"มาเป็นคนทำงานบ้านไม่ได้มาทำอย่างอื่นนะ" "ก็แล้วแต่เธอใครเขาบังคับ"
ชาย-หญิง,รัก,ผู้ใหญ่,รักโรแมนติก,รักโรแมนติด,รักแรก,รักเด็ก,รักสมัยเด็ก,รักดุเดือด,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ดอกเบี้ยแสงเทียน"มาเป็นคนทำงานบ้านไม่ได้มาทำอย่างอื่นนะ" "ก็แล้วแต่เธอใครเขาบังคับ"
พ่อเลี้ยงปรเมศยืนอยู่ในชุดเสื้อยืดธรรมดากับกางเกงวอร์ม แต่แสงไฟอุ่น ๆ ทำให้เขาดูอบอุ่นกว่าทุกครั้งที่เธอเคยเห็น
เขามองเธอด้วยสายตานิ่ง ๆ แต่ไม่แข็งกร้าว
“ฉัน...แค่... นอนไม่หลับค่ะ” แสงเทียนพูดออกมาเบา ๆ เกือบจะเป็นเสียงกระซิบ
เขาไม่ตอบอะไรเพียงแค่เดินพ่านเธอไปเปิดประตู
“งั้นก็เข้ามาสิ”
แสงเทียนก้าวตาม..เข้ามาในห้องเงียบ ๆ กลิ่นสบู่อ่อน ๆ และกลิ่นกายของพ่อเลี้ยงหอมจาง ๆ ลอยมาแตะจมูก ทำให้ใจเธอเต้นแรงจนแทบควบคุมไม่ได้
พ่อเลี้ยงปิดประตูลงเบา ๆ ก่อนเดินไปหยุดอยู่ข้างเตียง
เขาไม่พูดอะไรเลยสักคำ... เพียงแต่หันมามองเธอนิ่ง ๆ
“แน่ใจแล้วเหรอ” เสียงเขาทุ้มต่ำ สะกดใจอย่างประหลาด
แสงเทียนไม่ตอบอะไรออกมาในทันที แต่เดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ตรงหน้าเขา เธอพยักหน้าเบา ๆ ทั้งที่หัวใจยังเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ดวงตาคู่นั้นวูบไหวด้วยความสับสนและความกลัวปนกัน... แต่ที่แน่ชัดคือ ไม่มีความฝืน
“ฉันจะไม่เร่งเธอ... ถ้าไม่แน่ใจ”
เธอสบตาเขา เสียงสั่น ๆ เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากที่สั่นเล็กน้อย
“เทียนแน่ใจค่ะ…”
ความเงียบตกคลุมเพียงชั่วอึดใจ ก่อนที่เสียงเข้มจะดังขึ้นอีกครั้ง
“ถ้าอย่างนั้นก็... ถอดเสื้อผ้า”
“คะ? ... ถอดเสื้อผ้า...เลยเหรอคะ?”
เสียงของแสงเทียนเต็มไปด้วยความตกใจ ใจที่เพิ่งมั่นคงเมื่อครู่กลับสะดุดกึก
กำชายเสื้อแน่น ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่ทันตั้งตัวกับคำสั่งนั้นตรง ๆ
เขายังคงนิ่ง... แต่นัยน์ตาคู่นั้นจองมอมาอย่างจิงจัง
"ถ้าเธอไม่อยากทำมัน ก็ออกจากห้องไป...."
แสงเทียนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง หัวใจเต้นแรงจนได้ยินเสียงของมันชัดในอก
มือของเธอยังสั่น แต่ดวงตานั้นกลับแน่วแน่
เธอค่อย ๆ เอื้อมมือไปปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ด ช้า ๆ — อย่างคนที่ยังไม่เคย แต่เต็มใจ
และแม้เสียงหัวใจของเธอจะดังกึกก้อง แต่ก็ไม่ได้สะท้านเพราะความกลัว...
