เหล่าคนตายและคนสิ้นหวังถูกอัญเชิญมายังโลกแห่งเกมนรกที่ต้องใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน หนทางที่จะรอดไปจากที่นี่คือ 'เล่นเพื่อรอด' หรือ 'ยอมแพ้แล้วตาย'
        ดราม่า,ระทึกขวัญ,สะท้อนปัญหาสังคม,จิตวิทยา,ดาร์ค,ชีวิต  ,ปรัชญา,เกม,เกมเอาชีวิตรอด,เอาชีวิตรอด,จิตวิทยาระทึกขวัญ,จิตวิทยา,สะท้อนจิตใจ,สะท้อนสังคม,ดาร์ค,ระทึกขวัญ,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี,  นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
        
        
      
          สถานีตำรวจอยู่ไม่ไกลจากจุดที่พวกเขาพบกันมากนัก เพียงแค่สิบห้านาทีของการเดินเท้าผ่านถนนที่ไร้ซึ่งรถราและผู้คน ในที่สุดพวกเขาก็มาถึง ทว่าสิ่งที่พวกเขาพบกลับทำให้ทุกคนต้องชะงักไปเล็กน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจเต็มไปด้วยกลุ่มคนมากมาย นับสิบชีวิตที่ยืนรวมตัวกัน เสียงพูดคุยดังจอแจระงมไปทั่ว บ้างมีสีหน้าตื่นตระหนก บ้างดูสับสน และบางคนก็ดูเหมือนกำลังพยายามหาคำตอบเช่นเดียวกัน 
 กลุ่มคนตรงหน้าไม่ได้มีแค่ผู้ใหญ่ ยังมีวัยรุ่น และชายหญิงต่างวัยปะปนกันไปหมด ทุกคนล้วนมีท่าทีงุนงงและหวาดระแวงไม่ต่างกัน โชคดีที่ท่ามกลางฝูงชน มีชายคนหนึ่งสวมเครื่องแบบตำรวจเต็มยศยืนอยู่ แม้สีหน้าของเขาจะดูเคร่งเครียดและไม่มั่นใจนัก แต่การมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ตรงนี้อย่างน้อยก็อาจเป็นสัญญาณที่ดี
 
 ชายวัยกลางคนคนหนึ่งซึ่งแต่งกายด้วยเสื้อยืดเปื้อนคราบเลือดแห้งกับผ้ากันเปื้อนสีขาว เดินแหวกฝูงชนเข้าไปหาตำรวจหนุ่ม ใบหน้าของเขาดูไม่สบอารมณ์นัก ราวกับอารมณ์ขุ่นมัวกำลังประทุขึ้น
 
 “นี่คุณ ตำรวจหายไปไหนกันหมด มันเกิดบ้าอะไรขึ้น!” ชายคนนั้นเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรน
 
 “ใช่ค่ะ! นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ”
 
 “พวกตำรวจควรทำอะไรสักอย่างเซ่!”
 
 “เกิดเหตุการณ์ประหลาดแบบนี้ ไอ้พวกรัฐบาลไปมุดหัวอยู่ที่ไหนกันหมด”" ตามมาด้วยคำถามจากปากมากมายหลายสิบปากแซ่ดสนั่น
 
 ตำรวจหนุ่มยกมือขึ้นเป็นเชิงให้ทุกคนใจเย็นลง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
 
 “ใจเย็นๆ ครับทุกคน ผมเข้าใจว่าทุกคนสับสนนะครับ แต่ตอนนี้ขอให้ทุกคนตั้งสติ ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน...”
 
 แม้จะพยายามพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ แต่แววตาของตำรวจหนุ่มก็มีแววสับสนไม่แพ้กัน เขาเองก็คงเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกส่งตัวมาเผชิญกับเมืองร้างเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมชะตาตรงหน้า
 
 “อะไรวะ?! จะไม่รู้ได้ยังไง เป็นตำรวจภาษาไรเนี่ย!”
 
 “ใช่ๆ ไอ้พวกตะกวดไร้ความรับผิดชอบ!”
 
 “แม่มเอ๊ย! ใครก็ได้อธิบายที ว่านี่มันเชี่ยไรกันฟร่ะ!”
 
 “โอ๊ย! มือถือก็ดับอีก ทำไงล่ะเนี้ย...”
 
 เสียงพูดคุยเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง หลายคนเริ่มตั้งคำถามมากมายเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทว่าไม่มีใครมีคำตอบ ทุกอย่างยังคงเต็มไปด้วยปริศนาและความคลุมเครือ ความโกลาหลและความไม่พอใจที่พุ่งใส่ตำรวจหนุ่มกำลังจะทวีความรุนแรงขึ้น 
 
 แต่ในวินาทีนั้นเอง...
 
 ดนตรีก็ดังขึ้น
 
 ไม่ใช่เสียงดนตรีทั่วไป แต่เป็นบทเพลงเรเควียมของโมสาร์ทที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า หนักแน่น และยิ่งใหญ่ เสียงดนตรีบรรเลงดังกระหึ่มและแผ่ซ่านไปทั่วทุกมุมเมือง ราวกับดังออกมาจากลำโพงขนาดใหญ่ที่ถูกติดตั้งไว้ตามเสาไฟและป้ายโฆษณา ทุกคนต่างเงียบกริบในทันที หันมองไปรอบตัวด้วยความตื่นตระหนก สายตาเต็มไปด้วยคำถามว่าเสียงดนตรีอันน่าขนลุกนี้มาจากที่ใด
 
 บทเพลงราวกับใช้บรรเลงในงานศพดังระงมไปทั่วเมืองร้าง  ทุกคนที่มารวมตัวกันที่หน้าสถานีตำรวจต่างตกอยู่ในภวังค์ของความหวาดกลัวและสับสน ใบหน้าของทุกคนซีดเผือด บ้างอ้าปากค้าง บ้างยกมือปิดหู เสียงครวญครางของไวโอลินและเสียงร้องประสานที่ลุ่มลึกนั้นช่างทรงพลังเกินกว่าจะเป็นแค่การเปิดเพลงธรรมดา มันสะกดให้ทุกคนต้องหยุดนิ่งอยู่ในความมืดมิดทางอารมณ์
 
 ในขณะที่เสียงดนตรีกำลังถึงจุดไคลแม็กซ์
 
 กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง!
 
 เสียงแจ้งเตือนข้อความจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้นพร้อมกันจากกลุ่มคนนับสิบชีวิตที่ยืนรวมตัวกัน พวกเขารีบควักมือถือขึ้นมาดูด้วยสีหน้าตื่นตระหนก แต่สิ่งที่พวกเขาเห็นกลับทำให้ทุกคน ช็อกยิ่งกว่า ความสับสนก่อนหน้าทั้งหมด
 
 [ ยินดีต้อนรับผู้เล่นทุกท่าน ]
 
 ข้อความสั้นๆ นี้ปรากฏขึ้นบนหน้าจอเพียงครู่เดียว ก่อนที่หน้าจอของโทรศัพท์มือถือทุกคนจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง วอลเปเปอร์เดิมๆ หายไป ถูกแทนที่ด้วยไอคอนขนาดใหญ่รูปหัวกะโหลกสีขาวอ้าปากพะงาบๆ ที่ดูน่าสยดสยองและแปลกประหลาด
 
 ภายใต้รูปหัวกะโหลกนั้น มีตัวอักษรสีแดงสดใสปรากฏขึ้นพร้อมกันบนหน้าจอของทุกคน
 
 [ WELCOME TO THE WORLD OF GAME ]
 
 ทุกคนต่างปล่อยเสียงอุทานด้วยความตกใจและหวาดผวา บ้างปล่อยโทรศัพท์มือถือร่วงลงพื้น บ้างจับมือถือแน่นแล้วตัวสั่นเทิ้ม ความกลัวที่แท้จริงเข้าครอบงำฝูงชนที่ถูกส่งมาในเมืองร้างแห่งนี้ และบัดนี้โทรศัพท์มือถือของพวกเขาก็ถูกแฮ็กโดยอะไรบางอย่างที่เป็นปริศนาที่กำลังเชื้อเชิญพวกเขาเข้าสู่สมรภูมิที่ไม่รู้ว่าคืออะไร
 
 ตำรวจหนุ่มมองโทรศัพท์ในมือด้วยความหวาดหวั่น ขณะที่ชายวัยกลางคนที่เคยโวยวายก็ถึงกับเข่าทรุดลงกับพื้น มองโทรศัพท์ในมือด้วยดวงตาที่เบิกกว้างด้วยความหวาดกลัวอย่างที่สุด
 
