นักศึกษาสาวผู้คลั่งใคล้ของโบราณ ถูกพลังลึกลับดึงย้อนเวลากลับไปราว 500 กว่าปีก่อน ทั้งยังต้องเป็นตัวแทนของคุณหนูสกุลจ้าว ผู้หลงใหลจวิ้นเทียนฮ่องเต้ ถึงขนาดถูกส่งไปเป็นกุ้ยเฟยในวังหลวง.

ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร - ตอนที่ 7 มีตำหนักเป็นของตัวเอง โดย ชารสหวาน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เกิดใหม่,ย้อนยุค,ข้ามเวลา,จีน,ชาย-หญิง,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

เกิดใหม่,ย้อนยุค,ข้ามเวลา,จีน,ชาย-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร โดย ชารสหวาน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

นักศึกษาสาวผู้คลั่งใคล้ของโบราณ ถูกพลังลึกลับดึงย้อนเวลากลับไปราว 500 กว่าปีก่อน ทั้งยังต้องเป็นตัวแทนของคุณหนูสกุลจ้าว ผู้หลงใหลจวิ้นเทียนฮ่องเต้ ถึงขนาดถูกส่งไปเป็นกุ้ยเฟยในวังหลวง.

ผู้แต่ง

ชารสหวาน

เรื่องย่อ

อยู่ดี ๆ นักศึกษาสาวอย่างเยว่ไป๋ลู่ ถูกพลังลึกลับดึงเข้าสู่โลกยุคโบราณของราชวงศ์หมิง ย้อนเวลากลับไปกว่า 500 ปีก่อน จากชีวิตธรรมดาในยุคปัจจุบัน กลับต้องสวมบทบาทเป็น คุณหนูสกุลจ้าว หญิงสาวผู้หลงใหลในองค์ฮ่องเต้ถึงขั้นสั่งให้คนติดภาพวาดของพระองค์ไว้ในห้องนอน   


 และเมื่อตัวจริงฆ่าตัวตายเพราะความเอาแต่ใจ ทำให้เยว่ไป๋ลู่ที่ถูกดึงมาแทนที่ จำต้องเข้าสู่วังหลวงในฐานะกุ้ยเหริน พระสนมลำดับที่สี่ของราชวงศ์ แม้ความงามและชาติกำเนิดของนาง ไม่ได้เป็นที่สนใจเท่าใดนัก แต่สิ่งที่อยู่ในหัวใจของนางไม่ใช่การเรียกร้องขอความรักจากผู้เป็นฮ่องเต้ เป้าหมายเดียวของนางคือ การหาผ้าไหมลายมังกร ที่อาจเป็นกุญแจนำทางให้นางกลับสู่โลกปัจจุบัน ทว่าหนทางไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อฮ่องเต้ผู้เย็นชาไม่เคยใส่ใจสตรีคนใดในวัง กลับค่อย ๆ แสดงความสนใจต่อนางทีละน้อย จนหัวใจที่ตั้งมั่นของนางเริ่มหวั่นไหวอย่างไม่อาจควบคุม   




