เหล่าคนตายและคนสิ้นหวังถูกอัญเชิญมายังโลกแห่งเกมนรกที่ต้องใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน หนทางที่จะรอดไปจากที่นี่คือ 'เล่นเพื่อรอด' หรือ 'ยอมแพ้แล้วตาย'
        ดราม่า,ระทึกขวัญ,สะท้อนปัญหาสังคม,จิตวิทยา,ดาร์ค,ชีวิต  ,ปรัชญา,เกม,เกมเอาชีวิตรอด,เอาชีวิตรอด,จิตวิทยาระทึกขวัญ,จิตวิทยา,สะท้อนจิตใจ,สะท้อนสังคม,ดาร์ค,ระทึกขวัญ,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี,  นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
        
        
      
          หนึ่งวันแสนน่าเบื่อของชายวัยยี่สิบสี่ปีหมดลงเมื่อลูกค้าคนสุดท้ายเดินออกจากร้าน เหล่าพนักงานชุดแดงหมวกดำแยกย้ายทำหน้าทำความสะอาดเตรียมปิดร้าน กลุ่มหนึ่งช่วยกันกวาดถูพื้นร้าน อีกกลุ่มหนึ่งทำความสะอาดโต๊ะในร้าน ที่สบายหน่อยแต่ปวดหัวคือพวกแคชเชียร์ที่ต้องเช็คยอดบิลของวันนี้ 
 ลมหายใจแผ่วที่พ่นออกจากริมฝีปากหนาของปอนด์ พาเอาไอร้อนระอุที่อัดอั้นภายในออกมาพร้อมกัน ชายหนุ่มร่างท้วมก้มหน้าก้มตาเช็ดโต๊ะตัวสุดท้ายภายในร้านฟาสต์ฟู้ดที่เกือบจะว่างเปล่า เมื่อลูกค้าคนสุดท้ายเพิ่งก้าวออกไปพร้อมกับเสียงกรุ๊งกริ๊งจากประตูที่ปิดลง กลิ่นหอมฟุ้งของไก่ทอดและเฟรนช์ฟรายส์เริ่มจางหายไป แทนที่ด้วยกลิ่นน้ำยาทำความสะอาดฉุนกึ๊กที่คุ้นเคย
 
 เขารีบเข้าไปเครียล์โต๊ะที่ลูกค้าพึ่งเดินออกไป ใช้ผ้าเช็ดถูปาดให้สะอาด จัดการเก็บจานพลาสติกเปื้อนซอสที่เหลือเศษกระดูกไก่ที่ถูกแทะจนขาวสะอาด เศษเฟรนช์ฟรายส์ที่ทิ้งคราบมันเยิ้มทิ้งลงถังขยะด้วยท่าทางเหนื่อยหน่ายสำอางกลัวเปื้อน ทำงานมาหลายเดือนก็ยังไม่ชินเสียที กว่าจะเก็บขยะแต่ละชิ้นลงถังได้ก็ใช้เวลาหลายนาที พอเห็นเศษไก่เหลือหลายชิ้นที่กำลังเก็บทิ้งก็แอบเสียดาย บางชิ้นยังไม่ได้แตะด้วยซ้ำ
 
 เคยได้ยินคนรวยบางคนพูดติดตลกว่า "การกินไม่หมดคือความสุขของคนรวย" หรือ "กินเหลือทิ้งไว้ก็แค่ไม่เสียดายเงิน"
 
 สำหรับคนอย่างเขา กระดูกไก่ที่ถูกทิ้งขว้างเหล่านั้นต่างหาก คือสิ่งที่แสดงถึงความสิ้นเปลืองไร้ค่าของชีวิตคนบางกลุ่มที่เห็นอาหารเป็นเพียงของประดับค่านิยมประหลาด ไม่ต่างจากขยะที่ต้องรีบกำจัดทิ้งไปให้พ้นหน้า ถึงกระนั้นมันก็เรื่องของคนอื่น เขาไม่มีสิทธิจะไปเสนอหน้าแก้ไขความถูกต้องอะไรทั้งนั้น
 
