“หมอภาคิน” นักศึกษาแพทย์ปีสามผู้จริงจังกับชีวิต ไม่เคยปล่อยให้อะไรหลุดจากแผน แต่ดันต้องมาปะทะกับ “ช่างนที” วิศวะหนุ่มปีสองสายกวนที่ใช้หัวใจนำทางแทนเหตุผล การพบกันครั้งแรกคือหายนะ—คำพูดกัดจิกและท่าทีไม่ยอมกัน แต่ยิ่งหนีเหมือนยิ่งเจอ ทั้งในกีฬาสี งานกลุ่มข้ามคณะ หรือแม้แต่ช่วงเวลาบังเอิญที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น ความต่างที่เคยเป็นกำแพงเริ่มกลายเป็นแรงดึงดูด จนทั้งคู่ต้องตั้งคำถามกับหัวใจตัวเองว่า แท้จริงแล้วสิ่งที่รู้สึกคือความรำคาญ…หรือความรักที่ค่อย ๆ เติบโตท่ามกลางความวุ่นวายกันแน่.
ชาย-ชาย,รัก,วัยว้าวุ่น,ไทย,อื่นๆ,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
รักในรั้วมหา’ลัย“หมอภาคิน” นักศึกษาแพทย์ปีสามผู้จริงจังกับชีวิต ไม่เคยปล่อยให้อะไรหลุดจากแผน แต่ดันต้องมาปะทะกับ “ช่างนที” วิศวะหนุ่มปีสองสายกวนที่ใช้หัวใจนำทางแทนเหตุผล การพบกันครั้งแรกคือหายนะ—คำพูดกัดจิกและท่าทีไม่ยอมกัน แต่ยิ่งหนีเหมือนยิ่งเจอ ทั้งในกีฬาสี งานกลุ่มข้ามคณะ หรือแม้แต่ช่วงเวลาบังเอิญที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น ความต่างที่เคยเป็นกำแพงเริ่มกลายเป็นแรงดึงดูด จนทั้งคู่ต้องตั้งคำถามกับหัวใจตัวเองว่า แท้จริงแล้วสิ่งที่รู้สึกคือความรำคาญ…หรือความรักที่ค่อย ๆ เติบโตท่ามกลางความวุ่นวายกันแน่.
ภาคิน นักศึกษาแพทย์ปีสาม ผู้จริงจังกับชีวิตและการเรียนจนใคร ๆ เรียกติดปากว่า “คุณหมอในฝัน” เขาเย็นชา ปากแข็ง และไม่เคยเปิดใจให้ใคร…
จนกระทั่งได้เจอกับ “นที” วิศวะปีสี่สายกวน ที่มาพร้อมรอยยิ้มกวน ๆ และนิสัยขี้แกล้งสุดขั้ว
จากการชนกันในกิจกรรมมหา’ลัย กลายเป็นการต้องร่วมงานกันในโปรเจกต์พิเศษที่ทำให้ทั้งคู่ต้องเจอกันทุกวัน — และทุกครั้งที่นทีแหย่เล่น ภาคินก็ยิ่งเผยมุมเปิ่น ๆ ที่น่ารักเกินต้าน
แต่เบื้องหลังรอยยิ้มของนที กลับมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งกว่าที่ใครคาดคิด และเบื้องหลังความเย็นชาของภาคิน คือหัวใจที่กำลังเต้นแรงทุกครั้งที่ได้สบตาเขา
เมื่อความใกล้ชิดเริ่มกลายเป็นความผูกพัน และความห่วงใยเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความรัก… ภาคินจะยอมปลดล็อกหัวใจตัวเองเพื่อคนที่เขา “แอบหวง” มาตลอดหรือไม่?
