เมื่อมรดกตกทอดที่ได้รับมาจากรุ่นพ่อ และแม่ สู่รุ่นลูกกลับกลายเป็นคำสาปร้าย ทางเดียวที่จะหลุดพ้นจากคำสาปเหล่านั้นมีเพียงแค่ ตามหาความรักที่แท้จริงเท่านั้น

นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา - ตอนที่ ๙ ๙ โดย แมวสลิดศรีสยาม @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ไทย,แฟนตาซี,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ไทย,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา โดย แมวสลิดศรีสยาม @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เมื่อมรดกตกทอดที่ได้รับมาจากรุ่นพ่อ และแม่ สู่รุ่นลูกกลับกลายเป็นคำสาปร้าย ทางเดียวที่จะหลุดพ้นจากคำสาปเหล่านั้นมีเพียงแค่ ตามหาความรักที่แท้จริงเท่านั้น

ผู้แต่ง

แมวสลิดศรีสยาม

เรื่องย่อ

บทนำ

 

- กาลครั้งหนึ่ง มีชายหนุ่มได้ติดตามเดินทางพร้อมคณะชาวตะวันตก ได้เดินทางไปยังป่าอันแสนไกล เพื่อตามหาเพรช พลอย จินดา ที่สวยงามเพื่อนำมาทำเป็นเครื่องประดับให้กับเหล่า ลูกๆ ของตนนั้น ชายหนุ่มและคณะได้เดินทางหาสมบัติเหล่านี้ เป็นวัน เป็นเดือน จนย่านกลายเป็นปี ในที่สุดแผนที่ได้นำเหล่าคณะหยุดที่ถ้ำแห่งหนึ่งกลางป่าลึกที่มีธรรมชาติรายล้อม ดูช่างสวยงาม คณะและชายหนุ่มไม่รอช้า ได้เข้าไปข้างในถ้ำหวังว่าจะมีสมบัติมหาศาล ซ่อนอยู่ภายใน เมื่อได้เข้าไปยังตัวถ้ำ ทั้งคณะและชายหนุ่มได้พบกับสมบัติดั่งใจหวัง แต่แล้วกับมีสมบัติที่แสนจะวิเศษนั้นคือ อัญมณีทั้ง ๗ เม็ดที่สุดแสนจะบริสุทธิ์ ที่มิอาจจะประเมินค่าของ อัญมณีเหล่านั้นได้ แต่แล้วความโลภที่กัดกินภายในใจ หรือเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นก็ตาม ได้ทำให้เหล่าคณะมีความต้องการที่จะครอบครองสมบัติไว้เพียงผู้เดียว ก่อให้เกิด โศกอนาถกรรมขึ้นเหล่าคณะได้ฆ่าฟัน เพื่อแย่งชิงสมบัติทำให้ถ้ำสั่นไหวอย่างรุนแรงจนได้ถล่มลงมา กลับมีเพียงชายหนุ่ม ที่หนีรอดออกมาได้ แต่ภายในมือของเขานั้นกลับมีกล่องไม้โบราณ ทีได้บรรจุเหล่าอัญมณีเหล่านั้นไว้ -

ปี พ.ศ.2500 ณ ห้องแถวครึ่งไม้ครึ่งปูนแห่งหนึ่งใจกลางเมืองหลวง ประเทศไทย

“เป็นยังไงบ้างนิทานที่พ่อเล่าไป” ชายวัยกลางคน พร้อมกับลูกๆ ที่น่ารักของเขาทั้ง ๗ คน ได้นั่งล้อมชายผู้เป็นพ่อเล่าเรื่องนิทานก่อนนอนด้วยสายตาตื่นเต้น 

“แล้วอัญมณีนั้นอยู่ไหนแล้วค่ะ” เด็กสาวหนึ่งในนั้นได้เอยถามด้วยความสงสัย

“นั้นก็เป็นความลับนะ พอลูก ๆ โตพอเดียวก็จะรู้เอง” 

“ได้เวลานอนแล้วเด็ก ๆ” ผู้เป็นแม่ได้กล่าวตัดบทสนทนา ก่อนที่เด็กๆ จะเข้าห้องนอน

 

นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา เป็นเนื้อหาแรกในนิยายทั้งเจ็ดเรื่อง เรื่องราวจะเล่าถึงหญิงสาวนามว่าลดา ที่ได้รับปิ่นปักผม ที่ได้รับสืบทอดมาจากทิมพิกา แม่ของตน ซึ่งเรื่องราวกับต้องเข้าไปพัวพันกับความลับบางอย่าง...

