จะฟาด กวินทร์แสะยิ้มจ้องไปเสื้อตัวบาง คิมหันต์เลียปากหยัก เธอก้มมองตัวเอง เขารีบกระโจนใส่รั้งไม้ในมือเหวี่ยงทิ้งไปอย่างง่ายดาย “ปล่อยสิปล่อย” ร้องสั่นชายหาดขาว เขากระชับกอดแน่ พร้อมบังคับให้เธอหันมาเผชิญหน้า “ มองหน้ากูนี่” เขาจ้องปากที่แต่งแต้มด้วยลิปสติก เขาค่อยๆโน้มหา อีกฝ่ายยากที่จะขันขืน เขาบดจูบดุดัน เขาสอดนิ้วร้ายไปโพลงหวานของเธออย่างชำนาญ ร่างเล็กบิดส่าย เธอกัดริมฝีปากเมื่อสิ่งแปลกปลอมคืบคลานมาช่องทางคับแน่น

ลิขิตอสูร 3p - ตอนที 2 โดย แสงฉาย จอมเกล้า @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

หญิง-หญิง,ผู้ใหญ่,ดราม่า,ไทย,รัก,pwp,plotteller ,percy,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ลิขิตอสูร 3p

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

หญิง-หญิง,ผู้ใหญ่,ดราม่า,ไทย,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

pwp,plotteller ,percy

รายละเอียด

ลิขิตอสูร 3p  โดย แสงฉาย จอมเกล้า @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จะฟาด กวินทร์แสะยิ้มจ้องไปเสื้อตัวบาง คิมหันต์เลียปากหยัก เธอก้มมองตัวเอง เขารีบกระโจนใส่รั้งไม้ในมือเหวี่ยงทิ้งไปอย่างง่ายดาย “ปล่อยสิปล่อย” ร้องสั่นชายหาดขาว เขากระชับกอดแน่ พร้อมบังคับให้เธอหันมาเผชิญหน้า “ มองหน้ากูนี่” เขาจ้องปากที่แต่งแต้มด้วยลิปสติก เขาค่อยๆโน้มหา อีกฝ่ายยากที่จะขันขืน เขาบดจูบดุดัน เขาสอดนิ้วร้ายไปโพลงหวานของเธออย่างชำนาญ ร่างเล็กบิดส่าย เธอกัดริมฝีปากเมื่อสิ่งแปลกปลอมคืบคลานมาช่องทางคับแน่น

ผู้แต่ง

แสงฉาย จอมเกล้า

เรื่องย่อ

จะฟาด กวินทร์แสะยิ้มจ้องไปเสื้อตัวบาง คิมหันต์เลียปากหยัก เธอก้มมองตัวเอง เขารีบกระโจนใส่รั้งไม้ในมือเหวี่ยงทิ้งไปอย่างง่ายดาย

“ปล่อยสิปล่อย” ร้องสั่นชายหาดขาว เขากระชับกอดแน่ พร้อมบังคับให้เธอหันมาเผชิญหน้า 

“ มองหน้ากูนี่” เขาจ้องปากที่แต่งแต้มด้วยลิปสติก เขาค่อยๆโน้มหา อีกฝ่ายยากที่จะขันขืน เขาบดจูบดุดัน   เขาสอดนิ้วร้ายไปโพลงหวานของเธออย่างชำนาญ ร่างเล็กบิดส่าย เธอกัดริมฝีปากเมื่อสิ่งแปลกปลอมคืบคลานมาช่องทางคับแน่น

สารบัญ

ลิขิตอสูร 3p -ตอนที 1 1,ลิขิตอสูร 3p -ตอนที 2,ลิขิตอสูร 3p -ตอนที 3,ลิขิตอสูร 3p -ตอนที 4,ลิขิตอสูร 3p -ตอนที 5,ลิขิตอสูร 3p -ตอนที 6,ลิขิตอสูร 3p -ตอนที ึ7,ลิขิตอสูร 3p -ตอนที 8,ลิขิตอสูร 3p -ตอนที 9,ลิขิตอสูร 3p -ตอนที 10,ลิขิตอสูร 3p -ตอนที 11

เนื้อหา

ตอนที 2

“ไม่น่าถาม เห็น เห็นอยู่ พี่ชายกูมีน้ำใจแค่ไหนไม่ปล่อยให้มึงตาย” คิมหันต์เหยียดยิ้ม จ้องคนมองคนที่ทำตัวเหมือนตัวเองไม่เคยต้องมือชายใดมาก่อน อย่างสมเพช

