"มาเป็นคนทำงานบ้านไม่ได้มาทำอย่างอื่นนะ" "ก็แล้วแต่เธอใครเขาบังคับ"

ดอกเบี้ยแสงเทียน - 3 ข้อเสนอที่ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ โดย oeenla @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,รัก,ผู้ใหญ่,รักโรแมนติก,รักโรแมนติด,รักแรก,รักเด็ก,รักสมัยเด็ก,รักดุเดือด,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ดอกเบี้ยแสงเทียน

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,รัก,ผู้ใหญ่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รักโรแมนติก,รักโรแมนติด,รักแรก,รักเด็ก,รักสมัยเด็ก,รักดุเดือด

รายละเอียด

 ดอกเบี้ยแสงเทียน โดย oeenla @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"มาเป็นคนทำงานบ้านไม่ได้มาทำอย่างอื่นนะ" "ก็แล้วแต่เธอใครเขาบังคับ"

ผู้แต่ง

oeenla

เรื่องย่อ

พ่อเลี้ยงปรเมศยืนอยู่ในชุดเสื้อยืดธรรมดากับกางเกงวอร์ม แต่แสงไฟอุ่น ๆ ทำให้เขาดูอบอุ่นกว่าทุกครั้งที่เธอเคยเห็น

เขามองเธอด้วยสายตานิ่ง ๆ แต่ไม่แข็งกร้าว

“ฉัน...แค่... นอนไม่หลับค่ะ” แสงเทียนพูดออกมาเบา ๆ เกือบจะเป็นเสียงกระซิบ

เขาไม่ตอบอะไรเพียงแค่เดินพ่านเธอไปเปิดประตู

“งั้นก็เข้ามาสิ”

แสงเทียนก้าวตาม..เข้ามาในห้องเงียบ ๆ กลิ่นสบู่อ่อน ๆ และกลิ่นกายของพ่อเลี้ยงหอมจาง ๆ ลอยมาแตะจมูก ทำให้ใจเธอเต้นแรงจนแทบควบคุมไม่ได้

พ่อเลี้ยงปิดประตูลงเบา ๆ ก่อนเดินไปหยุดอยู่ข้างเตียง
เขาไม่พูดอะไรเลยสักคำ... เพียงแต่หันมามองเธอนิ่ง ๆ

“แน่ใจแล้วเหรอ” เสียงเขาทุ้มต่ำ สะกดใจอย่างประหลาด

แสงเทียนไม่ตอบอะไรออกมาในทันที แต่เดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ตรงหน้าเขา เธอพยักหน้าเบา ๆ ทั้งที่หัวใจยังเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ดวงตาคู่นั้นวูบไหวด้วยความสับสนและความกลัวปนกัน... แต่ที่แน่ชัดคือ ไม่มีความฝืน

“ฉันจะไม่เร่งเธอ... ถ้าไม่แน่ใจ”

เธอสบตาเขา เสียงสั่น ๆ เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากที่สั่นเล็กน้อย

“เทียนแน่ใจค่ะ…”

ความเงียบตกคลุมเพียงชั่วอึดใจ ก่อนที่เสียงเข้มจะดังขึ้นอีกครั้ง

“ถ้าอย่างนั้นก็... ถอดเสื้อผ้า”

“คะ? ... ถอดเสื้อผ้า...เลยเหรอคะ?”

เสียงของแสงเทียนเต็มไปด้วยความตกใจ ใจที่เพิ่งมั่นคงเมื่อครู่กลับสะดุดกึก
กำชายเสื้อแน่น ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่ทันตั้งตัวกับคำสั่งนั้นตรง ๆ

เขายังคงนิ่ง... แต่นัยน์ตาคู่นั้นจองมอมาอย่างจิงจัง

"ถ้าเธอไม่อยากทำมัน ก็ออกจากห้องไป...."

แสงเทียนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง หัวใจเต้นแรงจนได้ยินเสียงของมันชัดในอก
มือของเธอยังสั่น แต่ดวงตานั้นกลับแน่วแน่

เธอค่อย ๆ เอื้อมมือไปปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ด ช้า ๆ — อย่างคนที่ยังไม่เคย แต่เต็มใจ
และแม้เสียงหัวใจของเธอจะดังกึกก้อง แต่ก็ไม่ได้สะท้านเพราะความกลัว...
หากเป็นเพราะเขา — คนตรงหน้าที่กำลังจ้องเธออย่างจริงจัง 

