แอลลี่หนีความเจ็บปวดมาหาความสงบในเมืองเล็ก แต่กลับเจอเมอร์สัน เพื่อนข้างห้องที่ขโมยจูบแรก และส่งเสียงกิจกรรมข้างห้องดังจนน่ารำคาญ ความสัมพันธ์เติบโตจนกลายเป็นความใกล้ชิดที่อันตรายต่อหัวใจ
รัก,ชาย-หญิง,จีน,เรื่องสั้น,เล่าประสบการณ์,พล็อตสร้างกระแส,รัก,รัก 3 เส้า,รักดราม่า,รักมหาลัย,รักต่างวัย,รักแรก,รักเก่า,รักวัยรุ่น,รักในทุกฤดู,รักโรแมนซ์,รักโรแมนติก แก้แค้น ดราม่า,รักไม่สมหวัง,รักใสๆ,รักลับๆ,รักแรกพบ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
กลางวันมีฉัน กลางคืนมีเธอแอลลี่หนีความเจ็บปวดมาหาความสงบในเมืองเล็ก แต่กลับเจอเมอร์สัน เพื่อนข้างห้องที่ขโมยจูบแรก และส่งเสียงกิจกรรมข้างห้องดังจนน่ารำคาญ ความสัมพันธ์เติบโตจนกลายเป็นความใกล้ชิดที่อันตรายต่อหัวใจ
แอลลี่ หลิน ผู้หญิงที่เคยต้องเผชิญกับปัญหากับโลกสองใบจากคนรัก
ได้เลือกทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลังและเริ่มต้นใหม่ในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง
เธอเพียงต้องการความสงบ…แต่กลับได้พบกับ เมอร์สัน เชน
เพื่อนข้างห้องที่ “ขโมยจูบแรกแบบไม่ทันตั้งตัว” ไปอย่างหน้าด้าน ๆ
แถมยามค่ำคืนกิจกรรมพิเศษของเขาก็ดังทะลุกำแพงจนทำให้เธอนอนไม่หลับ
ทว่าความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นจากเสียงรบกวนและความหงุดหงิด
กลับค่อย ๆ เติบโตจนกลายเป็นความใกล้ชิดที่อันตรายต่อหัวใจ
ความวุ่นวายที่เธอพยายามหลีกหนี กลับเป็นสิ่งที่เยียวยาบาดแผลในใจทีละน้อยโดยที่เธอไม่ทันรู้ตัว
ท่ามกลางฤดูใบไม้ผลิที่กำลังผลิบาน
ความรักครั้งใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งในเมืองแห่งนี้…
บทที่ 3 ความรักที่ลืมไม่ลง
วันถัดมา
หลังจากคลาสแรกจบลง เสียงพูดคุยของนักศึกษาในห้องเริ่มหนาตาขึ้น คงเป็นเพราะกำลังพยายามให้ภาษาที่เรียนมาให้คล่องเพื่อติดต่อสื่อสารกับเพื่อนหลายเชื้อชาติ แอลลี่เองที่พอได้ภาษาอยู่แล้วและไม่อยากจะทำความรู้จักคนอื่นจึงได้แค่นั่งเงียบ ๆ ระหว่างรอพักเรียนคลาสถัดไปในอีก 15 นาที
“ผู้ชายคนนั้นชื่อเมอร์สันใช่ไหม หน้าตาเขาดูดีมาก”
“ฉันอยากลองจัง”
แอลลี่ที่กำลังจัดหนังสือในกระเป๋าชะงักมือ เธอไม่อยากเงยหน้าขึ้นด้วยซ้ำเมื่อได้ยินคำว่า “อยากลอง”
หญิงสาวกลอกตาเบา ในใจคิดบ่นไปว่า ผู้ชายเจ้าชู้! เธอเกลียดที่สุดเลย!
จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ของเธอดังขึ้นข้อความจาก
“แฟนเก่า” อีกแล้ว
ผมเห็นคุณลงรูปในVV คุณอยู่เมือง S ใช่ไหม?
ตอนนี้ผมมาทำงานที่เมือง S เรามาเจอกันแล้วคุยกันได้ไหม
แอลลี่...อย่างน้อยขออธิบายสักครั้งก็ยังดี
ดวงตากลมมองด้วยความสั่นไหว มือที่ถือโทรศัพท์ได้แค่นิ่งค้างจนทำอะไรไม่ถูก
“เฮ้ แอลลี่!”
เธอสะดุ้ง หันกลับไปเห็นเมอร์สันยืนโบกมือยิ้มกว้าง
“บ่ายวันนี้แนะนำกิจกรรมชมรม เราลองไปดูกันไหม”
หญิงสาวขมวดคิ้วมอง
“นายไม่มีเพื่อนคนอื่นหรือไง”
“ก็— ตอนนี้มีแค่เธอนะ”
คำพูดนั้นทำให้หัวใจของเธอเต้นสะดุดหนึ่งจังหวะโดยไม่รู้ตัว แต่ในจังหวะเดียวกัน โทรศัพท์ของเธอสั่นขึ้นอีกครั้ง ข้อความใหม่เด้งขึ้นมาบนหน้าจอ
แอลลี่ คืนนี้เรามาเจอกันดีไหม ที่ร้าน XXX
หญิงสาวหลุบตาลงมองข้อความนั้นอยู่ครู่หนึ่งพลางถอนหายใจออกมา ความทรงจำมากมายที่เธอพยายามฝังกลบไว้ใต้รอยยิ้ม เวลาที่ผ่านไปพลันไหลย้อนกลับมาอย่างไม่ทันตั้งตัว — น้ำเสียง, คำขอโทษขอไปที, และความเจ็บที่ยังไม่หายดี ทุกอย่างยังคงตอกย้ำจนกลายเป็นบาดแผลในใจ
“แอลลี่?”