 

*สามารถอ่านฟรี ตั้งแต่ตอนที่ ๑ ถึงตอนที่ ๒๔* 

*ตอนจบ สงวนราคา ๕ เหรียญทอง* 

*และตอนพิเศษสงวนไว้สำหรับเหมาเล่มเท่านั้น ตอนพิเศษจะเป็นเนื้อหาขยายของตนที่ ๒๔ โดยเฉพาะ 

แต่สำหรับนักอ่านที่อ่านเพียงตอนปกติ ยังสามารถเข้าใจเรื่องราวและเนื้อหาได้โดยไม่ต้องเหมาเล่มได้*

 

- ทั้งนี้เราขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่สนใจในนิยายของเรา -

คำเตือน

 

เนื้อหาภายในนิยายเกิดจากจินตนาของผู้เขียนมิได้อ้างอิงถึงบุคคลภายนอกแต่อย่างใดซื่อตัวละคร และสถานที่

หากพาดพิงหรือกล่าวถึงต่อบุคคลในชีวิตจริงทางทีมงานขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย 

ปิ่นลดา

ผู้เขียน : แมวสลิดศรีสยาม

พิมพ์ครั้งแรก : มิถุนายน ๒๕๖๘

© สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ.๒๕๕๘ 

ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือหรือคัดลอกเนื้อหาส่วนหนึ่งส่วนใดเพื่อสร้างฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์

เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์แล้วเท่านั้น

 

เรียบเรียง : แมวสลิดศรีสยาม

ออกแบบปก : แมวสลิดศรีสยาม  รูปเล่ม : แมวสลิดศรีสยาม

 

สารบัญ

นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑ ๑,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๒ ๒,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๓ ๓,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๔ ๔,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๕ ๕,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๖ ๖,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๗ ๗,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๘ ๘,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๙ ๙,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๐ ๑๐,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๑ ๑๑,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๒ ๑๒,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๓ ๑๓,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๔ ๑๔,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๕ ๑๕,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๖ ๑๖,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๗ ๑๗,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๘ ๑๘,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๙ ๑๙,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ดอนที่ ๒๐ ๒๐,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๒๑ ๒๑,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๒๒ ๒๒,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๒๓ ๒๓,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๒๔ ๒๔ (ฉบับย่อ อ่านตัวเต็มได้ในแบบเหมาเล่ม และ e-book ),นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-End End,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๒๔ ภาคย้อนอดีต Part 1,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๒๕ ภาคย้อนอดีต Part 2,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๒๖ ภาคย้อนอดีต Part 3,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๒๗ ภาคย้อมอดีต Part 4,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๒๘ ภาคย้อนอดีต Part 5,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๒๙ ภาคย้อนอดีต Part 6,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๓๐ ภาคย้อนอดีต Part 7

เนื้อหา

ตอนที่ ๙ ๙

 

 

 

 

ทุกอย่างราวกับหยุดนิ่ง เมื่อชายหนุ่มทั้งสองปรากฏตัวต่อหน้าหญิงสาวที่กำลังล้มอยู่กับพื้น ชายหนุ่มทั้งคู่รีบเข้าไปประคอง หญิงสาวแต่สิ่งที่น่าแปลกใจ อัญมณีควรที่จะเรียกได้เพียงหนึ่ง แต่เวลานี้ทั้งคู่ที่ปรากฏต่อหน้า คิรันที่ทำได้สับสน และแปลกใจในเหตุการณ์ตรงหน้า ณ ขณะนี้ ทำไมหลานของนายพรานเป็นหนึ่งในคนที่อัญมณีเลือก คิรัน และศิตา หันหน้ามองกันด้วยความสงสัย

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ” ศิตา อดใจถามคิรันไม่ได้ 

“นั่นสิ” คิรันตอบเพียงสั้น ๆ ก่อนที่จะเดินเข้าหาทั้งสี่คนที่กำลังยืนงงในเหตุการณ์ดังกล่าว

“ผมโดนย้ายมาอีกแล้ว” พัฒ มองไปทาง คิรัน และลดา ก่อนที่จะกล่าวออกไป ด้วยสถานการณ์ดังกล่าว ในทางกลับกันมาร์ค ไม่มีทีท่าตกใจในสิ่งที่เกิดขึ้น 

“คุณโอเคไหมครับ? คุณมาร์ค” คิรันถามไปยังมาร์คที่ทำท่าเฉย ๆ กับเหตุการณ์นี้

“ตอนแรกก็ตกใจนะครับ แต่สมัยก่อนเกิดเหตุแบบนี้บ่อยมาก จนตาได้เล่าเรื่องที่ไปที่มาของ ปืนนี้ให้ผมฟัง.....”