พ่อเลี้ยงปรเมศยังคงนั่งนิ่ง

เสื้อตัวบางหลุดจากบ่าผิวขาวผ่องสั่นระริกเล็กน้อยเมื่อสัมผัสกับอากาศเย็น หน้าอกใหญ่โตตั้งชูชันตรงหน้า พ่อเลี้ยงปรเมศมองตาเป็นมันด้วยความพอใจ แสงเทียนใช้มือทังสองข้างกอบกุมทั้งสองเต้าไว้อย่างเขินอาย เงยหน้าขึ้นสบตาเขา

"ใหญ่ขนาดนั้นคงจะปิดมิดหรอกนะ....เอามือของเธอออก"

"ฉัน...ไม่เคย..." เสียงของเธอเบาจนแทบไม่หลุดจากลำคอ ความอาย ความกลัว และความสับสนตีวนในดวงตา

พ่อเลี้ยงปรเมศสบตาเธอนิ่ง แล้วคำสั่งที่เด็ดขาดก็ดังขึ้นช้า ๆ

"ถอดกางเกง"

ดวงตากลมเบิกกว้าง หัวใจเต้นรัวกระหน่ำเหมือนจะหลุดออกมา

สองมือดึงกางเกงนอนตัวบางค่อย ๆ เลื่อนหล่นจากสะโพกขาวอย่างช้า ๆ ตามคำสั่งของเขา ร่างบอบบางที่เปลือยเปล่าเผยผิวเนียนละเอียดขาวจัดจนแทบสะท้อนแสง แสงเทียน ใบหน้าแดงก่ำด้วยความอายจนตัวสั่น แต่กลับทำได้เพียงยืนนิ่ง ยอมจำนนต่อสายตาคมลึกของเขาที่ไล่มองตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงเส้นผม

เธออยากหันหลังหนี อยากหลบสายตาคมเข้มที่มองมาเหมือนแผดเผา... แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากยืนนิ่งปล่อยให้ความเขินอายกัดกินหัวใจช้า ๆ

เสียงกลืนน้ำลายของพ่อเลี้ยงปรเมศดังแผ่วราวกับสะท้อนอยู่ในห้องแคบ ๆ
"สวยมาก..." เขาว่าด้วยน้ำเสียงพร่าแหบ ราวกับพยายามกักเก็บความกระหายที่เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้

"นั่งลง"

เสียงทุ้มนั้นเต็มไปด้วยอำนาจ แสงเทียนชะงักไปครู่หนึ่งก่อนค่อย ๆ ทรุดตัวลงเก้าอี๋ตามคำสั่งของเขา หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดจากอก มือเล็กจับขอบเก้าอี๋ไว้แน่นอย่างไม่รู้จะวางตรงไหน

พ่อเลี้ยงปรเมศยกยิ้มมุมปาก แววตาพึงพอใจราวกับนายพรานที่ได้ครอบครองของล้ำค่า

"แยกขาออก"

คำสั่งสั้น ๆ แต่เปี่ยมไปด้วยแรงกระแทกอารมณ์ ทำให้ดวงตากลมโตเบิกกว้าง มือเล็กกำแน่นจนสั่น แต่สุดท้ายแสงเทียนก็ยอมขยับขาอ้าออกช้า ๆ ทีละน้อย ด้วยท่าทีเอียงอายจนใบหน้าแดงจัด

สายตาคมจับจ้องไม่กะพริบ ราวกับจะกลืนกินทุกเสี้ยวของภาพตรงหน้า

"ดีมาก..."
เขากระซิบเสียงพร่า ขณะที่โน้มกายลงช้า ๆ ดวงตาคมกริบไม่ละจากใบหน้าหวานที่กำลังสั่นระริกไปทั้งตัว

ฝ่ามือใหญ่แตะลงบนต้นขาขาวเนียน ไล้ปลายนิ้วขึ้นอย่างเชื่องช้า กวาดไล่ไปรอบเรียวขา แล้วลูบขึ้นมาจนถึงต้นแขนทั้งสองข้าง สัมผัสของเขาเหมือนเปลวไฟที่ลากไล้ผ่านผิว

แสงเทียนสะดุ้งน้อย ๆ หายใจขาดห้วง แต่กลับไม่เอ่ยห้าม กลับเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยดวงตาฉ่ำวาวที่บ่งบอกถึงความตื่นตระหนกปนอาย.......

