"เมื่อคำทำนายจากไพ่ทาโรต์นำไปสู่การล่มสลายของอาณาจักร เจ้าหญิงผู้หยั่งรู้อนาคตจำต้องเดินทาง เพื่อแก้ไขชะตา... และเผชิญหน้ากับความรักต้องห้ามที่ไม่ควรเกิดขึ้น"

ARCANA คำทำนายแห่งโชคชะตา - บทที่2 The magician นักเล่นกล (2) โดย เงาเวลา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ยุคกลาง,รัก,ผจญภัย,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ARCANA คำทำนายแห่งโชคชะตา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ยุคกลาง,รัก,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

 ARCANA คำทำนายแห่งโชคชะตา โดย เงาเวลา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"เมื่อคำทำนายจากไพ่ทาโรต์นำไปสู่การล่มสลายของอาณาจักร เจ้าหญิงผู้หยั่งรู้อนาคตจำต้องเดินทาง เพื่อแก้ไขชะตา... และเผชิญหน้ากับความรักต้องห้ามที่ไม่ควรเกิดขึ้น"

ผู้แต่ง

เงาเวลา

เรื่องย่อ

คำนำนักเขียน

สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่เรื่อง Arcana คำทำนายแห่งโชคชะตา เรื่องนี้ผลงานเรื่องแรกของเราเอง (ฮา) ถือซะว่าเป็นการงานผลอ่าน พร้อมๆ กับการเฝ้าดูการเติบโตของเราเอง >< โดยเนื้อเรื่องจะกล่าวถึง การใช้ไพ่ทาโรต์ในการทำนายดวง มีการรีเสิร์ชข้อมูลเกี่ยวกับไพ่ ตำนาน ความหมายต่าง ๆ และมีการแต่งเสริมเพื่อความอรรถรสในการอ่าน จินตนาการเรื่องราวอีกด้วย

ความคิดเห็นจากนักอ่านทุกท่าน คือ กำลังใจและคำชี้แนะของเรา ขอขอบคุณไว้ล่วงหน้านะคะ โดยเรื่องนี้เราจะทดลองลงเป็นตอน ทั้งหมดประมาณ 10 ตอน เพื่อดูแนวโน้มของนิยายเรื่องนี้ในอนาคต หลังจากนั้นเราก็จะทำเป็น E-book โดยมีทั้งหมด 22 ตอนนั้นเอง 

รบกวนนักอ่านทุกๆ ท่าน เอ็นดู และสนับสนุนเราด้วยนะคะ

รักทุกท่านที่กำลังเปิดอ่านหน้านี้

เงาเวลา

สารบัญ

ARCANA คำทำนายแห่งโชคชะตา-บทนำ เริ่มต้น, ARCANA คำทำนายแห่งโชคชะตา-บทที่1 The Fool ก้าวแรกของผู้ไม่รู้, ARCANA คำทำนายแห่งโชคชะตา-บทที่2 The magician นักเล่นกล (1), ARCANA คำทำนายแห่งโชคชะตา-บทที่2 The magician นักเล่นกล (2), ARCANA คำทำนายแห่งโชคชะตา-บทที่3 The High Priestess ความลับใต้แสงจันทร์ (1), ARCANA คำทำนายแห่งโชคชะตา-บทที่3 The High Priestess ความลับใต้แสงจันทร์ (2)

เนื้อหา

บทที่2 The magician นักเล่นกล (2)

เวลาเช้าตรู่ของวันถัดไป....

“มาช้าจังนะ...ข้าบอกแล้วใช่ไหมว่า...อย่าให้ข้ารอ”

เสียงเล็กแหลมจากหญิงสาว ผู้ยืนอยู่ลานกลางเมือง คลุมชุดด้วยสีน้ำเงินหม่น รอชายหนุ่มที่กำลังวิ่งมา ด้วยอารมณ์ที่ไม่พอใจเล็กน้อย

“โทษ ๆ ข้าลืมของนิดหน่อย...เลยวิ่งกลับไปเอามา...”