หากเป็นเพราะเขา — คนตรงหน้าที่กำลังจ้องเธออย่างจริงจัง
พ่อเลี้ยงปรเมศยังคงนั่งนิ่ง
เสื้อตัวบางหลุดจากบ่าผิวขาวผ่องสั่นระริกเล็กน้อยเมื่อสัมผัสกับอากาศเย็น หน้าอกใหญ่โตตั้งชูชันตรงหน้า พ่อเลี้ยงปรเมศมองตาเป็นมันด้วยความพอใจ แสงเทียนใช้มือทังสองข้างกอบกุมทั้งสองเต้าไว้อย่างเขินอาย เงยหน้าขึ้นสบตาเขา
"ใหญ่ขนาดนั้นคงจะปิดมิดหรอกนะ....เอามือของเธอออก"
"ฉัน...ไม่เคย..." เสียงของเธอเบาจนแทบไม่หลุดจากลำคอ ความอาย ความกลัว และความสับสนตีวนในดวงตา
พ่อเลี้ยงปรเมศสบตาเธอนิ่ง แล้วคำสั่งที่เด็ดขาดก็ดังขึ้นช้า ๆ
"ถอดกางเกง"
ดวงตากลมเบิกกว้าง หัวใจเต้นรัวกระหน่ำเหมือนจะหลุดออกมา
สองมือดึงกางเกงนอนตัวบางค่อย ๆ เลื่อนหล่นจากสะโพกขาวอย่างช้า ๆ ตามคำสั่งของเขา ร่างบอบบางที่เปลือยเปล่าเผยผิวเนียนละเอียดขาวจัดจนแทบสะท้อนแสง แสงเทียน ใบหน้าแดงก่ำด้วยความอายจนตัวสั่น แต่กลับทำได้เพียงยืนนิ่ง ยอมจำนนต่อสายตาคมลึกของเขาที่ไล่มองตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงเส้นผม
เธออยากหันหลังหนี อยากหลบสายตาคมเข้มที่มองมาเหมือนแผดเผา... แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากยืนนิ่งปล่อยให้ความเขินอายกัดกินหัวใจช้า ๆ
เสียงกลืนน้ำลายของพ่อเลี้ยงปรเมศดังแผ่วราวกับสะท้อนอยู่ในห้องแคบ ๆ
"สวยมาก..." เขาว่าด้วยน้ำเสียงพร่าแหบ ราวกับพยายามกักเก็บความกระหายที่เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้
"นั่งลง"
เสียงทุ้มนั้นเต็มไปด้วยอำนาจ แสงเทียนชะงักไปครู่หนึ่งก่อนค่อย ๆ ทรุดตัวลงเก้าอี๋ตามคำสั่งของเขา หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดจากอก มือเล็กจับขอบเก้าอี๋ไว้แน่นอย่างไม่รู้จะวางตรงไหน
พ่อเลี้ยงปรเมศยกยิ้มมุมปาก แววตาพึงพอใจราวกับนายพรานที่ได้ครอบครองของล้ำค่า
"แยกขาออก"
คำสั่งสั้น ๆ แต่เปี่ยมไปด้วยแรงกระแทกอารมณ์ ทำให้ดวงตากลมโตเบิกกว้าง มือเล็กกำแน่นจนสั่น แต่สุดท้ายแสงเทียนก็ยอมขยับขาอ้าออกช้า ๆ ทีละน้อย ด้วยท่าทีเอียงอายจนใบหน้าแดงจัด
สายตาคมจับจ้องไม่กะพริบ ราวกับจะกลืนกินทุกเสี้ยวของภาพตรงหน้า
"ดีมาก..."
เขากระซิบเสียงพร่า ขณะที่โน้มกายลงช้า ๆ ดวงตาคมกริบไม่ละจากใบหน้าหวานที่กำลังสั่นระริกไปทั้งตัว
ฝ่ามือใหญ่แตะลงบนต้นขาขาวเนียน ไล้ปลายนิ้วขึ้นอย่างเชื่องช้า กวาดไล่ไปรอบเรียวขา แล้วลูบขึ้นมาจนถึงต้นแขนทั้งสองข้าง สัมผัสของเขาเหมือนเปลวไฟที่ลากไล้ผ่านผิว
แสงเทียนสะดุ้งน้อย ๆ หายใจขาดห้วง แต่กลับไม่เอ่ยห้าม กลับเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยดวงตาฉ่ำวาวที่บ่งบอกถึงความตื่นตระหนกปนอาย.......