 ระหว่างกำลังจะทิ้งกล่องใส่ไก่ชิ้นสุดท้าย เขาเห็นว่าข้างในยังเหลือไก่ที่ยังไม่ได้กินอีกสองสามชิ้นใหญ่ เขามองซ้ายขวาก่อนปิดกล่องหยิบมัน ไม่ทิ้งลงถังขยะ ซ่อนไว้ในกระเป๋าผ้ากันเปื้อนก่อนแบบที่ทำเป็นประจำ
 
 ปอนด์ทำงานเป็นพนักงานร้านไก่ทอดฟาสต์ฟู๊ดมาแล้วสามเดือนกว่า ก่อนหน้านี้เคยทำงานอยู่ร้านชาบูบุฟเฟ่ต์แต่ดันมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานจึงขอลาออก มันเป็นงานพาร์ทไทม์ที่น่าเบื่อหน่ายและซ้ำซากจำเจ แต่ก็เพียงพอจะประทังชีวิตไปวันๆ ให้เขามีข้าวกิน มีที่ซุกหัวให้นอน
 
 ไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตตัวเองจะต้องมาอยู่ในจุดนี้ จุดที่ต้องรับจ้างล้างจาน เช็ดโต๊ะ เก็บกวาดเศษอาหารที่ลูกค้าทิ้งไว้ ทำงานหามรุ่งหามค่ำ แต่ทว่ากลับหนีเสือปะจระเข้ โชคดีที่อย่างน้อยที่นี่ต่างคนต่างอยู่ แม้เขารู้ว่าส่วนมากชอบไปพูดลับหลังกัน เป็นเรื่องปกติของการทำงานกับคนหมู่มากหลากความคิดและสันดานในตัว ให้เลือกได้คงให้มันอยู่ลำดับสิ่งสุดท้ายที่อยากทำในชีวิต หรือไม่ก็ไม่ขอทำมันเลยจะดีกว่า
 
 ต่อให้คิดแบบนั้นสุดท้ายก็เลือกไม่ได้ ในเมื่อสิ่งที่เขาเรียกว่าโชคชะตานำพาตัวเองมาจุดนี้ ไม่เคยคิดที่จะมาเป็นพนักงานร้านอาหารที่ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ แต่ละวันเขาจะต้องแบกถาดเสิร์ฟอาหารไปเสิร์ฟให้กับลูกค้า
 
 วันไหนโชคดีก็ราบรื่นตลอดทั้งวัน
 
 วันไหนโชคร้ายหน่อยก็ต้องควบหน้าที่ทอดไก่แทนคนไม่มาเพราะป่วยการเมือง
 
 ไม่ว่าวันนั่นจะแย่เพียงใด คงไม่หนักเท่ายัยเจ๊ผู้จัดการร้านจอมวีนสวดยกใหญ่
 
 แย่กว่ายัยเจ๊คือการหมดไฟกับชีวิตที่วนลูปแบบนี้ไม่รู้จบ
 
 เครียล์โต๊ะเสร็จเขากำลังจะนำขยะไปทิ้งก็ดันเผลอถอยหลังเตะถังน้ำที่พนักงานทำความสะอาดคนหนึ่งเตรียมไว้ถูพื้น
 
 เป้ง! น้ำหกเรี่ยราดตามพื้นเปียกโชก พนักงานที่กำลังถูพื้นไม่พูดอะไรแต่มองหน้าเขาด้วยสายตาโมโหน่าหงุดหงิด
 
 "อ...เอ่อ...ขอโทษครับ"
 