“เสียงปืน! ใครเป็นอะไรไหม” พรานบุญ และศีรษะหน้ากรุ๊ปทัวร์ที่วิ่งมาทางเสียง ก่อนที่มาร์คจะพูดเสร็จ เหตุการณ์ชุลมุนอยู่ ครู่ใหญ่ก่อนจะสงบลง พรานบุญรีบเข้าไปหาคนในคณะทัวร์ ที่โดนสะกด เมื่อพรานบุญตรวจสอบจนแน่ใจแล้วนั้น ก็ได้เดินมาทางลดาที่ยืนอยู่

“ขออนุญาตนะครับคุณลดา ผมขอดูปิ่นของคุณลดา พอจะดูได้ไหมครับ”

“ได้ค่ะลุงบุญ” ลดาได้หยิบปิ่นที่อยู่ด้านบนศีรษะของตน ให้กับพรานบุญ 

“ไม่น่าใช่” พรานกล่าวพร้อมส่ายหน้า พรานบุญ ยื่นปิ่นคืนให้กับลดา ก่อนที่หันไปมองที่มาร์คแล้วส่ายหน้า แล้วเดินไปใกล้กับมาร์คกระซิบบางอย่าง มาร์คตอบสนองด้วยการส่ายหน้า เมื่อสิ้นสุดการสนทนา มาร์คได้หันไปมองทางพาขวัญ ในขณะที่ศิตา กำลังยืนกอดพาขวัญที่กำลัง มีอาการตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้น ใช้เวลาไม่นานนัก เหล่ากลุ่มคนในที่เกิดเหตุพากันกลับ ไปยังน้ำตก ไกด์ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ของลูกทัวร์ที่กำลังแตกตื่น ใช้เวลาครู่ใหญ่ก่อนที่ทุกอย่างจะสงบลง และกลับสู่ภาวะปกติ แต่ พัฒ ที่เริ่มทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบนี้ได้แล้วนั้น พัฒ ได้เดินไปนั่งข้าง ๆ ของลดา 

“คุณดีขึ้นหรือยังครับ” พัฒ ถาม ลดา ด้วยความเป็นห่วง

“ดีขึ้นแล้วค่ะ ขอบคุณนะค่ะ คุณตำรวจ”

“เรียกพี่ก็ได้ครับ เราห่างกันไม่กี่ปีหรอก”

“ค่ะพี่ พัฒ” ลดาพูดเสียงเบา ก่อนนั่งก้มหน้าเก็บอาการเขินอายกับใบหน้าที่เริ่มแดง พัฒ ยิ้มออกมา และนั่งมองเหล่าคณะทัวร์ที่สถานการณ์กลับมาเป็นปกติ 

ณ โฮมสเตย์ คณะทัวร์ และทีมงานโฮมสเตย์ กลับมาถึงที่หมายพร้อม พัฒ ที่ขอติดรถกลับมาด้วย ไม่นานทิมพิกาได้ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทิมพิการ ตกใจและรีบเข้าไปหา ลดา และพาขวัญ ด้วยความเป็นห่วง

“เป็นอะไรกันไหมทั้งคู่” ทิมพิกาถามพร้อมเดินเข้าไปกอดทั้งคู่ ด้านทางคิรัน และศิตา เดินมาทางทิมพิกา 

“ป้าทิมครับ ผมคงต้องขอตัวกลับไปทำธุระก่อน ต้องเข้าไปดูบริษัทสักหน่อย ปล่อยไว้นานเดียวงานไม่เดินครับช่วงนี้ต้องขยายไปธุรกิจอสังหาด้วยคงยุ่ง ๆ พอควรครับ เดียวทางน้องคงต้องระวังเรื่องเดินทางไปที่คนเยอะ ๆ นะครับอย่างอื่นก็ไม่น่าเป็นห่วงครับ” หลังจากกล่าวเสร็จทั้งคู่ ได้เดินทางออกจากโฮมสเตย์ กลับไปยังบริษัทที่กรุงเทพฯ ในทันที

“ลดา พาน้อง เข้าไปข้างในเถอะลูกไปพักก่อน เดี่ยวแม่ดูแลงานเอง”

“ค่ะแม่ ไปกันเถอะขวัญ” ลดา ได้จูงมือ พาขวัญเข้าไปพักในห้องนอนของตน

ทางด้าน คิรัน ใช้เวลาไม่ถึงวันในช่วงกลางดึก คิรัน ขับรถเข้าไปยังตัวบ้านในคฤหาสน์ของตน แต่ด้านนั่งคนขับ ศิตา ก็ได้ก้าวลงมาจากรถ ทำให้ทราบว่า คิรัน และศิตา ได้พักอาศัยอยู่สถานที่เดี่ยวกัน แต่อยู่คนละคูหา 

