"มาเป็นคนทำงานบ้านไม่ได้มาทำอย่างอื่นนะ" "ก็แล้วแต่เธอใครเขาบังคับ"

ดอกเบี้ยแสงเทียน - 1 หนี้สินที่ค้างจะว่ายังไง โดย oeenla @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,รัก,ผู้ใหญ่,รักโรแมนติก,รักโรแมนติด,รักแรก,รักเด็ก,รักสมัยเด็ก,รักดุเดือด,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ดอกเบี้ยแสงเทียน

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,รัก,ผู้ใหญ่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รักโรแมนติก,รักโรแมนติด,รักแรก,รักเด็ก,รักสมัยเด็ก,รักดุเดือด

รายละเอียด

 ดอกเบี้ยแสงเทียน โดย oeenla @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"มาเป็นคนทำงานบ้านไม่ได้มาทำอย่างอื่นนะ" "ก็แล้วแต่เธอใครเขาบังคับ"

ผู้แต่ง

oeenla

เรื่องย่อ

พ่อเลี้ยงปรเมศยืนอยู่ในชุดเสื้อยืดธรรมดากับกางเกงวอร์ม แต่แสงไฟอุ่น ๆ ทำให้เขาดูอบอุ่นกว่าทุกครั้งที่เธอเคยเห็น

เขามองเธอด้วยสายตานิ่ง ๆ แต่ไม่แข็งกร้าว

“ฉัน...แค่... นอนไม่หลับค่ะ” แสงเทียนพูดออกมาเบา ๆ เกือบจะเป็นเสียงกระซิบ

เขาไม่ตอบอะไรเพียงแค่เดินพ่านเธอไปเปิดประตู

“งั้นก็เข้ามาสิ”

แสงเทียนก้าวตาม..เข้ามาในห้องเงียบ ๆ กลิ่นสบู่อ่อน ๆ และกลิ่นกายของพ่อเลี้ยงหอมจาง ๆ ลอยมาแตะจมูก ทำให้ใจเธอเต้นแรงจนแทบควบคุมไม่ได้

พ่อเลี้ยงปิดประตูลงเบา ๆ ก่อนเดินไปหยุดอยู่ข้างเตียง
เขาไม่พูดอะไรเลยสักคำ... เพียงแต่หันมามองเธอนิ่ง ๆ

“แน่ใจแล้วเหรอ” เสียงเขาทุ้มต่ำ สะกดใจอย่างประหลาด

แสงเทียนไม่ตอบอะไรออกมาในทันที แต่เดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ตรงหน้าเขา เธอพยักหน้าเบา ๆ ทั้งที่หัวใจยังเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ดวงตาคู่นั้นวูบไหวด้วยความสับสนและความกลัวปนกัน... แต่ที่แน่ชัดคือ ไม่มีความฝืน

“ฉันจะไม่เร่งเธอ... ถ้าไม่แน่ใจ”

เธอสบตาเขา เสียงสั่น ๆ เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากที่สั่นเล็กน้อย

“เทียนแน่ใจค่ะ…”

ความเงียบตกคลุมเพียงชั่วอึดใจ ก่อนที่เสียงเข้มจะดังขึ้นอีกครั้ง

“ถ้าอย่างนั้นก็... ถอดเสื้อผ้า”

“คะ? ... ถอดเสื้อผ้า...เลยเหรอคะ?”

เสียงของแสงเทียนเต็มไปด้วยความตกใจ ใจที่เพิ่งมั่นคงเมื่อครู่กลับสะดุดกึก
กำชายเสื้อแน่น ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่ทันตั้งตัวกับคำสั่งนั้นตรง ๆ

เขายังคงนิ่ง... แต่นัยน์ตาคู่นั้นจองมอมาอย่างจิงจัง

"ถ้าเธอไม่อยากทำมัน ก็ออกจากห้องไป...."

แสงเทียนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง หัวใจเต้นแรงจนได้ยินเสียงของมันชัดในอก
มือของเธอยังสั่น แต่ดวงตานั้นกลับแน่วแน่

เธอค่อย ๆ เอื้อมมือไปปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ด ช้า ๆ — อย่างคนที่ยังไม่เคย แต่เต็มใจ
และแม้เสียงหัวใจของเธอจะดังกึกก้อง แต่ก็ไม่ได้สะท้านเพราะความกลัว...
หากเป็นเพราะเขา — คนตรงหน้าที่กำลังจ้องเธออย่างจริงจัง 

พ่อเลี้ยงปรเมศยังคงนั่งนิ่ง

เสื้อตัวบางหลุดจากบ่าผิวขาวผ่องสั่นระริกเล็กน้อยเมื่อสัมผัสกับอากาศเย็น หน้าอกใหญ่โตตั้งชูชันตรงหน้า พ่อเลี้ยงปรเมศมองตาเป็นมันด้วยความพอใจ แสงเทียนใช้มือทังสองข้างกอบกุมทั้งสองเต้าไว้อย่างเขินอาย เงยหน้าขึ้นสบตาเขา

"ใหญ่ขนาดนั้นคงจะปิดมิดหรอกนะ....เอามือของเธอออก"

"ฉัน...ไม่เคย..." เสียงของเธอเบาจนแทบไม่หลุดจากลำคอ ความอาย ความกลัว และความสับสนตีวนในดวงตา

พ่อเลี้ยงปรเมศสบตาเธอนิ่ง แล้วคำสั่งที่เด็ดขาดก็ดังขึ้นช้า ๆ

"ถอดกางเกง"

ดวงตากลมเบิกกว้าง หัวใจเต้นรัวกระหน่ำเหมือนจะหลุดออกมา

สองมือดึงกางเกงนอนตัวบางค่อย ๆ เลื่อนหล่นจากสะโพกขาวอย่างช้า ๆ ตามคำสั่งของเขา ร่างบอบบางที่เปลือยเปล่าเผยผิวเนียนละเอียดขาวจัดจนแทบสะท้อนแสง แสงเทียน ใบหน้าแดงก่ำด้วยความอายจนตัวสั่น แต่กลับทำได้เพียงยืนนิ่ง ยอมจำนนต่อสายตาคมลึกของเขาที่ไล่มองตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงเส้นผม

เธออยากหันหลังหนี อยากหลบสายตาคมเข้มที่มองมาเหมือนแผดเผา... แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากยืนนิ่งปล่อยให้ความเขินอายกัดกินหัวใจช้า ๆ

เสียงกลืนน้ำลายของพ่อเลี้ยงปรเมศดังแผ่วราวกับสะท้อนอยู่ในห้องแคบ ๆ
"สวยมาก..." เขาว่าด้วยน้ำเสียงพร่าแหบ ราวกับพยายามกักเก็บความกระหายที่เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้

"นั่งลง"

เสียงทุ้มนั้นเต็มไปด้วยอำนาจ แสงเทียนชะงักไปครู่หนึ่งก่อนค่อย ๆ ทรุดตัวลงเก้าอี๋ตามคำสั่งของเขา หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดจากอก มือเล็กจับขอบเก้าอี๋ไว้แน่นอย่างไม่รู้จะวางตรงไหน

พ่อเลี้ยงปรเมศยกยิ้มมุมปาก แววตาพึงพอใจราวกับนายพรานที่ได้ครอบครองของล้ำค่า

"แยกขาออก"

คำสั่งสั้น ๆ แต่เปี่ยมไปด้วยแรงกระแทกอารมณ์ ทำให้ดวงตากลมโตเบิกกว้าง มือเล็กกำแน่นจนสั่น แต่สุดท้ายแสงเทียนก็ยอมขยับขาอ้าออกช้า ๆ ทีละน้อย ด้วยท่าทีเอียงอายจนใบหน้าแดงจัด

สายตาคมจับจ้องไม่กะพริบ ราวกับจะกลืนกินทุกเสี้ยวของภาพตรงหน้า

"ดีมาก..."
เขากระซิบเสียงพร่า ขณะที่โน้มกายลงช้า ๆ ดวงตาคมกริบไม่ละจากใบหน้าหวานที่กำลังสั่นระริกไปทั้งตัว

ฝ่ามือใหญ่แตะลงบนต้นขาขาวเนียน ไล้ปลายนิ้วขึ้นอย่างเชื่องช้า กวาดไล่ไปรอบเรียวขา แล้วลูบขึ้นมาจนถึงต้นแขนทั้งสองข้าง สัมผัสของเขาเหมือนเปลวไฟที่ลากไล้ผ่านผิว

แสงเทียนสะดุ้งน้อย ๆ หายใจขาดห้วง แต่กลับไม่เอ่ยห้าม กลับเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยดวงตาฉ่ำวาวที่บ่งบอกถึงความตื่นตระหนกปนอาย.......