-------------------------------------------

สารบัญ

ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 1 โลงแก้วโบราณ,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 2 ย้อนเวลากลับไป,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 3 โดนจับกลับไปที่จวน,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 4 ของโบราณมากมาย,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 5 พาเข้าสู่ราชสำนัก,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 6 จือซินกุ้ยเฟยตัวเป็น ๆ,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 7 มีตำหนักเป็นของตัวเอง,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 8 เป็นกุ้ยเหรินต้องปรนนิบัติฮ่องเต้ทุกเจ็ดวัน,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 9 ไปตำหนักฉางชุนของจือซินกุ้ยเฟย,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 10 ให้อยู่ต้อนรับฮ่องเต้แทน,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 11 คนแปลกหน้าที่ไม่เคยเห็น,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 12 ความผูกพันระหว่างเขาและจือซิงในอดีต,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 13 ข้อแลกเปลี่ยนของอี้หนิง,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 14 ช่วยให้พวกเขาได้ใกล้ชิดกัน,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 15 แผนการล้มเหลว,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 16 ในห้องสรงน้ำ,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 17 สรงน้ำด้วยกัน,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 20 สืบหาผ้าปักลายมังกร,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 21 ฮ่องเต้ใช้อำนาจรังแก,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 22 ควรดีใจที่ได้ร่วมหอกับข้า,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 23 คิดถึงน้ำหนักมือการนวดของอี้หนิง,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 24 ได้ยินคำพูดแสนเจ็บปวดจากเขา,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 25 ฐานะแท้จริงของคนใจดี,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 26 อาการพะอืดพะอม,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 27 อาการของอี้หนิงเริ่มปิดไม่อยู่,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 28 ฮ่องเต้พาหมอหลวงมาตรวจยืนยัน,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 29 จือซินกุ้ยเฟยมอบยาบำรุง,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 30 พยายามปกป้องความรู้สึกของจวิ้นเทียน,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 31 คำสั่งข้าปฏิเสธได้งั้นเหรอ,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 32 พาเที่ยวนอกวังหลวง,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 33 ความลับที่ถูกปิดซ่อน,ห้วงฝันแห่งราชวังมังกร-ตอนที่ 34 ตอนจบ

เนื้อหา

ตอนที่ 7 มีตำหนักเป็นของตัวเอง


“ข้าบอกให้เจ้านั่ง ไม่ได้ยินเหรอ?” รับสั่งของเขาดังขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สงบและหนักแน่น ไม่มีท่าทีของการอยากล่วงเกินนางแม้แต่น้อย ซึ่งทำให้หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ มองตามชายสูงศักดิ์ในชุดสีแดงลายมังกรที่ค่อย ๆ หันไปนั่งยังโต๊ะชาด้านข้าง หญิงสาวกลืนน้ำลายแล้วตั้งสติ เธอเดินตามไปนั่งข้าง ๆ พร้อมทำท่าเจียมเนื้อเจียมตัว

“ไม่เจอกันสองปีแล้วใช่หรือไม่?” อยู่ ๆ คำถามของเขาก็ทำให้นางรู้สึกอึดอัดขึ้นมา เจอกันล่าสุดตอนไหน เจอกันที่ใด เธอจะรู้ได้ยังไงล่ะ หญิงสาวเอื้อมไปรินชาใส่ถ้วยให้เขาพร้อมเก็บอาการไว้ แล้วฝืนยิ้มออกมา

“เท่าที่หม่อมฉันจำได้ ก็น่าจะประมาณนั้นเพคะ” เขารับชามาจิบด้วยท่าทางสงบ ขณะที่สายตาของนางเผลอไปจับจ้องที่ริมฝีปากของเขาที่กำลังจิบชาอุ่น ๆ และกลืนลงคอ การเคลื่อนไหวทุกอย่างของเขาล้วนดึงดูดสายตาให้นางเผลอมอง คล้ายกับหลุดเข้าไปในภวังค์ที่ไม่อาจควบคุมได้

“ตำหนักฉิงกง เจ้าชอบหรือไม่?” คำถามราบเรียบของเขาทำให้หญิงสาวได้สติกลับมา แล้วน้อมศีรษะลงเล็กน้อยอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว

“หม่อมฉันชอบมากเพคะ”

“ข้าได้ข่าวว่าใต้เท้าจ้าว เพิ่งยกเลิกการดูตัวระหว่างเจ้ากับคุณชายเติ้งไป”

“เพคะ” คำตอบของนาง ทำให้ชายสูงศักดิ์วางถ้วยชาลง แล้วหันมองด้วยสายตาราบเรียบ

“รู้หรือไม่ ว่าเป็นการตัดสินใจผิดพลาด” คำพูดกำกวมของเขาทำให้หญิงสาวเอียงศีรษะเล็กน้อย ก่อนเขาจะเอ่ยขึ้น