 ปอนด์รีบวางขยะไว้บนโต๊ะแล้วหยิบถังน้ำวิ่งแจ้นหน้าตั้งกลับไปเติมน้ำผสมน้ำยาใหม่ก่อนจะนำมาวางที่เดิมที่เขาพึ่งเตะล้ม ชายคนนั้นหน้ามุ่ยยื่นไม้ถูพื้นให้เขารับผิดชอบเก็บกวาด ไม่เอ่ยคำพูดใดก็ทำให้เขารู้สึกอึดอัดหน้าอายจากสายตาเชิงหิ่นหยาม เขายื่นมือรับไม้ถูพื้นมาด้วยท่าทางเจียมตัวสำนึกแล้วถูพื้นที่เปียกโชก
 
 ในวินาทีนั้นเขาพึ่งรู้ว่าพนักงานทุกคนอยากรู้อยากเห็นมองเขาเป็นสายตาเดียวกัน บางคนก็แอบนินทาพลางหัวเราะตลกชอบใจกับความซุ่มซ่ามของเขา ปอนด์ทำได้แค่ก้มหน้าลงพื้นแล้วถูพื้นให้หมดจรด เขาอับอายจนอยากเอาหน้ามุดดินเสียยิ่งกว่าโดนเจ๊ผู้จัดการเรียกไปโวยเรื่องมาทำงานสายสามครั้งเสียอีก
 
 พูดไปคงไม่มีใครเชื่อว่าอดีตเขาเคยเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตเกมแบทเทิล รอยัลชื่อดังของวงการ
 
 เขาคือ ไนท์เมอร์ ฉายาที่เคยทำให้คู่แข่งต้องฝันร้ายทุกครั้งที่ต้องเผชิญหน้า ที่เล่นคำมาจากคำว่า ไนท์แมร์
 
 ในยุครุ่งเรืองของเขา เป็นที่น่าจับตาในทุกการแข่งขันเกมแนวแบทเทิลรอยัล ฝีมือของเขาราวกับถูกพรสวรรค์รังสรรค์ขึ้นมา ทุกไฮไลต์การแข่งขันมักจะมีชื่อเขาเป็นไวรัล ไม่ว่าจะเป็นช็อตยิงสุดเหลือเชื่อ การอ่านรูปเกมที่เฉียบคมราวกับมองเห็นอนาคต หรือการตัดสินใจที่พลิกสถานการณ์จากเป็นรองกลับมาเป็นผู้ชนะได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เขาคือผู้เล่นที่ไม่เคยท้อถอยและไม่เคยยอมแพ้
 
 ทักษะการอ่านรูปเกมของเขาอยู่ในระดับอัจฉริยะ สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว รู้ว่าควรจะเคลื่อนที่ไปทางไหน ดักซุ่มตรงไหน หรือบุกจู่โจมตอนไหนเพื่อให้ได้เปรียบสูงสุด แม้ในยามที่ถูกล้อมก็ยังหาทางออกได้อย่างไร้ที่ติ ดุจจอมวางแผนที่มองเห็นกระดานหมากรุกได้ทะลุปรุโปร่ง
 
 และที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือ ทักษะการเล็งเป้าสุดคม ของเขา ที่พูดได้ไม่เกินจริงว่า ยิงคมระดับพระเจ้า ไม่ว่าเป้าหมายจะอยู่ห่างแค่ไหน เคลื่อนที่เร็วเท่าไร หรือถูกบดบังด้วยสิ่งกีดขวางใดๆ กระสุนจากปลายกระบอกปืนของเขามักจะพุ่งตรงเข้าสู่เป้าหมายอย่างแม่นยำเสมอ ราวกับกระสุนนั้นมีชีวิตและถูกควบคุมด้วยจิตวิญญาณของเขาเอง บ่อยครั้งที่เขาจัดการคู่ต่อสู้ได้ด้วยการยิงเพียงนัดเดียว สร้างความตกตะลึงให้กับทั้งผู้ชมและนักพากย์ เสียงเฮลั่นสนั่นสนามแข่งขันแทบทุกครั้งที่ชื่อไนท์เมอร์ปรากฏบนจอพร้อมข้อความแห่งชัยชนะ
 