 ในจังหวะนั้นเอง จอภาพทุกชนิดที่ตั้งตระหง่านอยู่ทั่วเมือง ไม่ว่าจะเป็นจอโทรทัศน์ตามบ้านที่เปิดค้างไว้ตามอาคารที่เปิดช่องว่างไว้ ป้าย LED ขนาดมหึมาบนตึกระฟ้าที่สูงเสียดเมฆ ป้ายโฆษณาอิเล็กทรอนิกส์ตามสี่แยกไฟแดง หรือแม้แต่หน้าจอโทรศัพท์มือถือเคนื่องเก่าในมือของปอนด์ ทั้งหมดสว่างวาบขึ้นพร้อมกัน
 
 ภาพที่ปรากฏบนทุกจอคือ ชายคนหนึ่งสวมสูทดำเนคไทแดงที่ใบหน้าถูกซ่อนไว้ในเงามืด รูปร่างของเขาพอดูออกว่าน่าจะสูงโปร่ง อากับปกิริยาแฝงไปด้วยความรู้สึกคุกคามที่ยากจะบรรยาย ภาพนั้นสั่นไหวเล็กน้อยบนป้าย LED ขนาดมหึมา ราวกับกำลังแสดงการถ่ายทอดสดสดจากสถานที่ที่ห่างไกลออกไป
 
 “สวัสดีทุกท่านครับ”
 
 เสียงทุ้มลึกเย็นชากังวาน ประหนึ่งมาจากก้นบึ้งของขุมนรกดังขึ้นทะลุจากจอภาพทุกจอ ลบเลือนเสียงกรีดร้องและเสียงสะอื้นของผู้คนในบริเวณสถานีตำรวจไปจนหมดสิ้น ขณะที่ดนตรีเรเควียมยังคงบรรเลงต่อไปเป็นฉากหลังที่น่าขนลุก
 
 ปอนด์มองไปยังจอ LED บนตึกสูงด้วยความรู้สึกที่ยากจะแสดงออกมาเป็นคำพูด ความไม่เข้าใจที่เพิ่งเกิดขึ้นถูกแทนที่ด้วยขนลุกหวาดผวาเย็นยะเยือก
 
 “ยินดีต้อนรับสู่อีเวนต์สุดยิ่งใหญ่ของผม” เสียงนั้นเปิดขึ้นด้วยโทนที่ดูเป็นกันเองอย่างน่าประหลาดใจ แต่แฝงด้วยอำนาจที่ทำให้ผู้ฟังขนลุกซู่ ปอนด์สัมผัสได้ถึงอำนาจนั้นแม้จะอยู่คนเดียวก็ตาม
 
 "ไม่ต้องงงกันหรอกว่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง พวกคุณทุกคน... หรือจะเรียกว่า ผู้เล่น ก็ได้ พวกคุณถูกคัดเลือกมาที่นี่ เพื่อเข้าร่วม เกม ของผม"
 
 ‘ให้ตายสิ! ข้อความนั้นมันเรื่องจริงเหรอวะ?!’
 
 ปอนด์กำหมัดแน่นที่ข้างลำตัว นึกถึงข้อความแปลกๆ ตอนอยู่ในร้านเกม
 
 “เกมอะไรวะ! ปล่อยกูไปนะเว้ย!”
 
 เขาได้ยินเสียงตะโกนอย่างกราดเกรี้ยวของชายฉกรรจ์คนหนึ่งดังลอดออกมาจากลำโพงตามมุมถนน เสียงนั้นดูสิ้นหวังและเต็มไปด้วยความโมโห รู้ทันทีว่ายังมีคนอื่นอยู่ที่นี่ด้วย ไม่ไกลจากเขา
 
 "นี่มันบ้าชัดๆ!" เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของหญิงสาวคนหนึ่งดังตามมา
 
 เขาเว้นจังหวะไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เย้ยหยันราวกับกำลังมองดูหนูที่ติดกับดัก
 
 "ใช่แล้วครับ ผมคือ เกมมาสเตอร์ ผู้สร้างอีเวนต์เกมนี้ เกมที่ไม่เหมือนเกมที่คุณเคยรู้จัก เพราะนี่ไม่ใช่แค่การเล่นสนุก แต่มันคือ เกมที่เดิมพันด้วยชีวิตจริงๆ"
 
 “เกมที่เดิมพันด้วยชีวิตจริง...”
 