แล้วจู่ ๆ เขาก็จับสองแขนของเธอรวบไว้ด้วยมือเดียว — ดึงไปไขว้ด้านหลังเบา ๆ แต่แน่นพอให้เธอต้องโน้มตัวไปข้างหน้าอย่างช่วยไม่ได้

สองเต้าใหญ่ยิ่งเด้งขึ้นตรงหน้าพ่อเลี้ยง แสงเทียนขยัวตัวเล็กน้อย

"อยู่นิ่ง ๆ ... " เสียงทุ้มต่ำของเขากระซิบชิดใบหู ลมหายใจร้อนเป่ารดจนแสงเทียนต้องหลับตาแน่น

พ่อเลี้ยงใช้มืออีกข้างไล้ผ่านแผ่นหลัง เปลือยเปล่า นุ่มนวล และเต็มไปด้วยไออุ่น เธอรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังถูกกลืนลงไปในเปลวไฟ แต่ไม่อาจหันหลังหนี

"เธอสวยมาก แสงเทียน..."
เสียงของเขาแหบพร่าเต็มไปด้วยความอดกลั้น ก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปสัมผัสผิวกายของเธออย่างแผ่วเบา กระซิบเสียงพร่า ใหนลองยกขาทั้งสองข้างของเธอขึ้นซิแสงเทียน

เขากระซิบชิดใบหู น้ำเสียงพร่าต่ำราวกับคาถาสะกดใจ

แสงเทียนตัวแข็งเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ ทำตามคำสั่งด้วยหัวใจที่เต้นระรัว เธอไม่กล้ามองหน้าเขา มีเพียงเสียงหอบหายใจเบา ๆ ที่เล็ดลอดจากลำคอ

เมื่อเรียวขาถูกยกขึ้นตามที่เขาสั่ง พ่อเลี้ยงปรเมศคุกเข่าลงตรงหน้า....แสงเทียนตกใจเล็กน้อย แต่ไม่ได้ถอย

มือหนาคู่นั้นค่อย ๆ ยื่นมาจับขาเธอไว้ จับทั้งสองแยกออกจากกัน เผยให้เห็นกลีบดอกไม้สีสมพู ดวงตาของเขาคมกริบ มองภาพตรงหน้าเหมือนกำลังจดจำรายละเอียดทุกส่วนตรงนั้น — เปลือยเปล่า งดงาม น่าลิ้มลอง
 

แสงเทียนกะพริบตาถี่ — พยายามกลั้นน้ำตาแห่งความรู้สึกอัดแน่นไว้

เขาโน้มหน้าเข้ามาชิด มองภาพเบื้องหน้าด้วยแววตาที่ลุกวาว สัมผัสของเขาชิดใกล้ขึ้นทุกที ทุกจังหวะลมหายใจราวกับจะกลืนกินเธอทั้งตัว

"แบบนี้แหละ... ฉันชอบ" เขาว่าเสียงต่ำพร่า นิ้วมือไล้ผ่านเนินผิวเนื้ออ่อนโยน แล้วทาบริมฝีปากลงอย่างแผ่วเบา แสงเทียนสะดุ้งก้นขยับถอยหลังเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงลิ้นอุ่นที่ตรงร่องสาว สองมือพ่อเลี้ยงจับสะโพกเล็กแล้วดึงให้แนบกับปาก..ลิ้นสากตวัดลากเลียดูดกินน้ำหวานจากร่องสาวหยาดเยิ้มอย่างหิวกระหาย 

"แสงเทียนเธอนี่มันหวานจริง ๆ ฉันไม่เคยกินของใครมาก่อนแลยนะ....แสงเทียนเธอเป็นคนแรกที่ฉันกิน"

แสงเทียนหลับตาแน่น ปล่อยให้เขาพาเธอไหลลื่นไปกับคลื่นแห่งความร้อนแรง ที่ท่วมท้นโดยไม่ทันได้ตั้งตัว