แล้วจู่ ๆ เขาก็จับสองแขนของเธอรวบไว้ด้วยมือเดียว — ดึงไปไขว้ด้านหลังเบา ๆ แต่แน่นพอให้เธอต้องโน้มตัวไปข้างหน้าอย่างช่วยไม่ได้

สองเต้าใหญ่ยิ่งเด้งขึ้นตรงหน้าพ่อเลี้ยง แสงเทียนขยัวตัวเล็กน้อย

"อยู่นิ่ง ๆ ... " เสียงทุ้มต่ำของเขากระซิบชิดใบหู ลมหายใจร้อนเป่ารดจนแสงเทียนต้องหลับตาแน่น

พ่อเลี้ยงใช้มืออีกข้างไล้ผ่านแผ่นหลัง เปลือยเปล่า นุ่มนวล และเต็มไปด้วยไออุ่น เธอรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังถูกกลืนลงไปในเปลวไฟ แต่ไม่อาจหันหลังหนี

"เธอสวยมาก แสงเทียน..."
เสียงของเขาแหบพร่าเต็มไปด้วยความอดกลั้น ก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปสัมผัสผิวกายของเธออย่างแผ่วเบา กระซิบเสียงพร่า ใหนลองยกขาทั้งสองข้างของเธอขึ้นซิแสงเทียน

เขากระซิบชิดใบหู น้ำเสียงพร่าต่ำราวกับคาถาสะกดใจ

แสงเทียนตัวแข็งเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ ทำตามคำสั่งด้วยหัวใจที่เต้นระรัว เธอไม่กล้ามองหน้าเขา มีเพียงเสียงหอบหายใจเบา ๆ ที่เล็ดลอดจากลำคอ

เมื่อเรียวขาถูกยกขึ้นตามที่เขาสั่ง พ่อเลี้ยงปรเมศคุกเข่าลงตรงหน้า....แสงเทียนตกใจเล็กน้อย แต่ไม่ได้ถอย

มือหนาคู่นั้นค่อย ๆ ยื่นมาจับขาเธอไว้ จับทั้งสองแยกออกจากกัน เผยให้เห็นกลีบดอกไม้สีสมพู ดวงตาของเขาคมกริบ มองภาพตรงหน้าเหมือนกำลังจดจำรายละเอียดทุกส่วนตรงนั้น — เปลือยเปล่า งดงาม น่าลิ้มลอง
 

แสงเทียนกะพริบตาถี่ — พยายามกลั้นน้ำตาแห่งความรู้สึกอัดแน่นไว้

เขาโน้มหน้าเข้ามาชิด มองภาพเบื้องหน้าด้วยแววตาที่ลุกวาว สัมผัสของเขาชิดใกล้ขึ้นทุกที ทุกจังหวะลมหายใจราวกับจะกลืนกินเธอทั้งตัว

"แบบนี้แหละ... ฉันชอบ" เขาว่าเสียงต่ำพร่า นิ้วมือไล้ผ่านเนินผิวเนื้ออ่อนโยน แล้วทาบริมฝีปากลงอย่างแผ่วเบา แสงเทียนสะดุ้งก้นขยับถอยหลังเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงลิ้นอุ่นที่ตรงร่องสาว สองมือพ่อเลี้ยงจับสะโพกเล็กแล้วดึงให้แนบกับปาก..ลิ้นสากตวัดลากเลียดูดกินน้ำหวานจากร่องสาวหยาดเยิ้มอย่างหิวกระหาย 

"แสงเทียนเธอนี่มันหวานจริง ๆ ฉันไม่เคยกินของใครมาก่อนแลยนะ....แสงเทียนเธอเป็นคนแรกที่ฉันกิน"

แสงเทียนหลับตาแน่น ปล่อยให้เขาพาเธอไหลลื่นไปกับคลื่นแห่งความร้อนแรง ที่ท่วมท้นโดยไม่ทันได้ตั้งตัว

เสียงครางเบา ๆ ดังลอดจากลำคอของแสงเทียน มันคือความรู้สึกที่ทะลักล้น ร้อนแรง และเกินจะต้าน

สองมือยกขึ้นมากอบกุมสองเต้าของตัวเองไว้แน่น ปิดไปมากับความเสียวซ่าน

สารบัญ

ดอกเบี้ยแสงเทียน-1 หนี้สินที่ค้างจะว่ายังไง, ดอกเบี้ยแสงเทียน-2 งานก็หายากกว่าหาผัวอีก, ดอกเบี้ยแสงเทียน-3 ข้อเสนอที่ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ, ดอกเบี้ยแสงเทียน-4 ก้นซ้ำหมดแล้ว, ดอกเบี้ยแสงเทียน-5 ของใช้ที่จำเป็นของผู้หญิง, ดอกเบี้ยแสงเทียน-6 หมอกบางกับอกแน่นของพ่อเลี้ยง, ดอกเบี้ยแสงเทียน-7 ถ้ามันต้องแลก…ฉันก็จะแลก, ดอกเบี้ยแสงเทียน-8 ตั้งใจไว้แล้วไม่มีถอย nc ไม่มีถอย

