อ๊ะ! ทำไมนานวันเข้านายเอกที่เธอรู้จักถึงได้รุกเธอหนักขนาดนี้กันเล่าาาาา!
ชาย-หญิง,ไทย,รัก,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
สาววายกับนายเอกอ๊ะ! ทำไมนานวันเข้านายเอกที่เธอรู้จักถึงได้รุกเธอหนักขนาดนี้กันเล่าาาาา!
บทที่ 2
ภายในสตูดิโอที่มีเสียงดังเอะอะวุ่นวาย ตรงกลางห้องมีร่างของชายหนุ่มสองคนกำลังโพสต์ท่าพร้อมกับแสงแฟลชสว่างวาบออกมาโดยช่างกล้องมือหนึ่งที่กำลังรัวนิ้วมือในการถ่ายภาพของนายแบบทั้งสอง
วันนี้กิรัณญ์และเธียร์เตอร์มีถ่ายแบบนิตยสารฉบับหนึ่งตามเสียงเรียกร้องของแฟนคลับที่ชื่นชอบและจิ้นกิรัณญ์กับเธียร์เตอร์
ด้วยช่วงนี้ไม่ค่อยมีผลงานออกมาให้ชื่นชมมากนักแต่เพราะกระแสคู่จิ้นที่ยังคงร้อนแรงไม่มีแผ่วทำให้ทั้งสองยังเป็นที่ต้องการตามกระแสอยู่เสมอจึงมีเสียงเรียกร้องจากแฟนคลับโหวตให้ทั้งสองมาขึ้นปกนิตยสารฉบับนี้
วันนี้เมถุนมาทำหน้าที่เป็นช่างแต่งหน้าให้กับกิรัณญ์ เนื่องจากสตูดิโอแต่งหน้าที่เมถุนทำงานอยู่เป็นสตูดิโอที่มีชื่อเสียงและมีทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านการทำงานที่เกี่ยวข้องกับนักแสดง ภาพยนตร์หรือซีรีส์ต่างๆ ทำให้ได้รับความไว้วางใจและถูกว่าจ้างอยู่เสมอ
และเพราะมีพี่เอมเป็นหัวหน้าทีมทำให้เมถุนเองได้รับเลือกให้มาร่วมทีมกับทีมแต่งหน้าของกิรัณญ์อยู่บ้างตามงานที่ได้รับมอบหมายแต่อาจจะไม่บ่อยมากนักเพราะทางสตูดิโอเองก็มีช่างแต่งหน้าอยู่หลายคน ก็แล้วแต่ทางสตูดิโอจะจัดทีมให้ใครมารับงานไหนบ้างตามความเหมาะสมของงาน
ถึงแม้เมถุนจะได้เจอกิรัณญ์ตามงานอยู่บ้างแต่เมถุนเองก็ชอบไปงานแฟนมีตหรืองานอีเวนต์มากกว่าแบบนั้นถึงได้บรรยากาศการเป็นแฟนคลับของจริงมากกว่าน่ะสิ
ถ้าถามว่าไม่กลัวกิรัณญ์รู้หรอ บอกเลยว่าเมถุนพรางตัวจบแทบไม่มีใครจำได้เลยแหละและอีกอย่างเธอเป็นแค่ช่างแต่งหน้าตัวเล็กๆ กิรัณญ์คงจำเธอไม่ได้หรอก
“กิรัณญ์พี่ขอท่าซบไหล่เธียร์เตอร์หน่อยนะ”
กิรัณญ์ซบใบหน้าลงกับลาดไหล่ของเธียร์เตอร์ด้วยความสูงที่ใกล้เคียงกันทำให้กิรัณญ์ต้องโน้มกายเข้าไปใกล้เธียร์เตอร์มากกว่าเดิม
เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นรัวๆ ตามท่าทางที่ชายหนุ่มทั้งสองโพสต์ อีกฟากหนึ่งของมุมห้องภายในสตูดิโอเดียวกัน เมถุนต้องกัดฟันข่มริมฝีปากไม่ให้มันแย้มขึ้นเพราะฟินกับภาพตรงหน้าเหลือเกิน นี่มันโคตรจะ เอ็กซ์คลูซีฟ ได้เห็นด้วยตาเนื้อแทบจะกลั้นยิ้มไม่ไหวแล้ว
เมถุนได้แต่หันหลังเพราะเริ่มจะทนไม่ไหว ใจมันอยากจะกรี๊ดกับภาพที่เห็น มันโคตรจะฟินเลย ถ้าไม่ได้ทำงานตรงนี้ไม่รู้ว่าชาติไหนจะได้เจอแบบนี้ พูดแล้วพรุ่งนี้ต้องเตรียมตัวกดบัตรมีตติ้งแล้วหละ