เสียงครางเบา ๆ ดังลอดจากลำคอของแสงเทียน มันคือความรู้สึกที่ทะลักล้น ร้อนแรง และเกินจะต้าน

สองมือยกขึ้นมากอบกุมสองเต้าของตัวเองไว้แน่น ปิดไปมากับความเสียวซ่าน

สารบัญ

ดอกเบี้ยแสงเทียน-1 หนี้สินที่ค้างจะว่ายังไง, ดอกเบี้ยแสงเทียน-2 งานก็หายากกว่าหาผัวอีก, ดอกเบี้ยแสงเทียน-3 ข้อเสนอที่ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ, ดอกเบี้ยแสงเทียน-4 ก้นซ้ำหมดแล้ว, ดอกเบี้ยแสงเทียน-5 ของใช้ที่จำเป็นของผู้หญิง, ดอกเบี้ยแสงเทียน-6 หมอกบางกับอกแน่นของพ่อเลี้ยง, ดอกเบี้ยแสงเทียน-7 ถ้ามันต้องแลก…ฉันก็จะแลก, ดอกเบี้ยแสงเทียน-8 ตั้งใจไว้แล้วไม่มีถอย nc ไม่มีถอย

เนื้อหา

1 หนี้สินที่ค้างจะว่ายังไง

เสียงเครื่องยนต์ของรถกระบะคันหนึ่งดังขึ้นจากทางหน้าบ้าน ล้อเหยียบกรวดดินจนฟุ้งคลุ้งไปทั่วบริเวณ ทันทีที่จอดหน้าบ้าน แล้วเลื่อนกระจกลง เด็กสาวผิวขาวผ่องในเสื้อยืดตัวหลวมกับกางเกงขาสั่น หันขวับไปมองก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงใส ๆ

“มาหาใคร?”

ชายหนุ่มเจ้าของรถกระบะเปิดประตูลงมา เขาใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวพับถึงข้อศอก กางเกงยีนซีด รองเท้าบูตเก่า ๆ หนวดเคราขึ้นบาง ๆ พอดูดีตามประสาผู้ชายที่ใช้แรงงานกลางแดด ดวงตาคมใต้คิ้วหนามองสำรวจเด็กสาวตรงหน้าอย่างไม่ปิดบัง ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนจะยิ้มมุมปากโดยไม่ตอบคำถาม

“มองอะไร ไม่เคยเห็นคนเหรอไง?” เธอถามต่ออย่างไม่ยี่หระ แววตาฉายแววรำคาญ

ชายหนุ่มยักไหล่เบา ๆ แล้วเอ่ยเสียงทุ้ม “ไปตามป้าพรมาให้ที มีธุระ”

สาวน้อยพ่นลมหายใจออกก่อนจะหมุนตัวเดินเลี่ยงไปทางหลังบ้าน พลางตะโกนเสียงแจ๋ว “แม่! มีคนมาหา!”

ก่อนจะหันกลับมานั่งลงข้างผู้เป็นยายที่กำลังนั่งสานตะกร้าอยู่ใต้ถุนบ้าน ฝ่ามือเหี่ยวย่นของยายวางลงบนตักหลานเบา ๆ เป็นเชิงห้ามเมื่อเห็นแววตาหงุดหงิดของหลานสาว

ชายหนุ่มเดินตามมาช้า ๆ ก่อนจะยกมือไหว้คนแก่อย่างนอบน้อม

“สวัสดีครับยาย”

"ใครมาละเทียน "ทันทีที่เห็นคนมาเยือน สีหน้าก็เปลี่ยนทันทีจากเรียบเฉยเป็นซีดเผือด

“พ่อเลี้ยงปรเมศ…” เสียงดวงพรแผ่วลงราวกับจะไม่หายใจ

ชายหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อย แล้วหยิบซองเอกสารจากกระเป๋าเสื้อ ยื่นให้

“เรื่องที่ดินที่น้ามาจำน่ะครับ มันเลยกำหนดมาเกินหลายเดือนแล้ว ผมจะมาถามว่า ถ้าไม่มีเงินมาไถ่ ก็เซ็นโอนให้ผมเถอะ จะได้จบกันไป”

ดวงพรเม้มปากแน่น หันไปมองลูกสาวที่กำลังก้มหน้าก้มตาแกะเปลือกถั่วข้างยาย แววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความทุกข์ใจ

“ขอเวลาอีกหน่อยได้ไหมพ่อเลี้ยง ป้าสัญญา ไว้ลูกสาวป้าหาเงินได้ จะรีบเอามาตัดดอกเลยนะ”

“แล้วลูกสาวป้าทำงานอะไร?”