 เขายืนอยู่บนจุดสูงสุดของวงการอีสปอร์ต พิชิตถ้วยรางวัลนับไม่ถ้วน นับตั้งแต่สมัยมัธยมจวบจนมหาลัย ชื่อของเขาเคยถูกจารึกไว้ในวงการเกม ภาพของเขาในชุดยูนิฟอร์มทีมที่ยืนอยู่บนโพเดียมพร้อมถ้วยรางวัลใบใหญ่พร้อมสมาชิกถูกฉายไปทั่วโลกออนไลน์ เสียงเชียร์ดังกึกก้อง แสงแฟลชจากกล้องนับร้อยสว่างวาบสะท้อนประกายแห่งชัยชนะบนดวงตาของเขา
 
 แต่ทั้งหมดนั้นก็เป็นแค่ความทรงจำที่เลือนราง เพราะในปัจจุบันเขาก็แค่คนธรรมดาที่มีชีวิตจืดชืดไร้ตัวตน
 
 เมื่อจากจุดสูงสุดของอาชีพนักกีฬาอีสปอร์ตเริ่มบดบังวิสัยทัศน์ในตัวตน ความทะเยอทะยานที่เคยบริสุทธิ์ก็แปรเปลี่ยนเป็นความละโมบโลภมากที่กัดกินจิตใจ ค่านิยมที่ผิดเพี้ยนกับความปรารถนาในสิ่งที่เกินตัว รวมถึงความเชื่อใจที่เคยมอบให้ใครบางคน ทำให้เขาก้าวพลาดไปในเส้นทางที่มืดมิด
 
 เขาตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่อาจให้อภัย ความผิดพลาดในอดีต ที่เขาหลงผิดไปนั้นไม่ใช่แค่การแข่งขันที่พ่ายแพ้ แต่มันคือการทรยศต่อความศรัทธาของแฟนๆ และวงการเกมทั้งมวล ชื่อเสียงที่สร้างมานานนับปีพังทลายลงในชั่วข้ามคืน ดุจปราสาททรายที่ถูกคลื่นซัดหายไปในพริบตา บทลงโทษรุนแรงและเด็ดขาด เมื่อความจริงถูกเปิดเผย วงการเกมได้สาปส่งเขาอย่างไม่มีทางกลับคืนมา 
 
 ชื่อ ไนท์เมอร์ ที่เคยเป็นที่รู้จัก กลายเป็นแค่ความอับอายขายหน้าขอฃวงการที่ผู้คนนักนำชื่อนั้นมาล้อ ไม่ก็แซะถากถางเอาฮา เป็นสัญลักษณ์ของความล้มเหลวที่สุดในชีวิต
 
 ชีวิตหลังจากนั้นก็ไม่ต่างจากเกมโอเวอร์ที่ไม่มีปุ่มรีสตาร์ท เขาถูกถีบส่งออกจากวงการที่เคยเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเขา เหลือทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า ความเบื่อหน่ายที่กัดกินจิตใจ และความเจ็บปวดจากความผิดพลาดที่ไม่อาจย้อนคืน ภาพอดีตอันรุ่งโรจน์ที่ถูกบิดเบี้ยวด้วยเงาของความละโมบ ยังคงหลอกหลอนเขาอยู่ในทุกคืนวัน เหมือนบทเพลงที่ยังคงก้องอยู่ในหู แม้จะอยู่ในความเงียบงันของร้านฟาสต์ฟู้ดก็ตาม
 