“ซับหน้าให้กิรัณญ์กับเธียร์เตอร์หน่อยครับ”
พอเห็นพี่ๆ เมคอัพเดินเข้าไปหน้าเซต เมถุนได้สติและรีบเดินตามพี่ๆ เข้าไปช่วยดูแลชายหนุ่มทั้งสอง เตรียมอุปกรณ์ออกมาซับหน้าและเติมเมคอัพบนหน้าของกิรัณญ์
กิรัณญ์โน้มใบหน้าลงมาเพื่อให้คนตัวเล็กกว่าจัดการกับใบหน้าของตนเอง เมถุนรีบใช้กระดาษซับมันซับที่ใบหน้าของชายหนุ่มเสร็จแล้วเติมแป้งแล้วตบท้ายด้วยทาลิปสติกสีอ่อนให้กินรัณญ์
เมื่อเติมเสร็จกิรัณญ์เม้มปากพร้อมก้มหน้ามองคนตัวเล็กที่หลบสายตา กิรัณญ์ไม่เข้าใจว่าตั้งแต่ร่วมงานกันมา ทำไมหญิงสาวตรงหน้าไม่เคยพูดคุยเป็นกันเอง เหมือนกับพี่ๆ คนอื่นที่เข้ามาแต่งหน้าให้เขา
และแทบทุกครั้งต้องก้มหน้าหรือเสมองไปทางอื่นเสมอ ไม่ยอมสบตากับตนตรงๆ สักที ได้แต่เก็บความสงสัยและกลับไปทำงานต่อ
หลังจากที่จัดการกับหน้าตาของกิรัณญ์เรียบร้อยแล้วเมถุนก็เดินกลับมายังมุมห้องที่เดิม พร้อมใจที่เต้นรัว เพราะตื่นเต้นที่ได้เข้าไปใกล้ชิดกับคู่จิ้นที่ตนชอบ
พร้อมกับฟันธงในใจว่า สองคนนี้ต้องเป็นคู่จริงแน่ๆ ดูจากที่เมถุนเห็นตอนที่ทั้งสองสบตากัน แม้จะเพียงแป๊บเดียวแต่ชิปเปอร์อย่างเมถุนก็เห็นสายตาหวานหยาดเยิ้มของท้งสอง มันอิ่มความสุขจริงๆ เลย
“เม เราว่าสองคนนั้นเค้าคิดอะไรกันจริงมั้ย?” เอมอรเอ่ยถามออกมาเบาๆ เมื่อรู้สึกว่าทั้งสองดูมีความสนิทสนมมาก
“ไม่รู้สิพี่เอม เมไม่ค่อยได้ตามข่าวเท่าไหร่” เมถุนตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ เพราะไม่อยากให้พี่เอมรู้ว่า ตนเป็นแฟนคลับของทั้งสอง และชิปคู่นี้อยู่ ถ้าพี่เอมรู้นะ มีหวังอดได้ทำงานแน่ๆ
“แต่เห็นมีคนบอกว่าสองคนนี้รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วนะ คงไม่มีอะไรแบบนั้นมั้ง”
เมถุนไม่ตอบได้แต่มองตามสายตาของพี่เอมที่มองไปยังร่างของสองหนุ่ม ซึ่งยังคงโพสต์ท่าต่างๆ อยากจะตะโกนบอกพี่เอมเหลือเกินว่า นี่มันคู่จริงคู่แท้ค่ะพี่เอม
“เสร็จแล้วเปลี่ยนชุดต่อไปได้เลยครับ” ช่างภาพตะโกนบอกหลังจากที่พอใจกับภาพเซตนี้แล้ว
เมถุนเดินไปที่ห้องแต่งตัวพร้อมพี่ๆ สไตลิสต์เพื่อเตรียมเปลี่ยนชุดและแต่งหน้าในการถ่ายแบบรอบต่อไป เมื่อมาถึงห้องเมถุนเตรียมอุปกรณ์ล้างเมคอัพและอุปกรณ์แต่งหน้าเพื่อเตรียมความพร้อม
เพราะคอนเซ็ปต์รอบต่อไปเป็นแนวแฟนตาซีโดยจำลองเป็นสัตว์ในเทพนิยายเมถุนได้รับมอบหมายให้รับหน้าที่แต่งหน้าในครั้งนี้