แล้วจู่ ๆ เขาก็จับสองแขนของเธอรวบไว้ด้วยมือเดียว — ดึงไปไขว้ด้านหลังเบา ๆ แต่แน่นพอให้เธอต้องโน้มตัวไปข้างหน้าอย่างช่วยไม่ได้
สองเต้าใหญ่ยิ่งเด้งขึ้นตรงหน้าพ่อเลี้ยง แสงเทียนขยัวตัวเล็กน้อย
"อยู่นิ่ง ๆ ... " เสียงทุ้มต่ำของเขากระซิบชิดใบหู ลมหายใจร้อนเป่ารดจนแสงเทียนต้องหลับตาแน่น
พ่อเลี้ยงใช้มืออีกข้างไล้ผ่านแผ่นหลัง เปลือยเปล่า นุ่มนวล และเต็มไปด้วยไออุ่น เธอรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังถูกกลืนลงไปในเปลวไฟ แต่ไม่อาจหันหลังหนี
"เธอสวยมาก แสงเทียน..."
เสียงของเขาแหบพร่าเต็มไปด้วยความอดกลั้น ก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปสัมผัสผิวกายของเธออย่างแผ่วเบา กระซิบเสียงพร่า ใหนลองยกขาทั้งสองข้างของเธอขึ้นซิแสงเทียน
เขากระซิบชิดใบหู น้ำเสียงพร่าต่ำราวกับคาถาสะกดใจ
แสงเทียนตัวแข็งเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ ทำตามคำสั่งด้วยหัวใจที่เต้นระรัว เธอไม่กล้ามองหน้าเขา มีเพียงเสียงหอบหายใจเบา ๆ ที่เล็ดลอดจากลำคอ
เมื่อเรียวขาถูกยกขึ้นตามที่เขาสั่ง พ่อเลี้ยงปรเมศคุกเข่าลงตรงหน้า....แสงเทียนตกใจเล็กน้อย แต่ไม่ได้ถอย
มือหนาคู่นั้นค่อย ๆ ยื่นมาจับขาเธอไว้ จับทั้งสองแยกออกจากกัน เผยให้เห็นกลีบดอกไม้สีสมพู ดวงตาของเขาคมกริบ มองภาพตรงหน้าเหมือนกำลังจดจำรายละเอียดทุกส่วนตรงนั้น — เปลือยเปล่า งดงาม น่าลิ้มลอง
แสงเทียนกะพริบตาถี่ — พยายามกลั้นน้ำตาแห่งความรู้สึกอัดแน่นไว้
เขาโน้มหน้าเข้ามาชิด มองภาพเบื้องหน้าด้วยแววตาที่ลุกวาว สัมผัสของเขาชิดใกล้ขึ้นทุกที ทุกจังหวะลมหายใจราวกับจะกลืนกินเธอทั้งตัว
"แบบนี้แหละ... ฉันชอบ" เขาว่าเสียงต่ำพร่า นิ้วมือไล้ผ่านเนินผิวเนื้ออ่อนโยน แล้วทาบริมฝีปากลงอย่างแผ่วเบา แสงเทียนสะดุ้งก้นขยับถอยหลังเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงลิ้นอุ่นที่ตรงร่องสาว สองมือพ่อเลี้ยงจับสะโพกเล็กแล้วดึงให้แนบกับปาก..ลิ้นสากตวัดลากเลียดูดกินน้ำหวานจากร่องสาวหยาดเยิ้มอย่างหิวกระหาย
"แสงเทียนเธอนี่มันหวานจริง ๆ ฉันไม่เคยกินของใครมาก่อนแลยนะ....แสงเทียนเธอเป็นคนแรกที่ฉันกิน"
แสงเทียนหลับตาแน่น ปล่อยให้เขาพาเธอไหลลื่นไปกับคลื่นแห่งความร้อนแรง ที่ท่วมท้นโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
เสียงครางเบา ๆ ดังลอดจากลำคอของแสงเทียน มันคือความรู้สึกที่ทะลักล้น ร้อนแรง และเกินจะต้าน
สองมือยกขึ้นมากอบกุมสองเต้าของตัวเองไว้แน่น ปิดไปมากับความเสียวซ่าน