เนื้อหา

3 ข้อเสนอที่ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ

หนึ่งเดือน...ไม่ขาดไม่เกินตามสัญญาที่เคยพูดกันไว้

เสียงเครื่องยนต์ของรถกระบะคันเดิมดังขึ้นหน้าบ้านในเวลาเช้า ๆ แสงแดดพาดลงบนหลังคาสังกะสีจนร้อนระอุไปทั้งบริเวณ

ดวงพรที่นั่งสานไม้ไผ่ใต้ถุนบ้าน ถึงกับรีบวางของในมือลงแล้ววิ่งออกไปรับชายหนุ่มอย่างร้อนรน

“พ่อเลี้ยง...พ่อเลี้ยงปรเมศ มาคนเดียวเลยเหรอจ๊ะ”

ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ก้าวลงจากรถ กระดาษแผ่นหนึ่งในมือบ่งบอกเจตนาชัดเจน ดวงตาคมใต้คิ้วหนานั้นจ้องมองดวงพรอย่างแน่วแน่

“ครบกำหนดแล้วนะครับน้าพร ผมมาพร้อมสัญญา”

“พ่อเลี้ยง...สงสารน้าเถอะ สงสารคนแก่เถอะลูกเอ๊ย ถ้าเอาที่ทางไป น้าจะไปอยู่ที่ไหนกันล่ะ...” เสียงเธอสั่นเครือ มือสั่นระริกจนต้องกุมกันไว้แน่น

ปรเมศถอนหายใจเบา ๆ

“ถ้างั้นน้าก็จ่ายดอกมาสิครับ น้าพรก็รู้ดีใช่มั้ย ว่าตอนนี้ดอกมันทบต้นแล้ว”

ดวงพรอึกอัก เสียงแผ่วราวกับลมหายใจสุดท้าย “จะให้จ่ายยังไงกันล่ะพ่อเลี้ยง...ในบ้านแม้แต่เงินหมื่นยังไม่มีเลย"

“พลัดไปอีกสักเดือนจะได้มั้ยพ่อเลี้ยง น้าขอเวลาอีกหน่อยนะพ่อเลี้ยงนะ...” ดวงพรเสียงสั่น

แต่คำตอบกลับแข็งกระด้างทันที

“คงไม่ได้หรอกครับน้าพร นี่ก็ผัดมาหลายรอบแล้ว ผมเองก็มีต้นทุน มีค่าใช้จ่ายที่ต้องดูแล”

เสียงนั้นไม่ดังนัก...แต่เด็ดขาดจนทำเอาดวงพรน้ำตาร่วง

ดวงพรคอตก พูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยืนแน่นิ่งเหมือนวิญญาณหลุดลอย

สายตาพ่อเลี้ยงปรเมศเหลือบมองไปรอบ ๆ ใต้ถุนบ้านที่เงียบเหงาเหมือนไร้ชีวิต แล้วเขาก็ถามขึ้น

“แล้วลูกสาวน้าไปไหนเสียล่ะ”

“เทียนไปสมัครงานจ้ะ...ออกไปตั้งแต่เช้าแล้วจ๊ะ”

พ่อเลี้ยงปรเมศยักคิ้วขึ้นน้อย ๆ สีหน้าไม่แสดงความประหลาดใจนัก

“นึกว่าหนีหนี้ไปกรุงเทพฯ เสียอีก...”ก่อนจะถอนหายใจ ยกมือขึ้นลูบต้นคอตัวเองเบา ๆ อย่างเบื่อหน่าย 

นิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดเสียงเรียบ แต่ชัดถ้อยชัดคำ

“เอาอย่างนี้แล้วกัน...ให้ลูกสาวน้าไปทำงานที่ไร่ผม อย่างน้อยก็ยังช่วยลดดอกได้บ้าง ผมจะหักค่าแรงเป็นรายวัน”

ดวงพรเงยหน้าขึ้น มองเขาด้วยแววตาลังเล

“นี่ผมเห็นแก่คนแก่นะน้าพร ไม่ใช่ว่าผมใจดีอะไรหรอก”
เขาเสริมเสียงเข้ม ก่อนจะยื่นคำสั่งสุดท้ายแบบไม่เปิดโอกาสให้เธอปฏิเสธ