“ยังไม่ได้งานหรอกค่ะ...” ป้าพรเสียงเบา “แสงเทียนมันกำลังหางานอยู่ สมัครไปหลายที่แล้ว คงมีซักที่แหละที่เขาจะเรียก”

ปรเมศหัวเราะในลำคอเบา ๆ แต่ไม่ได้ดูถูก

“ยังไม่มีงาน แล้วจะมีเงินมาคืนผมเมื่อไหร่ล่ะครับน้าพร?” เขาถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง สายตาก็เหลือบมองแสงเทียนเป็นพัก ๆ

แสงเทียนเงยหน้าขึ้นมา แววตาเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองปนเสียหน้า “ไม่ต้องมองอย่างนั้นหรอกค่ะ ถึงยังไม่มีงาน แต่ฉันก็ไม่ได้จะหนีหนี้ไปไหน”

ปรเมศยิ้มบาง ดวงตาคมคู่นั้นยังไม่ละจากใบหน้าของหญิงสาว

“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นหรอกครับ” เขาว่าพลางหันไปหาดวงพร “งั้นเอาแบบนี้...ผมจะให้เวลาอีกหนึ่งเดือน แต่ถ้าไม่มีเงินมาไถ่ ถึงตอนนั้นก็อย่ามาหาว่าผมใจร้าย”

พูดจบก็หมุนตัวเดินกลับไปขึ้นรถ แต่ก่อนจะปิดประตู เขาหันกลับมามองอีกครั้ง

“ถ้าหางานไม่ได้จริง ๆ มาทำงานที่ไร่ผมก็ได้นะ...ค่าตอบแทนไม่เลวหรอก”แล้วเขาก็ขับรถออกไป ทิ้งกลิ่นฝุ่นคละคลุ้ง 

เสียงเครื่องยนต์เงียบหายไป ทิ้งไว้เพียงความอึดอัดที่แผ่ปกคลุมใต้ถุนบ้านเงียบสนิท ราวกับลมก็ยังไม่กล้าเป่าแรง

“แม่เอาที่ไปจำเขาจริงเหรอ?” แสงเทียนเอ่ยถามเสียงแผ่ว ริมฝีปากเม้มแน่น ดวงตาแดงเรื่ออย่างพยายามกลั้นน้ำตาไว้สุดแรง

ดวงพรเงยหน้ามองลูกสาว น้ำเสียงสั่นสะท้อนความรู้สึกผิด “ถ้าแม่ไม่จนปัญญาจริง ๆ ก็ไม่คิดจะเอาที่ไปจำหลอกลูก...แต่มันไม่มีทางเลือก”

“หนูจะไม่ยอมให้มันตกเป็นของใคร” แสงเทียนพูดหนักแน่น “ที่ดินผืนนี้มันคือบ้านของเรา หนูจะไม่ยอมให้เขาเอาไปเด็ดขาด”

หญิงชราทั้งสองได้แต่ถอนหายใจ หยาดน้ำใสคลออยู่ในดวงตาคู่นั้นเช่นกัน

“แต่เขาก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรนะเทียน...พ่อเลี้ยงปรเมศ ถึงจะดุไปหน่อย แต่ไม่เคยเอาเปรียบใคร เขาถึงให้เวลายืดมาได้ตั้งนานแบบนี้...”

แสงเทียนไม่ตอบ เธอเม้มริมฝีปากแน่น สายตาเหม่อมองไปทางถนนที่เขาขับผ่านออกไป

ชายหนุ่มคนนั้น...เธอจำได้ดี

เมื่อห้าปีก่อน เขาเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่ง ตอนนั้นเขายังหนุ่มกว่าในวันนี้ ผิวคล้ำจากแดด ใบหน้าเฉยชา แต่สายตานั้น...กลับอบอุ่นจนน่าประหลาด