 ปอนด์นำถังขยะไปเทเศษอาหารทิ้งลงถุงดำ ก่อนรวบปากแบกถุงขยะอ้วนกลมหนักไปทิ้งที่ถังขยะด้านหลังร้านและยังไม่ลืมที่จะหยิบกล่องใส่ไก่ที่เอามาติดมือไปด้วย ระหว่างเดินผ่านไปห้องครัวก็เห็นกลุ่มพนักงานครัวยืนคุยกันเฮฮาสนุกสนาน ต่างจากเขาที่ก้มหน้าผ่านไปราวกับไม่มีตัวตน ยังไม่ทันจะได้ก้าวขาพ้นครัวก็แอบได้ยินเสียงซุบซิบนินทาที่ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แต่เขารู้ว่าไอ้คนพวกนั้นมันแอบนินทาเขา สังเกตจากหางตาที่เห็นไอ้พวกจอมปลอมมองมาที่เขากรายๆ เพราะทุกคนต่างมองเขาเป็นคนแปลกแยก
 
 หลังจากหมดหน้าที่ของตัวเองเขาก็ปลีกวิเวกมาอยู่คนเดียว เขาหย่อนก้นนั่งลงตรงบันไดส่งสินค้าข้างประตูหลังร้าน บรรยากาศห้างตอนกลางคืนต่างจากกลางวันสิ้นเชิง ไม่มีผู้คนให้วุ่นวาย รถราที่เคยจอดแน่นที่ลานจอดรถก็เหลือไม่กี่คัน เหมาะแก่การพักใจกับช่วงเวลาหัวหมุนตลอดทั้งวัน ยามวิกาลเปรียบเหมือนเพื่อนคนเดียวของเขาเวลานี้ มันทั้งเงียบสงบ ไม่มีสายตาหรือการกระทำเชิงรังเกียจ พร้อมให้เขาได้อยู่กับตัวเอง
 
 “หมดไปอีกหนึ่งวันเฮ็งซวย!” เขาพึมพำแล้วถอนหายใจส่ายหัวให้กับชีวิต
 
 เขานั่งแทะไก่ที่เก็บมากินอย่างเอร็ดอร่อย แม้ไก่จะเย็นและน้ำมันซึมไม่อร่อยแต่ก็คุ้มค่าเพราะเป็นของฟรี เขากินไก่ทุกชิ้นจนหมดเหลือแต่กระดูกก็เอาใส่รวมในกล่องแล้วค่อยลุกไปทิ้งที่ถังขยะ เสร็จแล้วเอามือเช็ดกางเกงจนหายมันกลับมานั่งที่เดิม
 
 เขาหยิบมือถือแอนดรอยด์รุ่นเก่าในกระเป๋าขึ้นมาแล้วเข้าเฟซบุ๊คดูแก้เบื่อรอเวลาเลิกงาน ระหว่างนิ้วไถฟีดข่าวขึ้นลงก็เจอแต่โพสท์ข่าวนักการเมืองพินอคคิโอกับดราม่าประเด็นร้อนของคนบนโลกออนไลน์แต่พอเข้าไปอ่านจริงกับเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่อง คอมเมนต์แต่ละอย่างที่เขาลองไล่อ่านดูตามประสาคนอยากรู้อยากเห็นก็ดูดีมีเหตุผลไปจนถึงไร้สาระไม่มีสมอง บางคนก็ด่าลามปามราวกับพวกไร้อารยะ 
 
 คนบนโลกออนไลน์มันก็แบบนี้เป็นปกติ บางคนแค่อยากมาระบายถ่มถุยแชร์ความคิดบิดเบี้ยวปลดปล่อยอีกตัวตนประเจิดประเจ้อน้อยๆ ที่ซุกซ่อนมาลงในโลกอินเทอร์เน็ต
 
 ระหว่างที่นั่งไถฟีดข่าวไปเรื่อยก็บังเอิญไปเจอกับโพสท์จากเพจข่าววงการอีสปอร์ตที่โพสท์แสดงความยินดีกับทีมนักกีฬาสังกัด MyTH ที่เขาเคยเป็นผู้เล่นเมื่อสมัยอยู่มหาลัย ในตอนนี้ทีมได้เข้าร่วมลีกระดับนานาชาติ จากเมื่อก่อนเป็นแค่ทีมสมัครเล่นลงรายการเล็กๆ ตามงานอีเวนต์ในห้างสรรพสินค้า
 