ชายหนุ่มเอ่ยออกไปเช่นนั้น...อันที่จริงบ้านพักของเขา ห่างไกลจากสถานที่ที่นัดกัน จึงต้องใช้เวลามากกว่าปกติ ไม่ทันรอให้ชายหนุ่มที่วิ่งมาหายเหนื่อย หญิงสาวเดินออกไปแล้วจูงม้าสองตัวมา...

“งั้นพวกเราไปกันเถอะ...”

เอลาร่าเอ่ยเสียงเรียบ ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลจ้องลึกเข้าตาของชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ

“เจ้าขี่ม้าเป็นใช่หรือไม่”

คำถามนั้นทำให้ลูเซียเลิกคิ้วเล็กน้อย แววตาเต็มไปด้วยความฉงน เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ

“ขี่ม้า?...”

ไม่ทันที่เขาจะทันเอ่ยถามต่อ ร่างของหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างเขา เอลาร่ากระโดดขึ้นหลังม้าอย่างคล่องแคล่ว ท่วงท่าราวกับผู้ที่คุ้นเคยกับอานและบังเหียนม้าตั้งแต่เด็ก ความมั่นใจในอิริยาบถนั้น ทำให้ลูเซียอมยิ้มออกมาจาง ๆ ก่อนจะยักไหล่ แล้วกระโดดขึ้นม้าไปนั่งเคียงข้าง

“ไปกันได้แล้ว”

พอสิ้นเสียงเอลาร่าพูด เธอควบม้าพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ลูเซียมองตามร่างของหญิงสาวที่เคลื่อนห่างออกไปอย่างว่องไว ก่อนจะยิ้มบาง ๆ และเร่งบังเหียนม้าของตนควบตามไปทันที เสียงฝีเท้าม้ากระทบพื้นดินเป็นจังหวะ เร็วขึ้น...และเร็วขึ้น พวกเขาข้ามผ่านทุ่งหญ้า เนินเขา และแสงอาทิตย์ยามเย็นที่ค่อย ๆ ลาดต่ำ ลงเรื่อย ๆ ในที่สุด...ทั้งคู่ก็มาถึงชายแดนของดินแดนแห่งเหรียญ ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะลับขอบฟ้าเพียงชั่วเสี้ยวลมหายใจ ผืนฟ้าถูกย้อมด้วยสีทองแดงและม่วงเข้ม เสียงลมพัดเบาๆ คล้ายต้อนรับการมาถึงของพวกเขา ดินแดนแห่งเหรียญ อาณาจักรที่เต็มไปด้วยด้านการค้าขายเวทมนตร์ และตลาดที่ขึ้นชื่อของเมือง  ตลาดเวทมนตร์แห่งสุดท้าย ทั้งคู่มาหยุดลงที่วิหารกลางเมือง

“เรามาพักที่วิหารกันก่อน”

เอลาร่ากระโดดลงจากบังเหียนม้าอย่างสง่างาม ทำเอาลูเซียมองตาค้าง รีบตั้งสติลงมาจากหลังม้าอย่างทุลักทุเล เขากวาดตามองไปรอบบริเวณวิหาร ด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น แล้วเอ่ยออกมาเบา ๆ 

“ข้าจะไปดูรอบ ๆ วิหารก่อนนะ”

เอลาร่ามองไปยังวิหารที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า สายตาของเธอเต็มไปด้วยความแน่วแน่ ก่อนจะตอบเขา...

“ได้...ข้าจะเข้าไปดูในวิหาร”

เอลาร่าก้าวเข้าไปในวิหารอย่างเงียบงัน บรรยากาศภายในอบอวลไปด้วยกลิ่นของดอกไม้ที่นำมาถวาย แสงแดดยามเย็นส่องลอดผ่านมายังหน้าต่างหินสี จนเกิดสีสันที่พื้นอย่างมากมาย เธอเดินตรงไปยังแท่นหินกลางวิหาร ก่อนจะหยิบสำรับไพ่ทาโรต์ออกมาจากกระเป๋า ลมหายใจเธอแผ่วเบา ขณะหลับตาตั้งสมาธิ

“ข้าขอทำนายถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับไพ่ The Magician” 

เธอพึมพำเสียงเบา ขณะหยิบไพ่ใบหนึ่งขึ้นมา 

ทันใดนั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากเงามือมุมห้อง แฝงพลังงานที่คุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก

“ผู้ใช้ไพ่ทำนายรึ”

เอลาร่าชะงัก เงยหน้าขึ้นมาอย่างระมัดระวัง

“ใครน่ะ...”