"ถ้ามันจะต้องแลกเพื่อให้แม่กับยายได้อยู่สบาย... ฉันก็จะทำ" แสงเทียนตัดสินใจอย่างแน่วแน่ ก่อนจะเดินไปหาพ่อเลี้ยงปรเมศ
"พ่อเลี้ยง..." แสงเทียนเรียกเขาเบา ๆยืนก้มหน้าอยู่ไม่ไกลจากพ่อเลี้ยงนัก
"ว่าไง มีอะไรก็ว่ามา เดี๋ยวฉันจะได้เข้าไร่" พ่อเลี้ยงปรเมศพูด
"คือ... ฉันอยากทำตามข้อเสนอของคุณค่ะ"
"ข้อเสนออะไร?" ปรเมศแกล้งถามอย่างไม่เข้าใจ
"ก็... ก็เป็นเมียพ่อเลี้ยงไงคะ"
"ไหนบอกว่าไม่อยากเป็นเมียฉันไง?" เขาถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแสงเทียนยังคงก้มหน้า ไม่กล้าสบตา
"ฉันไม่ได้บังคับเธอนะ แสงเทียน"
"ฉันเต็มใจ ขอแค่คุณอย่าไล่แม่กับยายฉันออกจากบ้านก็พอ..."
พ่อเลี้ยงปรเมศมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตานิ่งลึก เขาไม่พูดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ
"เธอรู้ไหม ว่าสิ่งที่เธอพูดมันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ"แสงเทียนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคู่นั้นแดงก่ำ
"ฉันรู้ค่ะ..."
"ฉันไม่อยากได้เมียที่ไม่เต็มใจ แสงเทียน"
"แต่ฉันเต็มใจ" เถียงเสียงแผ่ว
"เธอเรียกว่าความเต็มใจเหรอ ทั้งที่ในใจเธอไม่อยากเลยสักนิด?"แสงเทียนเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา
"การเป็นเมียพ่อเลี้ยง มันอาจจะไม่ใช้สิ่งที่ฉันฝัน... แต่ถ้ามันช่วยให้คนที่ฉันรักอยู่สบาย ฉันก็ทำได้ ขอแค่พ่อเลี้ยงเอ็นดูฉันหน่อย"
พ่อเลี้ยงปรเมศจ้องดวงตาคู่นั้นนิ่ง ๆ ความรู้สึกบางอย่างไหววูบในอก เขาเห็นความดื้อรั้นในดวงตาเธอ แต่ก็เห็นความเสียสละในนั้นเช่นกัน
"เธอรู้ไหม ว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ที่อยากเป็นเมียฉัน เขาไม่ต้องแลกอะไรเลย... แต่เธอกลับต้องแลกด้วยความเจ็บปวด"
แสงเทียนไม่ตอบ เธอก้มหน้าลงอีกครั้ง เงียบงัน
"งั้นก็เตรียมตัวให้พร้อมแล้วกัน" เขาเอ่ยในที่สุด น้ำเสียงห้วนเรียบเหมือนทุกครั้ง แต่สายตาที่ทอดมองกลับลึกซึ้งอย่างประหลาด
แสงเทียนเงยหน้าขึ้น ดวงตาเปียกชื้น
"ขอบคุณค่ะ... ขอบคุณที่ไม่ไล่แม่กับยายฉัน"
"แต่จำไว้อย่างหนึ่งนะ แสงเทียน..." เขาก้าวเข้ามาใกล้ จนเธอได้กลิ่นกายหอมอ่อนของเขา "เมื่อเธอเดินเข้ามาในข้อตกลงนี้แล้ว อย่าถอยหลัง อย่าร้องไห้... และอย่าเรียกร้องให้ฉันรัก"
หัวใจของเธอเต้นสะท้านรุนแรงกับประโยคสุดท้าย
เธอเพียงพยักหน้าช้า ๆ แล้วพูดเสียงแผ่ว...
"ฉันไม่เรียกร้องอะไรจากคุณเลยค่ะ พ่อเลี้ยง..."
แต่ก็จำคำของพ่อเลี้ยงไว้ให้ดีเถอะเพราะสุดท้าย... คนที่จะต้องเรียกร้องอาจไม่ใช่ฉันแต่เป็นคุณต่างหาก พ่อเลี้ยงปรเมศ...