 “มาไกลเหมือนกันนะเนี่ย” เขายิ้มมุมปากคิดถึงอดีตช่วงเวลารุ่งโรจน์ของเขา
 
 ปฎิเสธไม่ได้ว่าเขาคือหนึ่งในคนที่ทำให้ไทเกอร์ครายมีวันนี้ได้ จะพูดว่าเขาเป็นรุ่นก่อตั้งและบุกเบิกก็ไม่ผิดเพราะไทเกอร์ครายเป็นทีมแรกๆ ที่เขาได้เข้าวงการแข่งแบบจริงจัง
 
 บนหน้าจอขนาดเจ็ดนิ้วเผยให้เห็นวิดีโอเริ่มเล่น ภาพสนามประลองขนาดใหญ่ที่มีผู้เล่นนับร้อยกระโดดร่มลงมาจากเครื่องบินเพื่อล่าหาอาวุธและเอาตัวรอด เสียงระเบิดตูมตาม เสียงปืนกราดเกรี้ยว ดังกระหึ่มจากลำโพงโทรศัพท์ที่แทบจะไม่ได้ยินดีเท่าไหร่ ดวงตาของปอนด์จับจ้องอย่างไม่วางตา ราวกับนักล่าที่กำลังวิเคราะห์เหยื่อของตัวเอง 
 
 ภาพมุมกล้องมุมสูงจับไปที่จังหวะเริ่มเกม ผู้เล่นจากทีม Bekon กระจายตัวลงสู่พื้นที่ A4 อย่างรวดเร็ว ดูเหมือนจะเป็นแผนการที่เน้นการฟาร์มของและจับจองพื้นที่ตั้งแต่ต้น เพื่อสร้างความได้เปรียบทางไอเท็ม ขณะที่ทีม MyTH ลงไปในโซนเข้าปะทะกับอีกสองทีม เพื่อตัดกำลังคู่แข่ง ข้อความมุมขวาบนแสดงชื่อผู้เล่นที่ถูกสังหารเด้งขึ้นพรวดพราดต่อเนื่อง แต่ไม่มีสมาชิกทีม MyTH คนไหนล้มลงสักคน สมแล้วที่เป็นสองทีมลีกประจำประเทศ ตั้งแต่อดีตที่เขาเคยได้ประชัญฝีมือ จวบจนปัจจุบันที่เขากลายเป็นแค่คนดูอยู่หลังจอ
 
 แม้จะเป็นแค่เกมในจอ แต่สัญชาตญาณเก่าของ ไนท์เมอร์ ก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น
 
 “เคลื่อนที่ช้าไปหนึ่งวินาที... ถ้าเจอพวกดักยิงตรงนี้ก็จบเห่”
 
 เขาพึมพำคนเดียว ปากกระจับขยับเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว รู้ดีว่าถ้าเจอทีมที่เน้นลงเร็วพร้อมปืนระยะประชิด ทีม Bekon อาจจะถูกเก็บได้ง่ายๆ ก่อนจะได้ตั้งตัว ส่วนทีม MyTH ก็ยังช่ำชองเรื่องการเดินเกมเร็วเหมือนเดิม ในทางกลับกันเป็นการสร้างช่องโหว่ไม่น้อย
 
 ภาพตัดไปที่จังหวะปะทะ ผู้เล่นทีม Bekon กับทีม MyTH ถูกโซนบีบให้มาประชันหน้ากัน พวกเขาต่างดวลปืนกันอย่างดุเดือดเมื่อเจอตัว เสียงปืนกลที่กระหน่ำยิงราวห่าฝน ภาพกระสุนที่พุ่งผ่านหน้าจออย่างรวดเร็วทำให้เขาหวนนึกถึงอดีต เสียงนักพากย์ที่กำลังตะโกนอย่างตื่นเต้นดังออกมาจากโทรศัพท์ 
 