จากเงามืด หญิงสาวสวมผ้าคลุมยาวสีเทาหม่นก้าวออกมา ใบหน้าของเขาถูกบดบังด้วยหมวกคลุมของชุด ดวงตาสีทองฉายแววลึกลับ ริมฝีปากยกยิ้มบาง

“สวัสดี...เราคือนักเล่นกลของดินแดนแห่งเหรียญ...

ดูท่าน...อยากมีเรื่องที่จะคุยกับเรานะ”

เสียงนุ่มลึกดังออกมา ตอบในสิ่งที่เอลาร่าต้องการอยู่ ณ ตอนนี้ ทั้งคู่เดินออกมาจากวิหาร และเจอลูเซียที่เดินกลับมาจาการสำรวจเมือง เมื่อลูเซียเห็นเอลาร่าจึงเอ่ยขึ้นมาว่า...

“เอลาร่าข้ากลับมาแล้ว...คนเมืองนี้แปลกจริง...

ทุกคนดูง่วงกันตลอดเวลา...ไม่มีสิ่งบันเทิงอะไรเลย... ”

ลูเซียหัวเราะเบา ๆ กับตัวเอง แต่แล้วก็ชะงักเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นร่างของใครบางคนยืนอยู่ด้านหลังของเธอ เขายืดตัวเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงสุภาพ

“แล้วท่านนั้นคือ...”

หญิงสาวชุดสีเทาก้าวออกมาอย่างช้า ๆ แสงจากโคมสะท้อนเงาใบหน้าครึ่งหนึ่งมองเห็นดวงตาสีทองที่จ้องตรงมา

“ข้าคือ... ”

ไม่ทันที่เธอจะพูดจบ เอลาร่าหันหน้ามา ขัดจังหวะเอ่ยด้วยเสียงที่เรียบเย็น

“The magician...นักเล่นกล”

เมื่อสิ้นเสียงของเอลาร่า หญิงสาวในชุดคลุมชะงักไปเล็กน้อย ริมฝีปากคลี่ยิ้มบางอย่างมีนัย

“ยินดีที่ได้รู้จัก...งั้นตามข้ามา”

เสียงที่ออกมาจากเธอ ให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาดกับเอลาร่า สำเนียง การใช้คำพูด ช่างคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด ตรงข้ามกันกับลูเซีย ที่ให้ความรู้สึกต้องระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น พวกเขาเดินตามหญิงสาวไป พร้อมกับความคาดหวังบางอย่าง

เมื่อเดินมาตามหญิงสาวมา ทั้งสองก็มาหยุดอยู่หน้ากระท่อมเก่า ๆ หลังหนึ่ง สภาพภายนอกดูทรุดโทรม เหมือนกับถูกทอดทิ้งมาเนิ่นนาน รอบบริเวณมีกลิ่นอับชื้นจากหนองน้ำที่แผ่ล้อมรอบอยู่โดยรอบ ภายในกระท่อมเรียบง่าย หรือแทบจะว่างเปล่า ไม่มีเครื่องตกแต่งใด ๆ นอกจากเตียงไม้แคบ ๆ กับโต๊ะกินข้าวเก่า ๆ ซึ่งขาโต๊ะข้างหนึ่งเริ่มพังจนต้องใช้ก้อนหินมาค้ำไว้ บรรยากาศภายในบ้านรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก

“พวกเจ้ากำลังตามหา...ไพ่ที่หายไปใช่หรือไม่”