เสียงประกาศจากไมโครโฟนในห้องประชุมใหญ่ของมหาวิทยาลัยดังก้องท่ามกลางนักศึกษาหลายร้อยคนที่นั่งกันอย่างหนาแน่น งานสัมมนาข้ามคณะปีนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างนักศึกษาแพทย์และวิศวะ โดยมีหัวข้อเกี่ยวกับ “นวัตกรรมทางการแพทย์และเครื่องมือช่วยชีวิต”
ภาคินนั่งอยู่แถวกลาง ใบหน้าสงบนิ่งเหมือนทุกครั้งที่เข้าร่วมกิจกรรมทางวิชาการ แต่ใจของเขากลับเต้นไม่สงบเหมือนเช่นทุกครั้งที่เจอนที ความคิดถึงรอยยิ้มกวน ๆ และเสียงหัวเราะทุ้ม ๆ ของอีกฝ่ายยังคงวนเวียนอยู่ในหัว
“ต่อไปจะเป็นการจับกลุ่มข้ามคณะนะครับ แต่ละกลุ่มจะมีทั้งนักศึกษาแพทย์และวิศวะผสมกัน” เสียงอาจารย์ดังกังวาน
ภาคินถอนหายใจเบา ๆ มือสั่นเล็กน้อยเมื่อหยิบกระดาษสุ่มขึ้นมา เขาเหลือบมองตัวเลข—กลุ่มที่ 7
ไม่ทันขยับตัว เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นข้าง ๆ
“อ้าว… ว่าที่คุณหมอ กลุ่มเดียวกันอีกแล้วเหรอเนี่ย” นทียืนยิ้มกว้าง มือยกขึ้นพยักพเยิดอย่างเป็นมิตร รอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้นทำให้ภาคินต้องกลืนน้ำลายไปหนึ่งที
ภาคินเงยหน้าช้า ๆ พยายามไม่ให้สีหน้าเผยอารมณ์ “นี่มันบังเอิญเกินไปแล้วนะ” เขาพูดเสียงเรียบ แต่หัวใจเต้นแรงผิดปกติ
“หรือจริง ๆ แล้วเป็นพรหมลิขิตก็ไม่รู้” นทีตอบพร้อมยักคิ้ว มือเกาเบา ๆ ที่ท้ายทอย ท่าทางสบาย ๆ แต่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
เพื่อน ๆ ในกลุ่มหัวเราะคิกคัก บางคนแซวเสียงดัง “หมอกับวิศวะนี่เคมีแรงนะ!”
ภาคินรีบก้มหน้ากลบเกลื่อนใบหน้าที่เริ่มร้อนผ่าว พยายามรวบรวมสติ
เมื่อเริ่มประชุม โต๊ะยาวถูกจัดไว้สำหรับการระดมความคิด ภาคินเปิดโน้ตบุ๊กขึ้นมาอย่างจริงจัง มือวางนิ่งบนแป้นพิมพ์ สายตาจดจ้องที่หน้าจอ เหมือนพยายามตั้งใจทำงานเพื่อกลบความใจเต้นแรง
นทีนั่งเอนหลังบนเก้าอี้ มือหมุนปากกาหมุนเล่นอย่างไร้เดียงสา “เราควรเริ่มจากการหาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์ที่ต้องการพัฒนา” ภาคินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงมั่นคง มือชี้บนหน้ากระดาษโน้ต
“แล้วถ้าเราทำเป็นเครื่องช่วยหายใจแบบพกพาล่ะ ฟังดูเท่ดีนะ” นทีพูดพร้อมยิ้มกวน ๆ เอียงคอเล็กน้อย น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและคิดเล่น ๆ
ภาคินหันมามองด้วยสายตาดุ มือกำแน่น “นี่มันไม่ใช่เรื่องเท่หรือไม่เท่ มันต้องใช้งานได้จริงและปลอดภัย”
“โอเค ๆ คุณหมอจริงจังอีกแล้ว… แต่ผมว่าความคิดสร้างสรรค์ก็สำคัญเหมือนกันนะ” นทีตอบกลับอย่างยียวน มือเกาท้ายทอยอีกครั้ง รอยยิ้มไม่ลดลง
เสียงหัวเราะของเพื่อนร่วมกลุ่มดังขึ้นเป็นระยะ บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนานเหมือนกำลังดูละครสดที่ทั้งคู่แสดงอยู่
หลังเลิกประชุม ภาคินเก็บของลงกระเป๋าอย่างรวดเร็ว แต่เสียงทุ้มกวน ๆ ก็โผล่มาอีกครั้ง
“หมอ… นายไม่คิดว่าพวกเราจะเข้าขากันดีเหรอ” นทีเอียงคอ มองภาคินด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
“เข้าขา? ฉันว่ามันน่าปวดหัวมากกว่า” ภาคินตอบเสียงเรียบ มือกำสายกระเป๋าแน่น ๆ แต่หัวใจเต้นแรงจนเขาแทบไม่กลั้น
“แต่หัวใจนายเต้นแรงใช่มั้ยล่ะ” นทีพูดราวกับรู้ใจ ยกยิ้มบาง ๆ รอปฏิกิริยาจากภาคิน
ภาคินชะงักไปชั่วขณะ ก่อนรีบเดินออกจากห้องโดยไม่ตอบอะไร ทิ้งให้นทียืนยิ้มมุมปากอย่างพอใจ
ค่ำคืนนั้น ภาคินนั่งอยู่ในห้องอ่านหนังสือของหอพัก เขาพยายามจดจ่อกับตำรา แต่ทุกครั้งที่พยายามอ่าน สายตาและความคิดก็ยังวนเวียนไปหา รอยยิ้มกวน ๆ และเสียงหัวเราะทุ้ม ๆ ของนที
เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผู้ชายคนนั้นถึงทำให้หัวใจของเขาไม่เคยสงบได้เลยตั้งแต่วันแรกที่เจอ
และนี่… อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายที่เขาไม่อาจปฏิเสธได้อีกต่อไป