 “โอ้โห! ช็อตนี้สวยงามมากครับ! ทีม MyTH ดันได้ดีเยี่ยมจริงๆ ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะกวาดเรียบทีม Bekon ยกตี้ได้เลยครับ!” นักพากษ์ในวีดิโอพูดด้วยความตื่นเต้น
 
 ‘มันยังไม่สุด’
 
 ปอนด์คิดในใจ เขาเห็นช่องว่างในการบุก เห็นมุมที่สามารถเข้าโจมตีได้ดีกว่านี้ การตัดสินใจที่ดูรวดเร็วสำหรับคนอื่น แต่สำหรับเขา มันยังช้าไปหนึ่งก้าวเสมอ 
 
 เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพึมพำ “ไม่หรอก... มันแค่โชคช่วย”
 
 เขาเห็นช่องว่างที่ทีม MyTH ปล่อยทิ้งไว้ การเข้าปะทะแบบนั้นโดยไม่เคลียร์พื้นที่ด้านข้างให้ดีเสียก่อน ถือเป็นการเสี่ยงโดยไม่จำเป็น อาจมีทีมอื่นอยู่ในละแวกเดียวกัน ไม่ต่างอะไรกับศึกรอบด้าน แต่พอลองดูที่แมพก็พบว่ามีแค่สองทีมที่กำลังคลุกวงในกัน ทีมอื่นกำลังเร่งฝีเท้าเข้าโซนปลอดภัย ตามที่เขาคิดว่าทีม MyTH ในการแข่งขันนี้ ดูเหมือนจะเน้นโชคจริงๆ เสียแล้ว 
 
 'โอกาสรอดของทีม Bekon มันน้อยอยู่แล้ว อย่างว่าแหละ ทั้งทีมถนัดแต่เน้นซุ่มมาตั้งแต่ไหนแต่ไร พอเจอพื้นที่เปิดก็งานหยาบเป็นธรรมดา แต่ถ้าพวกนั้นเลือกถอย... อาจจะพลิกเกมกลับมาได้เหมือนกันรึเปล่านะ' เขาคิดในใจอย่างรวดเร็ว
 
 ภาพในวิดีโอฉายให้เห็นจังหวะที่ผู้เล่นฝ่าย Bekon พยายามใช้ระเบิดควัน สร้างม่านกำบังเพื่อล่าถอย 
 
 “พลาดแล้ว...” รู้สึกคันไม้คันมือ อยากจะกดเข้าไปเล่นเอง 
 
 เขาเคยเจอสถานการณ์แบบนี้บ่อยครั้ง และมักจะหาทางพลิกกลับมาได้เสมอด้วยการอ่านเกมที่กินขาดล่วงหน้า ความแม่นยำในการยิงของนักกีฬาในวิดีโอที่คนทั่วไปอาจมองว่าคมกริบ แต่พอลองสังเกตให้ดีก็พบว่าพวกเขาแลกกระสุนแบบสาดสุ่มๆ เพื่อกดดันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามเข้ามาใกล้ ถึงจะพอโดนบ้างนัดสองนัดแต่ยังไม่นับว่านั่นเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด
 
 สำหรับปอนด์แล้ว มันยังห่างชั้นกับระดับพระเจ้าที่เขาเคยทำได้ไกลนัก
 
 เขาเลื่อนวิดีโอไปข้างหน้าอีกเล็กน้อยไปยังช่วงท้ายเกม ภาพผู้เล่นที่เหลือรอดเพียงไม่กี่คนกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดในวงเขตปลอดภัยที่บีบแคบลงเรื่อยๆ ผู้เล่นเหลือเพียงแปดคนสุดท้าย แสดงว่าตอนนี้ถึงช่วงเวลาของการตัดสิน หากพลาดแค่ครั้งเดียวก็คิดทายผลแพ้ชนะไว้ในใจได้เลย ไม่น่าเชื่อว่าทีม Bekon กับทีม MyTH ยังคงเอาตัวรอดมาได้ ความตึงเครียดของเกมยังคงปรากฏ แม้จะเป็นเพียงวิดีโอที่ถูกบันทึกไว้ก็ตาม 
 