หญิงสาวชุดคลุมยาวเอ่ยขึ้น ขณะทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้าง ๆ โต๊ะกินข้าวเก่า ใบหน้าแย้มยิ้มบาง ๆ ออกมา แล้วผายมือเชิญให้เอลาร่านั่งลงตรงข้าม เอลาร่ามองตอบโดยไม่ลังเล ก่อนจะกล่าวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก

“หากเจ้าเคยเกี่ยวข้องกับพิธีผนึก...ข้าคาดหวังว่าเจ้าจะไม่โกหก”

แววตาของเธอแน่วแน่และแข็งกร้าว จนหญิงสาวเจ้าของบ้านเองยังต้องนิ่งไปชั่วครู่

“เราต้องการเบาะแสของมัน...แม้เพียงเศษเสี้ยวก็ยังดี”

ลูเซียเอ่ยเสริมหญิงสาว เขายืนกอดอก พิงอยู่ข้างกรอบประตู สายของเขาจับจ้องอยู่ที่นักเล่นกลราวกับจะอ่านใจเธอ

“ไพ่ทั้งยี่สิบสอง...ไม่ใช่เพียงแค่พลัง หากแต่เป็น ทางผ่าน สู่มิติที่ซับซ้อน”

นักเล่นกลพูดพลางหยิบบางอย่างออกจากถุงผ้าสีดำ จนกระทั่งเอ่ยคำว่า...

“ไพ่ The devil สินะ...”

พอสิ้นเสียงคำนั้น บรรยากาศภายในกระท่อมก็เงียบลง ทั้งเอลาร่าและลูเซียชะงัก หยุดการเคลื่อนไหวในทันที ราวกับสัญชาตญาณเตือนบางสิ่งบางอย่าง สายตาทั้งคู่สบตากันครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับมาจ้องที่หญิงสาวชุดคลุมยาวอีกครั้ง ความรู้สึกหนักอึ้งบางอย่างแผ่ซ่านไปทั่ว ทั้งสองรับรู้ได้ในเวลาเดียวกัน หญิงผู้นี้...ไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน บทสนทนาระหว่างเอลาร่าและนักเล่นกลได้เริ่มขึ้น...

“เป็นไพ่ต้องห้ามใบหนึ่งที่ถูกผนึกอย่างแน่นหนา”

นักเล่นกลพูดขึ้น...

“แปลว่า...มันไม่ได้ถูกซ่อนไว้เฉย ๆ สินะ”

เอลาร่าเข้าใจในสิ่งที่นักเล่นกลกำลังจะพูดถึง

“ใช่...มันไม่ได้อยู่ในที่ใดที่หนึ่ง แต่ผูกติดอยู่กับใครบางคน...”

“ผู้ที่แบก บาป ไว้ในใจและอดีตที่ไม่ยอมสลาย...”

นักเล่นกลพูดลักษณะที่สิงสู่ของสิ่งชั่วร้าย ทำให้เอลาร่านึกถึงภาพของเพื่อนเธอที่ถูกครอบงำ

“มันสิงในร่างของเพื่อนสนิทข้า...และคนที่ชื่ออัซรานนั่นอีก...”

“เงาที่ตามพวกเจ้าอยู่สินะ”

นักเล่นกลเข้าใจในสิ่งที่เอลาร่าพูด ถึงแม้พวกเธอจะไม่ได้เล่าเหตุการณ์อะไรให้ฟังมาก่อนเลย

“เจ้ารู้ด้วยอย่างนั้นรึ”

ลูเซียเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย ว่าทำไมหญิงสาวในชุดคลุมยาว ถึงรู้จักชื่อนี้ด้วย

“ข้ารู้สึกถึงพลังเช่นเดียวกับข้า...ก็เท่านั้นเอง”

เสียงของนักเล่นกลเอ่ยออกมาเบา ๆ สายตายังคงจับจ้องไปที่ทั้งคู่ จากนั้นก็เบนสายตาหนีออกมาไป แล้วเอ่ยขึ้นว่า...