เมอร์สันเรียกซ้ำเมื่อเห็นว่าเธอเงียบไปนานกว่าปกติ
“เอออ…” เธอเงยหน้าขึ้น สบตาเขาเพียงแวบเดียวก่อนรีบเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า
“บ่ายใช่ไหม ไปสิ”
“เยี่ยมเลย!” เขายิ้มกว้างจนดวงตาเป็นประกาย “เธอสนใจชมรมแนวไหนล่ะ?”
“ไม่แน่ใจ” เธอตอบพลางสะพายกระเป๋า “ขอดูก่อนแล้วกัน”
แอลลี่พูดแล้วเดินนำไป ทางด้านเมอร์สันก็ยิ้มหัวเราะกับท่าทางของเธอพลางสาวเท้าตามไปแล้วเอ่ยชวนคุยถึงมื้ออาหารกลางวันอย่างทันที แอลลี่ไม่ได้มีท่าทางปฏิเสธเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะใจกำลังมีเรื่องให้คิดอยู่เลยไม่ค่อยได้สนใจคำพูดของชายหนุ่มข้าง ๆ
หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จ ทั้งสองคนก็เดินมาที่ตึกสำหรับกิจกรรมชมรมที่รวมระหว่างนักศึกษาต่างชาติและนักศึกษามหาลัย แอลลี่และเมอร์สันเป็นเพียงนักศึกษาที่เข้ามาเรียนภาษาระยะสั้นเท่านั้น แต่ก็สามารถเข้าร่วมกิจกรรมชมรมของมหาวิทยาลัยได้เช่นกัน
เสียงพูดคุยในโถงก้องไปทั่ว บรรยากาศคึกคักด้วยแผ่นโปสเตอร์หลากสีและนักศึกษาที่เชิญชวนกันเข้าชมรม เมอร์สันเดินนำไปนิด ๆ แต่หันกลับมามองเธอบ่อยครั้งเหมือนกลัวเธอจะหายไป
ในขณะที่เธอแสร้งทำเป็นสนใจบอร์ดกิจกรรมตรงหน้า โทรศัพท์ในกระเป๋าก็สั่นขึ้นอีกครั้ง — คราวนี้ไม่ใช่ข้อความ แต่เป็นสายเรียกเข้า ชื่อของแฟนเก่ายังเด่นชัดอยู่บนหน้าจอ หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบได้ยินเสียงตัวเอง
แอลลี่กำโทรศัพท์แน่น มือสั่นเล็กน้อย — อันที่จริงเธอควรจะบล็อกเขาตั้งแต่ตอนที่รู้ความจริงแล้ว ทว่าก็ไม่อาจทำใจได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ได้—ขณะที่ทุกคนกำลังสนใจกับกิจกรรมชมรม เธอหันหลังให้เมอร์สันอย่างเงียบ ๆ แล้วเดินแยกออกไปทางมุมอาคารที่ผู้คนเบาบาง ก่อนจะกดรับสาย
“แอลลี่ ฉันดีใจที่เธอรับสาย” เสียงผู้ชายปลายสายเอ่ยอย่างแผ่วเบา “ฉันแค่...อยากเจอ อยากอธิบายทุกอย่าง เธอจะให้โอกาสฉันไหม?”
หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่น ความทรงจำเก่าพาเอาความเจ็บกลับมาอีกครั้ง เธอหลับตาลง สูดลมหายใจยาว ก่อนตอบด้วยเสียงสั่น
“มันไม่จำเป็นต้องอธิบายแล้วล่ะ”
เธอกำลังจะกดวางสาย ทว่าคำพูดถัดมาของเขาทำให้มือชะงัก
“คืนนี้ ฉันจะรออยู่ที่ร้านนั้น ไม่ว่ามาหรือไม่มา...ฉันก็จะรอ”
สัญญาณสายถูกตัดไปพร้อมกับความเงียบที่กดทับอยู่ในใจ แอลลี่มองหน้าจออย่างว่างเปล่า ก่อนกำโทรศัพท์แน่น — ไม่รู้ว่าความรู้สึกที่จุกอกคือความโกรธ หรือความหวั่นไหวที่ยังไม่จางหายกันแน่
เสียงเรียกของเมอร์สันดังขึ้นอีกครั้งจากไกล ๆ
“แอลลี่! มานี่สิ ฉันเจอชมรมที่เธอต้องชอบแน่!”
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้า ซ่อนแววตาที่สั่นไหวไว้ใต้รอยยิ้มก่อนหันเดินกลับไปหาชายหนุ่ม
“ชมรมเขียนพู่กัน น่าสนใจมาก” เขาเอ่ยนำเสนอออกมา “เห็นว่าผู้สอนคือศาสตราจารย์ที่ได้รับรางวัลด้วยนะ”
เมอร์สันคว้ามือลากหญิงสาวมายืนอยู่ที่ซุ้มหน้าชมรม ที่มีแต่คนเดินผ่านแต่ไม่มีใครสนใจจะเข้าไปเรียนสักเท่าไหร่
“เป็นไง เธอสนใจไหม” เขาเอ่ยถามความเห็นของเธอ
แอลลี่ในขณะนี้ไม่มีสมาธิตัดสินใจอะไรเท่าไหร่ เธอแค่พยักหน้าแล้วขานรับในลำคอไปอย่างงุนงง เมอร์สันเมื่อเห็นหญิงสาวตอบตกลงก็รีบลงชื่อทันทีไม่รีรอ