“เสื้อผ้าฉันหายไปไหน แล้วใครเป็นคนถอดเสื้อผ้า”

“ฉันถอดให้เอง จะทำไมกู ฉันถามก็ตอบดิวะ” กวินทร์จ้องมองด้วยความหงุดหงิด

“ทุเรศ ไอ้ชาติหมาแกมันหน้าตัวเมีย”

“อย่าคิดทำอะไรพวกกูเด็ดขาด กูไม่ได้ขู่” คิมหันต์ ชี้หน้ามองจ้องอย่างอาฆาต ร่างเล็ก ค่อยลดมือลง เธอปาไปด้านล่าง กำหมัดด้วยแรงโทสะที่ทำอะไรคนอย่างมันไม่ได้

“เอานี่ ไปใส่ซะ ถ้าไม่อยากเป็นชีเปลือย อวดใครต่อใคร แต่ก็นะ ไม่มีให้อวดอยู่แล้วนี่” น้ำเสียงคิมหันต์ฟังก็รู้เขาเยาะหยัน

“แล้วก็นี่ยากินซะ” กวินทร์ปาถุงยาใส่หน้า

“ฉันไม่กิน ไม่รู้ยาอะไร”

“กูไม่ฆ่ามึงตอนนี้หรอกเพราะมึงยังมีประโยชน์กับกูอยู่”

กวินทร์ปรายตามองกายบางที่นั่งลังเลที่สวมใส่เสื้อเก่า ๆ ที่เขานำมาให้

“ออกไปสิออกไปไอ้พวกชั่ว แกไม่มีวันตายดี”

“พวกกูไม่มีวันตายก่อนที่จะลากคนอย่างเธอลงนรกไปด้วยกันจำไว้” คิมหันต์กำหมัดแน่น จนเห็นเส้นเลือดปูดหลังฝ่ามือ

“ออกไป สิ ทำไมต้องมาเจอคนเลวอย่างพวกแกด้วย”

“ที่นี่ไม่ใช่บ้านเธอ ที่มาชี้นิ้วไล่ใครก็ได้จำไว้” คิมหันต์แฝดน้องตวาด

“กูไม่อยู่กับอีตัวเชื้อโรคอย่างมึง ที่กูทำทั้งหมดเพื่อแก้แค้นนางสำส่อนที่ชอบลักกินขโมยกินแฟนคนอื่นเขา” เธอสับสนว้าวุ่นใจเขาหมายถึงใคร เธอยิ่งกระวนกระวาย

“มันพูดถึงใคร แล้วเราไปเกี่ยวอะไรด้วย” ด้านนอกกระท่อมหลังเกาะ พวกเขาแอบฟังเธอพูด

“เสแสร้งเก่ง คงหวังจะให้ฉันเห็นใจ ไม่มีทาง” เขาคิดว่าเธอ แกล้งพูด ก่อนเดินกลับเรือนพักที่มีพร้อมทุกอย่างต่างจากที่เชลยสาวนอนมันมีเพียงเตียงไม้เก่ากับผ้าห่มผืนบางกับตู้ไม้ใกล้พังเต็มทน

“คืนนี้เราต้องนอนที่นี่จริง ๆ ใช่ไหม” เธอพูดกับตัวเอง ตอนนี้มีแสงจันทร์คอยเป็นแสงสว่างเท่านั้น เสียงนกฮูกร้องยามค่ำคืนมันร้องเสียงดังน่ากลัว กับสาวชาวกรุงอย่างเธอเป็นที่สุด

“ไม่ได้เธอต้องทนให้ได้น่ะ ปลายอย่ามาตายกลางป่ากลางเขาแบบนี้ไม่ได้” เธอข่มตาให้หลับแต่ดูเหมือนยิ่งทำให้คิดวนเวียนเรื่องในวันนี้ กว่าจะหลับตาลงได้เกือบเช้า 

“ลุกได้แล้วจะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงเมื่อไร” เขาถีบประตูเข้ามาพร้อมถังน้ำราดร่างเล็กที่กำลังเคลิ้มหลับไปเมื่อกี้ 

“กรี๊ด… ไอ้ชั่วแกจะราดน้ำใส่ฉันทำไม” เธอโวยวายไม่พอใจ

คิมหันต์ยิ้มมุมปากมองพี่ชายฝาแฝดโยนถังเหล็กลงพื้น

“ทำไมกูจะปลุกมึงด้วยวิธีไหนก็ได้ในเมื่อที่นี่บ้านกู” เสียงกระแทกถังน้ำเสียงดังกึกก้องทั่วกระท่อมน้อย ๆ 