“ข้าไม่สามารถบอกอะไรให้พวกเจ้าได้อีกแล้ว” 

เธอยืนขึ้นช้า ๆ สายตาคมดั่งผู้รู้ทุกอย่าง หันกลับมาจ้องที่ทั้งคู่อีกครั้ง

“ก่อนที่พวกเจ้าจะไปยังสถานที่ถัดไป...”

เธอเว้นจังหวะเล็กน้อย และกล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ

“เจ้าหญิงเอลาร่า...ลูเซีย เฟย์นอส”

ทั้งคู่ชะงัก สบตากันชั่วครู่ เอ่ยกับตัวเองอยู่ในใจพร้อมกันว่า รู้ชื่อของพวกเราได้อย่างไร เอลาร่าจ้องกลับด้วยสายตาที่ต้องการมองทะลุอีกฝ่าย ส่วนลูเซียยกมือแตะปลายดาบของตนไว้ เผื่อไว้ไม่ประมาท หญิงสาวนักเล่นกลยังคงยืนนิ่ง ด้วยแววตาที่ไม่ได้สื่ออะไรออกมา เสียงของเธอดังขึ้น...

“ก่อนที่พวกเจ้าจะก้าวข้ามประตูนี้ออกไป”

“จงฟังคำเตือนของโชคชะตาเสียก่อน”

ทันทีที่สิ้นเสียงของนักเล่นกล ดวงตาของเอลาร่าเบิกกว้างขึ้น เธอรู้สึกเหมือนตกเข้าสู่ห้วงแห่งความว่างเปล่า... ภาพบางอย่างแล่นเข้ามาในหัว ไพ่ทาโรต์ใบหนึ่ง ปรากฏขึ้นมาในห้วงความคิดของเธอ เสียงของนักเล่นกลเริ่มแทรกเข้ามา...

The high priestess (กลับหัว)

“เจ้าหญิง...เจ้าเดินทางด้วยสัญชาตญาณ แต่กลับหันหลังให้กับเสียงภายใน”

“บางอย่างในใจเจ้ากำลังถูกซ่อนไว้ แม้แต่จากตัวเจ้าเอง”

“ระวังความลับที่เจ้าไม่รู้ว่ามีอยู่ มันจะย้อนคืนมาในวันที่เจ้าอ่อนแอ”

เอลาร่าสะดุ้งเฮือก ก่อนจะยกมือแตะขมับ เสียงนั้นจางหายไป ทิ้งไว้เพียงหัวใจที่เต้นแรงและลมหายใจที่สั่นคลอน นักเล่นกลหันไปสบตาลูเซีย และเสียงบางอย่างก็แทรกขึ้นมาเหมือนกัน...

The chariot

“เจ้า...ผู้มีพลังบิดเบือนคำทำนาย” 

“หนทางเบื้องหน้าคือชัยชนะที่ต้องแลกด้วยการควบคุมความขัดแย้งในตัวเอง”

“สองแรงผลักดันกำลังฉุดเจ้าไปคนละทิศ ความเชื่อ และความรู้สึก”

ลูเซียสะดุ้งเล็กน้อย คล้ายได้ยินเสียงเดียวกับเอลาร่า เขาหลับตาแน่น พยายามข่มความสั่นไหวในใจ ฝืนต่อต้านความคิดแปลกประหลาดที่แทรกเข้ามา แต่ไม่นาน...เขาก็สูดหายใจลึก รวบรวมสติ ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาว่า...

“ข้าไม่สนคำทำนายนั้นอยู่แล้ว”

เอลาร่าหันไปมองเขา แววตาตกใจเล็กน้อย ที่เขาอยู่ ๆ ก็พูดออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทันทีที่นักเล่นกลได้ฟัง หญิงสาวในชุดคลุมยาวเหยียดริมฝีปากเป็นรอยยิ้มจาง ๆ สายตาคมลึกยังคงจับจ้องทั้งสองอยู่ เธอเอียงศีรษะเล็กน้อย เหมือนกำลังฟังเสียงจากอีกโลกหนึ่ง ก่อนจะกล่าวออกมาเสียงนุ่มนวล

“ถ้าเป็นอย่างนั้นข้าก็สบายใจ”

นิ้วเรียวยาวยกขึ้นไล่เส้นผมบังส่วนที่ปรกหน้า ก่อนจะวางมือลงบนโต๊ะไม้เก่าอย่างแผ่วเบา เสียงเล็บแตะไม้ดังก้องในความเงียบครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะพูดต่อว่า...

