร้อยแล้วขอรับ”
“เช่นนั้นฤๅ ดูท่าแล้วท่านพ่อคงชอบพี่ไตรภพจริง ๆ นั่นแหละ แล้วเช่นนี้คนที่อยู่ในใจข้าจะทำเช่นไรดี ข้าควรปล่อยเขาไป หรือข้าควรทำตามหัวใจตนเองดีล่ะพี่ฉัตร”
“บ่าวเองก็ตอบมิได้ขอรับ เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับคุณชายเป็นคนเลือกนะขอรับ”
เพราะเป็นเรื่องของเจ้านาย ฉัตรเองก็ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นอะไรมากมาย แต่เขาก็รับรู้ว่าคุณชายคำหอมไม่ได้อยากหมั้นหมายกับขุนไตรภพ เพราะคนในใจที่คุณชายคำหอมกำลังพูดถึงคือพบกล้า สหายรักของเขา
และหากจะให้เขาเลือกฝักเลือกฝ่าย หรือเลือกที่จะแสดงความคิดเห็นใด ๆ ถึงเรื่องนี้ แน่นอนว่าฉัตรก็เลือกสหายรักอย่างแน่นอน แต่ก็นั่นแหละ สุดท้ายแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาสมควรจะพูดหรือแสดงความคิดถึงออกไป ฉัตรทำได้เพียงคิดในใจก็เท่านั้นเอง
“เฮ้อ…ช่างมันเถอะพี่ ข้าเองก็มิอยากคิดให้มันปวดหัว”
“เอ่อ…คือว่าคุณชายขอรับ” น้ำเสียงตะกุกตะกัก พยายามเอื้อนเอ่ยกับคุณชายคำหอมอีกครั้ง
“อะไรฤๅพี่ฉัตร”
“มันจะสมควรไหมขอรับ หากบ่าวมีของบางอย่างมามอบให้คุณชาย”
“โธ่พี่ฉัตร เหตุใดถึงมิได้ล่ะ พี่มิต้องเกรงใจข้าหรอก หากพี่อยากทำอะไรก็ทำได้เลย”
คุณชายคำหอมเองก็ไม่ใช่คนมากเรื่องมากความ หากฉัตรต้องการจะทำอะไรให้เขา แน่นอนว่านายอย่างเขาก็ย่อมยินดีอยู่แล้ว
“มิได้หรอกขอรับคุณชาย บ่าวกลัวว่ามันจะมิสมควรทำขอรับ จึงต้องขออนุญาตคุณชายก่อนทุกครั้งจะดีกว่าขอรับ”
แม้คุณชายคำหอมจะใจดีกับเขามากเพียงใด แต่ฉัตรก็ยังเกรงใจและนึกถึงความถูกต้องเป็นอันดับแรกอยู่เสมอ
“ก็ได้ หากพี่กล้าขอ ข้าก็จะอนุญาตทุกเรื่องเอง”
“ขอบคุณขอรับคุณชาย”
“ว่าแต่ พี่มีอะไรจะให้ข้าฤๅ”
“นี่ขอรับ แม้มันจะมิได้มีราคาแพงมากนัก แต่บ่าวอยากให้คุณชาย ถือเป็นของขวัญวันเกิดน่ะขอรับ”
ของที่อยู่ในมือถูกส่งต่อให้คุณชายคำหอมทันที แม้ฉัตรจะไม่รู้ว่าคุณชายคำหอมจะต้องการของพวกนี้หรือไม่ แต่เขานั้นก็ตั้งใจที่มอบให้อีกฝ่ายด้วยความจริงใจ
ส่วนหนึ่งก็อยากให้เป็นของขวัญวันเกิดคุณชายคำหอม และอีกส่วนหนึ่งก็เพื่อเป็นการผูกมิตรภาพกับคุณชายคำหอม เพราะหลังจากนี้ต่อไปพวกเขาจะต้องอยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลาเลยก็ว่าได้ มีคุณชายคำหอมที่ใดก็ต้องมีฉัตรที่เป็นผู้ติดตามอยู่ที่นั่น จะเรียกเช่นนี้ก็คงไม่ผิด
สำหรับฉัตรแล้ว การมอบของบางอย่างให้กับอีกฝ่าย ถือเป็นการแสดงความเคารพและความจริงใจต่อผู้เป็นนายของตน ก่อนหน้านี้ที่คุณหญิงจันทร์หอมเป็นเจ้านายของเขา ฉัตรก็มอบของบางอย่างให้คุณหญิงจันทร์หอม เพื่อเป็นการขอบคุณที่ช่วยเหลือ และแสดงถึงความจริงใจต่ออีกฝ่ายเช่นกัน
“ขอบคุณนะพี่ฉัตร นี่คือกลิ่นมะลิใช่ฤาไม่”
เพียงแค่ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากเทียนหอมที่รับมา คุณชายคำหอมก็มั่นใจได้ทันทีว่านั่นคือกลิ่นของดอกมะลิ
“ขอรับคุณชาย”