แสงเทียนบอกกับตัวเองในใจ ดวงตาวาววับด้วยแววแน่วแน่ที่เจ้าตัวไม่ยอมให้ใครเห็น
"เธอเตรียมตัวให้พร้อมเลย คืนนี้เธอจะได้ทำหน้าที่แน่นอน" พ่อเลี้ยงพูดเสียงเรียบ ก่อนจะก้าวฉับ ๆ เดินลงจากบ้านไป
เสียงเครื่องยนต์กระหึ่มดังขึ้นพร้อมกับรถกระบะคันใหญ่ที่แล่นเข้าไร่ อาคม คนงานประจำของไร่กำลังยืนคุยกับคนงานคนอื่นอยู่ก่อนจะหันมาเห็นพ่อเลี้ยงเดินลงมา เขาผิวปากอย่างอารมณ์ดีแล้วทักทันที
"เป็นยังไงบ้างอาคม วันนี้จะตัดเสร็จไหม?"
"แน่นอน บ่าย ๆ ก็น่าจะจัดส่งได้แล้วครับ" อาคมมองพ่อเลี้ยงขึ้น ๆ ลง ๆ ก่อนจะเลิกคิ้วอย่างสงสัย
"วันนี้พ่อเลี้ยงดูแปลก ๆ นะครับ เสื้อผ้าก็เรียบกว่าปกติ แถม... กลิ่นก็หอมด้วย"พูดจบ อาคมก็ไม่พูดเปล่า ก้มหน้าลงไปดมเสื้อที่พ่อเลี้ยงใส่อย่างถือวิสาสะ
"เดี๋ยวนี้ชักผ้าใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มด้วยเหรอครับพ่อเลี้ยง?"
พ่อเลี้ยงปรายตามอง "พูดมากนะมึงอาคม ไปเลย ไปคุมงานต่อ!"
"ดมนิดดมหน่อยไม่ได้เลยนะพ่อเลี้ยง..." อาคมหัวเราะพลางเดินจากไป
พ่อเลี้ยงยืนมองหลังคนงานหนุ่มไปอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะยกแขนเสื้อตัวเองขึ้นมาดม
"ตอนใส่ไม่ยักกะได้กลิ่น..." เขาพึมพำ ก่อนจะยิ้มบาง ๆ แล้วผิวปากออกมาอย่างอารมณ์ดี
"พ่อเลี้ยงครับ..." เสียงอาคมตะโกนมาแต่ไกล "งานเรียบร้อยแล้ว ขอตั้งวงได้มั้ยครับ?"
พ่อเลี้ยงหันขวับมองไปทางต้นเสียง "ตั้งวงอะไรของมึงอีกล่ะ อาคม?"
"ก็ทำงานเหนื่อยนี่ครับ ผมแค่อยากหาอะไรแก้ปวดเมื่อยก็เท่านั้น"
พ่อเลี้ยงกลอกตา แต่ก็ยอมพยักหน้าเบา ๆ "ก็เอาสิ"
พูดจบก็ล้วงกระเป๋าหลัง หยิบแบงก์สีเทาออกมาสองใบ ยื่นให้อาคม
"เผื่อซื้อกับแกล้มกินกันด้วยด้วย "
อาคมรีบรับด้วยสีหน้าระรื่น "ขอบคุณครับพ่อเลี้ยง! ใจหล่อไม่เปลี่ยนเลยจริง ๆ!"
"เออ... แต่อย่ามาเมาแล้วแหกปากร้องเพลงเสียงดังข้างบ้านกูก็แล้วกันล่ะ!"
"รับทราบครับ!" อาคมตะเบ็งเสียงก่อนวิ่งแจ้นไปจัดวงอย่างกระตือรือร้น
พ่อเลี้ยงมองตามพร้อมรอยยิ้มเอือม ๆ ........