เมถุนเริ่มแต่งหน้าให้กิรัณญ์พร้อมกับลอบมองในหน้าของกิรัณญ์คิ้วบางได้รูปทรงเหมือนมังกรโค้งโก่งเล็กน้อย ดวงตาเรียวสวย ใต้ตามีฝนเม็ดเล็กๆ อยู่ปลายหางตาซ้ายขนตางามเหมือนเส้นไหมจมูกสันโด่งปลายเชิดรันรับกับริมฝีปากเรียวบางเป็นกระจับ ดูรวมๆ แล้วเป็นผู้ชายที่หน้าสวยมากในสายตาของเมถุน เหมาะสมกับเธียร์เตอร์และบทนายเอกทีได้รับมาก นี่มันคนสวยขาในอุดมคติของเมเลยเนี่ย
กรี๊งง งงง
กิรัณญ์เอื้อมมือไปจับโทรศัพท์ที่กำลังส่งเสียงร้อง ก้มหน้ามองเบอร์ที่โทรเข้ามาพร้อมยกยิ้มขึ้นนิดหน่อย
“ผมขอรับสายสักครู่นะครับ” เมพยักหน้าให้กิรัณญ์พร้อมกับลดมือที่กำลังแต่งหน้าอยู่
“ครับแม่”
“คุณแม่มาถึงบ้านแล้วหรอครับ”
“กิยังถ่ายงานไม่เสร็จเลยครับ เดี่ยวกิเสร็จแล้วจะรีบกลับไปหาครับ”
“ได้ครับ ครับ สวัสดีครับแม่” หลังจากวางสายเสร็จกิรัณญ์ก็พยักหน้าให้เมถุนแต่งหน้าต่อ แต่ภายในใจของเมถุนกำลังนึกถึงคำที่กิรัณญ์พูดกับแม่ของเขา
กิรัณญ์แทนตัวเองว่ากิกับคุณแม่ อะไรมันจะน่ารักขนาดนั้น มาได้ฟังใกล้ๆ แบบนี้แล้วฟินไม่ไหว หนูกิของมี๊คือน่ารักน่าเอ็นดูที่สุดเลยลูก ใจจะวายน่ารักอะไรขนาดนี้ลูก
เพ้อเสร็จแล้วได้แต่บอกตัวเองให้ได้สติแล้วตั้งใจแต่งหน้าต่อ วันนี้กลับบ้านไปนะ จะไปนั่งหวี้ดให้หลุดโล่งไปเลย ตอนนี้ต้องแต่งหน้าให้เสร็จก่อน จะมาเสียการเสียงานแบบนี้ไม่ได้นะยัยเม
“ใกล้เสร็จยังจ๊ะเม” พี่เอมถามพลางเดินเข้ามาใกล้
“ขอเวลาอีก 15 นาทีค่ะพี่เอม”
“โอเคจ๊ะ” ตอบเสร็จแล้วหันไปคุยกับกิรัณญ์ต่อ
“คุณกิเนี่ย หล่อมากเลยนะคะ ขนาดแต่งแนวแฟนตาซีแบบนี้ยังดูหล่อแบบร้ายๆ เลย ใช่มั้ยเม”
“เมว่าหน้าสวยมากกว่าค่ะ” เมถุนตกใจเมื่อเผลอพูดความคิดของตัวเองออกไปได้แต่ทำตาโตแล้วก้มหน้าลง
“สวยหรอครับ คงมีแค่คุณเมถุนที่บอกแบบนี้รึเปล่าครับ” กิรัณญ์ยกยิ้มขึ้นเมื่อได้ฟังสิ่งที่เมถุนพูด
“แต่จะว่าไปพอมองดีๆ ก็เป็นเหมือนที่เมว่านะคะคุณกิรัณญ์"
“ขอบคุณครับ แต่ผมว่าน่าจะเป็นเพราะฝีมือของคุณเมถุนมากกว่า ที่แต่งออกมาได้แบบนี้” พูดแล้วหันมายิ้มให้เมถุน เมถุนได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าสบตา ได้แต่ตอบออกไปว่า
“คุณกิรัณญ์หน้าตาดีอยู่แล้วต่างหากล่ะค่ะ”
“เอาล่ะๆ เดี๋ยวเมแต่งหน้าต่อเถอะ เดี๋ยวใกล้เวลาถ่ายเช็ตต่อไปแล้ว”
“ค่ะ พี่เอม”
เมถุนตอบแล้วลงมือแต่งหน้าต่อ พลางแอบมองชายหนุ่มตรงหน้าว่าเจ้าตัวทำหน้าตาแบบไหนอยู่ พอเงยหน้าขึ้นไปเห็นสายตาของชายหนุ่มจ้องมองอยู่ เมถุนถึงกับทำตัวไม่ถูก เร่งแต่งหน้าต่อให้เสร็จ ได้แต่บอกตัวเองให้มีสติกับงานตรงหน้า แต่ในใจก็ยังเต้นไม่หายสักที