“มันหอมมากเลยพี่ฉัตร ข้าชอบกลิ่นนี้ และข้าก็ชอบดอกมะลิมากด้วย”
ดอกมะลิเป็นดอกไม้ที่คุณชายคำหอมชอบเป็นพิเศษ ส่วนหนึ่งเพราะความหอมอ่อน ๆ ของดอกมะลิ ที่ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย และอีกส่วนเพราะดอกมะลิทำให้เขาได้เจอกับใครบางคน คนที่เข้ามาทำให้หัวใจของคุณชายคำหอมหวั่นไหว จนไม่สามารถลืมเลือนจากใจตั้งแต่ตอนนั้นมาจนถึงปัจจุบันนี้
“บ่าวดีใจที่คุณชายชอบนะขอรับ”
“พี่ทำเองเลยฤๅ”
“ขอรับคุณชาย”
“ว่าง ๆ ช่วยมาสอนข้าทำบ้างสิ”
คุณชายคำหอมที่ชื่นชอบงานฝีมือ ยิ่งได้รู้ว่าเทียนหอมที่รับมา ฉัตรเป็นคนทำขึ้นมาเองกับมือ คุณชายคำหอมก็อยากให้อีกฝ่ายมาสอนเขาทำบ้าง ถึงแม้มันจะดูง่ายสำหรับใครหลาย ๆ คน แต่สำหรับคุณชายคำหอมที่ยังไม่เคยทำ เขาก็อยากลองทำเพื่อเก็บเกี่ยวเป็นประสบการณ์เช่นกัน
“หากคุณชายต้องการ บ่าวสอนให้ได้ขอรับ”
“พี่เอ่ยเช่นนี้แล้ว ห้ามลืมกันล่ะ”
“ฮ่าฮ่า บ่าวมิลืมหรอกขอรับ”
ความสะลึมสะลือ และอาการงัวเงียก่อนหน้านี้พลันหายไปทันที เมื่อความได้รับของขวัญวันเกิดจากทาสคนสนิท แม้มันจะดูไม่มีความหมายและไม่มีราคาสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับคุณชายคำหอมแล้ว เขารู้สึกดีใจที่ได้รับของขวัญวันเกิดในวัยสิบแปดปีจากคนในเรือน
“ส่วนนี่ ไอ้พบกล้ามันฝากสิ่งนี้มาให้คุณชายขอรับ”
“หืม…กำไลเชือกถักนี่ สวยจังพี่ฉัตร”
กำไลเชือกถักที่ไม่ได้มีสีสันมากมาย ไม่มีหรูหราประดับเพชรพลอยใด ๆ แต่ในความรู้สึกของคุณชายคำหอม มันกลับสวยงามเกินบรรยาย
“ไอ้พบกล้ามันถักเองเลยนะขอรับ บอกว่าจะให้เป็นของขวัญวันเกิดคุณชายเช่นกัน”
“ข้าชอบจังเลยพี่ฉัตร”
“ไอ้พบกล้ามันบอกว่า ถึงแม้มันมิได้หรูหรามากนัก แต่มันก็อยากจะให้ของขวัญคุณชายคำหอมขอรับ”
หลังจากงานเลี้ยงเลิกรา ฉัตรเห็นพบกล้าใช้เวลานั่งถักกำไลเส้นนี้ จนไม่ยอมหลับยอมนอน พบกล้าต้องการมอบของขวัญให้กับคุณชายคำหอม เพราะรับรู้ได้ว่าวันเกิดอายุครบสิบแปดปี คุณชายคำหอมแทบจะไม่มีความสุขเลย ทั้งเจอแต่เรื่องกระทบกระเทือนจิตใจ ไหนจะเรื่องที่ต้องมีปากเสียงกับพระยาคมศักดิ์ใหญ่โต
พบกล้าแค่อยากมอบของขวัญ เพื่อให้คุณชายคำหอมมีความสุข มากกว่ามีความทุกข์ในวันเกิดก็เท่านั้น เขาไม่ได้ต้องการสิ่งอื่นสิ่งใดไปมากกว่านี้เลยสักนิด
“อื้อ แม้จะมิใช่ของที่ราคาสูง แต่ข้ากลับชอบมันมากเลยนี่สิ”
กำไลเชือกถักถูกสวมใส่เข้าไปอย่างพอดีมือ ความสวยงามของกำไลเชือกถักเส้นนี้ ทำให้คุณชายคำหอมรู้สึกหลงใหลและชื่นชอบมันมากเป็นพิเศษ ชอบเสียยิ่งกว่าเครื่องประดับราคาสูงของตนเองเสียอีก
คงเป็นเพราะคนในใจตั้งใจมอบของสิ่งนี้ให้กับเขา คุณชายคำหอมถึงได้มีความสุขเช่นนี้ แม้ว่าอีกฝ่ายจะแค่รู้สึกเป็นห่วงความรู้สึกของเขา และไม่ได้คิดอะไรกับเขาไปมากกว่านี้เลยสักนิดก็ตาม แต่คุณชายคำหอมก็ชอบของขวัญชิ้นนี้มากที่สุดอยู่ดี
“บ่าวดีใจ ที่คุณชายชอบนะขอรับ หากไอ้พบกล้าได้ยิน มันเองก็คงจะดีใจเช่นกันขอรับ”
“เอาไว้หลังจากนี้ ข้าต้องไปขอบคุณพี่กล้าเสียหน่อยแล้ว”