*****ตะวันคล้อยต่ำ งานในไร่ก็เสร็จเรียบร้อย พ่อเลี้ยงปรเมศเดินดุ่ม ๆ ตรงไปยังรถกระบะ ตั้งใจจะกลับบ้านทันที
แต่ก็โดนสกัดดาวรุ่งโดยอาคมเสียก่อน
"พ่อเลี้ยงครับ! จะรีบไปไหนกันเล่าครับ?.... ผมซื้อของมาตั้งเยอะแยะ มานั่งก่อนครับ แก้ปวดเมื่อยก่อนค่อยกลับ!"
พ่อเลี้ยงมองหน้าลูกน้องตัวดีแล้วถอนหายใจยาว เขารู้ดีว่าอาคมนั้นช่างตื๊อไม่เลิกลา
"แค่เป๊กเดียว... แล้วฉันกลับเลยนะเว้ย"
"สัญญาเลยครับพ่อเลี้ยง!" อาคมยิ้มกว้าง แล้วรีบรินเหล้าใส่แก้วทันที
แน่นอนว่ามีหรือลูกน้องตัวดีจะปล่อยให้เจ้านายกลับง่าย ๆ ดึงแขนแล้วดึงแขนอีก พูดคุยเฮฮากันไปมา จนเวลาล่วงเลยไปถึงสี่ทุ่มโดยไม่รู้ตัว.......
ทางด้านแสงเทียน นั่งเงียบ ๆ อยู่ที่หน้าประตูบ้าน ใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ อยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่ บรรยากาศเงียบวังเวงทำเอาขนลุกชอบกล
"ทำไมยังไม่กลับสักที..." บ่นพึมพำ....กลัวก็กลัว... ยุงก็เยอะกัดไม่ปรานีกันเลย
ใต้แสงไฟดวงเดียวที่หน้าบ้าน ตบยุงไปก็บ่นไป "บ้านอะไร ยุงเยอะยิ่งกว่าสวนอีก!"
เสียงจิ้งหรีดเรไรดังระงมไปทั่วไร่ ยิ่งทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวเข้าไปใหญ่
โต๊ะไม้หน้าบ้าน ไต้แสงไฟสลัว แสงเทียนที่เฝ้ารออยู่นานก็ค่อย ๆ ฟุบหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า
เสียงรองเท้าหนังบดกับพื้นกรวดเบา ๆ ดังใกล้เข้ามา พ่อเลี้ยงปรเมศที่เพิ่งกลับมาถึงบ้านในสภาพเมานิด ๆ เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า ร่างสูงโน้มตัวลงเล็กน้อย กลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยแตะจมูก พ่อเลี้ยงเพลอสูดดมเข้าไปเต็มที่ มันทำให้เขารู้สึกผ่อนคลานอย่างประหลาด ก่อนจะเอานิ้วมือแตะเบา ๆ ที่แก้มของหญิงสาว
“เทียน...”
แสงเทียนงัวเงียตื่น ลืมตาช้า ๆ มองหน้าเขาผ่านแสงไฟที่พร่าเบา ๆ
"พ่อเลี้ยง... ทำไมเพิ่งกลับมาล่ะคะ"พ่อเลี้ยงไม่ตอบในทันที แต่กลับย้อนถามเสียงเข้ม
“แล้วมานั่งอะไรอยู่หน้าบ้านฮะ?”