ก็สายตาที่มองมามันดูจ้องจับผิดอะไรสักอย่าง เหมือนกิรัณญ์กำลังสงสัยอะไรในตัวเมถุนอยู่ เมถุนได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าคงไม่มีอะไรหรอก ตนน่าจะเข้าใจผิดไปเอง
การถ่ายทำวันนี้เสร็จไปได้ด้วยดี ถึงแม้จะมีบางจังหวะที่เผลอมองทั้งกิรัณญ์และเธียร์เตอร์นานไปหน่อยแต่วันนี้เมถุนก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีไม่มีขาดตกบกพร่องแม้ว่าจะมีแค่สติที่หลุดลอยไปบ้างเพราะฟินกับภาพของชายหนุ่มทั้งสอง
“วันนี้เก่งมากเม พี่ๆ หลายฝ่ายชมกันใหญ่เลยว่าเมคอัพวันนี้สวยมาก”
พี่ฝ้าย วริญญา หนึ่งในทีมงานจาก “บริษัทดรีมสตาร์ เอเจนซี่ จำกัด” บริษัทต้นสังกัดของกิรัณญ์เดินเข้ามาหาเมถุนที่กำลังเก็บของเตรียมกลับบ้าน พี่ฝ้ายคนนี้เป็นทีมงานที่เมถุนได้ร่วมงานมาหลายครั้งเป็นพี่สาวที่ใจดีคนหนึ่ง เห็นว่าสนิทกับกิรัณญ์ด้วย เพราะเป็นพี่ที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนและเป็นคนที่ชักชวนกิรัณญ์ให้เซนต์สัญญากับบริษัทแห่งนี้
“ขอบคุณค่ะพี่ฝ้าย”
“นี่เม จะกลับเลยหรอ”
“ใช่ค่ะพี่ฝ้าย” เมบอกอย่างยิ้มๆ
“วันนี้มีกินเลี้ยงกันนะ นี่พี่กำลังจะมาชวนทีมเมคอัพไปด้วยกันอยู่เนี่ย เมไปด้วยกันสิ”
“เอ่อออ..”
เมทำสีหน้าลำบากใจ เพราะตั้งใจจะกลับไปหวีดลูกชายและเตรียมตัวสำหรับกดบัตรมีตติ้งสำหรับพรุ่งนี้ซะหน่อย
“มีกินเลี้ยงหรือฝ้าย” เอมอรหันกลับมาถามเมื่อได้ที่วริญญากล่าว
“ใช่เอม เลยว่าจะมาชวนทีมของเธอให้ไปกินเลี้ยงด้วยกันเนี่ย”
“โอเค เดี๋ยวไปบอกน้องๆ คนอื่นก่อน”
“แล้วเมล่ะ สรุปไปมั๊ย” วรัญญาหันมาถามเมถุนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ไปด้วยกันนี่แหละเม เหนื่อยกันมาทั้งวันละ พรุ่งนี้วันหยุดอีกไปคลายเครียดกันหน่อย”
เมถุนได้แต่ทำหน้าอ้ำอึ้งอยากจะบอกพี่เอมเหลือเกินว่าวันหยุดพรุ่งนี้ เธอจะเอาเวลาไปกดบัตรมีตติ้งของ เธียร์เตอร์กิรัณญ์ต่างหาก
“เมติดธุระน่ะค่ะ ไว้โอกาสหน้านะคะ”
“โอเคจะ งั้นเมกลับไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวพี่ไปบอกน้องๆ คนอื่นก่อนแล้วกัน ไว้เจอวันจันทร์นะ”
“ค่ะพี่เอม งั้นเมกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ” เมถุนมือไหว้ลาเอมอรและวริญญา ก่อนจะเดินเลี่ยงทั้งสองไปที่ลาดจอดรถและขับรถกลับบ้านอย่างสบายใจ
คนอื่นอาจจะคลายเครียดด้วยการไปแฮงค์เอาท์แต่สำหรับเธอการกลับไปหวีดลูกชายที่ห้องตัวเองต่างหากล่ะที่จะทำหายให้เหนื่อยจากการทำงาน เมถุนขับรถออกจากสตูดิโออย่างอารมณ์ดีพร้อมฮัมเพลงเบาๆ เมื่อนึกถึงว่าถ้าตนถึงห้องแล้วจะทำอะไรบ้าง ชีวิตติ่งน้อยๆ ก็ขอมีความสุขแค่นี้แหละนะ