“บอกลูกสาวน้าด้วย พรุ่งนี้ผมจะมารับตอนสิบโมงตรง ให้เตรียมตัวให้พร้อม และเก็บเสื้อผ้าไปพักที่ไร่เลย”

พูดจบ พ่อเลี้ยงปรเมศก็หมุนตัวกลับขึ้นรถ กระแทกประตูปัง แล้วขับออกไปทันที

ฝุ่นปลิวฟุ้งตามล้อหลัง ทิ้งให้หญิงต่างวัยได้แต่มองตามด้วยแววตาเปล่าเปลี่ยว...ไม่มีแม้แต่โอกาสจะทัดทาน

ดวงพรพึมพำเบา ๆ กับตัวเอง

“เทียนเอ๊ย...ลูกจะยอมไหมนี่”.......

“รายวันเลยเหรอแม่?”
เสียงของแสงเทียนดังลอดจากใต้ถุนบ้าน ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวในยามบ่าย

ยายคำที่กำลังนั่งสานตะกร้าด้วยไม้ไผ่ชะงักมือเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมองหลานสาวที่เดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงมานั่งข้าง ๆ

ดวงพรวางไม้ไผ่ลงบนตัก ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ก่อนจะพูดเสียงเรียบ แต่แววตาเต็มไปด้วยความปวดใจ

“พ่อเลี้ยงเขาบอกจะมารับพรุ่งนี้ตอนสิบโมง...”
ดวงพรเว้นวรรค “ถ้าลูกไม่อยากไป...ก็ไม่เป็นไรหรอกนะลูก”

แสงเทียนหันขวับมามอง
“ไม่เป็นไรยังไงแม่?” เสียงเธอแหบสั่น “แล้วถ้าไม่ไป?” ดวงพรสบตาลูกสาวตรง ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตที่เธอต้องพูดในสิ่งที่ไม่อยากเอ่ยเลย

“ก็แค่...เซ็นยกที่ดินผืนนี้ให้เขา เราก็แค่ย้ายออกจากบ้านที่พ่อเทียนสร้างไว้ ก็เท่านั้นเอง...” ความเงียบปกคลุมอยู่ชั่วขณะ

แสงเทียนก้มหน้าต่ำ ขอบตาเริ่มร้อนผ่าว เธอรู้ว่าแม่ไม่ได้พูดประชด แต่พูดเพราะไม่มีทางเลือกเหลืออีกแล้วจริง ๆ

เสียงลมหายใจหลุดออกจากปากเธอเบา ๆ ก่อนจะพูดอย่างแน่นเสียง

“แล้วจะให้เทียนเลือกอะไรได้ล่ะแม่...นี่คือสมบัติชิ้นสุดท้ายที่พ่อทิ้งไว้ให้เรา...” แสงเทียนกัดริมฝีปากแน่นจนเลือดแทบซิบ
“ถ้าเทียนปล่อยให้มันหลุดมือไป...เทียนก็คงเป็นลูกที่แย่ที่สุดในโลก” มือเล็ก ๆ ของเธอกำแน่นจนสั่น แต่แววตากลับนิ่งสนิท

“เทียนจะไปทำงานกับเขา ...อย่างน้อย...แม่กับยายก็ยังมีบ้านให้ซุกหัวนอน”

คำพูดนั้นไม่ได้มีแค่ความจำยอม แต่มันเต็มไปด้วยความตั้งใจที่กลั่นจากหัวใจของเด็กสาวคนหนึ่งที่อยากรักษาครอบครัวไว้...แม้จะต้องกลืนเกลือทั้งชีวิตก็ตาม

ยายคำเงียบไป น้ำตารื้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ดวงพรเองก็หันหน้าไปอีกทาง ไม่อยากให้ลูกเห็นว่าเธอกำลังสะอื้น

ค่ำวันนั้น แสงเทียนกลับเข้าห้อง เงียบ ๆ เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าใบเดิม

ก่อนจะนั่งลงที่ขอบเตียง เหม่อมองเพดานบ้านไม้ที่ลอกลาย..ไม่ได้หลับทันทีที่หัวถึงหมอนสมองกลับคิด...คิดถึงผู้ชายที่กำลังจะเป็น "นายจ้าง"และไม่รู้ทำไม —ถึงนึกถึงสายตาของเขาสายตาเย็นชา...แต่ก็มีบางครั้งที่คล้ายจะอ่อนลง

“คนแบบนั้นจะไว้ใจได้เหรอวะ...” แสงเทียนพึมพำ แล้วหลับตา