 ‘ตรงนั้น... ถ้ามีสไนเปอร์ดีๆ คงเก็บได้แล้ว’ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย เห็นจุดที่ผู้เล่นฝ่าย Bekon กำลังหลบอยู่หลังสิ่งกำบังอย่างไม่มิดชิดนัก ถ้าเป็นเขา คงเล็งยิงผ่านช่องว่างเล็กๆ นั้นได้อย่างง่ายดาย 
 
 ‘ทีม Bekon มีโอกาสชนะสูง ถ้าอีกฝ่ายไม่ดันขึ้นมา หรือไม่พวกนั้นก็ใจร้อนเกินไปน่ะนะ’ เขาวิเคราะห์ด้วยความเคยชินในใจ ราวกับกำลังเล่นเกมอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์เครื่องเก่าของตัวเอง 
 
 หน้าจอโทรศัพท์สั่นไหวเล็กน้อย เมื่อภาพในวิดีโอกำลังจะเฉลยผลแพ้ชนะในอีกไม่กี่วินาที เสียงปืนนัดสุดท้ายใกล้จะดังขึ้น และชื่อของทีมผู้ชนะกำลังจะปรากฏ เขาจ้องเขม็ง ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเลยแม้แต่น้อย
 
 “พี่ปอนด์คะ”
 
 เสียงใสๆ ของพนักงานพาร์ทไทม์หญิงคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง เขาสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนหันไปมองอย่างเฉยเมย 
 
 “ค…ครับ? มีอะไรหรอ?” น้ำเสียงที่ราบเรียบ พยายามไม่ให้ความหงุดหงิดจากการถูกขัดจังหวะหลุดรอดออกมา
 
 “ผู้จัดการเรียกน่ะค่ะ รีบไปหน่อยก็ดีนะคะ” เธอพูดเสียงเรียบ ใบหน้าของเธอดูจริงจังผิดปกติ ไม่เหมือนกับที่เคยเห็นเมื่อตอนอยู่ในร้าน
 
 เขาขมวดคิ้วแล้วเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์อีกครั้งเพียงเสี้ยววินาที วิดีโอเกือบจะจบแล้ว อีกนิดเดียวเท่านั้นก็จะรู้ผลแพ้ชนะ เขากำลังจะบอกปัด แต่เมื่อเห็นแววตาจริงจังของเพื่อนร่วมงาน รวมถึงน้ำเสียงที่ดูแข็งกร้าวขึ้นมาเล็กน้อย เขาก็รู้ทันทีว่ามันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ และเขาเองก็รู้อยู่แก่ใจดีว่าผู้จัดการจะเรียกเขาไปเรื่องอะไร คงไม่พ้นเรื่องที่เขาเคยทำผิดพลาดไว้ในอดีต ซึ่งมันมักจะตามหลอกหลอนเขาอยู่เสมอ
 
 “เอ่อ…ครับ…”
 
 ความรู้สึกเบื่อหน่ายและความเหนื่อยล้าเข้าครอบงำอีกครั้ง ราวกับว่าชีวิตของเขาคือละครซ้ำซากที่ต้องเล่นบทเดิมๆ
 
 เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ เก็บมือถือใส่กระเป๋าอย่างเชื่องช้าแล้วลุกขึ้นยืน ก็ไม่ได้หวังอะไรกับชีวิตนี้อีกแล้ว จะโดนไล่ออก หรือโดนด่าก็คงไม่ต่างกัน เพียงแค่เดินตามชะตากรรมที่ถูกกำหนดไว้แล้วอย่างเงียบงัน