"ก็... มารอพ่อเลี้ยงไงคะ" เสียงเธอเบา รู้สึกเขินอยู่ลึก ๆ
“แล้วทำไมไม่รออยู่ในบ้าน หรือว่าเธออยากจะ ‘ปลดหนี้’ ให้เสร็จ ๆ มากขนาดนั้นเชียว?” น้ำเสียงของเขาเหมือนจะหยอกล้อ แต่ดวงตากลับจ้องมองเธอไม่วางตา
แสงเทียนส่ายหน้าอย่างเร็ว “ไม่ใช่นะคะพ่อเลี้ยง เทียนแค่... กลัวน่ะ อยู่บ้านคนเดียว…”
พ่อเลี้ยงมองเธอครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดเสียงอ่อนลงเล็กน้อย
“งั้นก็เข้าบ้าน”
แสงเทียนลุกขึ้นยืน เดินตามเขาไปอย่างเงียบ ๆ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขณะเดินขึ้นเรือน
“พ่อเลี้ยง... ดื่มมาด้วยเหรอคะ? กลิ่นหึ่งเลย”
พ่อเลี้ยงหัวเราะเบา ๆ “นิดหน่อย... ลูกน้องมันตื๊อ”
“แล้ว... ทานข้าวมาหรือยัง เทียนทำไว้ให้…”
พ่อเลี้ยงชะงักเล็กน้อยก่อนตอบ
“ยัง... กำลังหิว”
แสงเทียนมองเขา แววตาอ่อนลงอย่างไม่รู้ตัว “งั้นเดี๋ยวเทียนอุ่นให้นะคะ”
พ่อเลี้ยงหันไปมองเธอ ดวงตาอ่อนลงเช่นกัน
“…ก็ได้”
เสียงจานกระทบกับโต๊ะไม้เบา ๆ ดังขึ้นในครัวเล็ก ๆ ของบ้านพักหลังไร่
แสงเทียนวางชามข้าวและกับข้าวสองสามอย่างที่เธออุ่นไว้ลงบนโต๊ะ พลางจัดวางอย่างเรียบร้อย แม้จะดึก แต่เธอก็ยังตั้งใจเหมือนเป็นมื้อสำคัญ
พ่อเลี้ยงนั่งลงตรงข้าม มองดูหญิงสาวขยับไปมาเงียบ ๆ แสงไฟสีอุ่นสะท้อนเสี้ยวหน้าของเธอ แต่นัยน์ตากลับซ่อนความกังวลบางอย่างไว้ลึก ๆ
“กินสิคะ เดี๋ยวเย็นหมด” เธอเอ่ยเบา ๆ
ทั้งสองนั่งกินเงียบ ๆ ไปครู่ใหญ่ เสียงเพียงอย่างเดียวคือจิ้งหรีดนอกหน้าต่างกับเสียงลมพัดไหวผ่านใบไม้
พ่อเลี้ยงเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อน “ฉันไม่ใช่คนใจดีเท่าไหร่หรอกนะ บางครั้งอาจพูดแรง อาจทำอะไรที่เธอไม่เข้าใจ”
แสงเทียนเงยหน้ามองเขา เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบเบา ๆ
“เทียนไม่เคยหวังว่าพ่อเลี้ยงจะใจดี... แค่ไม่ใจร้ายกับเทียน เทียนก็พอใจแล้วค่ะ”
พ่อเลี้ยงชะงักมือ มองหน้าเธอนิ่ง แล้วถามกลับเสียงทุ้ม
“รู้ไหม ว่าคำพูดแบบนี้มันทำให้ฉันรู้สึกยังไง”แสงเทียนส่ายหน้าเบา ๆ ไม่กล้าสบตาเขา
“มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนเลว”
บรรยากาศในครัวเงียบลงอีกครั้ง หญิงสาววางช้อนลงช้า ๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา
“แต่เทียนเลือกแล้วนะคะ... ไม่ใช่เพราะข้อตกลง แต่เพราะเทียนไม่อยากให้แม่กับยายต้องลำบากอีก”
เธอเงยหน้ามองเขาในที่สุด ดวงตาคู่นั้นแน่วแน่ และ... เศร้าลึก ๆ
“เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เทียนจะไม่ถอยค่ะ”
พ่อเลี้ยงสบตาเธอ ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ
“งั้น... คืนนี้ไปพักผ่อนเถอะ”
“ค่ะ” เธอตอบรับเบา ๆ ลุกขึ้นยืนและเริ่มเก็บจาน
แต่ก่อนที่เธอจะเดินออกจากครัว เขาก็เอ่ยขึ้นเรียบ ๆ
“คืนนี้ไม่ต้องไปที่ห้องฉันหรอก”
แสงเทียนชะงัก หันมามองเขาด้วยความแปลกใจเม้มริมฝีปากแน่น แล้วตอบกลับเสียงแผ่ว
“แต่เทียนตั้งใจแล้วค่ะ…”
พ่อเลี้ยงมองหน้าเธอ พลางถอนหายใจ
“ไปนอนซะก่อนเถอะ... คืนนี้ ฉันไม่อยากให้มันเริ่มจากหน้าที่ แต่ถ้ามันจะเกิดขึ้น... ฉันอยากให้เธอเต็มใจจริง ๆ”