“ขอตัวไปนอนพักก่อนนะคุณ” คิรัน กล่าวบอกศิตา

“ค่ะคุณคิรัน ฝันดีนะค่ะ” ทั้งคู่ต่างส่งยิ้ม และแยกย้ายเข้าไปยังบ้านของตน

เช้าวันรุ่งขึ้น ลดา ตื่นขึ้นบนที่นอน แต่เมื่อพลิกตัวไปยังอีกด้านนั้นก็ต้องตกใจ เมื่อเจอพาขวัญนอนอยู่ข้าง ๆ 

“เออ..จริงสิ เมื่อวานน้องนอนกับเราหนิ” ก่อนที่ลดาจะยื่นมือหยิบผ้าห่ม เพื่อจะห่มผ้าให้พาขวัญนั้นเอง เมื่อมือของลดาโดนตัวพาขวัญนั้น แสงสีเขียวอันหน้าพิศวงได้ส่องสว่างไปทั่วห้องของลดา ก่อนที่สติจะเลือนรางหายไป ลดาตื่นขึ้นท่ามกลางความมืดมิด มองไปทางไหนก็เห็นแต่สีดำสนิทแม้กระทั้งมือของตนยังมองไม่เห็น แต่ไม่นานนักแสงเล็ก ๆ รำไรอยู่ด้านหน้าของ ลดา เมื่อเดินเข้าไปใกล้ ๆ กลับพบว่าเป็นประตูบานนึง เมื่อ ลดา ได้ผลักเข้าไปนั้นภาพที่เห็นตรงหน้า เป็นป่าที่สองข้างทาง บนพื้นมีถังประทีปจุดให้ความสว่างวางไว้สองข้างทาง เป็นทางเดินมุ่งตรงไปที่ไหนสักแห่ง เมื่อเดินตามทางไปเรื่อย ๆ ลดาเห็นแท่นหินรูปทรงสี่เหลี่ยมด้านหน้าของตน ด้วยความกล้า ๆ กลัว ๆ ลดาจึงยังไม่กล้าเข้าไปใกล้แท่นหินแท่นนั้น แต่แล้วด้านหลังมีหญิงสาวเดินเข้ามาใกล้ ลดา และมีมือมาจับไหล่ของตน มืออันเย็นยะเยือก ลดา เกิดอาการตกใจ และได้หันไปมองทางด้านหลัง เมื่อได้พบว่ามีคนยืนอยู่ด้านหลัง

“หนูขอโทษค่ะ ที่เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต” หญิงสาวยิ้มตอบ 

“ไม่ต้องตกใจนะ ปิ่นสวยดีนะจ๊ะ ตามมานี้สิ” หญิงสาวเดินนำหน้า ลดา ออกไปตามทางที่ไปยังแท่นหินแท่นนั้น ลดาได้เดินตามไปติด ๆ เมื่อได้เดินผ่านแท่นหินใกล้ ๆ จนสังเกตได้อย่างชัดเจน ภายในบริเวณรอบ ๆ แท่นนั้น มีช่องที่สามารถวางสิ่งของได้หลากหลายชิ้น มีทั้งร่องรอยที่คล้าย ๆ สร้อยที่วางไว้เป็นเวลานานก่อนที่จะถูกหยับออกไป เข็มขัด แม้กระทั่งปืนที่มีร่องรอยหลงเหลืออยู่ เช่นเดียวกัน แต่ที่เป็นจุดเด่นนั้น ด้านบนใจกลางของแท่นหิน มีกล่องไม้อยู่หนึ่งกล่องที่ ฝาด้านบนถูกเปิดออก แต่ด้านในกลับว่างเปล่า เมื่อพ้นระยะสายตา ลดาได้หันกลับไปมองผู้หญิงที่เดินนำตนไป แต่กลับพบเพียงกระพรวนข้อเท้าที่วางอยู่บนโขดหินเพียงเท่านั้น ก่อนที่ลดาจะเดินเข้าไปหยิบขึ้นมา เมื่อมือไปสัมผัสสิ่งรอบข้างกลับแปลเปลี่ยนทุกอย่างค่อย ๆ สลายลง ก่อนที่แสงสีแดงจากปิ่นจะส่องสว่าง ลดา ตื่นขึ้นจากผวัง เมื่อได้สติกลับพบว่ามือของลดา จับที่แขนของพาขวัญที่กำลังนอนหลับอยู่

“มันคืออะไร เหมือนไม่ใช่ฝันเลย.....”