“บางทีพวกท่านควรลองไปที่หอสมุดดูนะ...เผื่อเจอของที่กำลังตามหา”

เมื่อพูดจบเธอก็หันกลับไปมองที่เปลวไฟในเตาผิง ปล่อยให้ความเงียบกลืนบทสนทนาอย่างจงใจ เอลาร่าพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเช่นเคย

“ได้...พวกข้าจะลองไปดู...ขอบคุณมาก...ไปกันเถอะ”

ร่างของเจ้าหญิงหมุนตัวเตรียมจะเดินออกจากกระท่อม เสียงฝีเท้าลูเซียดังขึ้นตามหลังมา แต่แล้ว เสียงเรียบของหญิงสาวชุดคลุมยาวก็ดังขึ้นขัดจังหวะ

“เดี๋ยวก่อนเจ้าหญิง”

เธอค่อย ๆ ก้าวเท้าเข้าหาเจ้าหญิง ปลายผ้าคลุมสีเทายาวลากไถพื้นไม้เก่าและกรอบกรัง ส่งเสียงเบา ๆ ก้องในความเงียบ มือเรียงยาวยื่นออกมาอย่างสงบนิ่ง ในนั้นมีบางสิ่งที่สะท้อนแสงจากตะเกียงเล็ก ๆ ในกระท่อม มันคือ ไพ่ทาโรต์ แผ่นไพ่ใบนี้แตกต่างจากใบอื่นที่เอลาร่าเคยมี บนหน้ากระดาษปรากฏภาพของหญิงสาวลึกลับ เธอสวมผ้าคลุมยาว นัยน์ตาสีทองจ้องตรงมาอย่างสงบนิ่ง ในมือข้างหนึ่งถือหนังสือเล่มหนา อีกข้างหนึ่งกำอัญมณีสีฟ้าลึกล้ำราวมหาสมุทร แสงจากอัญมณีนั้นเหมือนมีชีวิต

“ข้าให้...ในกาลข้างหน้าท่านอาจจะได้ใช้”

เอลาร่าชะงักมือรับของไว้อย่างลังเล สายตาจับจ้องไพ่อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ 

“เอ๋...ขอบใจ”

เธอกล่าวเบา ๆ น้ำเสียงมีความลังเลปนซาบซึ้ง แม้จะไม่แสดงออกมานัก นักเล่นกลมองทั้งสองด้วยแววตาที่อ่อนโยน เหมือนกับผู้เฝ้ามองโชคชะตา

“ขอให้การเดินทางราบรื่น”

เมื่อสิ้นคำ ราวกับม่านบางของเวทมนตร์คลุมทั้งกระท่อม เอลาร่าเก็บไพ่ในมือลงไป ก่อนจะหันหลังและก้าวออกจากกระท่อมไปพร้อมกับลูเซีย ท่ามกลางเสียงสายลมที่เริ่มโหมกระหน่ำ...และคำเตือนโชคชะตาที่ยังค้างอยู่ในใจ

“ข้าหวังว่านะ”

นักเล่นกลเอ่ยขึ้นอีกครั้ง เสียงของเธอเบา และจางหายไป ไพ่ใบสุดท้ายในการทำนายโชคชะตาต่อจากนี้ของทั้งสองคือ The moon ความลวง...ความฝัน และความกลัว แววตาของเธอทอดมองออกไปนอกหน้าต่างกระท่อมที่มีหมอกบางลอยเพิ่มขึ้น จนเริ่มหนาตัว

“การเดินทางเช่นนี้...บางทีอาจจะยากเย็นขึ้นอีกก็ได้นะ”

ฝากติดตามเพื่อเป็นกำลังใจให้นักเขียนด้วยนะคะ เจอกันน้าาาา