“รู้ไหมว่าฉันเปียก”

ริมฝีปากสั่นระริก ด้วยความโมโหสุดขีด

“มันเรื่องของเธอไม่เกี่ยวกับพวกเราสองคน รีบเข้าพวกเรามีงานให้เธอทำ” คนน้องเป็นคนเลือดเย็นต่างจากคนพี่มุทะลุ ดุดันอยากได้อะไรต้องได้

“ลุกได้ก็อย่าลีลาอ่อยพวกกูมันไม่ได้ผล” กวินทร์ยืนตัวเกร็งเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมลงจากเตียงสักที เขาฉุดรั้งแขนลากเธอออกมาเพื่อไปทำงานที่เขาเตรียมไว้ 

“นี้งานวันนี้ของเธอ ทำให้เสร็จ ไม่เสร็จไม่ต้องกินข้าวเข้าใจไหม” เขาโยนตะกร้าผ้าทั้งหมดให้เธอซักพร้อมถังน้ำให้เธอไปตักน้ำมาเอง

“ไหนน้ำ” เธอมองหาไปทั่วไม่เห็นมีก๊อกน้ำ 

“ไม่น่าฉลาดน้อยแม่คนเมือง คงไม่เคยทำงานหนักสินะ” คิมหันต์พ่นลมหายใจแรง ๆ เขาทำเสียงชิในลำคอด้วยความรังเกียจ

“เคยทำหรือไม่เคยทำมันเกี่ยวอะไรกับพวกแกด้วย”

“อย่างนั้นคงทำได้สบาย”

“จริงไหมครับนางคุณหนู แล้วบอกไว้ก่อนที่นี่ไม่ได้สุขสบายอย่างที่บ้านเธอ จำไว้” กวินทร์หันหลังให้ไม่อยากเผชิญหน้ากับหญิงสาวที่เขาเกลียด

“อะไรนะแกจะให้ฉันไปตักน้ำเอง จะบ้าแล้วรึไง ฉันไม่ทำ ฉันไม่ใช่ขี้ข้านาย” เธอโยนถังน้ำใส่หน้าเขา มือกอดอก

“ไม่ทำใช่ไหมเดี๋ยวได้รู้กัน” เขาดึงหางม้า รั้งเดินตามเขาโดยที่ไม่ได้สนใจเธอว่าจะเจ็บขนาดไหน

“ฉันเจ็บปล่อยสิ” เธอร้องตลอดทางที่เขาพาไปน้ำตก ไม่ห่างจากกระท่อมมากนัก ตาเธอลุกวาว มันช่างสวยงามและเย็นสบาย แล้วก็ใสมากด้วย คิมหันต์เดินตามมาเงียบ ๆ ปล่อยให้พี่ชายจัดการ

“ยืนเซ่ออยู่ได้ตักสิรอใครช่วย ไอ้คิมมันไม่ช่วยหรอก”

“ไม่… ฉันไม่ทำได้ยินไหม” 

ไม่ทันขาดคำเธอโดนเขายันลงน้ำ เสียงพื้นน้ำกระทบร่างเล็ก มันสร้างเสียงหัวเราะให้กับสองพี่น้องใจโหดได้เป็นอย่างดี

“ฮ่า…ฮ่า… ขำวะลูกหมาตกน้ำ” 

เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังสนั่นทั่วเกาะ

“ไอ้บ้าแกทำกับผู้หญิงอย่างนี้ได้ยังไง พวกแกมันไม่ใช่คน” ทุบตีน้ำกระจายมองเขาด้วยแรงแค้นพอ ๆ กัน

“ขึ้นมา อย่าให้กูต้องลงไปลากขึ้นมา” กวินทร์ตวาดเมื่อเห็นร่างบางไม่ยอมเข้าฝั่งสักที

“รอชาติหน้าตอนบ่าย ๆ เถอะ” เธอหันหลังวิ่งในน้ำไปขึ้นอีกฝั่งหนึ่ง เขารู้แล้วเธอจะหาเรื่องหนี คิมหันต์ไม่เร่งรีบตามเชลยสาว ปล่อยให้เธอหนีจนเหนื่อยนั่นแหละเขาถึงไปพากลับมาทำโทษ เขารอเวลาจนเที่ยงวัน ร่างเล็กวิ่งวุ่นวนไปมาอยู่กลางป่าโดยที่ไม่รู้ทิศรู้ทาง