“พี่ลดา ตื่นแล้วหรอค่ะ” พาขวัญงัวเงียตื่นขี้นมา...

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” เสียงเคาะประตูเรียกสติ ลดา ให้กลับมา

“ลดา พาขวัญตื่นหรือยังลูก” เสียงทิมพิกา เรียกเด็กทั้งสอง

“ตื่นแล้วค่ะแม่” ลดาลุกไปเปิดประตู ตื่นแล้วก็ลงไปกินข้าวนะทั้งคู่ แล้วเดี่ยวสาย ๆ พี่คิรัน เขาจะมารับ

“รับ รับไปไหนแม่ พาขวัญด้วยหรือแม่”

“ใช่แล้วทั้งคู่นั้นแหละ วันนี้พี่เขาจะรับเราทั้งคู่เข้ากรุงเทพฯ ไปหา ตา เราที่กรุงเทพฯ”

“แล้วพาขวัญไปป้าจี๊ดว่าไงไม่ว่าหรอแม่”

“ไม่ว่าหรอกแม่บอกกับ ป้าจี๊ด ที่ตลาดแล้ว เดี่ยวขวัญไปเจอคุณตาเดี่ยวขวัญก็รู้เองละ หลาย ๆ อย่างที่ขวัญอยากรู้ก็มีคำตอบที่นั้นแหละ” หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ พาขวัญ ได้ขอตัวไปเตรียมของที่บ้าน ลดาก็เช่นเดียวกันขึ้นห้องเพื่อเตรียมของ เพื่อรอ คิรัน ที่จะมารับ ลดาได้ลงมาหาแม่ของตนที่กำลังเตรียมของอยู่ในห้องครัว ลดาได้ไปนั่งอยู่ใกล้ ๆ ทิมพิกา 

“แม่...แล้วแม่ไม่ไปด้วยกันหรอ” ลดาถามทิมพิกา

“แม่ติดงานที่นี้ แต่แม่คุยกับคุณตาลูกแล้วนะ แกรับปากจะดูแลเราสองคนให้” 

“แล้วน้องขวัญเกี่ยวอะไรกับเราหละแม่ ลดาถามด้วยความแปลกใจ หรือว่าน้องจะเป็นญาติเราหรอแม่” ลดาถามแล้วจ้องไปที่ทิมพิกา แต่ทางด้านแม่ของตนเพียงแค่ยิ้ม ก่อนจะยักไหล่

“ไม่รู้สินะ อยากรู้ก็ไปถามตาแกเองนะ” หลังจากพูดเสร็จทิมพิกาได้กลับไปทำงานต่อ ปล่อยให้ ลดา เกิดข้อสงสัยอยู่อย่างนั้น ครู่หนึ่งไม่นานนัก พาขวัญ ได้ถือกระเป๋าสะพายใบเล็ก ๆ เดินเข้ามาผ่านทางห้องรับรองแขกเดินตรงมาหาลดาที่นั่งอยู่ในครัว 

“พี่ลดา หนูต้องไปด้วยจริง ๆ หรอ” พาขวัญถามด้วยความสงสัย

“พี่ก็ไม่รู้สิ พี่ถามแม่แล้วนะแม่ก็ไม่ยอมบอก”

“ป้าขวัญก็บอกแค่ว่า ลองไปถามตาพี่ลดาดู จะได้รู้เรื่องที่สงสัยมานาน ป้าขวัญก็บอกมาแค่นี้เอง พี่ลดา” ลดานั่งถอนหายใจพร้อมกับ พาขวัญ ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ใช้เวลาไม่นานในช่วงเวลาหลังเที่ยงรถของ คิรัน ได้มาถึงยังโฮมสเตย์ของทิมพิกา คิรัน ลงจากรถที่จอดสนิทแล้ว จากนั้นได้เดินเข้าไปหาทิมพิกาที่อยู่บริเวณ ห้องรับแขก

“ป้าทิมครับ พรุ่งนี้ค่อยเดินทางช่วงเช้านะครับ” 

“ตาฝากถามว่าป้าทิม ไม่ไปด้วยกันหรอครับ” ทิมพิกาหันมายิ้ม

“ป้าคุยกับคุณพ่อแล้ว ตอนนี้ยังทิ้งงานทางนี้ไม่ได้จริง ๆ เดี๋ยวมีคณะทัวร์มาอีกนะ” หลานไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า คิรัน ตอบรับทิมพิกาด้วยการพยักหน้า พร้อมลุกขึ้นเดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อหยิบกุญแจ ก่อนจะเดินขึ้นไปยังชั้นสอง

“ผมขอตัวก่อนนะครับ ฝันดีนะครับ ป้าทิม...”