“เพราะเจ้าเป็นถึงบุตรสาวของขุนนางขั้นสอง ตามธรรมเนียมแน่นอนว่าควรเข้าถวายตัวรับใช้ข้า แต่ข้าไม่เหมือนฮ่องเต้องค์อื่น บางทีเจ้าอาจถูกลืมเลือนไปในสักวัน” สีหน้าราบเรียบและจริงจังของเขา ทำให้อี้หนิงกุ้ยเหรินฝืนยิ้มพร้อมขบคิด

‘พูดแบบนี้ คิดปฏิเสธกันแน่ ๆ’

“นอกจากจือซินกุ้ยเฟย ยังมีสนมของข้าอีกสองคน เจ้าเป็นคนที่สี่ เหตุใดจึงพอใจรักเช่นนี้ แทนที่จะแต่งงานกับคุณชายเติ้ง?”

‘คำถามของเขายากจริง ฉันจะรู้ได้ยังไง ว่าคุณหนูจ้าวคิดอะไร แต่ที่รู้ ๆ นางโดดหน้าผาตายไปแล้ว’

“หม่อมฉัน...ควรทำตามธรรมเนียมเพคะ ไม่ควรปฏิเสธความต้องการของราชสำนัก” ชายหนุ่มพยักหน้าขึ้นลงเบา ๆ พลางหันมองไปด้านนอกที่เพิ่งจุดโคมไฟสว่าง

“ข้าจะอยู่กับเจ้าในห้องนี้ อีกครู่หนึ่ง” หลังจากนั้นบทสนทนาทั้งสองก็เงียบไป เขาเอาแต่นั่งนิ่ง ไม่คิดแตะต้องตัวนางให้แปดเปื้อน ผิดกับประวัติศาสตร์ที่เรียนมา ว่าฮ่องเต้มีพระสนมนับสิบ ทั้งโอรส ธิดา พากันแย่งชิงอำนาจ

‘ประวัติของจักรพรรดิจวิ้นเทียนเท่าที่ได้ฟังคร่าว ๆ เขาเป็นคนเก่งคนหนึ่งที่รวบรวมแผ่นดินไว้ได้ในอายุยังน้อย นอกนั้นไม่มีประวัติอะไรให้ค้นหา เว้นแต่หญิงที่เขารัก จือซินกุ้ยเฟยหญิงโบราณในโลงแก้วของพิพิธภัณฑ์หนานจิง’

เมื่อถึงเวลา ร่างของจวิ้นเทียนฮ่องเต้ก็ลุกขึ้นจากที่นั่งและเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบ ๆ โดยไม่กล่าวลาแม้คำเดียว ท่าทางของเขานั้นยากจะคาดเดา ดูเหมือนอ่อนโยน แต่แฝงไปด้วยความเย็นชาในเวลาเดียวกัน

ทว่ามีเสียงหัวเราะเล็ก ๆ ดังลอดออกมาจากด้านหลังตำหนัก ทำให้หญิงสาวรู้สึกแปลกใจ จึงเบี่ยงกายไปหยิบเสื้อคลุมแล้วเดินตามเสียงนั้นมา อากาศหลังจากพระอาทิตย์ตกดินเย็นเยียบมากกว่าที่คิด นางกระชับเสื้อคลุมแน่น แล้วตัดสินใจเดินตามเสียงหัวเราะที่ว่านั้นไป

ก่อนที่จะพบกับหญิงสาวสูงศักดิ์สองคน ที่นั่งหัวเราะอยู่ในศาลากลางน้ำซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากตำหนักฉิงกงมากนัก สายลมเย็นพัดมาวูบหนึ่ง ก่อนที่หญิงทั้งสองจะหันมองมายังอี้หนิงกุ้ยเหรินด้วยสายตาเดียวกัน หนึ่งในนั้นลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน

ลี่หว่าน เจ้าดูสิ! มีกุ้ยเหรินมาเพิ่มหนึ่งคน เดิมทีข้าคิดหวาดหวั่นกลัวความงามของนาง จะทำให้ฮ่องเต้พอพระทัย แต่พอจับเวลาที่ฮ่องเต้เข้าไปในห้องหอแล้ว ไม่ต้องเห็นหน้าก็เดาได้ว่าความงามของกุ้ยเหรินคนใหม่ ไม่ได้ดึงดูดใจฮ่องเต้เลยแม้แต่น้อย” อี้หนิงยืนฟังพร้อมพยายามเรียบเรียงเรื่องราวต่าง ๆ

‘สองคนนี้เป็นใครกัน’ ยังไม่ทันสิ้นความคิด หญิงสูงศักดิ์อีกคนก็ลุกขึ้นยืน ยกมือขึ้นกอดอกทอดสายตามายังนางแล้วเอ่ยขึ้น

เหมยจู เจ้าดูสิ นางทำหน้างง หมายความว่านางไม่รู้ว่าพวกเราเป็นใคร เจ้าสงเคราะห์นางหน่อยเถอะ” ก่อนหญิงสาวทั้งสองคนเดินเข้ามา แล้วมองอี้หนิงตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า พลันเอ่ยขึ้น

“พวกเรามีนามว่า ลี่หว่านและเหมยจู เป็นกุ้ยเหรินที่มาก่อนเจ้า” เมื่อได้ยินคำยืนยันของพวกนาง ทำให้อี้หนิงได้แต่ยิ้มตอบอย่างสุภาพ แล้วหันมองไปรอบ ๆ เพิ่งสังเกตเห็นว่าตำหนักของกุ้ยเหรินตั้งอยู่ไม่ห่างกันมากนัก ทำให้พวกนางสอดส่องสายตาจับความเคลื่อนไหวได้

“ข้าได้ยินเสียงหัวเราะแปลก ๆ จึงออกตามหา ไม่คิดว่าจะเป็นเสียงของกุ้ยเหรินทั้งสอง เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน” อี้หนิงกล่าวพร้อมเบี่ยงตัวเดินกลับเข้าตำหนัก

“เดี๋ยวก่อน!” เสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจทำให้อี้หนิงหยุดชะงัก แล้วหันกลับมา

“ที่พวกข้าหัวเราะ เพราะรู้ว่าฮ่องเต้ไม่ได้ร่วมหลับนอนกับเจ้าเป็นแน่ เข้าไปในห้องเพียงครู่เดียวแล้วออกมา เวลาเพียงเท่านั้นไม่ทันได้ปลดอาภรณ์ของเจ้า” ลี่หว่านกุ้ยเหรินพูดด้วยท่าทีเหนือกว่า ก่อนเหมยจูกุ้ยเหรินจะกล่าวเสริม

“ก็นางไม่ได้งดงามมากพอที่จะเหนี่ยวใจฮ่องเต้ มองแล้วความงามก็งั้น ๆ อีกหน่อยก็ถูกลืมเลือน” ถึงตอนนี้อี้หนิงมั่นใจแล้วว่ากำลังถูกอีกฝ่ายดูหมิ่น จึงปล่อยยิ้มแล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ข้าไม่งาม แล้วเจ้าพวกงามมากงั้นสิ! เหตุใดข้าจึงมองไม่ออก?” คำตอบของอี้หนิงทำให้ กุ้ยเหรินทั้งสองนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ คิดอยากโต้ก็นึกคำไม่ออก จะโวยวายก็กลายเป็นไม่สำรวม ได้แต่หันมองหน้ากัน ซูหนิงเห็นท่าทางของนายสาวจึงรีบวิ่งเข้ามาจับกายผู้เป็นนายแล้วกระซิบเบา ๆ

 


  ไรท์ติดเหรียญใน plotteller ด้วยนะคะ สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกอ่าน E-book ใน MEB

 ตอนพิเศษมีเฉพาะใน E-book เท่านั้นนะคะ  

https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6ODoiMTAwMDI0NzQiO3M6NzoiYm9va19pZCI7czo2OiIzNDYxODgiO30