 คำพูดนั้นแทงเข้าไปในจิตใจของปอนด์อย่างจัง ความเบื่อหน่ายและสิ้นหวังที่เขามีต่อชีวิตธรรมดา กำลังถูกท้าทายด้วยความจริงที่โหดร้ายยิ่งกว่า
 
 “พวกคุณบางคนอาจจะคิดว่าความตายคือจุดจบ คือความสงบ คือการปลดปล่อยจากทุกสิ่งทุกอย่างที่น่าเบื่อหน่ายในชีวิตเก่า”
 
 เสียงของเกมมาสเตอร์ดังขึ้น พร้อมกับภาพที่บิดเบี้ยวเล็กน้อยบนจอ ปอนด์จ้องเขม็งไปยังดวงตาสีแดงก่ำที่ซ่อนอยู่ในเงามืดบนจอ LED นั่นคือดวงตาที่ดูเย้ยหยันราวกับรู้ทุกสิ่งในใจเขา
 
 "แต่จริงๆ แล้ว... ความสิ้นหวังต่างหากคือจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของการมีชีวิตอยู่ครับ"
 
 ปอนด์นึกถึงชีวิตตัวเอง ชีวิตที่ไร้ซึ่งความหวัง ไร้ซึ่งเป้าหมาย ที่ต้องมานั่งเช็ดโต๊ะ เก็บขยะ และโดนมนุษย์ป้าด่าทอ ชีวิตที่ไร้ซึ่งความหวัง มันก็แค่การรอคอยความตายที่ไม่ได้มาถึง
 
 “ลองคิดดูสิครับ ว่าชีวิตที่ไร้ซึ่งความหวัง ไร้ซึ่งเป้าหมาย มันต่างอะไรกับการรอคอยความตายที่ไม่ได้มาถึงเสียที? ที่นี่... คุณจะได้เรียนรู้ความหมายของการดิ้นรน ความหมายของการมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเอง และเพื่อสิ่งที่คุณยึดมั่น”
 
 “โลกภายนอกที่คุณจากมา มันก็เป็นแค่เกมเล็กๆ ที่พวกคุณหลอกตัวเองว่ามีทางเลือก แต่ที่นี่... ทางเลือกของคุณมีแค่สองทางครับ” 
 
 เขาชูนิ้วขึ้นมาสองนิ้ว “คือ เล่นเพื่อรอด หรือ ยอมแพ้แล้วตาย ไปซะ!"
 
 ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง ปอนด์หายใจติดขัด พยายามประมวลผลคำพูดที่เพิ่งได้ยิน มันคือความจริงที่เย็นชาและโหดร้ายเกินกว่าที่สมองจะรับไหว
 
 "จำไว้ให้ดี... การตายในโลกนี้ ไม่ได้นำไปสู่ความสงบสุข แต่มันจะเปลี่ยนคุณไป... ตลอดกาล"
 
 คำพูดสุดท้ายดังก้องอยู่ในอากาศ ท่ามกลางความตื่นตระหนกที่ยังคงคุกรุ่น
 
 กริ๊ง! กริ๊ง!
 
 จู่ๆ เสียงอันแหลมเล็กก็ดังขึ้นพร้อมกันจากทุกทิศทาง เสียงนั้นไม่ใช่เสียงแปลกประหลาด แต่มันคือเสียงแจ้งเตือนที่คุ้นเคยจากโทรศัพท์มือถือ ปอนด์รู้สึกได้ว่าโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสั่นไหวอย่างรุนแรง
 
 กริ๊ง! กริ๊ง!
 
 กริ๊ง! กริ๊ง!
 
 เขาควักโทรศัพท์ขึ้นมาดูอย่างรวดเร็ว หน้าจอที่เคยมืดสนิทจะปรากฏข้อความบนหน้าจออย่างชัดเจน
 
 [ เกมกำลังจะเริ่มในอีก 1 ชั่วโมง ]
 
 “อะไรกันอีกล่ะเนี่ย!?” ปอนด์อุทานเสียงแหบแห้ง สับสนหวาดกลัวจนแทบทำอะไรไม่ถูก
 
 “หมายความว่ายังไง!?” เสียงโวยวายจากทางด้านสถานีตำรวจดังมาให้เขาได้ยิน
 
 “เกมบ้าบออะไรกัน! ไม่เล่นโว๊ย!”
 
 มือถือของเขากลายเป็นเพียงเครื่องมือที่แสดงข้อความประหลาดนี้เท่านั้น ความตื่นตระหนกแปรเปลี่ยนเป็นความสับสนที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เขาถูกโยนเข้ามาในสถานที่ที่ไม่รู้จัก ถูกบังคับให้เข้าร่วมเกมที่เดิมพันด้วยชีวิต 
 
 และตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งชั่วโมงก่อนที่ เกม แรกจะเริ่มขึ้น